Cities: Skylines สุดยอดเกมสร้างเมืองแห่งยุค
17 มี.ค. 2565
ในช่วงหลายๆ ปีทีผ่านมานั้น วงการเกมทั่วโลกต่างๆก็พากันพัฒนากันอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าเป็นเป็นแง่ของกราฟิก ความสวยงามของภาพ ความละเอียดของพื้นผิวต่างๆ และเกมเพลย์ที่โดดเด่น เล่นสนุกไม่ซ้ำใคร รวมถึงแนวเกมที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ และแนวเกมเก่าๆ ที่กลับมาดังอีกครั้ง ซึ่งเกมที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ก็คือ Cities: Skylines วิดีโอเกมแนว Simulations สร้างเมืองที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แม้ตัวเกมจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 แล้วก็ตาม แถมยังเคยถูกแจกฟรีมาแล้วถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่เคยหลุดโผ 100 เกมขายดีที่สุดบน Steam เลย เจ้าเกมสร้างเมืองเกมนี้มีดีที่อะไรบ้าง ทำไม Cities: Skylines ถึงได้เป็นที่นิยมอีกครั้ง ในยุคที่เกมสร้างเมืองแทบไม่เหลืออะไรแล้ว เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย
จุดเด่นของ Cities: Skylines
Cities: Skylines ผู้ปลุกผี “เกมสร้างเมือง”
Cities: Skylines นั้นถูกพัฒนาโดย Colossal Order สำหรับคอมพิวเตอร์ PC, Mac, Linux และเครื่องเล่นเกม Playstation 4 และ Xbox One โดยที่เกมเพลย์ของเกมๆ นี้ก็คือการสร้างเมืองขึ้นมาบนแมพที่ตัวเกมมีให้ ซึ่งเราจะต้องสร้างถนนหนทาง บ้านเมือง โรงงาน ย่านๆ ต่างๆ มารองรับกับชาวเมืองของเรา และยังต้องบริหารทรัพยากรต่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่าย การเก็บภาษี การจัดการระบบน้ำ - ไฟในเมือง รวมถึงการบริหารคุณภาพชีวิตของชาวเมือง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล สถานีตำรวจ เพื่อให้เมืองของเรานั้นดีที่สุด นอกจากนี้ตัวเกมยังมีรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ มากมายให้เราได้จัดการอีก ทำให้ Cities: Skylines นั้นไม่ได้เป็นแค่เกมสร้างเมืองธรรมดาๆ แต่ยังมีความท้าทายในการเล่นอีกด้วย
แต่ในช่วงแรกที่ตัวเกมนั้นเพิ่งเริ่มขาย ก็ดันไปขายไล่เลี่ยกับพี่ใหญ่ของเกมแนวนี้อย่าง SimCity ที่วางจำหน่ายในปี 2013 แต่กับ SimCity นั้นถูกรีวิวแง่ลบสารพัด ไม่ว่าจะเป็นเกมเพลย์ หรือการบังคับผู้เล่นให้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา และปัญหาอีกมากมาย จนผู้พัฒนา SimCity อย่าง Maxis ถึงกับถูกสั่งปิดในปี 2015 ทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนเริ่มหมดศรัทธากับเกมสร้างไปแล้ว แต่ว่าไวน์ที่ดีนั้น ย่อมต้องผ่านการบ่มเพาะก่อนจะสุกงอม ในขณะที่ SimCity นั้นล่มสลายลง Cities: Skylines ก็ค่อยๆ พัฒนาตนเองขึ้นเรื่อยๆ มีการการปรับเพิ่มปรับเปลี่ยนเกมเพลย์ ระบบในเกม และกราฟิกต่างๆ จนดีเยี่ยม มากพอที่จะทำให้เกมเมอร์หลายๆ คนลองเปิดใจดูอีกครั้ง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเกมสร้างเมืองที่ดีที่สุดในยุคนี้
การสร้างเมือง ที่ไร้ขีดจำกัด
