แนะนำไมโครโฟนสำหรับแคสเกม สตรีมเกม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสการถ่ายทอดสดการเล่นเกมบน Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube หรือ Twitch ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจาก Platform ที่ส่งเสริมให้บรรดาเกมเมอร์หันมาไลฟ์สดกันมากขึ้น โดยเกมเมอร์คนไหนที่แคสเกมแล้วมีจำนวนคนดูสูง ก็จะได้รับค่าตอบแทนจาก Platform ต่างๆ ที่ตนเองไลฟ์สดอยู่นั่นเอง เห็นแบบนี้แล้วใครๆก็อย่างสตรีมเกมกันทั้งนั้น แต่การจะถ่ายทอดสดให้ได้อรรถรส จำเป็นต้องมีไมโครโฟนคุณภาพดี ที่ให้เสียงชัดแจ๋ว สำหรับพูดคุยเกี่ยวกับตัวเกมที่เล่น หรือกับผู้ชมนั่นเอง ดังนั้นบทความนี้เราจะพาผู้อ่านทุกท่านมาพบกับไมค์แคสเกม สุดคุ้มค่าในราคาที่เหมาะสมกันครับ

แนะนําไมค์สตรีม สำหรับไมโครโฟนแบบ Cardioid ที่รับเสียงจากด้านหน้า โดยให้ความละเอียดของเสียงคุณภาพสูง สำหรับความละเอียด 24 bit/96kHz มาพร้อมแคปซูลภายในช่วยปรับเสียงพูดในสภาพแวดล้อมภายในเกมได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถตัดเสียงรบกวนในขณะสตรีมเกม เหมาะสำหรับสายเกมมิ่งเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีดีไซน์สวย ตั้งโตีะได้ง่าย สำหรับรุ่นนี้ ไม่มีสกรู แหวนรอง หรือสะดุดเข้าที่เมื่อต่อเข้ากับบูมอาร์มอย่างแน่นอน สามารถพกพาไปได้ทุกที่มีคุณภาพเสียงที่ชัดละเอียด มาพร้อมช่วงความถี่ 20 - 20,000Hz สำหรับใครเป็นสายเกมมิ่งต้องมีติดไว้เลย

ไมโครโฟน Avermedia AM330 Microphone เหมาะสำหรับคนที่เลือกใช้งานไมโครโฟนที่เน้นเสียงพูดเป็นหลัก เพราะเป็นไมค์รูปแบบ Dynamic Cardioid มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้งานระยะใกล้ ให้เสียงพูดที่คมชัด ฟังง่ายและไร้เสียงรบกวน มาพร้อม Filter ที่เพิ่มพื้นผิวกรองสัญญาณเสียงให้ตัดเสียงรบกวนที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อให้เหลือแต่เสียงพูดที่จะเพิ่มความคมชัดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Voice Clarity Boost ที่จะช่วยให้ปรับคุณภาพเสียง ให้เสียงกลาง-สูง มีความคมชัดและใสมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาไมโครโฟนที่ใช้งานได้ดีในแบบเฉพาะของการ Live Streaming ,Podcast หรือจัดรายการวิทยุ ก็ตอบโจทย์มากเลยทีเดียว

ไมโครโฟน Nubwo NUB-X300 Microphone เป็นไมโครโฟนเกมมิ่งสำหรับใช้แคสเกม สตรีมรายการสด หรืออัดเสียงในราคาย่อมเยาว์ เทียบเคียงได้กับ HyperX Quadcast เลยก็ว่าได้ เพราะตัวมันมาพร้อมกับความสามารถในการปรับแต่ง Polar Pattern ได้ถึง 4 รูปแบบ ไม่ต่างอะไรจากไมค์แคสเกมยอดฮิตในตอนนี้ อีกทั้งยังสวยงามไปด้วยการออกแบบที่มาพร้อมกับไฟ LED RGB ปรับแต่งได้ 7 รูปแบบ และยังสามารถปรับ Mic Volume และ Gain Level ได้ผ่าน Knob ในตัว ส่วนรูปแบบการรับเสียงนั้นจะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย

