เมาส์ Razer แต่ละรุ่นสำหรับเล่นเกมต่างกันอย่างไร
9 ต.ค. 2561
สำหรับอดีตแบรนด์เกมมิ่งเกียร์อันดับ 1 อย่าง Razer นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีสินค้าสมรรถภาพสูงให้เลือกใช้งานมากมาย โดยเฉพาะไลน์เมาส์เกมมิ่งที่ Razer มักจะมีไอเดียการใช้งานที่ตอบสนองเกมแนวต่าง ๆ ได้เข้ากับเมาส์ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง Software ที่ใช้งานง่าย ไปจนถึงระบบ Macro ที่ใช้งานง่ายจนเป็นที่บอกกันปากต่อปาก และด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อมไหยุดนิ่ง ทำให้ดีไซน์เมาส์ของ Razer เพิ่มขึ้นทุกปี สำหรับการใช้งานกับเกมต่าง ๆ เฉพาะทางกันออกไป ซึ่งวันนี้เราจะมารู้จักกับเมาส์รุ่นเด่นๆของแบรนด์ Razer ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และเหมาะกับเกมแนวไหนนั่นเอง !
Razer Viper เมาส์สายกลาง ที่มาพร้อมกับสเปคสุดโหด
Razer Viper เป็นเมาส์เกมมิ่งตัวล่าสุดจาก Razer ที่มาพร้อมกับ 5G Optical Sensor ที่มีความแม่นยำในการติดตามการเคลื่นที่ค่อนข้างสูงและการออกแบบ แบบ Ambidextrous ที่รองรับการใช้งานบนมือทั้งสองข้าง สามารถใช้งานได้ทั้งผู้ที่ถนัดใช้มือซ้ายและขวา และการจับทุกแบบ ทำให้มันถือว่าเป็นเมาส์ที่มีการใช้งานที่ค่อนข้างเป็นกลางที่สุด ในบรรดาเมาส์เกมมิ่งของ Razer นอกจากนั้นแล้วในปี 2019 นี้ Razer ยังได้เปิดตัวเมาส์อย่าง Razer Viper Ultimate ที่เป็นขั้นสุดของเจ้าเมาส์ Viper นี้ออกมาอีก โดยในรุ่น Ultimate นี้ก็ได้เพิ่ม Highlight อย่าง Motion Sync ที่ทำให้การเคลื่นเมาส์มีความแม่นยำขึ้นมากกว่าเดิม น่าจะเป็นที่ถูกใจเป็นอย่างมากสำหรับนักเล่นเกมทุก ๆ แนวเลย
Razer Mamba เมาส์เกมมิ่งน้องรอง Viper ที่โหดไม่แพ้กัน
Mamba Elite เป็นอีกหนึ่งเมาส์ที่เป้นที่นิยมมาก ๆ ของ Razer ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นก่อนด้วยการพัฒนาและปรับเปลี่ยนมาใช้เซ็นเซอร์แบบ Optical ที่นักกีฬาอีสปอร์ตให้การยอมรับและใช้กันมากที่สุด มีค่า DPI ที่สูงถึง 16,000 DPI และมีค่า IPS ที่สูงถึง 450 ที่ถือว่าเป็นเซ็นเซอร์ตัวท็อปตัวนึงของ Razer เลยก็ว่าได้ แถมยังมีปุ่ม Macro มากกว่า Viper 1 ตัว สเปคของมันนั้นถือว่าเป็นรองแค่ Viper ultimate ที่เพิ่งออกมาเท่านั้นโดยการออกแบบของมันก็จะออกมาเพื่อผู้ใช้งานมือขวาโดยเฉพาะและด้วยรูปทรงที่มีขนาดกลาง ๆ ค่อนไปทางใหญ่ ทำให้มันเหมาะกับผู้ที่จับแบบ Claw และ Palm เป็นพิเศษ และด้วยความที่เป็นรุ่นรองทำให้มันมีราคาถูกกว่า Viper เล็กน้อยอีกด้วย
