9 Mechanical Keyboard ยี่ห้อไหนดี ที่ต้องรู้ก่อนเลือก
22 พ.ค. 2564
ในปัจจุบันตลาดของ Mechanical Keyboard ถือว่าเติบโตต่อเนื่องออกมาจากกรอบเดิม ๆ ของตัวเอง และเข้าถึงผู้ใช้งานทั่วไปมากขึ้น ทำให้วันนี้เราจะหยิบ เอา 7 แบรนด์คีย์บอร์ดที่คาแรคเตอร์แตกต่างกันมาเทียบให้ดู
ต้องพูดว่าในปัจจุบันตลาดคีย์บอร์ดในไทยนั้นเพิ่งอยู่ในระยะที่กำลังเติบโตเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ Mechanical Keyboard ถ้าไม่อยู่ใน Niche Market ที่เฉพาะกลุ่มมาก ๆ ก็จะถูกมองว่าเป็นเกมมิ่งเกียร์เท่านั้น แต่การออกแบบของ Mechanical Keyboard นั้น เหมาะมาก ๆ กับการทำงานด้วย เพราะเลียนแบบเสียงและสัมผัสของเครื่องพิมพ์ดีด ทำให้พิมพ์ได้สนุกถนัดมือ และต่อเนื่อง ช่วยเสริมบรรยากาศในการทำงานให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่อย่างที่ได้เกริ่นไปในปัจจุบัน Mechanical Keyboard นั้นมีให้เลือกมากมายหลากหลายรุ่น จากหลากหลายแบรนด์ ซึ่งในแต่ละยี่ห้อก็จะมี จุดเด่นแตกต่างกันออกไปเป็นจุดขาย แน่นอนว่าสำหรับมือใหม่อาจจะมองไม่เห็นเราเลยขอหยิบเอาออกมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้นั่นเอง]
9 ยี่ห้อ Mechanical Keyboard ที่ต้องซื้อ
1.Mechanical Keyboard Akko - คีย์บอร์ดดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่น
Mechanical keyboard แนะนําอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์สวย น่ารัก ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชื่นชอบสีสันอย่างแบรนด์ดัง Akko ความแตกต่างจากแบรนด์อื่นด้วยรูปทรงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร มาพร้อมกับขนาดของคีย์บอร์ดที่หลากหลายให้เลือกใช้งานไม่ว่าจะเป็น Full-Size ,TKL, Compact และการเชื่อมต่อทั้งมีสายและไร้สาย นอกจากนี้ยังมีราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับเหล่าเกมมิ่งที่ต้องการประหยัดงบแต่ได้ Mechanical keyboard สวยๆไปใช้งาน รวมไปถึงยังมีอุปกรณ์เสริมที่สามารถเลือกซื้อได้ที่เดียวอย่าง ชุดสวิตซ์ คีย์แคปหรือแม้กระทั่งสายเคเบิล บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน
ข้อดี
- ดีไซน์สวยน่ารัก สไตล์ญี่ปุ่น
- ราคาเอื้อมถึงได้ง่าย
- มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน
ข้อเสีย
- ไม่มีคีย์ไทย
คีย์บอร์ด Akko 3087DS TKL Horizon Switch V2 Gaming Keyboard
Mechanical Keyboard ขนาด TKL แนะนําสำหรับรุ่น Akko 3087DS TKL Horizon Switch V2 Gaming Keyboard บอกเลยว่าเป็นรุ่นดังที่มีดีไซน์สวย รุ่นนี้มาพร้อมกับฐานคีย์บอร์ดและขาตั้งที่สามารถปรับระดับได้ 3 ระดับ มีความลาดเอียงเข้ามือพิมพ์ได้อย่างถนัดมือมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คในการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์เพราะมาพร้อมกับพอร์ต USB-A และยังมีฟีเจอร์อย่างการตั้งค่าคำสั่ง Macro ในการปรับรายปุ่มได้ง่าย และในส่วนของวัสดุคีย์แคปที่เป็นวัสดุ PBT ให้ความแข็งแรง ทนทาน และเสียงกดแน่น บอกเลยว่าสำหรับรุ่นนี้ใช้งานเล่นเกมก็ได้ ทำงานก็ดี ตอบโจทย์ได้หลากหลาย
