Switch Mechanical มีกี่รูปแบบ แบรนด์ไหนน่าสนใจ กดมันกดเพลิน

คัสตอมคีย์บอร์ดและแมคคานิคอลคีย์บอร์ดมีผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าใครก็หันมาใช้กันหมด เพราะมันเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน มีราคาหลากหลาย ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายหมื่น มี Youtuber คนไทยหลายคนเริ่มทำคอนเทนต์รีวิว วิธีการ Mod และการใช้งาน ยิ่งล่อตาล่อใจผู้ใช้งานที่ยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์การพิมพ์บนแมคคานิคอลคีย์บอร์ดได้อย่างลิ้มลองกันสักครั้ง

เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อแมคคานิคอลคีย์บอร์ดและคัสตอมคีย์บอร์ดได้เริ่มใช้แผงวงจรแบบ Hot-Swappable นั่นคือบอกลาการบัดกรีไปได้เลย แผงวงจรนี้ทำให้ผู้ใช้งานดึงสวิตซ์ และใส่กลับมันเข้าไปได้ทันที ไม่ต้องบัดกรีเหมือนแผงวงจรแบบเก่า เมื่อมันถอดและใส่ง่าย การซื้อสวิตซ์เผื่อมาเปลี่ยนในบอร์ดเดิมจึงเริ่มต้นขึ้น จะเปลี่ยนกี่ครั้งก็ได้ ยิ่งเพิ่มความสนุกในการค้นหาสวิตซ์ที่ถูกต้อง ถูกใจ และเข้ามือ

สวิตซ์ จึงเป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่สำคัญมากหากคุณกำลังเข้ามาอยู่ในวงการแมคคานิคอลนี้ ความสำคัญแรกคือไม่มีมันเราก็ไม่สามารถกดใช้งานคีย์บอร์ดได้ อีกความสำคัญคือมันส่งผลต่อความเร็วในการกด การลงน้ำหนัก ความลื่น จังหวะ และเสียงที่ได้ แม้จะบอกว่าเพิ่งเริ่ม แต่หากมีสัมผัสการกดคีย์บอร์ดในใจอยู่แล้ว เราก็จะหาสวิตซ์ที่เข้ามือได้เร็ว เลือกได้ง่าย ไม่ต้องสุ่มเลือกไปเรื่อยๆ 

วันนี้ Mercular จึงขอเป็นตัวช่วยในการเลือกสวิตซ์ให้ง่ายขึ้นกับ “Switch Mechanical มีกี่รูปแบบ แบรนด์ไหนน่าสนใจ กดมันกดเพลิน” ใครที่ซื้อบอร์ดมาแล้วแต่ยังไม่มีสวิตซ์ใช้ หรือกำลังมองหาคีย์บอร์ดใหม่ แต่ไม่รู้จะเลือกใช้สวิตซ์ประเภทไหนดี ต้องไม่พลาดบทความนี้เลยครับ

สมัยนี้สวิตซ์ที่เราเห็นมีหลายสี หลายแรงกดเอามากๆ เพื่อครอบคลุมทุกโจทย์ความต้องการ หลายคนอยากได้สวิตซ์ลื่นๆ หลายคนชอบสวิตซ์จังหวะเดียวแต่มีแรงต้านมาก บางคนชอบสวิตซ์เสียงดังๆ เอาสะใจ กดได้แม่นยำ ทำให้มีหลากหลายแบรนด์พยายามออกสวิตซ์ใหม่ๆ ให้ชาวคัสตอมและชาวแมคคานิคอลคีย์บอร์ดได้ลองใช้งานกัน

แต่ไม่ว่าจะเป็นสวิตซ์สีไหน จากแบรนด์ไหน ตัวสวิตซ์เองก็มีรูปแบบไม่ต่างกันนั่นคือ Linear, Tactile และ Clicky ที่เรามักจะชินติดปากว่า Red Switch, Brown Switch และ Blue Switch ตามลำดับ นั่นเป็นเพราะแบรนด์แรกที่ทำอย่าง Cherry นั้นแบ่งแยกสีออกมาเพื่อให้จำง่าย และเป็นมาตรฐานสากลไปแล้ว แต่ด้วยปัจจุบันสวิตซ์มีสีมากมาย ทำให้บางครั้งสวิตซ์ Linear ที่เราติดปากไปว่า Red Switch อาจไม่ใช้สีแดงอีกต่อไป อาจจะมาเป็นสีขาว สีเหลือก็ได้ ฉะนั้นเราจึงควรทราบการแบ่งรูปแบบสวิตซ์เสียก่อน คราวหน้าหากเห็นหลากสี จะได้ดูออกว่ามันคือสวิตซ์รูปแบบใด

