หากจะซื้อลำโพงบลูทูธ (Bluetooth) ต้องเลือกยังไง?
3 ก.ย. 2564
ทำความรู้จัก ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth)
ส่วนลำคัญที่สุดในการเลือกซื้อลำโพงแบบบลูทูธนั้นนอกจากจะมีเรื่องของเสียงแล้ว บางครั้งรูปลักษณ์และการใช้งานก็มีบทบาทสำคัญในการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธมาใช้งานและแน่นอนว่าลำโพงที่ราคาสูงกว่าคุณภาพเสียงมักจะดีกว่า นอกจากนี้ความง่ายในการใช้งานก็เป็นอีกนึงปัจจัยในการเลือกลำโพงสักตัวอีกด้วยว่า อยากจะนำลำโพงติดตัวออกไปฟังนอกบ้าน ไม่ว่าจะเวลาเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆหรือไม่
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ ลำโพงบูลทูธ กันก่อนดีกว่า ว่าในปัจจุบัน ลำโพงบลูทูธสามารถแบ่งออกตามการใช้งานได้เป็นกี่ประเภท
- แบบพกพา
- แบบเสียบปลั๊ก AC
ข้อดี/ข้อเสีย ลำโพงบลูทูธแบบพกพา
ข้อดี
- สามารถพกพาได้สะดวก
- ทนทาน กันน้ำกันฝุ่น
- สามารถใช้งานไว้เป็น Hand free ได้
- ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ราคาไม่สูง
ข้อเสีย
- ส่วนใหญ่เชื่อมต่อได้แค่ Bluetooth
- คุณภาพเสียงอาจยังไม่เทียบเท่าลำโพงบลูทูธแบบเสียบปลั๊ก
- มีปัญหาเรื่อง latency จาก Bluetooth
ข้อดี/ข้อเสีย ลำโพงบลูทูธแบบเสียบปลั๊ก(AC)
ข้อดี
- คุณภาพเสียงดีกว่า
- ภาคแอมป์กำลังสูง
- รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย
- การออกแบบและวัสดุพรีเมี่ยม
ข้อเสีย
- ขั้นตอน set-up เยอะ ถึงจะใช้งานได้
- ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังมากกว่าลำโพงพกพา
- ราคาสูงกว่าลำโพงพกพา
นิยามของ ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth) แบบพกพา
ในปัจจุบันลำโพงไร้สายโดยเฉพาะลำโพงบลูทูธหรือลำโพงประเภทอื่นที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth นั้นมีออกมาให้เลือกอย่างมากมาย จนบางทีอาจทำให้สับสนขณะเลือกซื้อว่าแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร
นิยามของคำว่าลำโพงบลูทูธพกพา ในฉบับของ Mercular
- ลำโพงไซส์เล็กพกง่าย
- ใช้พลังงานจาก battery ในตัวเป็นพลังงานหลัก
- ทนทาน สามารถกันน้ำได้
- บางรุ่นยังสามารถใช้เป็น hand free คุยโทรศัพท์ได้
ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth) แบบพกพา รุ่นยอดนิยม
1.ลำโพง JBL GO 3 Bluetooth Speaker
เป็นลำโพงบลูทูธรุ่นเล็กรุ่นยอดนิยมของแบรนด์ JBL ถึงจะมีขนาดเล็กแต่ให้เสียงเกินตัวไปมากๆ ซึ่งเป็นรุ่นหนึ่งของ JBL ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรุ่นหนึ่ง ซึ่งลำโพงบลูทูธ JBL GO 3 นั้นได้มีการปรับปรุงเสียงจากรุ่น JBL GO 2 ไปมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องเบสที่กระชับมากขึ้น รวมถึงปลายแหลมที่ละเอียดและการแยกชิ้นดนตรีนั้นทำได้ดีขึ้นมาก การใช้งานต่อเนื่องนั้นสามารถใช้ได้ยาวนานถึง 5 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีความทนทานและสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ถึง IP67 อีกด้วย