คีย์บอร์ด Akko PC75B Year of Tiger 2022 Wireless Mechanical Keyboard
ต้อนรับปีเสือ กับคีย์บอร์ด Akko PC75B Year of Tiger 2022 Wireless Mechanical Keyboard รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจากแบรนด์ Akko ไม่ซ้ำใครแน่นอนกับดีไซน์ที่แปลกใหม่ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษเด่นๆอย่าง สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless, Bluetooth และสาย USB Type C สะดวกรวดเร็วและง่ายต่อการใช้งาน มาพร้อมวัสดุตีย์แคป PBT แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน รวมไปถึงสวิตช์ Akko แบบ 5 พิน นอกจากนี้ยังมีปุ่มอเนกประสงค์มุมขวาไว้ใช้งานในการปรับตั้งค่าตั้งค่าต่างๆได้อีกด้วย และที่สำคัญสำหรับไฟ RGB LED สามารถปรับแต่งเพิ่มความสวยงามกับคีย์บอร์ด ยังสามารถรองรับ Hot-Swappableและมีความจุแบตเตอรี่ 3000 mAh ใช้งานได้ง่ายกับดีไซน์สวยๆไม่ซ้ำใคร พลาดไม่ได้แล้วกับรุ่นนี้
2.Mechanical Keyboard Melgeek - คีย์บอร์ดคลุมโทนส์ สายมินิมอลห้ามพลาด
บอกเลยว่าสายมินิมอล ต้องถูกใจแน่นอนสำหรับ mechanical keyboard แนะนําแบรนด์ Melgeek ด้วยรูปทรงดีไซน์ที่ดูคลีนเรียบๆ ตกแต่งง่าย สไตล์มินิมอล วัสดุและเนื้อสัมผัสดี ใช้งานได้ง่ายสามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ผ่าน Bluetooth และสามารถเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-Cได้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเล่น Custom Keyboard นอกจากนี้มี คีย์บอร์ดตัวเลขแยกซื้อได้อีกด้วย
ข้อดี
- รูปทรงดีไซน์สวย สไตล์มินิมอล
ข้อเสีย
- ไม่มีคีย์ไทย
- หาซื้อได้ยาก
คีย์บอร์ด Melgeek Mojopad Mechanical Keyboard
สำหรับ คีย์บอร์ด Melgeek Mojopad Mechanical Keyboard ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะเป็นคีย์บอร์ดตัวเลขที่ดีไซน์แปลกไม่เหมือนใคร ด้วยการออกแบบมาเป็นเคสใส และมีความรูปร่างลาดลงมาทำให้สามารถใช้งานในการพิมพ์สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น USB type-c , Bluetooth 5.1, Wireless 2.4 gHz มาพร้อมไฟ RGB และ Hotswappable PCB (สามารถถอดเปลี่ยนสวิตช์ได้ โดยไม่ต้องบัดกรี) และยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถตั้งค่า software "KBTOOLS" ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
3. Mechanical Keyboard Nubwo ตัวเลือกสำหรับคนอยากได้คีย์บอร์ดราคาถูก