Razer Basilisk V2 เมาส์ FPS ตัวโปรพร้อม Hyper Shift
สำหรับ Razer Basilisk V2 ตัวนี้เป็นเมาส์เกมมิ่งที่เข้ามาตรงกลางระหว่าง Basillisk Ultimate และ X เมาส์เล่นเกม 2 ตัวก่อนหน้าจาก Razer โดยจะเน้นการออกแบบและการใช้งานที่คล้ายคลึงกับตัว Basilisk รุ่นดั้งเดิม โดยจุดเด่นของมันก็ยังคงอยู่ที่ Razer HyperShift สำหรับปรับเปลี่ยนชุดคำสั่งปุ่มต่าง ๆ ในชั่วขณะ ทำให้คุณสามารถย้ายการควบคุมภายในเกมมาอยู่ในตัวเมาส์ได้ทั้งหมดประหนึ่งจอยเกม ยิ่งเมื่อเพิ่มปุ่มต่าง ๆ ที่สามารถกดใช้ได้เป็น 11 ปุ่ม ทำให้เมื่อใช้งานจนชินแล้วผู้เล่นจะสามารถควบคุมปุ่มและคำสั่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยมือข้างเดียวนั้นเอง พร้อมด้วยเปลี่ยนมาใช้ชุด Switch และ Sensor Optical ตัวใหม่ของ Razer
Razer Deathadder V2 เมาส์เกมมิ่งยอดขายอันดับ 1 ของ Razer
เมาส์ Razer Deathadder V2 ถือว่าเป็นตำนานของ Razer กับเมาส์เกมมิ่งที่มียอดขายมากกว่า 10 ล้านตัวขึ้นแท่นเป็น 1 ในสินค้าที่ขายดีที่สุดของ Razer ด้วยการออกแบบที่ว่ากันว่าจับสบาย ถนัดมือที่สุดในทุกท่วงท่าทั้ง plam claw และ finger โดยรุ่นที่ 2 ของ Deathadder เป็นจุดเด่นที่ทำให้เมาส์เกมมิ่งตัวนี้ครองใจผู้ใช้งานมากมายทั่วโลก และได้รับรางวัลมามากมาย ตอบโจทย์การใช้งานของเกมเมอร์ทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นสาย Softcore หรือ Hardcore ก็ตาม ตัวสวิทซ์และเซ็นเซอร์ก็ใช้เป็นแบบ Optical รุ่นใหม่ และน้ำหนักที่เบาลงอีก 20 กรัมเหลือเพียง 82 กรัมเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเมาส์ที่มีการใช้งานเป็นกลางไม่ต่างจาก Viper เลย
Razer Naga Trinity เมาส์ปุ่มเยอะสำหรับสาย Moba และ Hack ‘n’ Slash
จุดเด่นของเมาส์เกมมิ่ง Razer Naga Trinity ก็คือ กาปรับเปลี่ยน Pannel ด้านข้างได้ถึง 3 รูปแบบตามแนวเกมที่เราเล่น หรือ สไตล์ที่เราถนัดโดยจะมีให้เปลี่ยน 3 แบบคือ แบบปกติเรียบง่ายมีปุ่ม Macro 2 ปุ่มสามารถตั้งค่าได้เหมาะสำหรับผู้เล่นทีชอบเล่นเกมแนว FPS , แบบปุ่ม Macro 7 ปุ่มเป็นทรงแบบวงกลม เหมาะกับเกมแนว Moba ที่จำเป็นต้องใช้สกิลที่เยอะ แต่ถ้ายังไม่จุใจก็ต้องเป็น Panel รูปแบบที่ 3 ที่ให้ปุ่มมาโครมามากถึง 12 ปุ่ม เหมาะกับเกมแนว MMO RPG ที่ต้องกดสกิลหรือใช้ไอเทมมากมาย ไปจนถึงเกม Simulator อย่าง Stardew Valley และแน่นอนว่า คอเกม Hack and Slash ก็จะไม่ต้องเจอปัญหาปุ่มไม่พออีกต่อไป สำหรับสเปค DPI หรือสวิทซ์อาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นอื่น ๆ ก็ตาม แต่ถ้าอยากได้ปุ่มเยอะ ๆ แล้วล่ะก็เจ้า Naga Trinity คือคำตอบของคุณอย่างแน่นอน
