แนะนำ 5 ไมค์สำหรับ Youtuber คนดัง เสียงเพราะน่าฟังสุดๆ
28 ต.ค. 2565
สำหรับการจะเป็น Youtuber หรือ Content Creator ที่ยอดเยี่ยมนั้น นอกจากสกิลในการรังสรรค์เนื้อหา Content ที่น่าสนใจ สนุก ดูเพลินแล้ว เรื่องของอุปกรณ์เองก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกับไมค์ Youtuber ที่สามารถบันทึก รับเสียงต่างๆ ออกมาได้อย่างคมชัด น่าฟัง มีเอกลักษณ์แต่ว่าไมโครโฟนประเภทไหนกันหล่ะที่จะเหมาะสำหรับการเป็นไมค์สำหรับ Youtuber คู่กายของเรา วันนี้ เราเลยคัดสรรสุดยอด 5 ไมค์สำหรับ Youtuber ที่ไม่ว่าคุณจะอัดเสียงร้อง เสียงดนตรี จะ Livestream, Podcast หรือถ่าย Vlog ก็เอาอยู่ ส่วน
ไมโครโฟน FIFINE K683B USB Microphone
สเปกเด่น
ประเภทไมค์ : Condenser
รูปแบบการรับเสียง : Cardioid
Bit Rate : 24bit/192kHz
ความถี่ตอบสนอง : 50 – 17,000 Hz
การเชื่อมต่อ : USB-A, USB-C
เริ่มต้นไมค์สำหรับ Youtuber ตัวแรกของเรานั้น ก็เอาใจสาย Budget ราคาประหยัดกันหน่อย กับ ไมโครโฟน FIFINE K683B USB Microphone ไมค์คอนเดนเซอร์ USB สุดเจ๋งจากแบรนด์ Fifine โดยไมโครโฟนรุ่นนี้จะเป็นไมค์ตั้งโต๊ะที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่เลือกได้ทั้ง USB-A และ USB-C ทำให้ไมโครโฟนตัวนี้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายแพลตฟอร์สุดๆ และด้วยการรับเสียงแบบ Cardiod และช่วงความถี่ 50 – 17,000 Hz ทำให้ไมโครโฟน FIFINE K683B USB Microphone รุ่นนี้สามารถจับเสียงพูดของคุณได้อย่างคมชัด และเท่านั้นยังไม่พอ เพราะ FIFINE K683B ยังมีทั้งแผ่น Pop Filter, พอร์ต 3.5 มม. สำหรับเสียบหูฟังมอนิเตอร์ ปุ่มปรับความดังเสียง และปุ่ม Mute ปิดเสียงไมค์ และทั้งหมดนี้อยู่ในราคาแค่หลักพันต้นๆ เท่านั้นเอง บอกว่าใครที่กำลังมองหาไมค์สำหรับ Youtuber ราคาไม่แรง แต่ฟังก์ชันแน่นละก็ ต้องจัดไมโครโฟน FIFINE K683B USB Microphone รุ่นนี้นี่แหละ
ข้อดี
- เชื่อมต่อได้หลายแพลตฟอร์ม
- มีปุ่มปรับเสียงในตัว
ข้อควรระวัง
- ไม่มีฟองน้ำครอบให้
ไมโครโฟน HyperX QuadCast S
สเปกเด่น
ประเภทไมค์ : Condenser
รูปแบบการรับเสียง : Stereo, Omnidirectional, Cardioid, Bidirectional
Bit Rate : 48kHz/16-bit
ความถี่ตอบสนอง : 20 - 20,000
การเชื่อมต่อ : USB-A
ส่วนใครที่เป็นสายเกมมิ่ง อยากได้ไมค์สำหรับ Youtuber ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับคลิปวิดีโอและการไลฟ์สตรีมของเรา ควบคู่ไม่กับการบันทึกเสียงที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ก็ต้องไมโครโฟน HyperX QuadCast S รุ่นนี้เลย โดยไมค์เกมมิ่งรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นอัพเกรดจากไมโครโฟน HyperX QuadCast โดยในรุ่น QuadCast S จะมีการเพิ่มไฟ RGB หลากหลายสีสันที่ปรับแต่งได้ผ่านทาง และเปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อหลังไมโครโฟนมาเป็น USB-C ทำให้การใช้งานนั้นสะดวกสบายมากขึ้นกว่า และนอกจากสองฟีเจอร์ที่กล่าวมานั้น ไมโครโฟน HyperX QuadCast S ยังมาพร้อมกับความสามารถในการปรับรูปแบบการรับเสียงได้ถึง 4 รูปแบบ ทำให้เราสามารถอัดเสียงได้หลากหลายมากขึ้น และภายในไมโครโฟนยังมี Shock Mount และ Pop Filter ภายในตัว ช่วยป้องกันเสียงกระแทกแทรกเข้าไมค์ได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ Youtuber สายเล่นเกมเป็นที่สุด
ข้อดี
- เลือกรูปแบบการรับเสียงได้ถึง 4 รูปแบบ
- มี Shock Mount มาให้ในตัว
- ไฟ RGB ปรับแต่งสีสันได้
ข้อควรระวัง
- ไม่ต้องใช้แรงกดในการเปิดปิดไมโครโฟน
Rode VideoMic Go Microphone
สเปกเด่น
ประเภทไมค์ : Shotgun Mic
รูปแบบการรับเสียง : Super Cardioid
Bit Rate : - (Analog)
ความถี่ตอบสนอง : 100Hz - 16kHz
การเชื่อมต่อ : Aux 3.5 มม.