JBL GO 3 เหมาะสำหรับใคร
ใครที่หาลำโพงบลูทูธเสียงดีสักตัวที่มีขนาดกะทัดรัดสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเสียหายกับตัวลำโพง ไม่ว่างจะไปเที่ยวหรือเดินทาง JBL GO 3 ก็พร้อมที่จะเดินทางไปด้วยเสมอ
2.ลำโพง Marshall Emberton Bluetooth Speaker
Marshall Emberton ลำโพงบลูทูธพกพาทาง Marshall ที่มีหน้าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มีความสวยงามและ classic ในตัวลำโพงนั้นมี knob ควบคุมและมีไฟ LED แสดงสถานะอยู่บนตัวของลำโพงบลูทูธ โดยลำโพงบลูทูธตัวนี้ได้ใช้ลำโพง full-range 2 ตัวขับด้วยแอมป์กำลังสูง 10W ในแต่ละข้างทำให้เสียงที่ได้นั้นทรงพลังและมีการแยกมิติซ้ายขวาในแบบ Stereo ได้อย่างชัดเจนเสียงเบสลูกใหญ่ลงลึกแต่นุ่มนวล แต่ไม่ขาดรายละเอียดของย่านอื่นๆทำให้ฟังได้อย่างเพลินๆได้เลย ตัวลำโพงให้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 20 ชั่วโมงและกันน้ำได้ระดับ IPX7
Marshall Emberton เหมาะสำหรับใคร
ลำโพงตัวนี้เป็นลำโพงพกพาที่ให้เสียงแบบ Stereo คาแรคเตอร์เสียงจัดจ้าน เบสหนัก ฟังชัดโดยรวมแล้วตอบโจทย์การฟังเพลงได้ทุกแนวโดยเฉพาะเพลงร๊อค ที่สำคัญหน้าตาดีด้วย
3.ลำโพง Bose Portable Home Speaker
ถ้านึกถึงลำโพงส่วนใหญ่มักจะคิดถึง Bose เป็นแบรนด์ต้นๆเลยด้วยชื่อเสียงด้านคุณภาพที่สร้างมาอย่างยาวนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆของลำโพงบลูทูธตัวหนึ่งเลย ลำโพง Bose Portable Home Speaker นั้นให้เสียงแบบสไตล์ Bose ที่ให้เบสที่ลูกโตและนุ่มนวลฟังแล้วละมุนหูรวมถึงมีรายละเอียดที่ครบเครื่องมากๆอีกด้วย มิติเสียงถือเป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดของลำโพงตัวนี้เลยด้วยการวางตำแหน่งของดอกลำโพงให้กระจายเสียงแบบ Omni-direction ทำให้ไม่ว่าจะวางตรงไหนเสียงที่ได้ยินก็ได้ยินเท่ากันหมดในบริเวณ 360 องศารอบลำโพง นอกจากนี้ลำโพงตัวนี้อย่างรองรับการเชื่อมต่อ WiFi เข้า network และเล่นเพลงแบบ multi-room ด้วย app Bose Music หรือ Roon ได้อีกด้วย การใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน 12 ชั่วโมงและยังสามารถกันละอองน้ำได้อีกด้วย
Bose Portable Home Speaker เหมาะสำหรับใคร
ลำโพงตัวนี้ให้เบสที่สุขุมนุ่มนวลแต่ก็หนาเต็มอิ่มนั้นพลาดไม่ได้กับลำโพงบลูทูธตัวนี้เลย ที่สำคัญยังเป็นลำโพงบลูทูธพกพาไม่กี่ที่รองรับ WiFi ในการเชื่อมต่อที่มีในตลาดปัจจุบันอีกด้วย
4.ลำโพงไร้สาย B&O Beolit 20 Bluetooth Speaker
