เมาส์ HyperX Pulsefire Core RGB Gaming Mouse Black

สรุป เมาส์ HyperX Pulsefire Core RGB Mouse เหมาะกับใคร?

เมาส์ HyperX Pulsefire Core RGB Mouse ของแบรนด์ HyperX ถูกออกแบบมาเป็นทรงสมมาตร มีสวิตซ์มาโครที่ด้านซ้ายของเมาส์ทำให้ตัวเมาส์เหมาะกับผู้ใช้งานที่ถนัดมือขวา รูปทรงก็เป็นแบบคลาสสิกเหมาะกับการจับในทุก ๆ แบบไม่ว่าจะเป็น Palm Claw หรือ Finger ทำให้สามารถใช้งานได้เข้ากับผู้ใช้งานทุกคน โดย HyperX และสวิตซ์ OMRON ได้การรันตีถึงความทนทานและอายุการใช้งานของเมาส์ตัวนี้ที่รองรับการใช้งานมากกว่า 20 ล้านคลิก บน Optical Sensor ความไวสูงสุด 6200 DPI ทำให้มันเป็นเมาส์เล่นเกมที่เหมาะกับผู้ใช้งานเริ่มต้นหรือเมาส์สำรองสำหรับเกมเมอร์มือโปรนั่นเอง เพราะความแม่นยำในการส่งสัญญาณและคุณภาพเซ็นเซอร์ของมันพูดได้เลยว่าอยู่มาตรฐานระดับโลกเลยทีเดียวครับ

เมาส์ออพติคอลระดับเกมเมอร์พร้อมไฟ RGB แบบปรับได้

รายละเอียดทั่วไป

เมาส์ HyperX Pulsefire Core RGB Mouse รองรับทุกฟังก์ชั่นการทำงานที่สำคัญสำหรับคนที่กำลังมองหาเมาส์เล่นเกม RGB แบบต่อสายที่มีเสถียรภาพและใช้งานได้อย่างสบาย พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ออพติคอค Pixart 3327 ที่มีค่าความละเอียดสูงถึง 6200 DPI ช่วยให้ผู้เล่นกำหนดตำแหน่งและเลื่อนเป้าหมายได้อย่างราบรื่นและแม่นยำโดยไม่ต้องอาศัยการเร่งระบบประมวลผลฮาร์ดแวร์ ออกแบบรูปทรงมาให้พอเหมาะกับมือผู้ใช้ และใช้วัสดุที่พื้นผิวสามารถยึดจับได้ดีเพื่อให้ความสบาย หมดปัญหาการเลื่อนไถล รูปทรงเป็นแบบสมมาตรเหมาะสำหรับทั้งการควบคุมจากฝ่ามือและปลายนิ้ว 

สวิตซ์ควบคุมคุณภาพสูงที่ตอบสนองได้อย่างแม่นยำและใช้งานได้มากสูงสุดถึง 20 ล้านคลิกจาก OMRON และสามารถปรับค่าไฟส่องสว่าง ค่า DPI และมาโครต่าง ๆ ได้ผ่านปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้ 7 ปุ่มผ่านซอฟต์แวร์ HyperX NGenuity คุณจึงสามารถเลือกใช้เมาส์ได้ในแบบที่คุณเองต้องการ แผ่นรองเลื่อนขนาดใหญ่ข้างใต้ช่วยให้กำหนดตำแหน่งได้อย่างแม่นยำและราบรื่นภายใต้การควบคุมขณะขยับเมาส์ไปมา เมาส์ HyperX Pulsefire Core RGB Mouse จึงเป็นเมาส์เกมมิ่งอีกหนึ่งตัวที่เรียกได้ว่ามีคุณภาพระดับโลก ในราคาที่ใครก็คว้ามาเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ เลยครับ

สัมผัสแรกที่ใช่ในราคาที่ชอบ

เปิดมาก็ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงกันให้มากความเลยครับ เมื่อเราแกะ Hyperx Pulsefire Core ออกจากกล่องที่การแพ็คไว้อย่างดีด้วยกระดาษแข็งและห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกเราก็จะพบว่าพื้นผิวของตัวนั้นด้านบนของเมาส์จะเรียบ และเป็นมันเงา ส่วนด้านข้างจะให้ความรู้สึกสากจับแล้วลื่นหน่อย ๆ แต่โดยรวมแล้วทั่วทั้งตัวเมาส์สามารถยึดจับได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดมือในเวลาที่ใช้งาน หรือเวลาตอนที่เรากำลังเล่นเกมอย่างเมามันครับ

สวิตซ์ 7 ปุ่มกดเพลิดเพลิน

ต่อมาที่จะกล่าวถึงคือ สวิตซ์ของเมาส์ Hyperx Pulsefire Core อย่างสวิตซ์ OMRON ที่ทางแบรนด์นั้นการันตีการคลิกเอาไว้ที่ 20 ล้านครั้ง เรียกได้ว่ากดได้สะใจมาก ๆ ครับ ด้วยแรงคลิกที่มีแรงต้านค่อนข้างสูง คนที่ชอบกดแรง ๆ น่าจะถูกใจไม่น้อย เช่นตัวผมเองที่ชอบหยิบจับอะไรแรง ๆ อยู่แล้วเลยรู้สึกว่าเวลากดแล้วสนุกใช้ได้เลยครับ แต่ใครที่ไม่ชอบสวิตซ์ที่แรงต้านเยอะอาจจะรู้สึกเมื่อยนิ้วเวลาใช้ไปนาน ๆ ทั้งความเสถียรในการคลิกนั้นจัดว่าดีมาก ๆ ไม่มีอาการดีเลย์ในระหว่างการใช้งาน คลิกไวได้ดั่งใจมาก ๆ ครับ

