5 หูฟังออกกำลังกายประจำปี 2019
18 มิ.ย. 2562
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าคนไทยหลายๆ คนสนใจมารักษาสุขภาพมากขึ้น จนทำให้ในปีนี้ 2019 หลายๆ คนกลับมาออกกำลังกายกันอย่างคับคั่ง สังเกตุได้จากงานวิ่งหรือฟิตเนสที่คับคั่งไปด้วยผู้คน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าการฟังเพลงระหว่างการออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้เกิดความเพลิดเพลินแล้ว ก็ยังช่วยให้เผาผลาญการออกกำลังกาย ส่งผลต่อร่างกายไปอีก วันนี้ทาง Mercular.com จะมาแนะนำหูฟังออกกำลังกายในแต่ละรุ่นสำหรับผู้อ่านที่มีความสนใจในการออกกำลังกายหรืออาจจะกำลังมองหาหูฟังไว้ใช้งานสำหรับออกวิ่ง เล่นฟิตเนสเล่นกีฬาอยู่ โดยหูฟังแต่ละตัวเองก็มีความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป ว่าแล้วไปดูกันดีกว่าครับ
Havit G1 True Wireless หูฟังออกกำลังกายสำหรับคอฟิตเนส เล่นเวทเทรนนิ่ง 2,490 บาท
Havit G1 เป็นหูฟังออกกำลังกายสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะด้วยรูปร่างเล็ก พกพาง่าย เหมาะแก่การใส่ไปฟิตเนสออกกำลังกาย ยังรองรับการใช้ทั้งโหมด Stereo และ Mono สามารถเลือกได้ที่จะใช้งานหูฟังทั้งสองข้างหรือเพียงแค่ข้างใดข้างหนึ่งก็ทำได้ นอกจากนี้ Havit G1 ยังรองรับการใช้ Voice Assistant เช่น Siri และ Google Assistant การเชื่อมต่อ Bluetooth ของ Havit G1 ใช้ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 รุ่นใหม่ล่าสุด เชื่อมต่อสเถียรมากกว่าเดิม Havit G1 มีมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นในระดับ IPX5 ซึ่งพอเพียงต่อการใช้งานในกิจกรรมต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสกับน้ำและละอองน้ำ ในส่วนของเคสชาร์จนั้นมีความจุมากถึง 720 mAh ทำให้ชาร์จได้มากถึง 5 ครั้ง อายุการใช้งานของ Havit G1 จึงสูงสุดถึง 21 ชั่วโมงเลยทีเดียว ด้านเสียงนั้นจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเสียงกลางที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีเสียงร้องที่หวานเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงย่านเสียงสูงที่มีคุณภาพ ให้รายละเอียดของเสียงที่ดีเยี่ยม เรียกว่าใครที่มองหาหูฟังออกกำลังกายดีๆ สำหรับใช้งานในฟิตเนส เข้ายิมจะต้องถูกใจ Havit G1 แน่นอนครับ
JBL Under Armour Flash หูฟังออกกำลังกายตัวจริงสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ออกวิ่ง 6,990 บาท
สำหรับ JBL Under Armour Flash แล้วเป็นร่วมงานกันอีกครั้งของทั้งสองแบรนด์อย่าง JBL และ Under Armour เพื่อสร้างสรรค์หูฟังสำหรับการออกกำลังกายคุณภาพดี มีการใช้งานเทคโนโลยีกันน้ำของ Under Armour อย่าง UA Storm Waterproof จึงทำให้ให้หูฟังออกกำลังกายรุ่นนี้มีความสามารถในการกันน้ำได้ถึงในระดับ IPX7 สามารถสัมผัสกับละอองน้ำ หยดน้ำ หรือน้ำสาดที่ใส่ได้ จึงเหมาะแก่การเอาไปใส่ออกวิ่งกลางแจ้งหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Bionic Hearing ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานหูฟังออกกำลังกายสามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการทำงานของโหมด 2 โหมดอย่าง Talk Thru แลพ Ambient Aware โดย Talk Thru จะช่วยลดเสียงเพลงลงเมื่อทำการสนทนากับผู้คนรอบตัวทำให้ไม่ต้องถอดหูฟังออก ส่วน Ambient Aware จะช่วยให้ได้ยินเสียงสิ่งแวดล้อมภายนอกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการไม่รับรู้เสียงภายนอก