Klipsch อัพเกรด Sound Bar รุ่นใหม่ Klipsch Bar 54 และ Bar 44 พร้อมฟีเจอร์ Dolby Atmos
รับประกันโดยศูนย์ไทยระยะเวลา 1 ปี
เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
แชทคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกสินค้าที่ใช่สำหรับคุณ
รีวิวลำโพง Klipsch Cinema 400 Sound Bar
Klipsch Cinema 400 Sound Bar เป็นชุดลำโพงซาวด์บาร์รุ่นเริ่มต้นของแบรนด์แต่ยังคงอัดแน่นด้วยคุณภาพไม่ต่างจากพวกพี่ๆ ในตระกูล Cinema Sound Bar ราคาอยู่ในระดับที่กำลังดี เข้าถึงและจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก มาพร้อมจุดเด่นทั้งในเรื่องของแนวเสียงที่ทำได้ดีเป็นเอกลักษณ์ของ Klipsch ด้วยไดรเวอร์แบบพิเศษ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่รองรับทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย ระบบเสียง 2.1 ch พร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สายขนาด 8 นิ้ว จะตั้งบนโต๊ะหรือติดผนังก็ได้ตามต้องการ กับรูปร่างหน้าตาอันสุดคลาสสิคเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ งานนี้บอกเลยว่าพลาดไม่ได้จริงๆ
Key Highlight
- ลำโพง Sound Bar รูปทรงสุดคลาสสิค
- Subwoofer ไร้สายขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้ว
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งมีสายและไร้สาย
- ตั้งวางได้ทั้งแบบตั้งโต๊ะและติดผนัง
- ระบบเสียงแบบ Stereo 2.1
- เชื่อมต่อได้สะดวกและง่ายดาย
- รองรับระบบเสียง Dolby Audio
- ควบคุมระยะไกลด้วยรีโมท
การเชื่อมต่อ
- Bluetooth
- HDMI ARC
- AUX/3.5 mm.
- Optical
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- 1 x Klipsch Cinema 400
- 1 x Wireless Subwoofer
- 1 x รีโมทสำหรับควบคุม
- 1 x แบตเตอรี่
- 1 x สายไฟ
- 1 x อุปกรณ์สำหรับติดผนัง
จุดเด่นของลำโพง Klipsch Cinema 400 Sound Bar
ซาวน์บาร์รุ่นเริ่มต้นจากซีรีส์ Klipsch Cinema
Klipsch Cinema 400 เป็น ลำโพง Sound Bar ไร้สาย มาพร้อมรูปทรงแท่งยาว พร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Klipsch ด้วยสีดำที่ดูเท่ เข้ากับ TV แทบทุกแบรนด์ในปัจจุบัน ตั้งวางได้ทั้งบนโต๊ะ และติดกับผนัง ส่วนของขนาดอยู่ที่ 40 นิ้ว W: 101.4 x H: 7.3 x D: 8.6 เซนติเมตร ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดี มาพร้อมกับ ลำโพง Subwoofer แบบไร้สายขนาด 8 นิ้ว W: 30.2 x H: 41 x D: 41 เซนติเมตร โดยทั้ง Sound Bar และ Subwoofer นั้น Body ทำจากไม้และมีสีดำล้วนเข้ากันแบบสุดๆ
การเชื่อมต่อที่ครบครนตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
มาพร้อมการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและไร้สาย เพื่อการใช้งานที่ครบวงจร โดยส่วนของไร้สายรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth เช่น Smartphone และอุปกรณ์ Smartdevice ต่างๆ และยังเชื่อมต่อเข้ากับ Subwoofer แบบไร้สายด้วยเช่นกัน ส่วนของการเชื่อมต่อแบบมีสายรองรับ HDMI ARC, AUX/3.5 mm. และ Optical สำหรับการเชื่อมต่อแบบมีสายทั้ง Analog และ Digital นั่นเอง
สเปคเสียงกระหึ่มถึงใจ
