AirPods ราคาแพง! ไปส่องหูฟัง True Wireless ที่หน้าตาคล้ายกัน ในราคาที่ถูกกว่า
1 มิ.ย. 2564
เมื่อพูดถึงแบรนด์ Apple ต้องยอมรับเลยว่าเป็นแบรนด์ AirPods ราคาแพง! ที่ตั้งราคาสินค้าแต่ละชนิดได้สูงพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ที่สินค้าใกล้เคียงกันให้ฟังก์ชันการใช้งานที่ค้ลายกัน แต่อย่างไรก็ตามสินค้าของ Apple แม้ผู้ใช้งานทั่วๆ ไปจะมองว่ามีราคาที่สูงแต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานโดยรวมแล้วก็บอกได้เลยว่าให้มาจัดเต็มเกินราคาอย่างแน่นอน และในปัจจุบันแม้ว่าคุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานของ Apple นั้นจะทำได้เกินราคา แต่ในสายตาผู้ใช้งานทั่วๆ ไปก็อาจจะยังมองว่า Apple AirPods ราคาแพง! อยู่ดี ด้วยความที่ในตลาดนั้นจะมีสินค้า หูฟัง True Wireless ที่ได้แรงบันดาลใจและทำได้ใกล้เคียง AirPods ราคาถูก อยู่มากมายหลายรุ่นด้วยกันทั้ง AirPods ราคาถูก และ AirPods ปลอม ซึ่งเชื่อว่าผู้ใช้งานคงไม่อยากได้ AirPods ปลอมไปใช้งานกันเป็นแน่ครับ
แล้ว AirPods ราคาถูก, AirPods แท้และ AirPods ปลอมแตกต่างกันยังไง?
ก่อนอื่นทำความเข้าใจกันก่อนว่า AirPods แท้ก็คือ AirPods จากแบรนด์ Apple นั่นเองโดยจะมีราคาที่สูงเมื่อเทียบกับแบรนด์ทั่วไปตามสไตล์ของ Apple ครับ สามารถไปเลือกซื้อกันได้ที่ Mercular.com รับประกันส่งเร็วของแท้แน่นอน ต่อไปคือ AirPods ปลอมซึ่งก็คือ AirPods ที่หน้าตาเหมือน AirPods แท้ เบางครั้งดูด้วยตาอาจจะแยกไม่ออกในทันที ต้องตัดสินใจจากหลายปัจจัยเช่น ราคาที่ถูกจนไม่น่าเชื่อ วัสดุงานประกอบที่ไม่แข็งแรงพรีเมียม และหากลองใช้งานก็จะรู้ได้ทันทีว่าไม่สามารถใช้งานแบบ AirPods แท้ได้นั่นเองครับ
และสุดท้ายคือ AirPods ราคาถูกที่จะแตกต่างกับ AirPods ปลอม ตรงที่เป็นสินค้าที่มีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียง AirPods แท้ แต่ไม่ใช่เหมือนกัน 100% แบบพี่น้องฝาแฝดจะมาในสไตล์ของแรงบันดาลใจมากกว่า โดยจะมีแบรนด์หรือไม่มีแบรนด์ก็ได้ แต่ขอแนะนำเป็นรุ่นที่มีแบรนด์จะดีกว่าเพราะจะมีส่วนของเรื่องรับประกันจากทางแบรนด์เข้ามานั่นเอง โดยจะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ
AirPods ราคาแพง! ไปส่องหูฟัง True Wireless ที่หน้าตาคล้ายกัน ในราคาที่ถูกกว่า
1. หูฟังไร้สาย SoundPeats MAC True Wireless
ยี่ห้อ/รุ่น: SoundPeats MAC
ราคา: 699 บาท
ประเภทหูฟัง: In-Ear
เวอร์ชัน Bluetooth: 5.0
กันน้ำ: IPX7
แบตเตอรี่: 9 ชั่วโมง
การตัดเสียงรบกวน: ไม่มี
SoundPeats MAC เป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In-Ear ที่มาพร้อมรูปรูปร่างหน้าตาทรงก้านยาวสุดเท่ ขนาดกะทัดรัดเพียง 40.1 x 19.3 x 25.5 มิลลิเมตร เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ใช้งานดู YouTube และ Netflix ได้สบายๆ รวมถึงใช้งานเล่นเกมก็มีอาการดีเลย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และสลับใช้งานแยกข้างได้อย่างอิสระ สำหรับสาย Sport ก็ไม่ต้องกังวลเพราะมาพร้อมมาตรฐาน IPX7 รวมถึงมาพร้อมไมโครโฟนที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัด สนทนาได้สบายๆ แม้ขณะกำลังวิ่งอยู่ ด้านแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 9 ชั่วโมงและส่วนของเคสที่ใช้ชาร์จเพิ่มได้อีกรวมเป็น 60 ชั่วโมง เรียกได้ว่าแทบจะเป็นหูฟังที่ให้แบตเตอรี่อึดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในระดับราคาเท่านี้เลยก็ว่าได้ครับ
