สายชาร์จ iPhone แท้ พังง่าย ใช้สายชาร์จอะไรดีที่ทนมากกว่า
7 มิ.ย. 2564
.jpg)
ผู้ใช้งาน iPhone หลาย ๆ ท่านคงต้องประสบกับปัญหากวนใจอย่างหนึ่ง จากการใช้งานที่ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเครื่อง เมื่อพูดแบบนี้หลายคนคงนึกออกกันแล้วว่ามันคือปัญหาอะไร ซึ่งปัญหาที่ว่านั่นก็คือ ปัญหาสายชาร์จ iPhone แท้ ที่ไม่ทนทานนั่นเอง ซึ่งในวันนี้ Mercular.com จะมาพูดถึงหัวข้อ สายชาร์จ iPhone แท้ พังง่าย ใช้สายชาร์จอะไรดีที่ทนมากกว่า โดยจะมีสินค้าจากแบรนด์ใดที่น่าสนใจบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ
.jpg)
สายชาร์จ iPhone แท้ พังง่ายเพราะอะไร ?
สายชาร์จ iPhone แท้ มันมักจะปริขาดหลุดลุ่ย หลังจากผ่านการใช้งานไปสัก 1 ถึง 2 ปี จนขดลวดทองแดงข้างในปรากฏออกมาให้เห็น หรือมันอาจจะเกิดการงอหรือหักภายในจนไม่สามารถใช้สายชาร์จ iPhone แท้ชาร์จอุปกรณ์ของคุณได้เลย (บางครั้งอาจสังเกตได้ว่าสายชาร์จ iPhone แท้มีการเปลี่ยนสีจากสีขาวกลายเป็นสีเหลืองอีกด้วย) จึงทำให้ต้องเสียเงินเปลี่ยนสายชาร์จ iPhone แท้อยู่บ่อย ๆ ซึ่งราคาก็ไม่ได้เป็นมิตรเอาซะเลย ครั้นจะเปลี่ยนไปใช้สินค้าที่ไม่ได้มาจาก Apple ก็เสี่ยงในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยระหว่างการชาร์จ รวมไปถึงสุขภาพของแบตเตอรี่อีกด้วยครับ
วิธีหลีกเลี่ยงอาการสายชาร์จเสีย
- หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ชื้น
- เสียบด้านหัวชาร์จ Lightning เข้าไปในไอโฟนก่อน ค่อยเสียบ USB เพื่อทำการชาร์จ
วิธีการเลือกสายชาร์จใหม่
- สังเกต โลโก้ MFi เพื่อความปลอดภัยในการชาร์จ
- สายที่มี MFi จะสามารถใช้ได้แม้อัพ iOS
- เลือกสายที่ทน รับประกันคุณภาพความปลอดภัยและคุณภาพการใช้งาน
.jpg)
ถึงแม้ว่าปัญหาสายชาร์จ iPhone แท้เสีย หรือขั้วชาร์จเลอะดำ จะป้องกันไม่ได้ แต่เราสามารถหาสายชาร์จดี ๆ ที่รับประกันในส่วนนี้ได้นะครับ และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้บรรดาผู้ใช้งานไอโฟนจึงหันมามองหาสายชาร์จไอโฟนแบรนด์ทางเลือก ที่หลายๆ แบรนด์ ต่างก็พัฒนาเทคโนโลยีและจุดเด่นของตัวเองออกมาแข่งขันกันแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความทนทาน สีสันที่สวยงาม รองรับการชาร์จไว และแน่นอนว่าเรื่องราคาที่อาจจะถูกกว่า สายชาร์จ iPhone แท้ Apple หรือราคาเท่ากันแต่แน่นอนว่ามาพร้อมความสามารถที่มากกว่าสายชาร์จ iPhone แท้อันบอบบางของทาง Apple เองแน่นอน ซึ่งในครั้งนี้เราก็มี Top 5 สายชาร์จไอโฟนยี่ห้ออื่นๆ ที่แข็งแรงทนทาน มาแนะนำกันครับ โดยจะมีแบรนด์ไหนเด่นๆ น่าสนใจบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ
สายชาร์จ iPhone แท้ พังง่าย ใช้สายชาร์จอะไรดีที่ทนมากกว่า
1. สายชาร์จ Belkin Boost Charge DuraTek USB-C Cable with Lightning Connector
- ราคา: 1,190 บาท
- ความยาวสาย: 1.2 เมตร
- ขั้วสาย: USB C to Lightning
