5 สุดยอดหูฟัง True Wireless ที่เหมาะสำหรับผู้หญิง

ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่าสินค้าประเภท หูฟังไร้สาย True Wireless นั้นกระแสมาแรงและกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ละแบรนด์ต่างงัดเอาเทคโนโลยีเด็ดๆ กันมาแบบไม่มีใครยอมใคร ซึ่งในบรรดาสินค้าจากหลากหลายแบรนด์ในตลาดก็มักจะมาพร้อมกับการออกแบบไปในทิศทางเดียวกันคือรูปทรงที่ดูแล้วมีความทะมัดทะแมง รวมไปถึงสีสันที่เลือกใช้สีดำและสีขาวซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้หลายๆ คนมองว่า True Wireless นั้นเหมาะกับผู้ชายซะมากกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วผู้ใช้งานนั้นก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และผู้หญิงหลายๆ คนก็มักที่จะมองหาสินค้าที่มีสีสันสดใส ทั้งสีสันหวาน สดใส และเปรี้ยวเท่ตามสไตล์ของสาวแต่ละคน หรือก็คือสินค้าที่ดูมีความเป็นผู้หญิงอยู่ในตัวนั่นเอง ซึ่งในครั้งนี้ทาง Mercular.com ก็จะมาแนะนำ 5 หูฟัง True Wireless ที่มาพร้อมรูปร่างหน้าตาและสีสันที่ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย และเหมาะกับผู้หญิงครับ โดยจะมีรุ่นใดบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ

1. B&O Beoplay E8 Sport

ราคา 12,900 บาท

สำหรับรุ่นแรก จากแบรนด์ระดับ Hi-End ที่ผู้ใช้งานที่เป็นผู้หญิงน่าชื่นชอบกันอย่าง Bang & Olufsen เพราะเอกลักษณ์ของแบรนด์คือตัวสินค้านั้นมักจะมาพร้อมการออกแบบที่ดูหรูหราและพรีเมียมนั่นเอง และสำหรับ B&O Beoplay E8 Sport ที่แม้จะพ่วงด้วยคำว่า Sport แต่ภาพรวมก็ยังคงมีความเป็นสินค้าแฟชั่นอยู่เช่นเคย ด้วยสีที่มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Oxygen Blue ที่เป็นสีฟ่าสดใส สไตล์ Pastel แบบที่เห็นแล้วต้องตกหลุมรักได้ง่ายๆ ครับ

B&O Beoplay E8 Sport สวมใส่แบบ In-Ear กระชับกับหูทุกขนาดด้วยจุกซิลิโคนที่ให้มาด้วยหลากหลายไซส์ พร้อมรูปร่างหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ B&O มาพร้อมเคสรูปทรงสี่เหลี่ยมสุดเท่สีเดียวกับตัวสินค้า ส่วนของการเชื่อมต่อเป็นแบบไร้สาย Bluetooth 5.1 ใหม่ล่าสุด เชื่อมต่อได้เถียร รับชม YouTube และ Netflix ไม่ดีเลย์ รวมถึงเล่นเกมก็แทบไม่ดีเลย์ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญคือรองรับการส่งสัญญาณ Codec ไร้สายคุณภาพสูงอย่าง aptX อีกด้วย ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการฟังเพลง Lossless แบบไร้สายอย่างแน่นอน ส่วนของไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์นั้นพิเศษด้วยไมค์แบบพิเศษ Beamforming ถึง 4 ตัว สามารถตัดเสียงแทรกได้เป็นอย่างดี ให้เสียงสนทนาที่คม ชัด ใส ในทุกสถานการณ์ และยังตอบโจทย์สาวๆ ที่รักการออกกำลังกายด้วยความสามารถกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP57 รวมถึงใช้งานได้ยาวๆ 7 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ภายในตัว และชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีกรวมแล้วใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่สำคัญตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วย

• รองรับ Codec ไร้สายคุณภาพสูง aptX
• กันน้ำกันฝุ่นระดับมาตรฐาน IP57
• แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง
• เคสรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi

2. Jabra Elite Active 75t Wireless Charge

ราคา 7,490 บาท

สำหรับรุ่นที่ 2 เป็นสินค้าจากแบรนด์ด้านอุปกรณ์ไร้สายที่อยู่คู่กับวงการ Smartdevice มายาวนานหลายปีนั่นก็คือแบรนด์ Jabra โดย Jabra Elite Active 75t นั้นจัดเป็น สินค้าตัวท๊อปของแบรนด์ ที่มาพร้อมรูปร่างหน้าตาทันสมัย ออกไปในทาง Unisex พร้อมด้วยสีสันที่มีให้เลือกถึง 4 สีคือ สี Mint, Sienna, Navy และ Gray โดยในส่วนของ Mint และ Sienna ต้องบอกเลยว่าตอบโจทย์สายหวานและสายเปรี้ยว โดยสี จะออกสีเขียว Pastel และสี Sienna จะออกแดงส้มดูแล้วมีความเท่ จี๊ดจ๊าดตอบโจทย์สายเปรี้ยวนั่นเอง

Jabra Elite Active 75t สวมใส่แบบ In-Ear อัดแน่นไปด้วยสเปคแบบจัดเต็ม ทั้งส่วนของการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ใช้งานดู YouTube, Netflix ได้สบายๆ ไม่มีดีเลย์ ส่วนการเล่นเกมนั้นก็ทำได้ดีมากๆ ด้วยเช่นกัน สวมใส่ได้กระชับทุกขนาดหูด้วยจุกซิลิโคนหลายขนาดที่ให้มาด้วย มาพร้อมเคสสำหรับชาร์จที่มีขนาดกำลังดีพกพาได้สะดวกและมีสีนสันแบบเดียวกับตัวหูฟัง ส่วนภายใน Elite Active 75t มีไมโครโฟนที่ให้มาถึง 4 ตัวช่วยในเรื่องการสนทนาโทรศัพท์ให้มีความคมชัด สนทนาได้ชัดเจนแม้ในขณะที่วิ่งอยู่แล้วมีลมพัดก็ตาม พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Hearthrough ที่รับเสียงจากภายนอกเข้ามาโดยไม่ต้องถอดตัวหูฟังออก สำหรับสนทนากับบุคลลรอบข้างได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยในเรื่องความปลอดภัยขณะสวม In-Ear ที่เมื่อใส่กระชับจะบล็อคเสียงจากภายนอกไปพอสมควรอีกด้วย ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IP57 และแบตเตอรี่ใช้งานยาวๆ ถึง 7.5 ชั่วโมง รวมชาร์จจากเคสเป็น 28 ชั่วโมง ที่สำคัญในรุ่น Wireless Charge ตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ หูฟัง True Wireless ผู้หญิง ทั้งรูปร่างหน้าตาและสีสัน รวมไปถึงการใช้งานที่สะดวกมากอีกด้วย

• ไมโครโฟนรับเสียงภายในถึง 4 ตัว
• ใส่ออกกำลังกายได้ กันน้ำกันฝุ่น IP57
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 7.5 ชั่วโมง
• เคสรองรับการชาร์จไร้สาย Qi

3. JVC HA-A10T

ราคา 2,990 บาท

รุ่นที่ 3 จากแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ที่ถ้าพูดถึงเรื่องคุณภาพก็บอกได้เลยว่าไม่เป็นรองแบรนด์ไหนๆ กับแบรนด์ JVC ในรุ่น JVC HA-A10T ที่มาพร้อมรูปร่างหน้าตาสุดมินิมอลที่ดูแล้วรู้สึกถึงความเป็นมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น อารมณ์เดียวกับแบรนด์ Muji มาพร้อมสีสันให้เลือก 4 สีคือ Black, Pink, Blue และ Gray ซึ่งสี Pink จะมาในสไตล์ Pastel ที่บอกเลยว่าสายหวานเห็นแล้วต้องชอบอย่างแน่นอน