ใครที่นำไปเล่นเกมแนว FPS รับรองเลยว่าจะต้องเข้ามืออย่างแน่นอน และปุ่มกดที่มากับเมาส์ 7 ปุ่มก็ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม และทำหน้าที่ของมันได้ดี ไม่ว่าจะปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาที่รวดเร็ว หรือจะกดไปหน้าย้อนกลับได้จากปุ่มด้านข้างตัวเมาส์ และสามารถเลื่อนหน้าต่างขึ้นลงได้จากปุ่ม Scroll Wheel รวมถึงปุ่มปรับ DPI เพื่อเพื่อและลดค่า DPI ให้เป็นไปตามต้องการของผู้ใช้อย่างทันท่วงทีครับ

ความรู้สึกเมื่อนำไปใช้เล่นเกม

เมื่อผมลองนำ Hyperx Pulsefire Core ไปใช้เล่นเกมแล้วสัมผัสที่ได้จากการกดนั้นเต็มไปด้วยความเสถียร อาการดีเลย์เรียกได้ว่าไม่มี อาจจะหมุนมุมกล้องได้อืดนิดหน่อย แต่เมื่อกดปรับค่า DPI แล้วก็พบว่าความไวเพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าปุ่มทุกปุ่มบนตัวเมาส์สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์การแข่งขันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการที่สามารถปรับ DPI ได้อย่างรวดเร็วนั้นก็เป็นหนทางสู่ชัยชนะอย่างง่ายดาย หมดกังวลไปเลยในเรื่องของการคลิกแล้วหน่วง ถือว่าเป็นเมาส์เล่นเกมที่ดีตัวหนึ่งเลยครับ

ซอฟต์แวร์ตกแต่งเมาส์เข้าใจง่าย

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้การใช้เมาส์ Hyperx Pulsefire Core ตัวนี้นั้นสนุกขึ้น คือซอฟต์แวร์ตกแต่ง ที่ขั้นตอนนั้นไม่ได้ยุ่งยาก เมื่อโหลดเสร็จแล้วเพียงแค่เชื่อมต่อเมาส์กับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คก็สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ได้อย่างทันที โดยหน้าต่างของซอฟต์แวร์นั้นก็แบ่งออกเป็น 3 หน้าต่างใหญ่ ๆ ด้วยกัน

Lights หน้าต่างนี้เอาไว้ตกแต่งแสงไฟ RGB ว่าคุณนั้นอยากให้ออกมาเป็นรูปแบบไหน และเอฟเฟคแบบใด โดยเบื้องต้นนั้นจะให้มาทั้งหมด 3 เอฟเฟคได้แก่ Solid, Cycle และ Breathing ครับ

Buttons หน้าต่างนี้เอาไว้จัดการกับปุ่มมาโคร โดยจะเป็นตัวกำหนดการกด เราอยากให้ปุ่มแต่ละปุ่มทำหน้าที่อะไรก็สามารถมาเลือกได้เลยที่หน้าต่างนี้

Sensor หน้าต่างสุดท้ายคือการปรับแต่งค่า DPI ว่าอยากให้อยู่ที่ค่าเท่าไหร่ ตั้งแต่ 200 - 6200 เพื่อความรวดเร็วในการขยับเมาส์ของคุณครับ

สรุป เมาส์ HyperX Pulsefire Core RGB Mouse ราคาไม่แพงแต่คุณภาพแน่น

ถือว่าเป็นเมาส์เกมมิ่งราคาสบายกระเป๋า ที่ครบเครื่องจัดจ้านมาก ๆ ครับ แม้การตกแต่งฟังก์ชันต่าง ๆ จะน้อย แต่ทุกอย่างนั้นล้วนตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของสิ่งที่ชาวเกมเมอร์ต้องการมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลิกได้อย่างรวดเร็ว ปรับ DPI ได้ทันทีเพื่อความรวดเร็วในการเคลื่อนเมาส์ และการตกแต่งแสงไฟ RGB ให้สวยงามตามที่ต้องการ แล้วยิ่งเป็นเมาส์ที่สามารถจับได้ถนัดมือ นิ้วของเราไม่หลุดระหว่างเล่น ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าเหนือราคา ใครลองเป็นต้องรักจริง ๆ ครับกับ เมาส์ HyperX Pulsefire Core RGB Mouse ตัวนี้

สินค้ารุ่นอื่นที่น่าสนใจ

• เมาส์ HyperX Pulsefire Haste Gaming Mouse
• เมาส์ HyperX PulseFire FPS Pro Gaming Mouse
• เมาส์ไร้สาย HyperX Pulsefire Dart Wireless Gaming Mouse
• เมาส์ HyperX Pulsefire Core