7 อันดับ ที่ชาร์จไร้สาย Apple vs Android ค่ายไหนจะเด็ดกว่า

ชนกันชัด ๆ ว่าที่ชาร์จไร้สายจากค่ายไหนจะเด็ดกว่ากับ 10 ตัวเลือก Wireless Charger จาก 10 แบรนด์คุ้นหู ที่จำมาตอบคำถามสุดฮิตว่า ที่ชาร์จไร้สาย ยี่ห้อไหนดีกว่ากัน ?

เริ่มต้นกับหัวข้อของเราในวันนี้ว่าที่ชาร์จไร้สายของ 2 ค่ายใหญ่ต่างกันอย่างไร ทางเราก็ต้องตอบว่า เราไม่ได้มาชี้ให้เห็นว่าที่ชาร์จไร้สายยี่ห้อไหนดีกว่ากัน แต่เลือกที่จะหยิบเอาแบรนด์ Wireless Charger ของทั้ง 2 ค่ายมาดูว่ามีสินค้าตัวไหนน่าสนใจบ้างเท่านั้น ส่วนการตัดสินใจและราคานั้น ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของลูกค้าเลยนั่นเอง เพราะความแตกต่างของที่ชาร์จไร้สายที่ถูกออกแบบมารองรับการใช้งานของแต่ละค่ายมือถือนั้นจะต่างกันที่กำลังไฟสูงสุดที่มือถือรุ่นนั้น ๆ รองรับได้เท่านั้นเอง 

1. ที่ชาร์จไร้สาย Eloop W1 10W Wireless Charger
2. ที่ชาร์จไร้สาย Aukey LC-Q6 Graphite 10W Wireless Charger
3. ที่ชาร์จไร้สาย Huawei Wireless Charger
4. ที่ชาร์จไร้สาย UNIQ Aereo 3 in 1 Fast Wireless Charger
5. ที่ชาร์จไร้สาย Apple MagSafe Charger
6. ที่ชาร์จในรถไร้สาย Mi 20W Wireless Car Charger
7. ลำโพง Wireless Charger Belkin SOUNDFORM Elite 

สำหรับที่ชาร์จไร้สายตัวแรกของเราเริ่มต้นด้วย ที่ชาร์จไร้สาย Eloop W1 Wireless Charger จากแบรนด์แบตสำรอง ยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็รู้จัก โดยจัดว่าเป็นอันดับ 1 ของ ที่ชาร์จไร้สายราคาถูก ในแบรนด์ที่เชื่อถือได้ รองรับการใช้งานกับทั้งมือถือ Android และ iOS โดยมีกำลังไฟสูงสุดที่ 10 W หรือให้การชาร์จเทียบเท่ากับการชาร์จไร้สายทั่ว ๆ ไป พร้อมด้วยดีไซน์สวยงาม และสีสันให้เลือกใช้ถึง 3 สี และได้รับมาตรฐาน Qi ทำให้สามารถชาร์จได้ลื่นไหลไฟไม่เหวี่ยงไม่ทำให้แบตเสื่อมแน่นอน 

แท่นชาร์จไร้สาย Aukey LC-Q6 Graphite 10W Wireless Fast Charger เป็นแบรนด์ที่ชาร์จไร้สาย Android ที่มาพร้อมกับรางวัลการออกแบบจาก IF Award ในปี 2018 ด้วยราคาสมเหตุสมผลเพียง 1,150 บาท แต่ได้ทั้งที่ชาร์จไร้สายดีไซน์สวยพร้อมวัสดุ Soft TPU ที่ช่วยกันมือถือลื่นหลุดจากแท่นชาร์จ และกันรอยขีดขวดของตัวที่ชาร์จเอง บวกกับฟีเจอร์ Fast Charging ในตัวเอง ที่ชาร์จไฟ Android ได้เต็ม ๆ 10W และ iOS 7.5W ทำให้คุณสามารถเติมแบตมือถือได้เร็วกว่า Wireless Charger ตัวอื่น ๆ มีฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยควบคุมแรงดันไฟเมื่อแบตใกล้เต็มแถมได้มาตรฐานระดับโลกทั้ง FCC, CE และ RoHS เรียกได้ว่าสำหรับใครที่กำลังมองหา ที่ชาร์จไร้สาย ชาร์จเร็ว ราคาไม่แพงที่ชาร์จไร้สาย Aukey LC-Q6 คือคำตอบจริง ๆ 