สำหรับ Mechanical Keyboard Nubwo นั้นถือว่าเป็นตัวเลือกเริ่มต้นที่ดีสำหรับ คนที่อยากจะสัมผัส Mechanical Keyboard ราคาถูกในงบไม่ถึง 1,000 แถมยังมีการออกแบบที่หลากหลาย ในช่วงราคาที่ไม่แพงมาก แต่แน่นอนว่าของถูก อาจจะดี แต่ก็คงจะดีไม่สุดเท่ากับสินค้าจาก Top Brand เพราะตัว คีย์สวิตซ์ของ Keyboard Nubwo นั้น อายุการใช้งานอาจจะไม่ค่อยทนทานเท่าไหร่ แถมมีระยะเวลารับประกันนานแค่ 1 ปีเท่านั้น แนะนำว่าให้ลองใช้งานเป็นใบเบิกทางป้ายยาตัวเองเป็นหลัก แล้วถ้าถูกใจค่อยอัพเกรดไปเป็นตัวที่ใช้งานได้ยาว ๆ ก็ได้
ข้อดี
- ราคาถูก
- โมเดลให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย
- ไม่ทนทานมาก
- การปรับแต่งน้อย
คีย์บอร์ด Nubwo X30 Terminator Gaming Keyboard
สำหรับ Nubwo X30 Terminator คีย์บอร์ดตัวเรือธงจาก Nubwo X Series ออกแบบมาในขนาด Full Size ดีไซน์สวยด้วยไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งได้หลายโหมด นอกจากนี้ยังมีไฟติดรอบข้างคีย์บอร์ดให้ความสะดุดตามากขึ้น รวมไปถึงมี Body ให้เลือกถึง 2 สีทั้ง Black และ White มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายและสะดวกกับ Plug and Play ที่สามารถเสียบสายเข้ากับตัวเครื่องในการใช้งานได้เลย พร้อมทั้ง Software เพื่อตั้งค่าแสงไฟ และ Macro Keys ต่าง ๆได้อีกด้วย ที่สำคัญคือมาในราคาที่เบาๆ เพียงตัวละ 1,390 บาท บอกเลยว่าได้ทั้งดีไซน์สวยๆและความสะดวกสบายในการใช้งานจบครบในตัวเดียว
คีย์บอร์ด Nubwo Racnar X32 Mechanical Keyboard
สำหรับรุ่นแนะนำที่สุดของ Mechanical Keyboard Nubwo เราขอแนะนำเป็น Mechanical Keyboard ที่ราคาถูกที่สุดอย่าง Nubwo X32 ที่มีการใช้งานครบครัน มี Software ตั้งมาโครได้ มีไฟ RGB แถมปรับแต่งได้ในระดับหนึ่ง แถมเป็นโมเดลที่ให้เลือกใช้งานสวิตซ์หลัก 3 สีได้ด้วย เรียกได้ว่ามีความคุ้มค่า และการใช้งานครบครันเหมาะกับผู้เริ่มต้นมาก ๆ
4. Mechanical Keyboard Ducky – คีย์บอร์ดสำหรับสะสม พิมพ์งาน และเล่นเกม
เปิดด้วยคีย์บอร์ดเกมมิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นไปแล้ว เรามาต่อกันด้วยคีย์บอร์ดแบรนด์ดังอย่าง Ducky ที่สามารถทำงานได้ทั้งเล่นเกม และทำงาน ด้วยการออกแบบสไตล์มินิมอลที่เรียบง่าย และใช้การจัดวางคีย์ของ Cherry ทำให้คีย์บอร์ด Ducky นั้น โดดเด่นในเรื่งอรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น มุมองศาที่พิมพ์สบาย คุณภาพสวิตซ์ที่ทนทาน ใช้งานได้หลากหลาย และมีแฟนคลับในไทยซื้อใช้กันเยอะ เวลาขายต่อมือ 2 นั้น ก็ทำได้สะดวกมาก ๆ เป็นหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการใช้ทำงานเป็นประจำ การใช้งานของ Mechanical Ducky นั้นจะเน้นการใช้งานแบบจบในตัว ไม่ต้องพึ่ง Software โดยตัวบอร์ดยังรองรับการใช้งานมาโครโดยง่ายด้วย แต่จะเป็นการตั้งค่าบนคีย์บอร์ดแทน
ข้อดี
- ราคาสมเหตุสมผล
- ทนทานแข็งแรง
- การออกแบบยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
- ดีไซน์ให้เลือกน้อย