• Omni-Directional: หรือการรับเสียงรอบทิศทาง สำหรับการจัดรายการหลายคน อัดเสียงดนตรี หรืออัดเสียงบรรยากาศ
• Cardioid: รูปแบบการรับเสียงสามัญของไมค์แคสเกม รับเสียงในทิศทางเดียว เหมาะสำหรับการจัดรายการคนเดียว หรืออัดเสียงร้อง/เสียงดนตรี
• Stereo: รูปแบบรับเสียงจะเป็นการรับเสียงครอสกันซ้ายขวา เสียงที่ได้นั้นจะแยกแชแนลซ้ายขวาไม่เท่ากันแตกต่างจากรูปแบบการรับเสียงอื่น ๆ
• Figure-8: หรือการบันทึกเสียงแบบ Bidirectional รับเสียงหน้าหลังเหมือนรับเสียงแบบ Cardioid 2 ทิศทาง เหมาะสำหรับการทำสัมภาษณ์ 2 คนนั่นเอง

โดยภาพรวมแล้วเจ้า Nubwo NUB-X300 Microphone นั้นเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อยากจะเริ่มต้นทำงานที่ต้องบันทึกเสียง หรือมีงบน้อยแต่ต้องการไมค์แคสเกมที่การใช้งานหลากหลายนั่นเอง

ต่อด้วยไมค์เกมมิ่งดีไซน์เท่ยอดฮิตอย่าง HyperX Quadcast ไมค์ Condenser ที่มาพร้อมกับเมาท์กันสั่น และฟองน้ำกันลมในตัว ทำให้ไม่ต้องซื้อหรือลงทุนในอุปกรณ์เหล่านี้เพิ่ม แถมไม่ต้องมาประกอบให้ยุ่งยาก เรียกได้ว่าแกะกล่องมา เสียบสายเชื่อมต่อก็พร้อมใช้งานทันที แถมการเชื่อมต่อก็ทำได้ง่าย ๆ โดยจุดโดดเด่นของมันคือการปรับช่วงการรับเสียง (Gain) ได้กว้างและละเอียดที่สุดโดยไม่ต้องใช้ Software และยังมี Polar Pattern มากถึง 4 รูปแบบในตัว อันประกอบไปด้วย

• Omni-Directional: หรือการรับเสียงรอบทิศทาง นิยมใช้สำหรับการจัดรายการหลายคน หรือใช้บันทึกเสียงหลาย ๆ คนพร้อมกัน หรือใช้อัดดนตรีก็ได้
• Cardioid: รูปแบบการรับเสียงในทิศทางเดียว ชี้ไปข้างหน้า เหมาะสำหรับการจัดรายการคนเดียว อัดเสียงดนตรี อัดเสียงร้องเพลง
• Stereo: รูปแบบรับเสียงจะเป็นการรับเสียงครอสกัน เสียงที่ได้จะแยกแชแนลซ้ายขวาแตกต่างจากรูปแบบการรับเสียงอื่น ๆ เหมาะสำหรับการอัดเพลง เสียงร้อง และเสียงประสานเป็นพิเศษ
• Figure-8: หรือการบันทึกเสียงแบบ Bidirectional ใช้พื้นที่การบันทึกเสียงด้านหน้าและด้านหลังของไมค์โครโฟน เหมาะแก่การนำมาใช้บันทึกเสียงการแสดงดนตรีหรือการสัมภาษณ์ระหว่างบุคคล

ตัวไมโครโฟนยังสามารถเชื่อมต่อ Output AUX 3.5 สำหรับต่อหูฟังเพื่อมอนิเตอร์เสียงนั่นเอง ส่วนด้านบนของไมโครโฟนนั้นใช้สำหรับ Mute / Unmute ผ่านระบบสัมผัส การใช้งานโดยรวมนั้นเน้นไปที่ความหลากหลายมากกว่าสเปค ทำให้เป็นไมค์สาย Utility ที่น่าจับตามองที่สุดในช่วงนี้