ตัวต่อมา เรามาดูกันที่ค่ายหลักอย่าง Huawei ที่มาพร้อมกับ Super-Fast Wireless Charger ที่ชาร์จไร้สาย 15W ในราคา 1,490 บาท สำหรับคนที่รู้สึกว่าแค่ Fast Charge อย่าง Aukey ไม่ตอบโจทย์มากพอ ก็ต้องเป็นตัวที่ชาร์จ Huawei ตัวนี้เท่านั้น โดยการชาร์จเร็วพิเศษนั้นจะใช้ได้กับมือถือรุ่นที่รองรับเท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะเป็นมือถือในเครือ Huawei เท่านั้น ส่วนมือถือรุ่นอื่น ๆ นั้นก็สามารถใช้ฟีเจอร์ Fast Charge ของ ที่ชาร์จไร้สาย Huawei Wireless Charger SuperCharge ได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้ความเร็วสูงสุด สำหรับคนที่อยากจะซื้อที่ชาร์จไร้สาย Huawei ตัวนี้แล้วกังวลว่าตัวเองไม่ได้ใช้ มือถือ Huawei จะคุ้มค่าไหม ก็ต้องบอกว่าถ้าในอนาคตมีมือถือแบรนด์ไหน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับความแรงไฟ 15 W ก็สามารถนำมาใช้งานกับแท่นชาร์จนี้ได้เลย ซึ่งเทคโนโลยีนี้ยังไงก็ต้องมาอยู่แล้วในอนาคตครับ

มาดูกันที่ฝั่ง iOS บ้างกับที่ชาร์จไร้สาย 3 in 1 สำหรับสาย Gadget ที่มีพื้นที่สำหรับชาร์จไฟ 3 จุด เพื่อรองรับอุปกรณ์รัตนไตร Apple อย่าง AirPods iPhone และ Apple Watch ด้วยกำลังไฟ 10 วัตต์ รองรับการชาร์ตไร้สาย แน่นอนว่าการใช้งานไม่ได้จำกัดอยู่ที่ iOS Device แต่เพียงอย่างเดียว Smartwatch และหูฟัง True Wireless ที่รองรับ Qi Charging และมือถือรุ่นอื่น ๆ ก็สามารถใช้งานเจ้า แท่นชาร์จ UNIQ ตัวนี้ได้ไม่มีปัญหา โดยนอกจากการใช้งานที่หลากหลาย คุ้มราคาแล้ว ตัวมันยังมีการออกแบบที่โดดเด่นน่าจดจำไม่แพ้กัน เพราะ UNIQ Aereo เป็นสินค้าใน Collective Collection ของ ทางแบรนด์ ที่มีการออกแบบเพื่อการสะสม ใช้พื้นผิวประหนึ่งหินขัด แต่ไม่สร้างรอยให้กับอุปกรณ์ที่ใช้งานด้วย รวมไปถึงตกแต่งส่วนต่าง ๆ ด้วยหนังเทียม ทำให้เป็นที่ชาร์จไร้สายที่มีการใช้งานหรูหรามีสไตล์

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงที่ชาร์จไร้สาย iPhone ไม่มีทางที่จะพูดถึง Apple MagSafe ไม่ได้ สำหรับ Wireless Charger ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับ iPhone 12 เท่านั้น ที่ช่วยให้คุณสามารถชาร์จมือถือบน Wireless Charger และทำอย่างอื่นไปด้วยได้ โดยนอกจากการใช้งานแม่เหล็กชาร์จติดกับ iPhone 12 แล้ว เจ้า Apple MagSafe ก็ยังสามารถใช้งานเป็น Qi Charger สำหรับมือถือรุ่นอื่น ๆ ได้ด้วยไม่ว่าจะเป็น iPhone 11 หรือต่ำกว่าไปจนถึงใช้เป็นที่ชาร์จไร้สาย Android ได้ด้วย