Linear : สวิตซ์นี้จะมีแรงต้านน้อยที่สุด แต่หลายแบรนด์เองก็เลือกทำให้มีแรงต้านมากเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า จุดเด่นของมันก็คือการกดแบบจังหวะเดียว และมีเสียงเงียบที่สุด สวิตซ์ตัวนี้จะเหมาะสำหรับการเล่นเกม และการทำงานเลยครับ เกมเมอร์บางคนชอบลื่นๆ กดได้เร็ว ไม่มีแรงต้าน และไม่เมื่อยนิ้ว คนทำงานก็เช่นกัน เพราะเสียงมันไม่ดังมากนัก จึงนำไปใช้ที่ออฟฟิศได้แบบสบายใจ และไม่เมื่อยนิ้วด้วย

Tactile : เป็นสวิตซ์ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก อยู่กึ่งกลางระหว่าง Linear และ Clicky มีแรงต้านพอประมาณ กดแบบสองจังหวะ นั่นคือกดจังหวะแรงลงไป และต้องออกแรงอีกสักหน่อยเพื่อไปจังหวะต่อไปคล้ายกับ Clicky แต่เสียงจะไม่ดังมากนักเหมือน Linear การใช้งานก็แล้วแต่ความถนัดเลยครับ บางคนนำไปเล่นเกมก็ได้ เพราะมันป้องกันการกดลั่นได้เป็นอย่างดี หรือจะนำไปพิมพ์งาน ใช้งานทั่วไปก็ได้ เพราะเสียงไม่ดังมากนัก แถมสองจังหวะแบบนี้ กดสนุกมือเลย

Clicky : สวิตซ์ที่มีเสียงดังที่สุด เสียงกดเป็นเอกลักษณ์ตามชื่อ ลืมภาพการใช้งานแบบสงบไปได้เลย ให้สัมผัสการกดแบบสองจังหวะเหมือน Tactile แต่จังหวะจะชัดเจนมากกว่า ด้านการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับความชอบเลยครับ หากนำไปใช้พิมพ์งานหรือทำงานทั่วไปก็ใช้ได้ดี เหมาะสำหรับคนนิ้วบ้าพลัง กดสนุก กดเพลิน แต่ต้องระวังเรื่องเสียงตอนใช้งาน อาจตกเป็นเป้าสายตาได้ ทางด้านเล่นเกม เกมเมอร์ก็ชอบไม่แพ้กัน นอกจากป้องกันนิ้วลั่นได้ดี ก็ยังให้สัมผัสการกดแบบเน้นๆ รู้เลยว่ากด กดแน่นอน สนุกทุกการออสกิล

เอาละ เมื่อเราทราบกันไปแล้วว่าสวิตซ์มีแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบใหญ่ แต่ละรูปแบบเองก็มีการปรับสเปกไปแต่ละนิดแต่ละหน่อยเพื่อให้เข้ามือผู้ใช้งาน เรามาดูกันว่าแต่ละแบรนด์จะมีสวิตซ์ตัวไหนน่าสนใจ ตัวไหนโดดเด่นกันบ้าง โดยแบรนด์ที่เรานำมาจะเป็นแบรนด์ที่ติดตลาด หาซื้อได้ง่าย เพราะต้องบอกตามจริงเลยว่ามีหลายแบรนด์มากที่สวิตซ์เอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งหาซื้อได้ค่อนข้างยาก หรืออาจต้องรอ Pre-Order กันนานแสนนาน ตัวที่เรานำมานี้จึงเป็นตัวที่มีผู้ใช้งานมาก และหาซื้อได้ง่ายครับ

Switch mechanical แบรนด์ Kailh

Kailh เป็นแบรนด์แรกๆ ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตา เพราะมันมักอยู่ในตัวเลือกแมคคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ Fully Assembled หลากหลายแบรนด์ โดยเป็นแบรนด์ที่มีความเก่าแก่ เพราะเริ่มแรกทำสวิตซ์เลียนแบบแบรนด์ใหญ่อย่าง Cherry จนตอนนี้มีสวิตซ์เป็นของตัวเองที่คุณภาพดีจนผู้ใช้งานยอมรับ สวิตซ์จาก Kailh มีสวิตซ์ครบทุกรูปแบบ ทั้ง Linear, Tactile และ Clicky แถมยังมีรุ่น Kailh Box ที่ส่วนด้านบนมีกรอบสำหรับกันฝุ่นและกันของเหลวเข้า ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้กับสวิตซ์ไปอีกขั้น และสวิตซ์ของทางแบรนด์เองก็มีราคาที่เข้าถึงง่าย สำหรับมือใหม่แล้วเป็นสวิตซ์ที่ควรหามาลองสุดๆ ครับ 