เมื่อคุณเริ่มเล่น Cities: Skylines ตัวเกมจะให้เงินคุณมาจำนวนหนึ่ง พร้อมกับพื้นที่โล่งๆ บนแมพ ซึ่งหน้าเราก็คือการพัฒนาพื้นที่เหล่านั้น ให้กลายเป็นเมืองในฝัน ที่ไม่มี “ข้อจำกัด” มาขวางกั้นได้ คุณจะวางผังเมืองเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมตามแบบเมืองตะวันตก สร้างเมืองขึ้นมาจากถนนวงเวียน หรือจะแหวกแนวด้วยการสร้างเมืองทั้งจากถนนเส้นเดียว (ใช้แล้ว ถนนเส้นเดียว ไม่มีแยก) ส่วนการสร้างเมืองนั้นจะใช้การวางโซนต่างๆตามถนนในเมือง ซึ่งโซนเมืองนั้นก็จะแบ่งเป็น 4 โซนหลักๆ ได้แก่โซนที่อยู่อาศัย โซนโรงงาน โซนย่านสถานบันเทิงต่างๆ และโซนออฟฟิศ พอเรากำหนดโซนได้แล้ว สิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็จะค่อยๆ ถูกสร้างขึ้น แถมยิ่งเมืองเราพัฒนาขึ้น สิ่งก่อสร้างในเมืองก็จะพัฒนาตาม จากบ้านเดี่ยวเล็กๆ ก็จะกลายเป็นคอนโดมิเนียมได้
แถมไม่เพียงแค่สิ่งก่อสร้างบ้านเมืองเท่านั้น แต่สภาพแวดล้อมธรรมชาติต่างๆ ก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจต้องการ เราอยากยกพื้นให้สูงขึ้น หรือกดให้ต่ำลง จะสร้างภูเขา หลุมบ่ออะไรก็ได้ หรือจะสร้างป่า หาต้นไมใบหญ้ามาตั้ง ก็คือทำได้หมด ทำให้การสร้างเมืองของเรานั้น ไม่ได้จำกัดไว้แค่สิ่งก่อสร้างในเมือง แต่ผืนดินป่าน้ำต่างๆ ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเมืองของเราได้
DLC และ Community ที่ช่วยผลักดัน
ในยุคปัจจุบันนั้น การขายส่วนเสริมแยกอย่าง DLC นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็มักจะเป็นชุดหรือสกินใหม่ๆ หรือโหมดการเล่น เนื้อเรื่องเพิ่มเติม ซึ่งเกมแนว Simulation ส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นแบบแรกกัน แต่สำหรับ Cities: Skylines นั้น นอกจากจะได้สิ่งก่อสร้างใหม่ๆ นั้น ยังเพิ่มระบบการเล่นใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันและความท้าทายให้กับการสร้างเมืองของเรา ตัวอย่างเช่น DLC Airports ที่มีการเพิ่มสิ่งปลูกสร้างใหม่อย่างสนามบินและระบบบริหารการบิน ทิศทางรันเวย์ต่างๆ ได้ด้วย หรือจะเป็น DLC Natural Disasters ที่มีการเพิ่ม “ภัยพิบัติธรรมชาติ” ตั้งแต่น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด ยันอุตกาบาตถล่ม และยังมีส่วนเสริมต่างๆ มากมายที่ช่วยให้เมืองของเรานั้น ไม่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป
และนอกจากจะมี DLC ต่างๆ มากมายแล้ว Cities: Skylines ยันเปิดกว้างให้เหล่านักพัฒนาอิสระและผู้เล่นได้ปรับแต่งและ Mod ได้อย่างๆ สบายๆ อย่างเช่นระบบการเล่นใหม่ๆ และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มากมาย อย่างเช่นบ้านเรือนทรงไทย ตึกสูงสไตล์ญี่ปุ่น หรือสถานที่ต่างๆ มากมาย ถนนหนทางรูปแบบใหม่ๆ มากมาย ที่ชุมชมผู้เล่นเกมร่วมกันทำขึ้น ทำให้ตัวเกมนั้นไม่ได้ถูกจำกัดแค่จากฝั่งผู้สร้างเท่านั้น แต่ฝั่งผู้เล่นก็สามารถร่วมกันออกไอเดียพัฒนาเกมได้อีกด้วย
และถึงแม้ว่าเกมนี้จะมีอายุอานามถึง 7 ปีไปแล้ว แต่ด้วยความสนุกของตัวเกม ที่แม้จะดูเป็นเกมสร้างเมืองที่ Simple แต่ก็แอบแฝงความท้าทายที่เราต้องก้าวข้ามไป และการมอบอิสระในการสร้างเมืองที่เราออกแบบขึ้นเอง และเปิดโอกาศให้ Community ร่วมกันปล่อย Mods ที่เพิ่มแนวทางการเล่นที่หลากหลายขึ้น และสร้างสีสัน ชีวิตชีวาให้กับเมืองของเรา ทัวให้หลายๆ คน พากันติดเกมนี้กันอย่างงอมแงม และส่งให้ Cities: Skylines ขึ้นเป็นสุดยอดเกมสร้างเมืองแห่งยุคปัจจุบัน อย่างไร้ข้อกังขา