คีย์บอร์ด Ducky One 2 Mini RGB Mechanical Keyboard
คีย์บอร์ดทรงยอดนิยมของ Ducky สะดวกแก่การพกพา ดีไซน์กระทัดรัด และเป็นเบสดีไซน์ที่ถือว่าเป็นรูปทรงคลาสสิคที่พบได้ในอีกหลาย ๆ แบรนด์ จุดเด่นคือการใช้ Layout แป้นพิมพ์ของ Cherry ทำให้ได้สัมผัสและองศาการพิมพ์ที่ไม่เหมือนแบรนด์ทดแทนอื่น ๆ ที่มีความใกล้เคียง ทำให้เป็นจุดขายที่หาไม่ได้ ใน Mechanical Keyboard ยี่ห้ออื่น ๆ
*โดยตามปกติแล้วสินค้า Ducky อาจจะ หาซื้อได้ยาก แต่ก็สามารถเลือกซื้อจากแบรนด์ทดแทนอื่น ๆ เช่น Mechanical Keyboard Akko, Leopold หรือ Womier เป็นต้น
5. Mechanical Keyboard Corsair – แบรนด์คีย์บอร์ดไฮเทคลูกรักของ Cherry
ถ้าเกิดอยู่ในวงการนักพิมพ์ โดยเฉพาะ แฟน ๆ Mechanical Keyboard ทุกคนต้องรู้จัก Cherry บริษัทผลิตสวิตซ์สัญชาติเยอรมัน แต่ถ้าไม่รู้จักก็เอาเป็นว่าเป็นบริษัทผลิตสวิตซืคีย์บอร์ดที่โด่งดังที่สุดก็แล้วกัน ซึ่งเจ้าแบรนด์ Corsair นี้ถือว่าเป็น Partner ตัวสำคัญของทาง Cherry เลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าถ้ามีของเล่นอะไรใหม่ Corsair ก็จะได้ก่อนเสมอ ๆ ฉะนั้นใครที่เป็นคนชอบอัพเทคให้ทันสมัย หรืออยากได้โมเดลคีย์บอร์ดล้ำยุคไม่เหมือนใคร นอกจากนั้นการออกแบบคีย์บอร์ดจองแบรนด์นี้ก็มีลูกเล่นในเรื่อง Keycaps ที่เล็กกว่าขนาดปกติเดิมเล็กน้อย ทำให้มีระยะห่างระหว่างปุ่มมากขึ้น สำหรับคนที่พิมพ์จนเก่งแล้วจะช่วยให้งานของเรามีความแม่นยำขึ้นนั่นเอง
ข้อดี
- เทคโนโลยีใหม่ ทันสมัย
- การออกแบบสวยงามทนทาน
- ช่วงราคาหลากหลาย
ข้อเสีย
- พื้นฐานเป็นแบรนด์เกมมิ่งทำให้ราคาสูง
- การออกแบบเน้นสีดำ ไม่มีตัวเลือกให้มาก
คีย์บอร์ดเล่นเกม Corsair K60 Mechanical Keyboard
สำหรับ Corsair Mechanical Keyboard นั้นจริง ๆ มีตัวแนะนำมากมายไม่วา่จะเป็น K100 ที่โดดเด่นในเรื่องของความสวยงาม แต่ที่ราคาประหยัดและสัมผัสเหมาะกับการพิมพ์มาก ๆ ก็ต้อง Corsair K60 นี่แหละที่ถ่ายทอดความเป็น Corsair ออกมาได้มากที่สุดในขณะนี้ เพราะเจ้า Mechanical Keyboard Corsair K60 ตัวนี้ เป็นคีย์บอร์ดที่ใช้สวิตซ์รุ่นใหม่ล่าสุดของ Cherry ที่ Corsair ใช้ได้แค่เข้าเดียวเท่านั้นในตอนนี้ ราคาก็ถูกไม่แพง ใคร ๆ ก็เจ้าถึงได้เพียง 2,490 บาท รองรับฟีเจอร์ของคีย์บอร์ดระดับสูงแบบครบครัน ทั้งการตั้ง Macro ด้วย Software หรือ Anti-Ghosting ต่าง ๆ นั่นเอง เรียกได้ว่าใครที่อยากได้สัมผัสการพิมพ์ที่ไม่เหมือนใคร จาก Cherry Viola Swtich ที่มีความเด้งสู้มือ แต่จังหวะการกดมีความนุ่ม ห้ามพลาด
6. Mechanical Keyboard Razer – คีย์บอร์ดที่เหมือนของแบรนด์เนม