สำหรับไมโครโฟน AVerMedia M310 ถือว่ายอดเยี่ยมและเหมาะกับ Content Creator มือใหม่ไปจนถึงมือเก๋าสนใจ ด้วยคุณภาพเสียงทั้งรับและส่งนั้นถือว่าดีมาก ๆ โดยคุณภาพของมันนั้นบางแหล่งรีวิวถึงขั้นยกให้มันใกล้เคียงกับ Blue Yeti กันเลยทีเดียว แถมมันยังใช้งานง่ายด้วยการเชื่อมต่อแบบ Plug and play สามารถใช้งานได้ทันทีหลังจากเชื่อมต่อ และยังสามารถเชื่อมต่อหูฟังผ่านช่อง AUX 3.5 ได้ที่บริเวณตัวไมค์ได้ และมาพร้อมการรับเสียงแบบ Cardioid

Cardioid: ไมค์ที่มีทิศทางการรับเสียงชี้ไปข้างหน้า เหมาะสำหรับการจัดรายการคนเดียว หรือเสียงเครื่องดนตรีเฉพาะชิ้นส่วน

แน่นอนว่าตัวไมโครโฟนมี Output AUX 3.5 สำหรับต่อหูฟังเพื่อมอนิเตอร์ได้ การใช้งานของมันก็จะเน้นไปที่การใช้งานที่รวดเร็วไม่ต้องเรียนรู้มากนัก สเปคเสียงถือว่าค่อนข้างดีโดดออกมาอยู่ข้างหน้า ของไมค์ USB ในช่วงนี้เลย แต่ของแถมหรืออุปกรณ์เสริมนั้นให้มาไม่เยอะมาก อาจจะต้องลงทุนในส่วนนี้เพิ่มด้วย

หากพูดถึงไมโครโฟนคุณภาพระดับ Studio หลายๆคนต้องนึกถึงไมค์ที่มีราคาหลักหมื่นขึ้นไป แต่สำหรับเจ้า Beyerdynamic FOX ถือเป็นไมค์ Studio ที่มีราคาเพียงหลักพัน รับเสียงแบบ Cardioid รองรับการบันทึกเสียงความละเอียด 24-bit หรือ Hires มีความชัด รายละเอียดครบ และที่สำคัญคือแทบจะไม่มีความผิดเพี้ยนของสัญญาณที่อัดเข้ามาเลยทีเดียว โดยปกติแล้ว Beyerdynamic FOX จะถูกใช้ในงานสตูดิโอ อัดเสียงเป็นหลัก มาพร้อมแผ่นกันลม หมดห่วงเรื่องเสียงลมขณะพูดแทรกเข้ามา อละยังปรับ Gain ได้อีกถึง 2 ระดับ

Cardioid: ไมค์ที่มีทิศทางการรับเสียงชี้ไปข้างหน้า เหมาะสำหรับการจัดรายการคนเดียว หรือเสียงเครื่องดนตรีเฉพาะชิ้นส่วน

สำหรับใครที่กำลังมองหาไมโครโฟนระดับโปรอยู่ FOX สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Home Studio หรือพกพาไปนอกสถานที่ด้วยขนาดที่เล็ก มีน้ำหนักเบานั่นเอง ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้ในรูปแบบของการเคสเกม สตรีมมิ่ง และพากย์เสียงได้เช่นกัน งานนี้เหล่า Creators ถูกใจอย่างแน่นอนครับ