ด้านเสียงก็ทำได้เกินราคาเช่นกัน โดยส่วนของเสียงกลางให้เสียงใสไม่อุดอู้ เสียงร้องฟังง่าย ชัดถ้อยชัดคำ ส่วนเสียงแหลมทอดได้ไกลพอประมาณ ไล่โน๊ตเสียงได้ดีไม่มีเพี้ยน ปลายเสียงพริ้วไม่พร่าและไม่มีสากเสี้ยน และย่านเบสที่ออกเป็นลูกๆ ให้แรงส่งได้ไกล เนื้อเสียงมีความนิ่มนวล ไม่บวมและไม่ย้อย ส่วนของเวทีเสียงให้เนื้อที่ปานกลาง การจัดวางเครื่องดนตรีต่างๆ ทำได้ดี เสียงร้องจะอยู่ตรงกลางและเด่นมาข้างหน้า และเครื่องดนตรีที่ให้รายละเอียดได้ชัดเจน
2. หูฟังไร้สาย Eaudio NOVA 10 True Wireless
ยี่ห้อ/รุ่น: Eaudio NOVA 10
ราคา: 990 บาท
ประเภทหูฟัง: In-Ear
เวอร์ชัน Bluetooth: 5.1
กันน้ำ: IPX5
แบตเตอรี่: 3 ชั่วโมง
การตัดเสียงรบกวน: มี
การออกแบบของ Eaudio Nova 10 นั้นก็จะมีความคล้ายคลึงกับ Apple AirPods Pro เหมือนลูกพี่ลูกน้องกัน ด้านการสวมใส่ก็ง่ายและกระชับหู ไม่หลุดออกง่ายหรือรู้สึกอึดอัดเมื่อสวมใส่ด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 3.8 กรัมเท่านั้น มาพร้อมกับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1 ให้สัญญาณที่ลื่นไหลไม่ติดขัดและรองรับการใช้งานในโหมด Low Latency นั่นเอง ใช้งานเล่นเกมผ่าน Gaming Mode ได้สบายๆ แม้ว่าจะไม่ได้ดีเลย์ต่ำสุดที่ 16 ms. เทียบเท่า Airpods Pro แต่ก็อยู่ในช่วงที่ต่ำจนไม่สัมผัสได้ ให้ความรู้สึกว่าเสียง Sync ได้ตรงภาพ เล่นเกมได้ลื่นไหลทั้ง MOBA และ FPS แต่จะไม่สามารถทำงานร่วมกับโหมด ANC ได้ ตัว Eaudio Nova 10 สามารถเปิดใช้งาน ANC Mode เพื่อตัดเสียงรบกวนระหว่างใช้งานและ Transparency Mode สำหรับฟังเสียงรอบข้างได้ มาพร้อมไมโครโฟนที่ถือว่าเป็นหัวใจอีกดวงของหูฟังเกมมิ่งสามารถเก็บเสียงได้ในระดับกลางๆ ช่วยให้การสื่อสารภายในเกมเป็นไปได้ด้วยดี สามารถใช้งานตัวไมค์พร้อมกับโปรแกรม Chat 3rd Party พร้อมกับการเล่นเกมได้ ด้านแบตเตอรี่ Nova 10 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 3 ชั่วโมงและสามารถชาร์จเพิ่มได้อีก 3 ครั้ง รวมชั่วโมงการทำงานสูงสุด 12 ชั่วโมงครับ
สำหรับแนวเสียงของ Eaudio Nova 10 ตัวนี้ก็จะใช้งาน Dynamic Driver ขนาด 13 มิลลิเมตร ปรับจูนมาได้โดดเด่นในเรื่องของการแยกแยะเสียงในย่านต่างๆ รวมไปถึงเสียงเอฟเฟคที่ค่อนข้างมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเองไม่ซ้อนทับหรือปนกันมั่ว ระบุทิศทางได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนั้นยังมีแรงปะทะของเบสค่อนข้างดี เสียงพูดตัวละครไม่กลืนและไม่ถูกเสียงย่านอื่นกลบ ส่วนของเสียงบรรยากาศก็เก็บมาได้ครบแต่อาจจะขาดเรื่องเวทีเสียงในเชิงลึก ทำให้มิติใกล้-ไกลของเกมอาจจะดูบางไปซักหน่อยครับ
3. หูฟังไร้สาย Blitzwolf BW-FLB2 True Wireless