ผ่านตัวเด็ดของที่ชาร์จไร้สายธรรมดา ๆ กันไปแล้ว ก็มาถึงที่ชาร์จไร้สายที่แหวกขึ้นอีกนิดกับ ชุดที่ชาร์จไร้สาย Xiaomi สำหรับใช้งานบนรถที่มาพร้อมกับตัวอะแดปเตอร์เสียบที่จุดบุหรี่ และตัว Wireless Charger ความโดดเด่นของมันที่ต้องพูดถึงเลยก็คือความสวยงามจากกระจก 2.5D และความสามารถในการระบายความร้อนด้วยพัดลม 2 ตัว โดยตัวที่ชาร์จถูกออกแบบมาให้หนีบกับช่องแอร์ แต่สำหรับการใช้งานจริงแล้วตัว Mi 20W Wireless จัดว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างดีสามารถนำมาใช้เป็นขาตั้งมือถืออย่างง่าย นอกรถของคุณก็สามารถทำได้ ส่วนความเร็วในการชาร์จ 20W นั้นจะรองรับกับมือถือ Xiaomi เท่านั้น ส่วน Android และ iPhone จะชาร์จบนความแรงไฟ 10W และ 7.5W ตามลำดับ

สำหรับ Belkin นั้นถือว่าเป็น Partner หลักเจ้าหนึ่งของ Apple เลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าสินค้าทุกชิ้นนั้นนอกจากจะได้สัญลักษณ์ MFI แล้ว ก็ยังได้วางโชว์คู่กับ Apple iPhone ใน Store จนคุ้นตา โดยวันนี้ทางเราก็ขอปิดงานด้วยลำโพง + ที่ชาร์จไร้สายจาก Belkin เอาใจสายพรีเมี่ยมที่ไม่อยากจะได้แค่ที่ชาร์จไร้สายธรรมดา ๆ นั่นเอง สำหรับลำโพง Belkin เสียงดี ตัวนี้มาพร้อมกับที่วางมือถือ สำหรับชาร์จไร้สายด้วยกำลังไฟ 10 วัตต์ หรือเทียบเท่า Fast Wireless Charger ทั่ว ๆ ไปมาพร้อมกับการใช้งานแบบไร้สายผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth หรือ Wireless 2.4 GHz และคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi จากแบรนด์ ลำโพง Devialet สามารถใช้งาน Voice Assistant ได้ มีไมค์ในตัว จะใช้งานกับมือถือเปิดเพลงฟังชิว ๆ หรือใช้ทำ Home Stereo ผ่าน Google Home ก็สามารถทำได้ ถือว่าเป็นลำโพงอัจฉริยะ พร้อมที่ชาร์จไร้สาย ที่เหมาะจะมีไว้ติดห้องนั่งเล่นไม่มากก็น้อย แน่นอนว่าราคาอาจจะสูงกว่าที่ชาร์จไร้สายตัวอื่น ๆ แต่ในเรื่องความสะดวกในการใช้งาน ความคุ้มค่า ก็ถือว่าสูง และคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

สำหรับการตัดสินใจซื้อผู้อ่านน่าจะเห็นได้ว่า ที่ชาร์จไร้สายเกือบทุกตัวนั้นมีการใช้งานคล้ายกันหมด คือถ้าเป็น iPhone ทั่ว ๆ ไปก็จะชาร์จอยู่ที่ 7.5W และ Android 10W สายหากมากกว่านี้จะเป็นการออกแบบที่รองรับเป็นโมเดล ๆ ไป ฉะนั้นวิธีเลือกที่ชาร์จไร้สาย ก็พยายามเลือกจากการออกแบบที่เราชื่นชอบ และดูว่าที่ชาร์จไร้สายตัวนั้นรองรับการชาร์จเร็วหรือไม่นั่นเอง

ก็จบไปแล้วกับรายชื่อที่ชาร์จไร้สายที่น่าสนใจที่สุดของปี 2021 สำหรับทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งเรียกได้ว่ามีการออกแบบที่ชัดเจนมาก ๆ อย่าง Android นั้นจะเน้นไปที่สเปคแรง ๆ แข่งกัน ส่วน iOS นั้นสินค้าจะมีความสามัคคีมากกว่า คือสเปคไม่ห่างกันมาก แต่จะแข่งกันที่ฟีเจอร์เสริม หรือการออกแบบ ตามสไตล์ Apple แต่ไม่ว่าจะใช้ที่ชาร์ตไร้สาย ยี่ห้อไหน ที่สำคัญที่สุดคือ ที่ชาร์จไร้สายเหล่านั้นปลอดภัย มีมอก. หรือตราสัญลักษณ์รองรับมาตรฐานโลกอย่าง FCC CE หรือ RoHS เป็นต้น วันนี้ทาง Mercular.com ก็ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่บทความต่อไป แต่สำหรับวันนี้ขอให้ทุกคนได้ที่ชาร์จไร้สายที่สเปคใช่ และโดนใจที่สุดกลับบ้านไป