JVC HA-A10T มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด สวมใส่ง่ายแบบ In-Ear และกระชับด้วยจุกที่ให้มาทั้งแบบซิลิโคนที่มีให้เลือกหลายขนาด และจุกเมมโมรี่โฟมที่ซึมซับแรงกดทับได้ดีอีกด้วย ตัวเคสมีรูปทรงแบบกล่องสีเหลี่ยมสีเดียวกัน JVC HA-A10T มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ให้สัญญาณที่มีความคมชัด ใช้งานดู YouTube, Netflix ได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องภาพไม่ตรงกับเสียง ด้วยเช่นกันภายในมีไมโครโฟนสำหรับรับสายสนทนาที่รับเสียงได้อย่างคมชัดไม่พลาดทุกการติดต่อ ใส่ออกกำลังกายได้ด้วยความสามารถกันน้ำกันเหงื่อมาตรฐาน IPX5 พร้อมด้วยแบตเตอรี่ภายในตัวใช้งานได้ต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง และชาร์จจากเคสได้อีก 10 ชั่วโมงรวมเป็น 14 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็วเพียง 15 นาทีใช้งานได้ถึง 1 ชั่วโมงอีกด้วย

• เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 สัญญาณเสถียร
• ไมโครโฟนรับเสียงสนทนาได้คมชัด
• ใส่ออกกำลังกายได้ กันน้ำ IPX5
• แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง

4. Urbanista London

Urbanista London จัดเป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จากแบรนด์ Urbanista ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากที่ประเทศอเมริกา ด้วยสไตล์ของแบรนด์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน รูปทรงที่ดูเท่สวมใส่เป็นเครื่องประดับได้สบายๆ มาพร้อมสีสันที่มีให้เลือกถึง 4 สีได้แก่สีดำ สีชมพู สีขาว และสีน้ำเงิน โดยสีชมพูนั้นจะออกไปในโทนโรสโกล์ด ที่มีความเรียบหรูแต่ก็มีความหวานอยู่ในตัว พูดได้ว่าเข้ากับผู้หญิงทุกวัยอย่างแน่นอน 

Urbanista London มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด สวมใส่ง่ายแบบ In-Ear True Wireless กับรูปร่างหน้าตาที่ดูคุ้นเคย มาพร้อมเคสสีเดียวกันรูปทรงแบบสี่เหลี่ยมแบนสไตล์กระเป๋าเดินทาง Urbanista London ภายในอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นอย่างในเรื่องของการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ที่นอกจากจะตัดเสียงภายนอกแล้วก็ยังรับเสียงภายนอกได้ด้วยโหมด Ambient Sound สนทนากับรอบข้างและรับเสียงจากรอบตัวโดยไม่ต้องถอดออก การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 ดู YouTube, Netflix ได้สบายๆ ส่วนการเล่นเกมนั้นก็เรียกได้ว่าทำได้ดีจนแทบไม่รู้สึก ด้วยเช่นกันเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ภายในที่จะหยุดเพลงเมื่อถอดและกลับมาเล่นเมื่อใส่ และการควบคุมด้วยระบบสัมผัส ไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัด ไม่พลาดในทุกการติดต่อ ใส่ออกกำลังกายได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง ชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 20 ชั่วโมงรวมเป็น 25 ชั่วโมง ที่สำคัญคือตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สายมาตรญาน Qi อีกด้วย พูดได้เลยว่าตอบโจทย์การใช้งานอย่างครบถ้วน

• ตัดเสียงรบกวน ANC
• ควบคุมด้วยระบบสัมผัส
• กนน้ำกันเหงื่อ IPX4
• แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง

5. Defunc True Go Slim

ราคา 1,790 บาท

และสำหรับรุ่นสุดท้ายในครั้งนี้จากแบรนด์ Defunc กับรุ่น Defunc True Go Slim ที่มีจุดเด่นตามชื่อรุ่นคือเล็ก บาง หรือ Slim นั่นเอง มาพร้อมรูปร่างหน้าตาแบบเท่งยาว สวมใส่แบบ Earbud หรือก็คือไม่ต้องยัดเข้าไปในหูแบบ In-Ear ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ผู้หญิงหรือผู้ที่ไม่ชอบหูฟังแบบสอดหูได้เป็นอย่างดี มาพร้อมสีสันให้เลือกมากถึง 6 สี ได้แก่ Black, Blue, Green, Pink, Red และ White โดยสีที่เหมาะกับผู้หญิงนั่นคือสีชมพูหวานแหวว และสีแดงสุดเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ที่เลือกกันได้ตามสไตล์ของแต่ละคนนั่นเอง