ลำโพง Klipsch Cinema 400 Sound Bar มาพร้อมระบบเสียงแบบ Stereo 2.1 ประกอบไปด้วย Stereo ที่ตัวลำโพงหลัก และเสียงเบสจากตัว ลำโพงซับวูฟเฟอร์นั่นเอง ภายในมาพร้อมไดรเวอร์แบบจัดเต็มโดยเฉพาะไดรเวอร์แบบพิเศษที่ได้รับความนิยมจากแฟนๆ เป็นอย่างมากจากแบรนด์ Klipsch อย่าง Tractrix® horns 90° x 90° โดยไดรเวอร์นั้นประกอบไปด้วย ไดรเวอร์เสียงสูง Tweeter ขนาด 1 นิ้ว 2 ตัว ไดรเวอร์ย่านเสียงกลางขนาด 3 นิ้ว 2 ตัว และไดรเวอร์เสียงต่ำ Woofer ขนาด 8 นิ้ว 1 ตัว รองรับความถี่เสียงที่ 35 - 20,000 Hz และมี Max Acoustic Output ที่ 99 dB
รองรับระบบเสียงแบบเดียวกับในโรงภาพยนตร์
สำหรับระบบเสียงก็มาแบบจัดเต็มเช่นกัน โดยตัวลำโพงนั้นรองรับระบบเสียง DOLBY AUDIO® DECODING มาภายในตัวแบบ Built-In พร้อมสามารถปรับแนวเสียงให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ถึง 3 รูปแบบคือ DIALOG เน้นเสียงพูด / SURROUND เน้นเสียงรอบทิศทาง และ NIGHT MODE ให้เสียงที่เบาสำหรับใช้งานเวลากลางคืน รวมถึงยังสามารถควบคุมได้อย่างสะดวกจากระยะไกลด้วยรีโมทสำหรับควบคุมที่ให้มาอีกด้วย
Sound Bar 40 นิ้วที่ให้ประสบการณ์ระดับโรงภาพยนตร์
รายละเอียดการใช้งานลำโพง Klipsch Cinema 400 Sound Bar
Klipsch Cinema 400 Sound Bar เป็นชุดลำโพงซาวด์บาร์น้องเล็กสุดของตระกูล Cinema แต่ด้วยความที่เป็นแบรนด์ Klipsch ไม่ว่าจะรุ่นเล็กหรือใหญ่คุณภาพของสินค้าไล่ตั้งแต่วัสดุ งานประกอบ ดีไซน์ ความพรีเมียม เสียง การใช้งานต่างๆ ยังคงมีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดและถือว่าอยู่ในมาตรฐานระดับสูง โดยรุ่นนี้มาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอ 2.1 ch ธรรมดาๆ แต่ด้วยกำลังขับที่สูงถึง 400W ทำให้สามารถขับเสียงออกมาได้กระหึ่มหนักแน่นสะใจ เมื่อรวมกับองค์ประกอบอื่นๆ แล้วซาวด์บาร์รุ่นนี้ไม่ทำให้แฟนๆ ของ Klipsch ต้องรู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน
วัสดุ / ดีไซน์
Klipsch Cinema 400 Sound Bar ยังคงมาตรฐานของการออกแบบและการใช้วัสดุระดับสูงเฉกเช่นลำโพงซาวด์บาร์รุ่นพี่ราคาแพง ทั้งตัวซาวด์บาร์และซับวูฟเฟอร์ทำจากไม้แท้พร้อมลวดลายสีดำเข้มที่มีความเท่ สวยงาม พรีเมียม และดูดุดันตามสไตล์ การใช้ไม้แท้ยังช่วยเสริมในเรื่องคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น ลดเสียงสะท้อนที่ไม่จำเป็น เสียงมีมวลและมีความหนักแน่นชัดเจน แต่จะแลกมาด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก
ดีไซน์ในภาพรวมของทั้งตัวซาวด์บาร์และซับวูฟเฟอร์เน้นความเรียบหรูดูพรีเมียม ผสมผสานความคลาสสิกตามสไตล์แบรนด์ Klipsch งานประกอบมีความเนี๊ยบและแน่นหนาดีมาก ตัวลำโพงซาวด์บาร์มีการหุ้มด้วยผ้าเนื้อละเอียดพร้อมกับโชว์ให้เห็นดอกทวีตเตอร์ Tractrix horns คู่หน้าชัดเจน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ไม่เหมือนใคร มีไฟ LED แสดงสถานะการทำงานด้านหน้า ความยาวตัวซาวด์บาร์จะอยู่ที่ 40 นิ้ว สามารถตั้งวางใต้ทีวีขนาด 40 ขึ้นไปได้อย่างลงตัว ในส่วนของซับวูฟเฟอร์เป็นแบบเชื่อมต่อไร้สาย ขนาดดอกลำโพง 8 นิ้ว รูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมเรียบๆ สวยงาม
การใช้งาน