ถ้าคุณต้องการฟังก์ชั่นของแป้นพิมพ์ที่เป็นมากกว่าการใช้งาน และการออกแบบสวยงาม แต่อยากจะเอาไว้โชว์ฐานะ ประหนึ่งใช้กระเป๋าหลุยส์ ก็ต้องใช้ Mechanical Keyboard Razer นี่แหละ ที่ใคร ๆ ก็ต้องร้องอ๋อ หรือพอจะคุ้นหูอยู่บ้าง แต่นอกจากความแพง และหรูหราแล้ว คีย์บอร์ด Razer นั้นจะใช้เทคโนโลยีเฉพาะทางของตัวเองเป็นหลัก ทำให้มีการใช้งานไม่เหมือนคนอื่น แม้ว่าจะมีสินค้าหลายช่วงราคา แต่สินค้าเกมมิ่งเกียร์ Razer ส่วนมากจะจัดว่าเป็นของ Hi-end ที่ดูดีมีสไตล์ เหมาะสำหรับใช้เป็นแฟชั่นมากที่สุดกว่าทุก ๆ แบรนด์
ข้อดี
- แบรนด์ดัง คนนอกวงการก็รู้จัก
- เทคโนโลยีทันสมัย และเป็นออริจินัล
- เบาะรองข้อมือนุ่มมากกกกกกก
ข้อเสีย
- ราคาเริ่มต้นสูง
- QC มีปัญหาบ่อย (แต่ประกันรองรับนะ)
คีย์บอร์ด Razer Huntsman Mini Mechanical Keyboard
ไหน ๆ ก็แนะนำแบรนด์ Mechanical Keyboard แล้วก็ต้องพูดถึง Gaming Keyboard กันบ้าง กับ Razer Huntsman Mini คีย์บอร์ดขนาดพกพาที่เหมาะสำหรับพาไปใช้งานเล่นเกมนอกสภานที่ไม่ว่าจะเป็นสนามแข่งขัน หรือบ้านเพื่อน แถมตัวคีย์บอร์ดยังรองรับการตั้งค้าและบันทึกลงตัวเองทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเซ็ตติ้งปุ่มใหม่เวลาใช้งานนอกสถานที่ ส่วนเรื่องเทคโนโลยีก็ใช้สวิตซ์ที่ดีที่สุดของ Razer อย่าง Razer OPTO ในราคาเพียง 3,000 ปลาย เท่านั้นเอง
7. Mechanical Keyboard SteelSeries – แบรนด์ Gaming Keyboard ที่ไฮเทคที่สุดตอนนี้
อีก 1 แบรนด์ Mechanical Keyboard ที่ดังไปจนถึงนอกวงการ แต่แม้ว่าจะไม่เทียบเท่า Razer แต่ถือว่า เป็นอีก 1 แบรนด์ที่คนนอกวงการก็รู้จัก ด้วยการออกแบบที่เท่ และทันสมัย แต่ในเรื่อง Mechanical Keyboard SteelSeries อยู่ดีทางแบรนด์ก็พลิกกระดานมาเป็นผู้นำเทคโนโลยีของคีย์บอร์ดที่น่าสนใจที่สุดอย่าง SteelSeries Apex Pro คีย์บอร์ด Hi-Spec ที่ถือว่ามีเทคโนโลยีเป็นอันดับ 1 ของเกมมิ่งคีย์บอร์ด ในปัจจุบัน เทียบเท่ากับคีย์บอร์ด Topre Switch ที่ถือว่าเป็นหัวปิรามิด ของคีย์บอร์ดโดยรวม สำหรับใครที่อยากได้คีย์บอร์ดสเปคสูงไม่เน้นราคาแนะนำให้แวะมาดูแบรนด์ SteelSeries
ข้อดี
- แบรนด์ดังเป็นที่รู้จัก
- เทคโนโลยีระดับสูง
- ของถูกให้สเปคแบบไม่กั๊ก
- QC ดีทนทานไม่ค่อยมีเคลม
ข้อเสีย
- สินค้าตัว Top ราคาสูงมาก
คีย์บอร์ด SteelSeries Apex 7 RGB Mechanical Gaming Keyboard
สำหรับคีย์บอร์ด SteelSeries Apex 7 RGB Mechanical ประเภทแมคคานิเคิล Full Size จุดเด่นสำหรับรุ่นนี้คือการออกแบบวัสดุอลูมิเนียมเกรด Air Craft เป็นวัสดุชนิดเดียวกับที่ใช้สร้างอากาศยาน ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน มีความแข็งแรง ทนทาน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบดีไซน์ไฟ LED RGB ที่ปรับได้หลากหลาย โดยที่สามารถปรับแต่งปุ่มและไฟต่าง ๆ แยกกันได้อิสระได้ มาพร้อม Cable Routing 3 เส้นทางจัดระเบียบง่าย และจอแสดงผล OLED บนแป้นพิมพ์ ที่สามารถตั้งค่าสถานะต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนกระสุน หรือ HP ของคุณ ใน CS:GO หรือข้อความที่ถูกพิมพ์ทิ้งเอาไว้ใน Discord เป็นฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใคร เชื่อมต่อได้ง่าย ดีไซน์สวย ที่กลุ่มรักเกมมิ่งต้องชื่นชอบแน่นอน