Razer Lancehead เมาส์เกมมิ่งยอดนิยมของ Razer
เป็นเมาส์ไร้สายที่มีจุดเด่นคือสามารถใช้เล่นเกมได้ทั้งแนว FPS และแนว Moba อีกทั้งยังออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวาอีกด้วย ในด้านของความแม่นยำ ก็ให้ความนุ่มนวลและเฉียบคม ด้วย Sensor 5G เหมือน Mamba และ Viper ทำให้มันถือว่าเป็นฝาแฝดของ Viper เลยก็ว่าได้ ทำให้มันเป็นเกมมิ่งเมาส์ที่ขายดีที่สุดของ Razer ด้วยการออกแบบที่จับถนัดมือ เหมาะกับการจับทุกท่วงท่า ทำให้การเคลื่อนไหวสมูทมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกมแนวไหนๆก็ล้วนแต่ตอบสนองได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะกับ Scroll mouse ที่เลื่อนการปรับซูมเข้า-ออกได้เป็นจังหวะ ช่วยให้การซัดเฮดช็อตได้สนุกเลยทีเดียว ด้วยความที่ราคาไม่ต่างจาก Viper มากถ้าไม่ได้รอซื้อตัว Viper Ultimate อยู่ เจ้า Lancehead ก็แอบมีภาษีกว่าด้วยไฟ LED RGB นั่นเอง
เป็นยังไงกันบ้างครับกับการเปรียบเทียบจุดเด่นของเมาส์ Razer ว่าแต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง คงสามารถตัดสินใจกันได้แล้ว ใครชอบตัวไหนก็รีบจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย แต่ถ้ายังไม่แน่ใจอีกเราลองมาดู Recap สั้น ๆ ของเมาส์ทั้ง 6 ตัวกันดีกว่าครับ
- Razer Viper – เมาส์รุ่นใหม่มาแรงที่มาพร้อมกับการเคลื่อนที่ ที่แม่นยำ และการดีไซน์ที่เป็นมิตรกับทุก เพศทุกวัย แต่ไม่มีฟีเจอร์พิเศษ เฉพาะประเภทเกม
- Razer Mamba – เมาส์รุ่นรอง Viper ที่ได้เปรียบเรื่องราคาและสเปคที่ไม่ต่างกันมาก เหมาะกับผู้ใช้งานมือขวาและการจับแบบ Palm และ Claw
- Razer Basilisk V2 - เมาส์เกม FPS ที่มาพร้อมกับคีย์ลัด 11 ปุ่ม และสามารถเปลี่ยนโหมดการใช้งานแบบฉับพลันได้ด้วย Feature HyperShift
- Razer Deathadder V2 – เมาส์เกมมิ่งโมเดลอันดับ 1 ของ Razer ที่มีรูปทรงที่ได้รับรางวัลสากลระดับโลกมากมาย เหมาะกับการจับทุกรูปแบบ
- Razer Naga Trinity – เมาส์ที่โดดเด่นในเรื่องของปริมาณปุ่ม สำหรับคนที่ต้องการใช้งาน โดยเฉพาะเกมแล้ว MOBA และ Hack and Slash
- Razer Lancehead - เมาส์ยอดนิยมอันดับ 1 จาก Razer ฟีเจอร์ของมันถูกนำไปอัพเกรดเป็น Viper