ส่วนใครที่กำลังมองหาไมค์สำหรับ Youtuber สาย Vlogger ทำคลิปท่องเที่ยว หรือถ่ายรายการต่างลงช่องนั้นช่องละก็ เราขอแนะนำ Rode VideoMic Go Microphone ไมค์ช็อตกันราคาเริ่มต้นจากทาง Rode ที่ต่อให้ดูมุมไหน ก็น่าใช้งานไปหมด เพราะจุดแรกสุดคือไมโครโฟนรุ่นมาพร้อมกับการเชื่อมต่อผ่านหัวมินิแจ็ค 3.5 มม. แบบ TRS สามารถเสียบเข้ากับกล้อง DSLR หรือกล้อง Mirrorless ได้แบบทันที ไม่ต้องผ่าน Audio Interface หรืออุปกรณ์จ่ายไฟเพิ่มเติมเลย และ Rode VideoMic Go ยังมาพร้อมกับ Horseshoe Mount สำหรับยิดติดกับหัวกล้องได้ทันที แถมน้ำหนักไมค์ยังเบาเพียง 73 กรัม ไม่ได้ทำให้กล้องรู้สึกหนักขั้นเลย แถมไมโครโฟนยังมาพร้อมกับการรับเสียงแบบ Super Cardioid เพื่อการบันทึกเสียงตรงหน้าได้อย่างคมชัด และแม่นยำมากขึ้น ใครที่ทำช่อง Youtube สายเที่ยว ชิม ช๊อปอยู่ละก็ Rode VideoMic Go Microphone ถือว่าเป็นไมค์สำหรับ Youtuber สายนี้เลยจริงๆ
ข้อดี
- เบาสบาย พกพาง่าย
- พอร์ต 3.5 มม. ใช้งานง่าย
ข้อควรระวัง
- ไม่มีพอร์ตสำหรับ Monitor เสียง
ไมโครโฟน Blue Yeti
สเปกเด่น
ประเภทไมค์ : Condenser
รูปแบบการรับเสียง : Stereo, Omnidirectional, Cardioid, Bidirectional
Bit Rate : 48 kHz/ 16-bit
ความถี่ตอบสนอง : 15-22000 Hz
การเชื่อมต่อ : USB-A
สำหรับไมโครโฟนตัวนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นในตำนานที่หลายๆ คนยกให้เป็นหนึ่งในไมโครโฟน USB ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจะเป็นไมโครโฟนตัวไหนไปไม่ได้ นอกจากไมโครโฟน Blue Yeti รุ่นนี้ กับไมค์คอนเดนเซอร์ PC คุณภาพเยี่ยมที่สามารถอัดเสียงได้อย่างยอดในระดับ Studio-Grade ด้วยบิทเรตที่สูงถึง 48 kHz/ 16-bit ตอบสนองความถี่เสียงตั้งแต่ 15-22000 Hz ครอบคลุมทุกย่านเสียงสำคัญ พร้อมกับรูปแบบการรับเสียงที่มีให้เลืกใช้ถึง 4 แบบ ตอบโจทย์การใช้งานในระดับ Professional ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าเป็นการอัดเสียงพูด เสียงร้อง อัดเพลง พอดแคส หรือไลฟ์สด ไมโครโฟน Blue Yeti ก็สามารถอัดเสียงคุณภาพให้กับคุณแบบง่ายๆ ได้คุณภาพ เท่านั้นยังไม่พอ Yeti Blue ยังมีฟีเจอร์ Blue Vo!ce ฟีเจอร์ EQ ไมโครโฟนในตัวผ่านโปรแกรม Logitech G HUB ให้คุณปรับแต่งเสียงที่อัดมาให้ตรงตามความต้องการ ให้เสียงใสคมชัด หวานละมุน รวมถึงการตัดเสียงรบกวนรอบข้างก็สามารถทำได้เช่นเดียว เรียกว่าทำได้อย่างครบเครื่องจริงๆ กับไมค์สำหรับ Youtuber สุดพรีเมียมรุ่นนี้
