Apple เปิดตัว Apple Music Hi-Fi พร้อมปฏิวัติโลกแห่งเสียงเพลง
21 พ.ค. 2564
โลกแห่งเสียงเพลงจะเปลี่ยนไปด้วยไฟล์ Lossless และ Dolby Atmos
หลังจากปล่อยให้ลือกันมาอย่างยาวนาน ล่าสุดทาง Apple ก็เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยกับบริการฟังเพลงในระดับเสียงแบบ Hi-Fi แบบเดียวกับ App Tidal โดยเป็นการอัพเกรดบริการฟังเพลงอันดับ 1 ของตนเองอย่าง Apple Music เป็น Apple Music Hi-Fi พร้อมรองรับการใช้งานเสียงคุณภาพสูง Hi-Resolution แบบที่จะทำให้ประสบการณ์การฟังเพลงต้องเปลี่ยนไปแบบที่ไม่เคยมีค่ายไหนทำมาก่อน โดยในการประกาศเปิดตัว Apple Music Hi-Fi นั้นไปเปิดตัวฟังก์ชันการใช้งานหรือ Features ใหม่ถึง 2 อย่างด้วยกันโดยอย่างแรกคือการเปิดให้ผู้ใช้งาน Apple Music สามารถฟังเพลงความละเอียดสูงในระดับ Lossless และระดับ Hi-Res Lossless ได้แล้วนั่นเอง และอีกฟีเจอร์นั่นก็คือการรองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Spatial Audio Dolby Atmos ที่จะเปลี่ยนจากเสียง Stereo ซ้ายขวาให้กลายเป็นเสียงรอบทิศทางอีกด้วย โดยกำหนดการเปิดให้ใช้งาน Apple Music Hi-Fi นั้นจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน และเปิดให้ใช้โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มสำหรับผู้ใช้งาน Apple Music อีกด้วย
เปิดประสบการณ์ฟังเพลงความละเอียดสูง Hi-Res Lossless
สำหรับรายละเอียดของ Apple Music Hi-Fi จะแบ่งออกเป็นเสียงระดับ Lossless หรือเสียงที่ตรงกับต้นฉบับโดยไม่ถูกตัดทอนและบีบอัด ซึ่งทาง Apple ได้แจ้งว่าจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถฟังเพลงในระดับ Lossless ได้มากกว่า 75 ล้านเพลงเลยทีเดียว โดยจะเป็นไฟล์เพลงที่ถูกเข้ารหัสแบบ Lossless จากทาง Apple ที่ใช้ Codec ว่า ALAC หรือย่อมาจาก Apple Lossless Audio Code โดยแอปเปิ้ลจะเปิดให้ใช้แบบ Open-Source แบบเดียวกับ Codec เพลงชนิดอื่นๆ ทำให้นักดนตรีและค่ายเพลงสามารถบันทึกเสียงด้วย Codec ALAC นี้และส่งเข้าคลังเพลงของ Apple ได้นั่นเอง ด้านรายละเอียดของเสียง Lossless นั้นจะแบ่งเป็นเริ่มต้นที่ 16-Bit/44.1 kHz และ 24-Bit/48 kHz สำหรับ Lossless และ 24-Bit/192 kHz สำหรับ Hi-Res Lossless โดยสามารถใช้งานได้ทั้งบน Apple Music บน iOS และ Android แต่หากต้องการฟังแบบไร้สายตัว Smartphone และ หูฟังไร้สายจำเป็นต้องรองรับ Codec ไร้สายๆ สูงด้วยรวมถึงในระดับ Hi-Res Lossless ก็จำเป็นต้องใช้งานควบคู่กับ DAC ในการถอดสัญญาณด้วยนั่นเอง
ต่อยอด Spatial Audio ด้วย Dolby Atmos
ฟีเจอร์ที่ 2 ที่เพิ่มเข้ามาและน่าสนใจไม่น้อยไปกว่า Lossless นั่นก็คือเสียง 360 องศา Spatial Audio ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้บน AirPods Pro และ AirPods Max สำหรับใช้งานรับชมภาพยนตร์บน Apple TV+ ที่นอกจากจะให้เสียงรอบทิศทางและ เสียงยังขยับไปตามการเคลื่อนไหวของศีรษะอีกด้วย ซึ่งทาง Apple ก็นำมาต่อยอดการใช้งานบน Apple Music Hi-Fi กับฟีเจอร์ Dolby Atmos ทำให้การฟังเพลงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยความสามารถนี้สามารถใช้งานได้ทันทีบน Apple AirPods Pro และ AirPods Max เจ้าของหูฟังไร้สายดังกล่าวสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ทันทีเมื่อเปิดให้บริการ และลำโพงบน iPhone iPad iMac และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีสเปครองรับ Dolby Atmos
AirPods Pro และ AirPods Max ไม่รองรับ Lossless แบบไร้สาย
เป็นที่น่าเสียดายที่หูฟังไร้สายเรือรุ่นธงของ Apple จะไม่รองรับการฟังเพลงในระดับ Hi-Res แบบไร้สายเพราะตัวหูฟังไร้สายรองรับ Codec ไร้สายเพียงแค่ AAC เท่านั้น ทำให้ไม่สามารถส่งสัญญาณคุณภาพสูง Lossless แบบไร้สายที่เรียกว่า ALAC ของทาง Apple ได้นั่นเอง อาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้งานแบบมีสายสำหรับ AirPods Max ซึ่งก็จำเป็นจะต้องซื้อสายเพิ่มทั้ง Lightning to AUX/3.5 mm. และ Dongle หรือ DAC สำหรับแปลง Lightning ที่ตัว iPhone อีกด้วยครับ