5 โปรแกรมเทสการ์ดจอ วัดความแรงด้วยตัวเอง

15 พ.ค. 2567

5 โปรแกรมเทสการ์ดจอ วัดความแรงด้วยตัวเอง

ไม่ว่าจะพึ่งเริ่มประกอบคอมมาใหม่ หรือใช้งานมาสักพักแล้ว ความแรงของการ์ดจอก็เป็นตัวชี้วัดที่ไม่ว่าใครก็อยากรู้ ไม่ว่าจะอยากรู้เพื่อเทียบสเปกว่าจะเล่นเกมใหม่ ๆ ได้ไหมหรืออยากเช็กความแรงเพื่อเอาไปอวดคนอื่น วันนี้พวกเรา mercular เลยมาพร้อมกับ 5 โปรแกรมเทสการ์ดจอ วัดความแรงด้วยตัวเอง ที่บอกเลยว่าแต่ละโปรแกรมที่เอามาบอกเพื่อน ๆ วันนี้ เข้าใจได้ง่ายสุด ๆ แม้แต่มือใหม่ที่ทำได้ด้วยตัวเองครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันเลย


1.Benchmark ภายในเกม


เริ่มต้นกันด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดในการเทสการ์ดจอครับ ในเมื่อเราจะประกอบคอมเพื่อเล่นเกมอยู่แล้วทำไมไม่ลองใช้งานฟังก์ชัน Run Benchmark ที่มีอยู่ในเกม AAA ไปเลยล่ะ ยิ่งในสมัยนี้มีเกมที่สามารถใช้เป็นมาตรฐานหลักในการวัดความแรงการ์ดจออยู่เพียบ เช่น Forza Horizon 5, Red Dead Redemption 2 หรือเกม AAA ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานภาพและ Ray Tracing อย่าง Cyberpunk 2077 ครับ สามารถใช้เป็นการเทสการ์ดจอเบื้องต้นได้เลย ยิ่งถ้าขึ้นชื่อว่าปรับกราฟฟิกภาพในเกมเหล่านี้ใน Ultra Setting แบบลื่น ๆ ได้ ก็มั่นใจได้เลยว่าเล่นได้ทุกเกมบนโลกแน่นอนครับ


โดยการใช้งาน Run Benchmark ส่วนใหญ่จะอยู่ในจะซ่อนอยู่ในหน้าต่าง Setting ของเกมนั้น ๆ มักจะโผล่มาอยู่ขอบจอด้านล่างหรือข้าง ๆ ครับ อย่างที่บอกไปว่าการ Run Benchmark ผ่านเกมนั้นจะได้แค่ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น เช่น จำนวน Frames per Second ที่ทำได้, เปอร์เซ็นการ์ดจอที่ใช้งาน หรือข้อมูลสเปกของคอมพิวเตอร์เราเบื้องต้นเท่านั้นครับ

เทสการ์ดจอ Benchmark เกม

3DMark


สำหรับโปรแกรม 3DMark ก็บอกได้สั้น ๆ ง่าย ๆ เลยครับว่านี่คือโปรแกรมเทสการ์ดจอ ที่ครบเครื่องที่สุด จบได้ที่ตัวเดียวได้เลย เพราะว่าในโปรแกรมนี้สามารถใช้เทสความแรงได้ทั้ง การ์ดจอและซีพียู มาพร้อมกับโหมดการทดสอบที่มีให้เลือกเยอะมาก เช่น Time Spy (สำหรับเช็กความแรงในการใช้เล่นเกม วัดได้สูงสุด 4K), Port Royal (วัด Ray-Tracing ในการใช้งานจริง) หรือ Stress Testing (ทดสอบประสิทธิภาพคอมเราว่าไหวแค่ไหน เมื่อทำงานอย่างหนัก) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ครบทุกความต้องการ โดยมี Score รวมและ Score แยกของทั้งการ์ดจอและซีพียูให้ดู มาพร้อมกับเส้นกราฟที่แสดงค่า Performance อย่าง FPS ที่ทำได้, ความร้อนขณะเทส, Load ที่ทำได้ และความเร็ว ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ตอบโจทย์ได้หมดไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์หรือสาย Overclocker ครับ 


โดยโปรแกรม 3DMark จะสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Steam ครับ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งแบบ Free (ในสตรีมจะใช้คำว่า Demo) และเสียเงินที่ 680 บาทครับ โดยในตัว Free เราจะสามารถทดสอบได้แค่ความแรงในการใช้เล่นเกมครับ แต่ถ้าอยากเทสสมรรถนะเครื่อง, ความเร็ว SSD หรือการลองใช้เทคโนโลยี Frame Generation ของค่ายต่าง ๆ ก็ต้องเสียเงินเพิ่มครับ ถ้าใครเป็นสายนี้ก็บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ ครับ แต่ในถ้าเป็นเกมเมอร์ธรรมดาแค่ตัว Demo ก็เพียงพอแล้วครับ