- จ่ายไฟสูงสุด: 18W ขึ้นไป (ตามกำลังขับของหัวชาร์จ USB C)
สายชาร์จไอโฟน Belkin Boost Charge DuraTek ทนมากกว่า สายชาร์จ iPhone แท้ การออกแบบที่โดดเด่นด้วยหน้าตาที่ดูพรีเมียม โดยเฉพาะตัวสายที่เป็นสายถักและผลิตด้วยเทคโนโลยี Duratek ที่ทำให้ตัวสายมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ ถึง 10 เท่า ด้านการชาร์จตัวสายรองรับการชาร์จไว Power Delivery และรองรับ MFi สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดตั้งแต่ 18W ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับกำลังไฟของหัวชาร์จ USB C โดยรองรับการชาร์จเร็วตั้งแต่ iPhone 8 ขึ้นไปและรุ่นที่ใหม่กว่าจนถึง iPhone 12 Series รวมถึงใช้งานโอนถ่ายข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว สายชาร์จไอโฟน Belkin เป็นแบรนด์อุปกรณ์เสริมมือถือที่อยู่คู่ Apple มาอย่างยาวนาน และทนมากกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ ซึ่งด้วยคุณภาพและมาตรฐานของตัวสินค้าที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมรวมถึงใช้งานร่วมกับ iPhone ได้อย่างลื่นไหลไร้ที่ติ นั่นจึงทำให้เป็นแบรนด์อุปกรณ์เสริมที่วางขายอยู่บนหน้าเว็ปไซต์ของ Apple ด้วยนั่นเอง
2. สายชาร์จ Aukey CB-CL2 MFI USB-C to Lightning Cable 2M
- ราคา: 890 บาท
- ความยาวสาย: 2 เมตร
- ขั้วสาย: USB C to Lightning
- จ่ายไฟสูงสุด: 29W
สายชาร์จไอโฟน Aukey CB-CL2 MFI ทนมากกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ อีกทั้งยังเป็นสายที่ครบเครื่องในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตาที่พรีเมียม ความทนทานด้วยการผลิตและเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียม และสเปคการชาร์จที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว โดยตัวสายของ Aukey CB-CL2 นั้นเป็นสายถัก Nylon 2 ชั้นทำให้ตัวสายนั้นมีความทนทานสูงและแน่นอนว่าทนทานแข็งแรงกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ Apple ด้านการชาร์จไวตัวสายสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 29W เมื่อชาร์จกับ iPhone 8 ขึ้นไป ยังมาพร้อมราคาที่ใกล้เคียงกับสายชาร์จ iPhone แท้ของ Apple เอง
3. สายชาร์จ Anker PowerLine+ III USB-C to Lightning Cable
- ราคา: 990 บาท
- ความยาวสาย: 1.8 เมตร
- ขั้วสาย: USB C to Lightning
- จ่ายไฟสูงสุด: 18W ขึ้นไป (ตามกำลังขับของหัวชาร์จ USB C)
สายชาร์จไอโฟน Anker PowerLine+ III ทนมากกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ และมีความโดดเด่นด้วยการเป็นสายถักที่มีความคงทนแข็งแรงสูง ทนต่อการดึงกระชาก และทนต่อการบิดงอโดยสามารถหักหรือบิดงอได้มากกว่า 35,000 ครั้ง รวมถึงหัวสายทำจากวัสดุ Stainless Steel ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ทำให้ตัวสินค้าดูใหม่และหรูหราพรีเมียมอยู่เสมอแม้จะใช้งานไปนานแค่ไหนก็ตาม Anker จะมีจุดเด่นในเรื่องของราคาที่ใกล้เคียงกับสายชาร์จ iPhone แท้ ของ Apple และในบางรุ่นก็อาจจะมีราคาที่เบากว่า ที่สำคัญสินค้าจากแบรนด์ Anker ยังโดดเด่นด้วยการรองรับมาตรฐาน MFi หรือ Made for iPhone อีกด้วยทำให้มั่นใจได้ในสินค้าว่าซื้อมาใช้กับไอโฟนได้ อย่าง 100% แน่นอน