ยี่ห้อ/รุ่น: Blitzwolf BW-FLB2
ราคา: 1,290 บาท
ประเภทหูฟัง: In-Ear
เวอร์ชัน Bluetooth: 5.0
กันน้ำ: IPX4
แบตเตอรี่: 4 ชั่วโมง
การตัดเสียงรบกวน: ไม่มี
Blitzwolf BW-FLB2 โดดเด่นด้วยการเป็นหูฟัง Gaming True Wireless สวมใส่แบบ In-Ear ที่มาในสไตล์แท่งยาวแบบ AirPods 2 แต่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยเพื่อเสริมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น LED Indicator ด้านหลัง พร้อมโลโก้หมาป่าสุดเท่ และฟีเจอร์เสียง 6 มิติที่ช่วยจำลองเสียง 7.1 Surround เพื่อเสริมบรรยากาศความเป็น Gaming Headphone ขึ้นไปอีก 1 ระดับ สวมใส่สบาย กระชับ แน่นเต็มหู ใส่ออกกำลังกายได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IPX4 สำหรับแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมงและชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 24 ชั่วโมง ด้านไมโครโฟนเป็นแบบ DSP Noise Cancelling ตัดเสียงแทรกได้เป็นอย่างดี สำหรับการเชื่อมต่อเป็นแบบไร้สาย Low Latency บนสัญญาณ Bluetooth 5.0 เล่นเกมได้ไม่ติดขัดเพราะไม่มีปัญหาดีเลย์ภาพไม่ตรงกับเสียงมากวนใจครับ
สำหรับแนวเสียงต้องบอกว่าค่อนข้างเน้นเบสแน่น หนัก เสียง Effect มาเต็ม ใช้เล่นเกมสนุก ดูหนังเพลินๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้หูฟังที่เน้นเสียงเอฟเฟค โดยเฉพาะคอเกมที่กำลังมาแรงอย่าง Genshin Impact ที่กำลังมองหาหูฟังที่เล่นเกมนี้ไม่ดีเลย์ รุ่นนี้ถือว่าเป็นคำตอบที่ใช่และน่าลงทุนไว้ติดตัวมากๆ
4. หูฟังไร้สาย Elephone Elepods X True Wireless
ยี่ห้อ/รุ่น: Elephone Elepods X
ราคา: 1,690 บาท
ประเภทหูฟัง: In-Ear
เวอร์ชัน Bluetooth: 5.2
กันน้ำ: IPX5
แบตเตอรี่: 7 ชั่วโมง
การตัดเสียงรบกวน: มี
หูฟัง ElePhone ElePods X เป็นหูฟังทรง Airpods Pro ในรูปทรงที่ก้านสั้นกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทำให้คุณภาพไมโครโฟนของหูฟังทั้ง 2 ตัวนี้ทิ้งห่างกันจนเกินไปแต่อย่างใด เพราะเจ้า ElePhone ElePods X ยังคงสามารถสื่อสารและจับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนระบบ Clear Voice ที่ช่วยเสริมความคมชัดของเสียงให้กับการคุยสาย รองรับการควบคุมด้วยระบบ Touch Control ซึ่งในส่วนของการควบคุมนี้ตัวหูฤงถือว่าวางตำแหน่งของปุ่มรับคำสั่งมาได้ค่อนข้างดี ทำให้ไม่เกิดการลั่นคำสั่งระหว่างสวมใส่ และใช้งานจริงได้ค่อนข้างง่าย ในด้านการสวมใส่ก็เบาสบายกระชับหู สามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างสบาย ๆ บนมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IPX4 ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 7 + 23 ชั่วโมง ที่ให้คุณได้ใช้งานมันอย่างต่อเนื่องและจุใจถือว่าเหนือกว่าหูฟังเกมมิ่งหลาย ๆ ตัวเลยนั่นเอง