คีย์บอร์ด SteelSeries Apex Pro Mechanical Keyboard
สำหรับ SteelSeries Apex Pro ราคา 8,990 บาท ตัวนี้ต้องยอมรับว่าราคาอาจจะทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกว่าแพงเว่อ แต่ถ้าเทียบการใช้งานกับสวิตซ์ที่แพงที่สุดอย่าง Topre Switch นั้นก็ต้องบอกว่า เทียบเท่ากัน แถมยังถูกกว่าประมาณ 20 % ด้วยซ้ำ โดยเทคโนโลยีของเจ้า Apex Pro นั้นก็ถือว่าล้ำยุคที่สุดในบรรดา Mechanical Keyboard ในปัจจุบัน สามารถปรับระยะสั่งการของปุ่มเองได้ Sync ไฟกับบรรยากาศได้ตัวเองได้ มีจอ OLED สำหรับแสดงผลจิปาถะ สวยงาม และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกว่า 20ปี ถ้าได้รับการดูแลรักษาที่ดีพอ !
8. Mechanical Keyboard Keychron – สุดยอดแบรนด์ที่ตอบโจทยของนักพิมพ์
ถ้าเกิดว่าคุณอยากจะได้คีย์บอร์ดสำหรับการทำงานที่จบทุกอย่างได้ในตัว Mechanical Keyboard Keychorn คือคำตอบ เพราะคีย์บอร์ด Keychron ถูกออกแบบมาให้รองรับการเชื่อมต่อกับทุก OS ไม่วา่จะเป็นมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ไปจนถึง Tablet ทำให้คุณสามารถพกคีย์บอร์ดคู่ใจ กับมือถือของคุณ ไปไหนมาไหนได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเหล่านักเขียน Moody ที่บางครั้งอารมณ์ศิลปินก็มาไม่ถูกที่ถูกเวลา คุณก็แค่หยิบมือถือหรือ iPad ออกมา แล้วเชื่อมต่อกับ Mechanical Keyboard Keychron และลงมือพิมพ์ได้เลย นอกจากนั้นแล้วการออกแบบของตัวคีย์บอร์ดก็ยังออกแบบมาเพื่อ การพิมพ์เป็นหลักทำให้ Keycaps มีสัมผัสที่นุ่มมือ ด้วยผิวสัมผัสที่เหมือนเคลือบยางบาง ๆ เอาไว้ด้วยนั่นเอง
ข้อดี
- การเชื่อมต่อหลากหลาย
- เหมาะสำหรับการพิมพ์ และการพกพา
- คีย์บอร์ดเพื่อการทำงานอย่างแท้จริง
ข้อเสีย
- หาของยาก ของหมดบ่อย
- ในไทยมีรุ่นให้เลือกไม่หลากหลาย
คีย์บอร์ด Keychron K10 Wireless Mechanical Keyboard ราคาเริ่มต้น ประมาณ 2,000 บาท
สำหรับ Mechanical Keyboard Keychron K10 นั้นเป็นคีย์บอร์ดไร้สายที่กำลังจะเข้าไทยในอีกหลายเดือนข้างหน้านี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าใครยังไม่รีบ K 10 คือตีย์บอร์ดทำงานที่คุณจะอย่างได้จริง ๆ เพราะ ตัวมีนเป็น Hot Swappable Keyboard ในราคาไม่แพง แถมรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย และมีไฟ LED RGB แต่เพราะไม่รองรับการใช้งานกับ Software หรือ Macro ทำให้มีราคาที่ถูกลง เรียกได้ว่าราคาแบบใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ ฉะนั้นใครที่อยากได้คีย์บอร์ดสำหรับพกพาทำงาน รองรับทั้ง iOS Android สามารถ Hot Swap เอาคีย์ที่เสียออกได้ ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าเจ้า K10 จริง ๆ
สนใจสั่งซื้อ Keychron K10 Wireless คลิกที่นี่!