Defunc True Go Slim มาพร้อมขนาดที่เล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา สวมใส่ได้ง่ายดาย กระชับหู มาพร้อมเคสสำหรับชาร์จและพกพาที่มีสีเดียวกัน มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่อัดแน่นไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใช้งานดู YouTube, Netflix ได้สบายๆ ไม่มีดีเลย์ ควบคุมได้สะดวกด้วยระบบสัมผัส ใช้งานรับสายสนทนาโทรศัพท์ได้อย่างคมชัดด้วยไมโครโฟนในตัว ไม่พลาดทุกการติดต่อ สวมใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐานกกันน้ำ กันเหงื่อ IPX4 ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 4 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ภายในตัวและชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 18 ชั่วโมง รวมแล้วใช้งานได้นานถึง 22 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยตัสเคสมาพร้อมช่องชาร์จแบบ USB-C ช่วยให้ชาร์จได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วยครับ

• สวมใส่แบบ Earbud
• เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
• กันน้ำกันเหงื่อมาตรฐาน IPX4
• แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง

และนอกจาก 5 รุ่นที่เอามาแนะนำกันในครั้งนี้แล้ว ในปัจจุบันยังมีสินค้าอีกหลายรุ่นจากหลายแบรนด์ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป รูปทรงที่ไม่ดูแข็งกระด้างมากนัก และการออกสีสันต่างๆ มาเป็นตัวเลือกนั่นเอง โดยรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่น Sony WF-SP800N ที่เป็น True Wireless กันน้ำ สำหรับออกกำลังกายพร้อมสีสันสดใส โดยเฉพาะสีส้มสุดจี๊ดจ๊าด โดดเด่นทั้งเรื่องสีสันและรูปร่างหน้าตา สวมใส่ได้สบาย กระชับหู ดู YouTube Netflix ได้สบายๆ ใส่ออกกำลังกายได้ยาวๆ ด้วยฟังก์ชั่นกันน้ำกันฝุ่น IP55 และแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง ในราคา 6,490 บาท อีกรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ JBL Live 300 True Wireless เสียงดีจาก JBL ที่มาพร้อมขนาดเล็กกะทัดรัด สวมใส่ง่าย พร้อมสีม่วงสุดหวาน โดดเด่นในเรื่องแนวเสียงที่จัดว่าเป็นรุ่นหนึ่งที่ให้เสียงดีมากๆ ดู YouTube และ Netflix ไม่ดีเลย์ ใส่ออกกำลังกายก็ได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX5 และแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว กับราคาเพียง 4,990 บาท เท่านั้น และ Sudio ETT ที่โดดเด่นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาสุดเท่ สวมใส่สบายหู มีฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน ANC ไมโครโฟน 4 ตัว กันน้ำกันเหงื่อมาตรฐาน IPX5 แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมงพร้อมตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สาย กับราคาที่ 5,690 บาทครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับบรรดา หูฟัง True Wireless ผู้หญิง ที่นำมาแนะนำกันในครั้งนี้ มีถูกใจรุ่นไหนกันบ้างไหมครับ? ก็ต้องบอกเลยว่าแต่ละรุ่นนั้นก็มีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นไม่ซ้ำกัน รวมถึงออกแบบและเพิ่มสีสันให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้ครบทุกเพศทุกวัยมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่แทบจะเรียกได้ว่าสินค้าในปัจจุบันนี้จำเป็นต้องมีนั่นก็คือฟังก์ชั่นกันน้ำสำหรับออกกำลังกาย และดู YouTube Netflix ไม่ดีเลย์นั่นเอง พูดได้เลยว่าตอบโจทย์การใช้งานของคนในยุคนี้ได้เป็นอย่างดีครับ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าถ้ามีเทคโนโลยี ข่าวสาร หรือเทคนิคอะไรใหม่ๆ ทาง Mercular.com จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอน สวัสดีครับ