สำหรับการใช้งานของหูฟัง True Wireless ElePhone ElePods X ตัวนี้นอกจาก Gaming Mode แล้วยังมีโหมดการทำงานอีก 2 โหมดได้แก่ Ambient Mode (เปิดฟังเสียงรอบข้าง) ANC Mode (โหมดตัดเสียงรบกวน) Sport Mode (โหมดตัวเสียงรบกวนแบบ Hybrid) โดยสามารถสลับสับเปลี่ยนโหมดเหล่านี้ได้โดยการวางนิ้วค้างไว้ประมาณ 1-2 วินาทีบนส่วนควบคุมของหูฟังด้านซ้าย ซึ่งจากการทดสอบของทีมงานดีเลย์การทำงาน Gaming Mode นั้นไม่สามารถใช้งานคู่กับ ANC Mode ได้ เพราะมีดีเลย์อย่างเห็นได้ชัด ส่วนการทำงานบน Ambient Mode และ Sport Mode นั้นเสียงจะมีความดีเลย์น้อยกว่า แต่ทั้งบน iOS และ Android ยังมีความดีเลย์อยู่ทั้งคู่ประมาณ 60ms อยู่ในเกณฑ์ที่สัมผัสได้จาก และแทบไม่มีผลต่อการเล่นเกม
5. หูฟังไร้สาย Razer Hammerhead True Wireless
ยี่ห้อ/รุ่น: Razer Hammerhead
ราคา: 1,890 บาท
ประเภทหูฟัง: EarBud
เวอร์ชัน Bluetooth: 5.0
กันน้ำ: IPX4
แบตเตอรี่: 4 ชั่วโมง
การตัดเสียงรบกวน: มี
หูฟังไร้สาย Razer Hammerhead True Wireless ตัวนี้มาพร้อมกับการออกแบบที่สวยงาม ให้อารมณ์ไม่ต่างกับ Apple Airpods 2 และใช้การสวมใส่แบบ EarBud เหมือนกันอีกด้วย ภายในมีไดรเวอร์ขนาด 13 มิลลิเมตรเป็นไดรเวอร์ของทาง Razer เอง ให้คุณภาพเสียงอันทรงพลังตามสไตล์ของหูฟังซีรีส์ Hammerhead รวมกับบรรยากาศความกว้างของเสียงแบบ Earbud ทำให้สามารถขับเสียงเอฟเฟคได้อย่างหนักหน่วง เรียกได้ว่าดึงเอาจุดดีจุดด้อยของการออกแบบมาเสริมกันได้อย่างลงตัว ด้านการเชื่อมต่อใช้สัญญาณ Bluetooth 5.0 ส่งสัญญาณในย่าน Ultra-low Latency ทำให้เสียงไม่ดีเลย์ ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐาน IPX4 ควบคุมสะดวกด้วยระบบสัมผัส และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง ชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 12 ชั่วโมง รวมแล้วอยู่ได้ 16 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ด้านเสียงมาพร้อมกับไดนามิกไดรเวอร์ Razer Custom-tuned ขนาด 13 มม. แบบที่ใช้ในหูฟังซีรีส์ Hammerhead รุ่นก่อนๆ โดดเด่นในเรื่องของเสียงเบส โทนเสียงอุ่นและสะอาด ตัดเสียงรบกวนต่างๆ ออกไปได้เป็นอย่างดีเพื่อการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม การระบุทิศทางต่างๆ ทำได้เป็นอย่างดี ระบุซ้ายขวารวมไปถึงระยะหรือแม้กระทั่งเสียงฝีเท้าได้อย่างแม่นยำ เวทีเสียงและบรรยากาศความโอบล้อมมีมิติสมจริง ระบุระยะความลึกของบรรยากาศได้เป็นอย่างดี เลเยอร์ของเสียงเอฟเฟคและเครื่องดนตรีแยกกันได้ค่อนข้างชัดเจน นอกจากเสียงระเบิดอันทรงพลัง และเสียงกระสุนที่มีความสมจริงแล้ว เสียงโทนแหลมสูงอย่างโลหะหรือประกายต่างๆ ก็มีความชัดเจน ใช้ดูหนังได้สนุกเพลิดเพลิน
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 หูฟัง AirPods ราคาถูกที่นำมาแนะนำกันในครั้งนี้ แต่ละรุ่นก็บอกเลยว่าไม่ใช่ AirPods ปลอมแน่นอน แต่จะเป็นหูฟังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทั้ง AirPods Pro และ AirPods 2 ที่สำคัญด้วยความที่เป็นหูฟังมีแบรนด์จึงให้มั่นใจได้ในเรื่องของมาตรฐานงานผลิต และการรับประกัน ไม่ซื้อไปแล้วเคว้ง พังง่าย หาซ่อมไม่ได้แน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ Mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ในครั้งหน้าหากมีสินค้าใดๆ น่าสนใจทางเราจะรีบนำมาแนะนำกันอีกแน่นอนครับ สวัสดีครับ