Klipsch Cinema 400 Sound Bar เป็นชุดลำโพงซาวด์บาร์ที่มีความเรียบง่าย การเชื่อมต่อกับทีวีทำได้ง่ายๆ เพียงต่อสาย HDMI หรือ Optical เส้นเดียว เสียบปลั๊ก จากนั้นลำโพงจะจับคู่กับซับวูฟเฟอร์อัตโนมัติ เท่านี้ก็พร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว ผู้ใช้สามารถควบคุมสั่งการลำโพงได้ง่ายๆ ด้วยปุ่มควบด้านบนตัวซาวด์บาร์โดยจะใช้ควบคุมการทำงานพื้นฐาน ได้แก่ เปิด/ปิดลำโพง เพิ่ม/ลดเสียง และเลือกแหล่งเสียง และสามารถสั่งงานลำโพงจากระยะไกลด้วยได้รีโมตคอนโทรลที่แถมมาให้ บนรีโมตมีปุ่มไม่เยอะแต่ครบถ้วน ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
Klipsch Cinema 400 มาพร้อมกับโหมดการใช้งานถึง 3 รูปแบบได้แก่ Surround ที่ช่วยเพิ่มมิติเสียงให้รู้สึกโอบล้อมมากขึ้น, Dialogue ขยายย่านเสียงกลางในส่วนของเสียงพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการฟัง Podcast ข่าว หรือรายการทีวีที่เน้นการพูดคุย และสุดท้าย Night เป็นโหมดที่จะทำการลดไดนามิกของเสียงลง เบสจะเบาลง เหมาะสำหรับใช้ฟังตอนกลางคืนเพื่อไม่ให้เสียงดังรบกวนคนอื่น
การเชื่อมต่อ
Klipsch Cinema 400 Sound Bar รองรับการเชื่อมต่อครบทั้งไร้สายและมีสาย โดยการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth นั้นสามารถค้นหาและจับคู่อุปกรณ์ได้รวดเร็ว สัญญาณเชื่อมต่อมีความเสถียร ระยะเชื่อมต่อสูงสุดไม่เกิน 10 เมตร การตอบสนองต่อการกดเล่น/หยุดเพลง เพิ่ม/ลดเสียง ข้ามเพลง/ย้อนกลับ มีอาการดีเลย์เล็กน้อย และการฟังเพลงหรือดูหนังผ่าน Bluetooth คุณภาพเสียงจะดร็อปลงจาการเชื่อมต่อด้วยสายสัญญาณเล็กน้อย
การเชื่อมต่อกับทีวีรองรับ HDMI ARC หากทีวีไม่มีช่อง HDMI ARC ก็สามารถเชื่อมต่อผ่านทางช่อง Optical ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีช่อง AUX-in 3.5mm สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั่วไปหรือโทรศัพท์รุ่นเก่าๆ ได้ ถือว่าค่อนข้างสะดวกและครอบคลุมกับอุปกรณ์ในยุคปัจจุบัน
จุดสังเกตคือ Klipsch Cinema 400 Sound Bar ยังไม่รองรับการใช้งานร่วมกับแอปฯ Klipsch Connect ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์หลายอย่างที่มีในซาวด์บาร์รุ่นพี่ได้
รีวิวเสียง
Klipsch Cinema 400 Sound Bar ให้เสียงในสไตล์เดียวกับลำโพงในซีรีส์ Klipsch Cinema ด้วยความที่เป็นรุ่นเริ่มต้นแม้จะมาพร้อมระบบเสียง 2.1 ch แต่ก็ให้ความหระหึ่มไม่แพ้รุ่นใหญ่ พร้อมกับรายละเอียดเสียงแต่ละย่านที่หนักแน่น ชัดเจน ไม่ปนกันมั่ว รองรับการดูหนังฟังเพลงได้เต็มอารมณ์ จากการที่ทีมงาน Mercular.com ได้ลองทดสอบเสียง สามารถสรุปรายละเอียได้ดังนี้
เสียงเบส: ซับวูฟเฟอร์ 8 นิ้ว ให้เสียงเบสที่หนักแน่นลงได้ลึกตามคาแรคเตอร์ของแบรนด์ เบสลูกใหญ่มวลเต็ม มีความกระชับ ไม่ย้วน ไม่บวมล้นไปกลบย่านเสียงอื่น แรงส่งและแรงปะทะหนักแน่นรุนแรงถึงใจ ตอบสนองเสียงเอฟเฟ็กต์ระเบิดได้กระหึ่มตูมตามสะใจคอหนังแอ็กชัน ภาพรวมคือเน้นเบสลงลึกพร้อมรายละเอียดมาครบถ้วน ชัดเจน เรียกว่าถูกใจคนชอบเบสอย่างแท้จริง
เสียงกลาง: Klipsch Cinema 400 Sound Bar ให้เสียงกลางที่สดใส คมชัด เนื้อเสียงกังวานและสะอาด ตอบสนองเสียงร้องและเสียงพูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ส่วนของจังหวะตัวโน๊ตไม่มีการบิดเบี้ยวหรือผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย รวมถึงเสียงดนตรีมีจัดระเบียบได้ดี รายละเอียอต่างๆ มาครบ ฟังเพลงสนุก ดูหนังเพลิน