ลำโพงบลูทูธระดับ Premium ที่อัด features ต่างๆมากมายสามารถชาร์จ smartphone ได้ด้วยระบบไร้สายบริเวณฝาด้านบนของตัวลำโพง B&O Beolit 20 Bluetooth Speaker นั้นประกอบไปด้วย driver 4 ตัวประกอบไปด้วย driver full-range 3 ตัว และ Woofer ขนาด 5.5 อีกหนึ่งตัวและมี passive radiator มากถึง 4 ตัว ทำให้เวลาเปิดเพลงที่มีเบสก็มีมาให้อย่างถึงใจแต่โดยรวมก็ยังให้เสียงใสฟังสบายตามสไตล์ B&O ตัวแบตขนาดใหญ่ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน 37 ชั่วโมงเลยทีเดียว
B&O Beolit 20 Bluetooth Speaker เหมาะสำหรับใคร
ลำโพงบลูทูธตัวนี้เอาอยู่ทุกแนวเพลง โดยฟังแรกอาจไม่คิดว่าจะมีเบสเยอะ แต่พอเบสที่มีเบสเท่าเบสก็มีมาให้อย่างจุใจเลยทีเดียวนอกจากนี้ยังสามารถเล่นต่อเนื่องได้ยาวนานและยังเป็นลำโพงบลูทูธอีกตัวเคลื่อนย้ายได้สะดวกด้วยหูหิ้วในตัว
นิยามของ ลำโพงบลูทูธแบบเสียบปลั๊ก AC
ส่วนลำโพงแบบเสียบปลั๊ก มักเป็นลำโพงที่ควรใช้อยู่กับพื้นที่ส่วนตัวอย่างบ้าน เพราะตัวลำโพงอาจมีขนาดที่ใหญ่และไม่เหมาะกับการพกพา แต่จุดเด่นของลำโพงประเภทนี้มักจะมีกำลังความสามารถในการขับเสียงที่ดีกว่า ดังกว่า
นิยามของ ลำโพงบลูทูธแบบเสียบปลั๊ก AC ในฉบับของ Mercular
- ใช้งานในบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัวเป็นหลัก
- ต้องเสียบปลั๊กไฟอยู่ตลอดเวลา(ไม่มีแบตฯในตัว)
- ดีไซน์ ทรวดทรงของลำโพงที่สวย ทันสมัย สามารถใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้
- การเชื่อมต่อหลากหลาย ได้ทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi
- บางตัวมีความสามารถ manage file เพลงในตัวเองได้เหมือนเป็น computer
- บางตัวสามารถต่อแบบ multi-room ผ่าน app ของแบรนด์นั้นๆหรือจะใช้ผ่าน software Roon ที่เป็นที่นิยมมากในการเล่นเพลง
- รองรับ Streaming service เช่น Tidal, Spotify, Joox หรือ Apple music
- เสียงเต็มอิ่มและภาคแอมป์มีกำลังขับที่สูงกว่ารวมถึงพลังงานที่ไม่จำกัด
ลำโพงบลูทูธแบบเสียบปลั๊ก รุ่นยอดนิยม
1.ลำโพง Klipsch The Three With Google Assistant Bluetooth Speaker
Klipsch The Three With Google Assistant เป็นลำโพงบลูทูธที่ออกแบบมาให้ดูย้อนยุคแต่อัดแน่นไปเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายรวมถึงระบบ smart speaker ที่สามารถใช้คำสั่งเสียงได้อีกด้วย สามารถ streaming ได้ด้วยตัวลำโพงเองเนื่องจากได้มีการติดตั้งระบบ Chormecast ไว้ในตัวสามารถตั้งค่าต้องผ่าน Google ได้ทันที ตัวลำโพงทำงานด้วยระบบ Stereo ประกอบไปดอกลำโพง Full-range 2 และมีดอกแบบ Woofer long-throw อีกหนึ่งตัวทำให้เบสที่ได้หนักแน่นในตัวเองนอกจากนี้ดอกลำโพงแบบ Full-range สองตัวก็ให้รายละเอียดและมิติได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรองรับระบบ Multi-room อีกด้วย