ข้อดี
- คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
- ฟีเจอร์ Blue Vo!ce ตอบโจทย์การปรับแต่ง
- บอดี้แข็งแรง การประกอบแน่นหนา
- Plug & Play พร้อมใช้งานทันที
ข้อควรระวัง
- ไม่มี Pop Filter และ Shock Mount ในตัว
ไมโครโฟน Shure SM7B Cardioid Dynamic Microphone
สเปกเด่น
ประเภทไมค์ : Dynamic
รูปแบบการรับเสียง : Cardioid
Bit Rate : - (Analog)
ความถี่ตอบสนอง : 50 - 20,000 Hz
การเชื่อมต่อ : XLR
และไมค์สำหรับ Youtuber ที่เหมาะสมสำหรับการปิดบทความนี้ เราก็ขอเลือกไมโครโฟน Shure SM7B Cardioid Dynamic Microphone ไมค์ไดนามิครุ่นยอดฮิตระดับหัวแถวของทาง Shure ที่บอกเลยว่าคุณภาพและความสามารถของไมโครโฟนรุ่นนี้เรียกได้ว่าเหนือชั้นสุดๆ ด้วยไมโครโฟนรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่องาน Studio ทำให้ตอบโจทย์ได้ทั้งการอัดเสียงดนตรี เสียงร้อง งานพากษ์ ไลฟ์สด Podcast ต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม กับการรับเสียงแบบ Cardioid ที่เน้นการรับเสียงตรงหน้าให้คมชัดน่าฟัง พร้อมกับยังมีระบบ Air Suspension Shock Isolation และ Pop Filter ภายในตัวที่ช่วยกรองและตัดเสียงรบกวน เสียงลบต่างๆ ได้แบบเงียบสนิท พร้อมกับระบบป้องกันคลื่นแม่เล็กไฟฟ้ารบกวน หมดปัญหาเรื่องเสียงฮัมต่างๆ ไปได้เลย และการปรับ Rolloff และ Mid-range สำหรับการใช้งานแต่ละแบบได้อย่างเต็มที่ ทำให้ไมโครโฟน Shure SM7B Cardioid Dynamic Microphone รุ่นนี้เป็นหนึ่งในสุดยอดไดนามิกไมค์สำหรับ Youtuber เลย
ข้อดี
- คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
- วัสดุงานประกอบที่แข็งแรง
- การตัดเสียงรบกวนที่ทำได้ดี
ข้อควรระวัง
- ราคาค่อนข้างสูงสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
- พอร์ต XLR ต้องใช้งานผ่าน Mixer หรือ Audio Interface
และทั้งหมดนี้ ก็คือ 5 ไมค์สำหรับ Youtuber คนดังที่เราอยากแนะนำให้ทุกๆ คนได้ลองใช้กันดู เพราะนอกจากสกิลและความสามารถของการเป็นนักคิดนักสร้างที่ดีนั้น การมีอุปกรณ์คุณภาพเยี่ยมอยู่คู่กายนั้นก็จะยิ่งเสริมให้งานของเราโดดเด่นไปยิ่งกว่าเดิม และไมโครโฟนที่ดีนั้น ก็จะทำให้เสียงและ Message ที่เราจะส่งไปนั้นน่าฟัง และเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าที่เคยแน่นอน และสำหรับบทความนี้ก็จบลงแค่นี้ บทความหน้าจะมีสินค้าอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง รออ่านกันได้เลย