เสียงแหลม: ย่านแหลมของ Klipsch Cinema 400 Sound Bar มีความละเอียดและทอดไปได้ไกล ขึ้นได้สูงตามตัวโน๊ตไปแบบไม่ผิดเพี้ยน เนื้อเสียงออกกลม แน่น ไม่มีเสียงแตกหรือสากเสี้ยนบาดหูเลยแม้แต่นิดเดียว ตอบสนองเสียงเอฟเฟ็กต์กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระสุนปืน รวมถึงเสียงแฉ เสียงฉาบของกลองชุดได้สมจริงดีมาก
เวทีเสียง: แม้จะเป็นระบบเสียงสเตอริโอธรรมดาแต่ Klipsch Cinema 400 Sound Bar ให้เวทีเสียงที่กว้างจนน่าประทับใจ มิติและทิศทางเสียงที่มีความสมจริง แยกซ้าย ขวา และกลางออกจากกันแบบชัดเจน เสียงพูดเด่นชัดตรงกลาง จัดวางเครื่องดนตรีรวมถึงแหล่งกำเนิดเสียงได้อย่างสมจริง ที่สำคัญคือไม่มีเครื่องดนตรีหรือย่านเสียงใดๆ มาทับกันแม้แต่นิดเดียว
ภาพรวมของเสียงถือว่าทำได้น่าประทับใจและมีมาตรฐานสูงสมกับการเป็นแบรนด์ Klipsch มีความโดดเด่นที่ย่านเบส ขณะที่ย่านอื่นก็ตอบสนองได้ดีเช่นกัน เหมาะกับคนที่ชอบซาวด์บาร์เบสหนัก เน้นอารมณ์ความมันส์เป็นที่หนึ่ง และให้รายละเอียดการแยกทิศทางเสียงที่สมจริง สำหรับการดูหนังด้วย Klipsch Cinema 400 Sound Bar เรียกว่าให้ความรู้สึกแบบเดียวกับอยู่ในโรงหนังเพราะรองรับระบบเสียง Dolby Digital Audio ให้ทิศทางเสียงมีความสมจริง แยกกันชัดเจนทั้งส่วนของเสียงรายละเอียดและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ เช่นเสียงกระสุนปืน เสียงทิศทางลม เสียงเดิน เสียงคนคุยกันในทิศทางต่างๆ และส่วนของเสียงระเบิด เสียงแก้วแตก เป็นต้น ที่ฟังแล้วรู้สึกได้ทันทีว่ามาจากทิศทางใด
แนวเพลงที่เหมาะสม: Pop / Rock / Heavy Metal / Hip-Hop / EDM
แนวภาพยนตร์ที่เหมาะสม: Action / Sci-Fi / Adventure / War
ลำโพง Klipsch Cinema 400 Sound Bar เหมาะกับใคร?
ด้วยความเป็นรุ่นเล็กสุดของซีรีส์ทำให้ Klipsch Cinema 400 Sound Bar ตอบโจทย์ผู้ที่อยากจะเริ่มต้นลองเปลี่ยนมาใช้งานลำโพงซาวด์บาร์แบรนด์นี้ รวมถึงผู้ที่มีพื้นที่ไม่มาก เช่น อาศัยอยู่ในคอนโด หรือต้องการเอาไปตั้งในห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องนอนที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก โดยลำโพง Klipsch Cinema 400 Sound Bar มีขนาดอยู่ที่ 40 นิ้ว เหมาะกับใช้งานกับ TV ขนาด 40 นิ้วขึ้นไป และด้วยซับวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้วที่เชื่อมต่อแบบไร้สาย ทำให้การติดตั้งและเซ็ตอัพต่างๆ เป็นเรื่องง่าย ให้เสียงเบสที่กระหึ่มเพียงพอกับห้องขนาด 30 - 40 ตารางเมตรได้สบายๆ รับรองว่าให้เสียงที่ครอบคลุมกระหึ่มใกล้เคียงกับการดูหนังในโรงหนังแน่นอน
*รูปภาพทั้งหมดจาก: www.klipsch.com
ลำโพงรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
ลำโพงรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
ไร้สาย
บลูทูธ, AUX (3.5mm), Optical TOSLINK, HDMI
Stereo 2.1
ไม่รองรับ
ไม่รองรับ
มีโหมดเสียงต่างๆ
Active
Soundbar + Sub
Soundbar : 101.4 x 7.3 x 8.6 / Subwoofer : 30.2 x 41 x 41
35 - 20,000 Hz
400W
12.47 kg
บทความที่เกี่ยวข้อง