Klipsch The Three เหมาะกับใคร
เป็นลำโพงที่ดีไซน์แนววินเทจ มินิมอลเหมาะสำหรับเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้อย่างกลมกลืน รวมถึงการ integrated ระบบของ Google เข้าไปในตัว ช่วยให้ลำโพงมีความ Smart ใช้งานได้ครอบคลุม ที่สำคัญคือได้โทนเสียงที่เป็นผู้ดีแต่ฟังชัด
2.ลำโพง Devialet Phantom Reactor
ลำโพง Devialet ลำโพงบลูทูธหน้าตาล้ำยุคจากประเทศฝรั่งเศษที่มีดีไซน์แตกต่างจากลำโพงทุกตัวในตลาด มีความโดดเด่นในเรื่องของเสียงเบสที่หนักแน่นลูกโต สำหรับใครที่ชอบลักษณะเสียงแบบนี้ไม่ควรพลาด ตัวลำโพงสามารถจับคู่กับเพื่อเล่นเป็นระบบ Stereo ได้โดยผ่าน Application Devialet โดยตรง ตัวลำโพงนั้นมีให้เลือกได้สองขนาดคือ 600 และ 900 Watts ซึ่งเป็นลำโพงบลูทูธที่มีภาคแอมป์ที่แรงที่สุดในตลาดเลย เรื่องเสียงนั้นไม่ผิดหวังเบสลูกใหญ่ลงลึกและกระชับมากในตัวเดียวถ้าอย่าสุดกว่านั้นทำได้ด้วยการใช้งานแบบ Duo mode ซึ่งดีกว่าการใช้งานแบบเดียวๆขึ้นไปอีกไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของเบสและมิติเสียงที่ทำได้สุดยอดมากๆ
Devialet Phantom รุ่น Reactor เหมาะสำหรับใคร
ผู้ที่ชื่นชอบเสียงเบส แต่ก็ยังต้องการคุณภาพไม่กลบด้านอื่นๆ หรือต้องการลำโพงบลูทูธที่มีความสวยงามโดดเด่น ล้ำสมัยไม่ซ้ำใคร ซื้อลำโพงบลูทูธรุ่นนี้ถึงจะมีราคาค่อนข้างสูงแต่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอนครับ
3.ลำโพง Naim Mu-so 2nd Wireless Speaker
Naim เป็นแบรนด์เครื่องเสียง Hi-end จากอังกฤษที่มีการออกแบบที่หรูหราโดยรุ่น Naim Mu-so 2nd Wireless Speaker เป็นลำโพงที่กวาดรางวัลต่างๆเรียบจากหลายๆสำนักในตางประเทศนอกจากเสียงที่สุดยอดแล้วยังมี Software ที่ใช้งานได้ง่ายและฉลาดมากๆ สามารถควบคุมที่ตัวเครื่องได้โดยตรงหรือจะผ่าน app Naim โดยตรงก้ทำได้นอกจากนี้ตัวลำโพงยังมีการ integrated streaming service อย่าง Tidal และ Spotify รวมถึงรองรับ internet radio อีกด้วย การทำงานแบบ multi-room นั้นก็ทำได้อย่างสมบรูณ์ไม่ว่าจะผ่าน app Naim เองหรือ Roon ลำโพงตัวนี้เป็นลำโพงแบบ 3 ways ที่แยกดอกลำโพงทั้ง Woofer,Midrange และ Tweeter ซึ่งเป็นดอกลำโพงผลิตโดย Focal มาเป็นพิเศษทำให้เสียงออกมานั้นมีรายละเอียดสูงเทียบเท่ากับลำโพงที่จัด Set มาอย่างดีเลยทีเดียวโดยเบสมี่ได้มีรายละเอียดดีกระซับตัวโน๊ตชัดเจน เสียงกลางเสียงได้ว่าเป็นจุดเด่นของแบรนด์นี้ที่ไมาสามารถหาได้จากแบรนด์อื่นมีความอิ่มเนียนให้ขณะเดียวกันก็ให้รายละเอียดครบทุกเม็ด เสียงแหลมนั้นพริ้วมากๆลื่นไหลจนไปเปิดและแสดง ambient ที่หลบๆได้เป็นอย่างดี
Naim Mu-so 2nd Wireless Speaker เหมาะลำหรับใคร