Switch mechanical แบรนด์ Gateron

Gateron แบรนด์ที่เป็นสวิตซ์ตัวเลือกสำหรับคีย์บอร์ดชื่อดังอย่าง Keychron โดยสวิตซ์จาก Gateron เองก็มีผู้ใช้งานมากมาย รุ่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดอย่าง Gateron milky yellow สวิตซ์ Linear ที่กดลื่น กดมัน กดสนุก และนอกจากนี้ยังมีสวิตซ์ให้เลือกอีกมากมาย ครอบคลุมทุกประเภท ทั้ง Linear, Tactile และ Clicky เหมาะสำหรับการทำงานทั่วไป และการเล่นเกม มีราคาเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ และมีหลายตัวเลยครับที่ได้รับความนิยมจนถึงขั้นขาดตลาดเลยก็มี

Switch mechanical แบรนด์ Cherry

Switch mechanical แบรนด์ Cherry เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่หลายคนคุ้นเคย แน่นอนว่าความเชี่ยวชาญของเขาเองก็มากตามอายุของเขาด้วย สวิตซ์จาก Cherry เองถูกใส่บนคีย์บอร์ดเกมมิ่งหลากหลายตัว ถูกใจเกมเมอร์เป็นอย่างดี แม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่ แต่สินค้าของเขาเองก็ไม่ได้หยุดอยู่กับที่ ยังคงออกสวิตซ์รุ่นใหม่ๆ ออกมาให้นักเล่นคีย์บอร์ดออกมาเรื่อยๆ และมีตัวที่น่าสนใจเยอะมากทีเดียว

Switch mechanical แบรนด์ Akko

Akko เป็นอีกแบรนด์ที่ครอบคลุมทุกอุปกรณ์สำหรับนักคัสตอมคีย์บอร์ด เพราะมีทั้งตัวบอร์ด สวิตซ์ คีย์แคป สายเชื่อมต่อ และอีกมากมายที่เรียกได้ว่าสามารถซื้อครบ จบในที่เดียวได้ ทางด้านสวิตซ์ของทางแบรนด์เองก็มีให้เลือกมากมาย ทุกรูปแบบ แถมราคายังน่ารัก เป็นมิตรสำหรับมือใหม่สุดๆ

Switch mechanical แบรนด์อื่นๆ ที่นักคัสตอมตามหา

นอกจากแบรนด์ดัง มาตรฐานชาวคัสตอมแล้ว สวิตซ์ยังมีอีกมากมายรอให้เราได้ลองกด ลองใช้งาน ซึ่งบางตัวเองก็ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง หลายคนตามหา หลายคนต้องการ เราจึงขอแนะนำสวิตซ์แบรนด์อื่นๆ อีกสักหน่อย อาจจะโดนใจผู้ใช้งานอยู่บ้างครับ

Switch mechanical ยังมีให้เลือกอีกมาก บางแบรนด์ออกสวิตซ์มาไม่มากแต่ได้ใจผู้ใช้งานทั่วโลกจนต้องสั่งจองกันข้ามเดือนกันเลย สวิตซ์ยังคงเป็นส่วนสำคัญที่นักคัสตอมคีย์บอร์ดและผู้ใช้งานแมคคานิคอลต้องดูเป็นอันดับแรกๆ แต่ละตัวมีเอกลักษณ์ เสียง และสัมผัสที่ต่างกัน หากยังไม่เคยจับสวิตซ์มาก่อน ตอนนี้หลายแบรนด์เองก็ออกตัว Taster ให้ได้ผู้ใช้งานลองกดเล่นๆ เพื่อให้รู้จักสวิตซ์ตัวนั้นมากขึ้น แม้จะมีหลายช่องทำคลิปออกมารีวิว เราอาจได้ฟังแค่เสียง แต่หากได้ลองสัมผัสตัวจริง ของจริง จะได้ตอบได้ว่าเราชอบสวิตซ์แบบไหน กดเท่าไหร่ถึงจะเข้านิ้วครับ

หากใครกำลังมองหา Switch mechanical สักตัว ที่ Mercular เรามีสวิตซ์ให้เลือกมากมาย คัดสรรจากแบรนด์ดัง มีครบทุกประเภท และยังมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อีกเพียบ สามารถซื้อครบ จบในที่เดียวครับ