Blue Yeti Nano เป็นไมโครโฟนแบบ Condenser ในรูปแบบการเชื่อมต่อ USB ที่เชื่อมต่อง่าย ถือว่าเป็นรุ่นเล็กลงมาจากรุ่นยอดนิยมอย่าง Blue Yeti โดยสำหรับสเป็คภายในนั้น Blue Yeti Nano ได้รับการออกแบบในส่วนของ Mic Capsule ขึ้นมาใหม่ ทำให้เสียงที่บันทึกออกมามีความคมชัดมากกว่าเดิม ในขนาดที่กะทัดรัดมากขึ้น ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการวางกับโต๊ะมากขึ้น โดยที่ความสามารถในการใช้งานไม่ลดลงเลย ซึ่งเจ้าไมโครโฟน Blue ตัวนี้จะรองรับรูปแบบการรับเสียง 2 รูปแบบได้แก่

• Omni-Directional: หรือการรับเสียงรอบทิศทาง นิยมใช้สำหรับการจัดรายการหลายคน หรือใช้บันทึกเสียงหลาย ๆ คนพร้อมกัน หรือใช้อัดดนตรีก็ได้
• Cardioid: ไมค์ที่มีทิศทางการรับเสียงชี้ไปข้างหน้า เหมาะสำหรับการจัดรายการคนเดียว หรือเสียงเครื่องดนตรีเฉพาะชิ้นส่วน

ไมโครโฟน Blue Yeti Nano ถือว่าเป็นคำตอบในงบบัตเจทของใครที่อยากใช้งานเสียงแบบ Blue ที่รายละเอียดคมชัดให้เสียงที่โปร่ง กระจ่างในราคาที่ถูกลงมาก การใช้งานก็มีการปรับลดให้เหลือแต่ฟีเจอร์ที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้นเพื่อลดต้นทุนนั่นเอง

Razer Seiren Elite เป็นไมโครโฟน USB Dynamic ตัวล่าสุดจาก Razer ที่พัฒนามาจากไมค์เล่เกมอย่าง Razer Seiren ที่ดูเหมือนจะแพ้เพื่อน ๆ ที่ออกตามมาทีหลังทั้งฟีเจอร์ และราคา แต่สำหรับเจ้า Elite ตัวนี้นั้น กลับมาเอาคืนด้วยการออกแบบเพื่อการใช้งาน Live Stream โดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยการออกแบบให้รับเสียงพูดได้ดีใส ตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยม โดยเสียงพูดยังคมชัด และมีระบบการจัดการเสียง Peak (เสียงดังเกินขนาด) ที่ดีกว่าไมค์ตัวอื่น ๆ อุปกรณ์เสริมในกล่องก็ให้มาแบบครบครัน ทำให้มันเป็นไมโครโฟนเกมมิ่งที่เหมาักับการใช้งานสตรีมเกม หรือจัดรายการแบบสด ๆ นั่นเอง โดยการรับเสียงของมันนั้นก็จะมีเพียงรูปแบบเดียวก็คือ

• Cardioid: ไมค์จะมีทิศทางการรับเสียงชี้ไปข้างหน้า เหมาะสำหรับการจัดรายการคนเดียว หรือเสียงเครื่องดนตรีเฉพาะชิ้นส่วน

ไมโครโฟน Razer Seiren Elite ถือว่ามีราคาที่สูงแต่ถ้าเกิดว่าความต้องการของคุณตรงกับการใช้งานของมัน ก็จะถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และได้ Performance ที่ตรงกับการใช้งานของคุณจริง ๆ นั่นก็คือการใช้อัดเสียงพากย์เกมระหว่างเล่นเก็บรีแอคชั่นต่าง ๆ หรือไลฟ์/สตรีมเกม แบบสด ๆ นั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับไมโครโฟนสำหรับแคสเกม สตรีมเกม ทั้ง 6 รุ่นที่เราได้นำเสนอกันไปในบทความนี้ เพื่อนๆใช้ไมค์แคสเกมตัวไหนกันอยู่บ้าง หากมีไมโครโฟนตัวอื่นที่อยากแนะนำ สามารถพูดคุยกับเราได้ที่ Facebook: Mercular.com นะครับ หากมีข้อมูลส่วนไหน ผิดพลาดทางทีมงานต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ว่าแล้วก็ขอตัวไปไลฟ์สด สตรีมเกมก่อนละครับ