ลำโพงบลูทูธที่เรียกได้ว่า Best in Class ในราคาต่ำกว่าแสน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความ Special ด้วยการดีไซน์ที่มีสีให้เลือกเยอะ ไม่เหมือนใคร
4.ลำโพง B&W Formation Duo By Bowers & Wilkins
ลำโพงอีกแบรนด์จากอังกฤษที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานด้วยการออกแบบส่วน tweeter ออกมาจากตู้ลำโพงลำให้เสียงแหลมนั้นมีความสดใสโดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อรวมกับ Woofer ดอกทำจาก carbon ที่ B&W เรียกว่า Continuum Cone แล้วนั้นลงตัวเป็นอย่างมากมีความกลมกล่อมและสมดุลเสียงที่ยอดเยี่ยม และจุดเด่นที่สำคัญคือมิติที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในตลาดด้วยการที่เป็นลำโพงในแบบ Bookshelf และใน series Formation ของ B&W นั้นได้เน้นการเชื่อมต่อไร้สายเป็นพิเศษให้ latency ที่ต่ำมาจนเทียบเท่ากับลำโพงใช้สายเลยทีเดียว การรองรับ multi-room และสลับกันได้ seamless ที่สุดในทุกระบบในปัจจุบันนอกจากนี้ลำโพงทุกตัวใน series Formation นั้นจะแถม Roon มาให้ลองให้งาน 2 เดือนอีกด้วย โดยการเชื่อมต่อไร้สายของ B&W Formation Duo นั้นสามารถ streaming แบบ native 24/96Hz แบบไร้สายได้อีกด้วย ลำโพงตัวนี้มีการออกแบบได้
อย่างสวยงามและคงเอกลักษณ์ของ B&W ไว้ครบถ้วน
B&W Formation Duo By Bowers & Wilkins เหมาะสำหรับใคร
เรียกว่าเป็นที่สุดของลำโพงบลูทูธที่ทำได้แบบชุดเครื่องเสียงบ้านในราคาไล่ๆกัน จุดเด่นคือความง่ายในการติดตั้งและเน้นในเรื่องการเล่นเพลงแบบ Streaming เป็นหลัก สำหรับใครที่มีงบ ตัวนี้เป็นตัวที่น่าพิจารณาอีกตัวหนึ่งเลย
ตัดสินใจอย่างไร? เวลาเลือกซื้อลำโพงบลูทูธ
มาถึงจุดนี้หากใครที่ยังนึกไม่ออกว่าต้องเลือกยังไง ทีมงาน Mercular ก็แนะนำให้เลือกดูจากตัวที่ตอบโจทย์เราได้มากที่สุดสำหรับกิจกรรมประจำวัน หากคุณเป็นคนที่มีกิจกรรมต้องเดินทาง ออกนอกสถานที่บ่อยๆ ก็อาจต้องเน้นเป็นลำโพงตัวเล็กๆที่เน้นการพกพาเป็นหลัก
แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ออกไปไหนเลย หรือออกไปข้างนอกบ้าง แต่ Hobby Lifestyle ที่คุณทำบ่อยๆคือ การดูหนัง ฟังเพลงอยู่ที่บ้าน ก็คงต้องเลือกเป็นลำโพงแบบเสียบปลั๊กที่ดูเหมือนจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
ซึ่งในบทความนี้ Mercular ก็หวังว่าจะเป็นทางเลือกที่ช่วยในการตัดสินใจได้ไม่มาก ก็ไม่น้อยล่ะครับ
สรุปการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธ
- กำหนดวัตถุประสงค์หลักหรือฟังก์ชั่นในการใช้งาน
- เลือกประเภทลำโพงที่ตอบโจทย์กับเรามากที่สุด
- กำหนด Range ราคาที่ตัวเองต้องการ
- เลือกแบรนด์ลำโพงบลูทูธที่ตัวเองชอบ
- ควรเปรียบเทียบกับลำโพงแบรนด์อื่นๆในคลาสเดียวกันและดูว่าตัวไหนเหมาะกับเรามากที่สุด