โปรแกรมเทสการ์ดจอ 3DMark

Furmark


ใครที่อยากลองวัดว่าการ์ดจอตัวเองจะมีขีดจำกัดพลังประสิทธิภาพสูงสุดที่เท่าไหร่ก็ขอให้ลองใช้โปรแกรมเทสการ์ดจอ Furmark ครับ โดยการเทสพลังการ์ดจอของเขาก็ตามชื่อเลยครับ ด้วยการจำลอง Fur (ขนสัตว์) แบบ 3D จำนวนมาก ๆ มาให้การ์ดจอของเราประมวลผล ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จาก Furmark คือมีให้เยอะตามความต้องการของเราสายประกอบคอมและ Overclocker เลยครับ มีข้อมูลให้เพียบตั้งแต่ ความเร็ว Clockspeed, อุณหภูมิ, เปอร์เซ็นที่ใช้งาน, กำลังไฟที่ใช้ ไปจนถึงความเร็วในการหมุนของพัดลมการ์ดจอเลยครับ บอกเลยว่าเป็นประโยชน์สุด ๆ


โดยโปรแกรม Furmark เป็นโปรแกรมตรวจคุณภาพการ์ดจอที่สามารถใช้งานได้ฟรี ๆ บนเว็บไซต์ Geeks3D เลย แต่ก็ต้องระวังนะครับด้วยความที่เป็น Stress Test ที่หลาย ๆ คนมองว่าวัดแรงเกินความจำเป็นไปเยอะ และอาจจะส่งผลเสียให้กับการ์ดจอเราได้เลย

โปรแกรมเทสการ์ดจอ Furmark

Superposition


โปรแกรมเทสการ์ดจอที่ใช้งานได้งานสุด ๆ แต่บอกเลยว่าเทสการ์ดจอเราถึงพริกถึงขิงแน่นอน กับ Uniengine Superposition ที่แค่ใช้แบบฟรีก็เพียงพอต่อการวัดความแรงการ์ดจอได้แล้วครับ เราสามารถ Custom การวัดได้อย่างอิสระหรือจะใช้งานจาก Preset ที่มีมาให้อยู่แล้วก็ได้ โดยแนะนำที่ 1080p ครับ สำหรับผลลัพธ์ที่จะได้จากโปรแกรมนี้คือ Score และอุณหภูมิของการ์ดจอ ซึ่งจุดเด่นของเขาคือเราสามารถดูเปอร์เซ็นการทำงาน, อุณหภูมิและการใช้งานของการ์ดจอเราได้แบบเรียลไทม์ที่ด้านขวาบนของจอได้เลย


โดยตัวโปรแกรม Superposition นี้มีแพลนให้เลือกเยอะแยะมากครับ แต่สำหรับการเทสการ์ดจอและใช้งานทั่วไปแค่แบบ Free ก็เอาอยู่แล้วครับ ซึ่งนอกจากใช้งานเทส Benchmark แล้วยังสามารถใช้งานแบบ VR Experience ใส่กับแว่น VR หรือจะไปวิ่งเล่นในโหมด Game ไปพร้อม ๆ กับเทสการ์ดจอก็ทำได้ครับ

โปรแกรมเทสการ์ดจอ Superposition

Cinebench 2024


โปรแกรมเทส CPU ชื่อดังที่ในเวอร์ชัน Cinebench 2024 ได้กลับมาพร้อมการวัดประสิทธิภาพทั้ง CPU และ GPU พร้อมกันได้แล้ว โดยข้อดีของ Cinebench 2024 นี้จะมาในหน้าต่าง UI ที่เข้าใจได้ง่ายมาก ๆ เปิด - กดปุ่ม Start - รอผล แค่นี้เท่านั้นเอง โดยเลือกเทสได้ทั้ง GPU, CPU แบบ Multi Core และ CPU แบบ Single Core ครับ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะมีเพียงแค่ Cinebench Scores เท่านั้นครับ โดยเมื่อเทสเสร็จ ด้านล่างก็จะมี Ranking ที่จัดอันดับคะแนนของการ์ดจอเราเทียบกับการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ให้เลย ซึ่งบอกเลยว่าสะดวกในการใช้งานมาก ๆ ครับ


โดยโปรแกรม Cinebench 2024 สามารถเข้าเว็บไซต์ไปดาวน์โหลดมาใช้งานได้แบบฟรี ๆ เลยบนเว็บ Mexon เลย ซึ่งสามารถเอามาใช้เทสได้ทั้งคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คเลย ใครที่อยากเทสการ์ดจอตัวเองแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากก็ขอแนะนำ Cinebench 2024 ครับ

โปรแกรมเทสการ์ดจอ Cinebench 2024

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 โปรแกรมเทสการ์ดจอ วัดความแรงด้วยตัวเอง ที่พวกเราได้แนะนำกันไป บอกเลยว่ามีให้เลือกใช้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงตัวที่เว็บไซต์วัดความแรงสเปกคอมหลาย ๆ เจ้าใช้กัน หลังจากที่เพื่อน ๆ ได้ Score ของตัวเองแล้วก็สามารถเอาเข้าไปเทียบกับการ์ดจอรุ่นอื่น ๆ ได้เลย ก่อนเสิร์จก็อย่าลืมกำกับตามหลังด้วยโปรแกรมที่ใช้ด้วยนะครับ และนี่คือทั้งหมดของ Tips & Tricks ที่พวกเราจะแนะนำกันในวันนี้ คราวหน้าจะเป็นบทความที่น่าสนใจอะไรอีกก็อย่าลืมติดตามกันไว้ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2