4. สายชาร์จ Energea Fibratough Lightning MFI 1.5M
- ราคา: 890 บาท
- ความยาวสาย: 1.5 เมตร
- ขั้วสาย: USB C to Lightning
- จ่ายไฟสูงสุด: 18W ขึ้นไป (ตามกำลังขับของหัวชาร์จ USB C)
สายชาร์จไอโฟน Energea Fibratough Lightning MFI 1.5M ทนมากกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ และเป็นที่โดดเด่นด้วยการเป็นสายถักแบบพิเศษ ที่มีความทนทานสูงมาก รวมถึงยังผ่านการทดสอบจากห้องแล็ปเอกชนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยทนทานต่อแรงดึงที่สูงถึง 50 กิโลกรัมเลยทีเดียว และยังมาพร้อมเทคโนโลยี FibraTech จาก Energea ที่ช่วยให้สายไม่พันกัน รวมถึงยังทนทานต่อการหักและงอได้มากกว่า 30,000 ครั้งอีกด้วย สายชาร์จไอโฟน Energea ก็จัดเป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจมากๆ ด้วยความที่ตัวสินค้าก็มีราคาที่สูงพอประมาณหรือจะเรียกได้ว่าสูสีกับสายชาร์จ iPhone แท้จากแบรนด์ Apple ก็ว่าได้
5. สายชาร์จ Remax Type-C To Lightning (RC-171) 20W 1M Cable
.jpg)
- ราคา: 499 บาท
- ความยาวสาย: 1 เมตร
- ขั้วสาย: USB C to Lightning
- จ่ายไฟสูงสุด: 20W
สายชาร์จไอโฟน Remax Type-C To Lightning (RC-171) ทนมากกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ และเป็นที่โดดเด่นด้วยการเป็นสายถักแบบเดียวกับในรุ่นอื่นๆ แต่มาในราคาที่ต่ำกว่าสายชาร์จ iPhone แท้เกือบครึ่ง โดยมีความทนทานแข็งแรงไม่แพ้กับรุ่นอื่นๆ ภายในสายผลิตด้วยวัสดุแบบ TPE รูปแบบสายแบบกลม รองรับการชาร์จไว Power Delivery จ่ายไฟสูงสุดที่ 20W เมื่อใช้กับอแดปเตอร์ที่รองรับและใช้งานกับ iPhone 8 ขึ้นไป สำหรับผู้ที่ต้องการสายที่ยอดเยี่ยมในราคาสุดคุ้มค่าต้องห้ามพลาดสาย Remax ครับ สายชาร์จไอโฟน Remax เจ้าของนิยามคำว่า ถูกและดีมีจริงๆ ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้สายชาร์จไอโฟนที่ทนทานกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ ของ Apple ในราคาที่เบากว่าครับ
.jpg)
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ Top 5 สายชาร์จไอโฟน ที่ทนมากกว่าสายชาร์จ iPhone แท้ยี่ห้อไหนดี? ปี 2021 ที่นำมาแนะนำกันในครั้งนี้ จากทั้ง 5 แบรนด์ซึ่งเรื่องของคุณภาพนั้นรับรองว่าอยู่ในระดับพรีเมียมทุกรุ่นแน่นอนครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อสายชาร์จที่ตรงกับการใช้งานในราคาที่คุ้มค่าและตอบโจทย์งบประมาณที่มีให้ได้มากที่สุด โดยในครั้งหน้าหากมีสินค้าอะไรที่น่าสนใจมาแนะนำกันอีก ทางทีมงานจะรีบนำมาแนะนำกันอย่างแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้สวัสดีครับ