นอกจากนี้ JBL Under Armour Flash ใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 และไมโครโฟนในตัว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมงแล้ชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 20 ชั่วโมง ในเรื่องของเสียงถือทำได้ดี มีจุดเด่นคือเสียงเบสที่สนุก เสียงร้องที่ชัดเจน อิมแพ็คทำได้ดี เสียงสูงที่มาเต็ม เก็บรายละเอียดได้ดี เนื้อเสียงหวาน ฟังสนุกและรื่นหู เวทีเสียงจัดวางเครื่องดนตรีได้ดี เรียกว่าใครที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกลางแจ้ง ออกวิ่ง หรือทำกิจกรรมข้างนอก หูฟังออกกำลังกายตัวนี้จาก JBL ตอบโจทย์มากๆ ครับ
Jaybird X4 หูฟังออกกำลังกายแบตอึด 8 ชั่วโมง วิ่งมาราธอนสบาย 4,990 บาท
หากใครที่ชื่นชอบการออกกำลังกายคงอาจได้ยินชื่อแบรนด์ Jaybird มาบ้างแล้วในฐานะผู้ผลิตหูฟังออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ Jaybird X4 เป็นหูฟังออกกำลังกายรุ่นนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งานที่ 8 ชั่วโมงสูงสุดต่อหนึ่งครั้งการใช้งาน หรือถ้าหากต้องการชาร์จด่วย 10 นาทีก็สามารถใช้งานต่อได้ถึง 1 ชั่วโมง ทำให้เพียงพอต่อการนำไปใส่ออกกำลังกายได้ถึง 2-3 ครั้งด้วยกัน หรือถ้าอยากเอาไปใส่ออกกำลังกายเป็นระยะเวลานานๆ อย่างการวิ่งมารธอนหรือไตรกีฬาก็เอาอยู่ด้วยอายุการใช้งานถึง 8 ชั่วโมง สำหรับมาตรฐานกันน้ำเป็น IPX7 ที่สามารถกันได้ทั้งละอองน้ำ หยดน้ำ ฝนตก รวมถึงการทำตกน้ำอย่างไม่ได้ตั้งใจ จึงเหมาะแก่การใช้งานออกกำลังกายและในพื้นที่กลางแจ้ง และแน่นอนว่าเมื่อออกกำลังกายที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา Jaybird X4 จึงมาพร้อมกับสายคล้องคอเพื่อช่วยไม่ให้หูฟังออกกำลังกายรุ่นนี้หลุดออกเมื่อใช้งาน แถมด้วยจุกหูฟังแบบ Memory Foam ที่ใส่สบายมากขึ้น สำหรับการปรับแต่งเสียงผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งค่า Equalizer ได้ผ่านแอพของ Jaybird ที่ชื่อว่า Jaybird Mysound เพื่อทำการปรับแต่งเสียงให้ตรงต่อความต้องการของตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้งาน Jaybird X4 ยังสามารถสนทนาได้ผ่านไมโครโฟนที่ติดมาด้วย ในเรื่องของเสียงนั้นเสียงร้องมีการปรับปรุงให้ทำได้ดีขึ้น เนื้อเสียงมีความโปร่ง บรรยากาศมีความโปร่ง ฟังสบาย ตำแหน่งเสียงร้องอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเครื่องเสียงต่างๆ เสียงสูงอัพเกรดให้ดีขึ้น ปลายเสียงทอดได้สูง เนื้อเสียงมีความ เบสเด่น ทำได้ละมุน ลงลึก เนื้อเต็ม จึงทำให้ Jaybird X4 เหมาะสมอย่างมากสำหรับการออกกำลังกายที่ใช้เวลาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเช่นการวิ่งมาราธอนและการวิ่งไตรกีฬา ด้วยแบต 8 ชั่วโมงแบบนี้ทำให้ได้ต่อเนื่องได้สบายๆ
JBL Endurance Series ซีรีส์หูฟังออกกำลังกายโดยเฉพาะจาก JBL
JBL Endurance Series เป็นซีรีส์หูฟังออกกำลังกายจาก JBL ที่เน้นไปในเรื่องของการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ทำให้ในแต่ละรุ่นย่อยอย่าง Endurance Jump Sprint Peak และ Dive มีคุณสมบัติในด้านการออกกำลงกายที่แตกต่างกันออกไป โดยสำหรับ JBL Endurance Dive แล้วถือเป็นรุ่นย่อยประจำซีรีส์ที่มีความสามารถมากที่สุดแล้ว ด้วยคุณสมบัติที่สามารถใส่ว่ายน้ำหรือดำน้ำได้ จากมาตรฐานกันน้ำ IPX7 และยังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมงสูงสุดผ่านแบตเตอรี่ภายใน หรือถ้าหากต้องการชาร์จด่วยก็สามารถทำได้ เพียงแค่ชาร์จเป็นเวลา 10 นาทีก็สามารถใช้ได้ต่ออีก 1 ชั่วโมง นอกจากนี้เมื่อหูฟังออกกำลังกาย JBL Endurance Dive เป็นหูฟังสำหรับการว่ายน้ำเต็มตัว ทำให้ภายในของหูฟังมีหน่วบความจำที่ความจุ 1 GB ซึ่งเพียงพอที่จะใส่เพลงเข้าไป 200 เพลงสำหรับการใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สำหรับการควบคุมเมื่อใช้งานว่ายน้ำหรือในสภาพแวดล้อมอื่นๆ แล้ว จึงใช้เป็นระบบสัมผัส Touch Control แทน นอกจากนี้เพื่อความแน่นเวลาใช้งานแล้ว หูฟังออกกำลังกาย JBL Endurance Dive ยังได้ออกแบบ Ear Hook ที่ใส่สบายและไม่หลุดง่าย ทำให้ใส่ว่ายน้ำได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ในเรื่องของเสียงนั้น JBL Endurance Drive มีเสียงของนักร้องเด่นนำ มีมิติเสียงแนวลึกที่ดี สามารถแยกเสียงได้เป็นชั้นๆ สำหรับเสียงสูงสามารถทอดยาวไปได้ไกล เสียงเบสออกแนวคุมโทน ให้มวลกำลังพอดีไม่หนาหรือบางเกินไป เวทีเสียงถือกว้างมาก แยกเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างชัดเจน ทำให้ใครที่มองหาหูฟังออกกำลังกายสำหรับว่ายน้ำอยู่ ถือว่า JBL Endurance Dive เหมาะที่สุดครับ ใส่เพลงแยกฟังไม่ต้องต่อกับสมาร์ทโฟนได้แถมยังกันน้ำได้อีก
Plantronics BackBeat Fit 2100 หูฟังออกกำลังกายสไตล์กลางแจ้ง ดีไซน์สวยงาม 3,990 บาท
สำหรับใครที่มองหาหูฟังออกกำลังกายสำหรับการเล่นกีฬาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง Plantronics BackBeat Fit 2100 เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะว่าสามารถกันน้ำได้ในระดับ IP57 เอาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบายๆ ไม่ว่าจะออกวิ่ง เล่นเทนนิส เล่นบาสเก็ตบอล แถมการดีไซน์ออกมาสวยงามและยังเน้นความคงทน แต่ถ้าชอบแบบหูฟังออกกำลังกาย True Wireless ก็สามารถเลือกไปใช้งานตัวรุ่นพี่อย่าง Plantronics BackBeat Fit 3100 ซึ่งมีความคล่องตัวมากกว่าเดิมเพราะไม่มีสายคล้องคอ โดยหนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจของทั้งสองตัวคือ Always Aware ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับรู้เสียงรอบข้างระหว่างใช้งานได้ เพราะการออกกำลังกายกลางแจ้ง หากไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกเลยอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ในเรื่องการใช้งาน BackBeat Fit 2100 ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 7 ชั่วโมงและชาร์จไว้ 15 นาทีได้อีก 1 ชั่วโมง ส่วน 3100 ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง แต่ว่าหากมี่ได้ใช้งานเป็นเวลานานไม่ต้องห่วงว่าแบตจะหมดไว เพราะทั้ง BackBeat Fit 2100 และ 3100 มีฟังก์ชั่น Deep Sleep ที่ทำให้แสตนด์บายได้ถึงครึ่งปีเลยทีเดียว ในเรื่องแนวเสียงนั้น 2100 และ 3110 ให้เสียงในโทนอุ่น เสียงกลางคมชัด โปร่ง เสียงร้องชัดเจนสูงกลางต่ำ เสียงแหลมทอดได้พอดี ปลายเสียงกระจาย ใครที่มองหาหูฟังออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้งานได้หลากหลายน่าจะสนใจทั้งสองตัวนี้กันครับ
เป็นไงกันบ้างครับสำหรับหูฟังออกกำลังกายแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ สังเกตุได้เลยว่าแต่ละตัวเหมาะสมกับการออกกำลังกายที่แตกต่างกันไป โดยถ้าผู้อ่านรู้ความต้องการว่าอยากเล่นกีฬาประเภทไหนแนวไหนและใช้งานหูฟังให้เหมาะสมก็จะทำให้ประสบการณ์การออกกำลังกายสนุกมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านค้นพบหูฟังตัวโปรดได้นะครับ