9. Mechanical Keyboard Logitech - ว่าที่คีย์บอร์ดอันดับ 1 ในไทย
ปิดท้ายกันไปที่แบรนด์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ อย่าง Logitech ที่ถือว่าเป็น No.1 Gaming Gear Brand ในไทย ณ ปัจจุบัน ในความคิดหลาย ๆ คน ด้วยความที่สินค้าของ Logitech นั้นมีปัญหาน้อย ราคาไม่แพง มีดีไซน์หลากหลาย แถมช่วงนี้ยังโปรโมทแรงสุด ๆ โดยไปปรากฏตัวในสื่อสาธารณะอย่างการแข่งขันต่อ ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเข้าไปเป็น Sponsor ของทีม esports และ Streamer อีกมากมาย ทำให้เราจะได้เห็น Logo ของ Logitech จนเบื่อไปอีกนาน แต่สำหรับคีย์บอร์ดนั้น Logitech ไม่ได้ติดตารางของเราเพียงเพราะว่าดังอย่างเดียว แต่สำหรับใครที่กำลังมอง Mechanical Keyboard ที่น่าสนใจจริง ๆ Logitech G Pro X Keyboard คือสิ่งที่จะตอบคุณได้ กับ Custom Keyboard จาก แบรนด์เกมมิ่งชั้นนำตัวเดียวในตอนนี้ ให้คุณได้ปรับแต่งสวิตซ์คีย์บอร์ดเองได้ ช่วยให้ในอนาคตคุณสามารถเลือกตกแต่ง และปังปุรุงคีย์บอร์ดตัวนี้ รวมไปถึง Maintenance การใช้งานของมันได้ยาว ๆ
ข้อดี
- แบรนด์ดังเป็นที่รู้จัก
- ทนทานอายุการใช้งานยาว
- ราคาเริ่มต้นเป็นมิตรกว่า Hi-end Brand อื่น
ข้อเสีย
- หาของยาก ของหมดบ่อย
คีย์บอร์ด Logitech G Pro X Mechanical Keyboard
โดยเจ้า Mechanical Keyboard Logitech G Pro X ตัวนี้ เป็น Mechanical Keyboard Hot Swappable ในราคา 4,290 บาท ที่คุ้มค่าสุด ๆ เพราะนอกจากจะรองรับการสับเปลี่ยนสวิตซ์แบบ Hot Swappable แล้ว คุณยังจะได้เฟรมของ Logitech ที่เป็นอลูมิเนียมเกรด Air Craft ไฟ LED และ Software แบบคีย์บอร์ดเกมมิ่ง แน่นอนรวมไปถึง Anti-Ghosting และ Key Rollover ด้วย ในเรื่องของสเปคนั้นถึงว่าสูงกว่า Keychron ที่เป็น Hot Swap แน่ ๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องการใช้งานติดที่เจ้า G Pro X นั้นเป็รคีย์บอร์ดแบบมีสายจึงเหมาะกับการเล่นเกมเพียงอย่างเดียว
สรุป Mechanical Keyboard รุ่นไหนดี ?
ก็จบลงไปแล้วกับ 9 ยี่ห้อ Mechanical Keyboard ที่ต้องมีติดบ้าน สำหรับคนที่ตัดสินใจไม่ถูก แต่นอกจาก 9 ยี่ห้อ Mechanical Keyboard แนะนำที่เราเพิ่งพูดถึงไปนั้น จริง ๆ แล้วในตลาดปัจจุบันก็มี Mechanical Keyboard น่าใช้ อีกมากมายจากอีกหลากหลายแบรนด์ให้เลือกจับจองเป็นเจ้าของกัน ฉะนั้น ถ้าตัวเลือกทั้ง 9 ตัวไม่ใช่ตัวที่ต้องการของคุณแบบตรงใจ คุณอาจจะใช้เวลาเพิ่มไม่มากก็น้อย เพื่อตามหา Mechanical Keyboard ที่เหมาะสม และเข้ากับตัวคุณมากที่สุดก็ได้ ส่วนวันนี้ Mercular.com จะต้องขอลาไปก่อน ขอให้คุณได้แล้วพบกันใหม่บทความต่อไปสวัสดีครับ