Focusrite Vocaster ชุดอุปกรณ์ทำพอดแคสต์ระดับมืออาชีพ

10 มิ.ย. 2565

Focusrite Vocaster ชุดอุปกรณ์ทำพอดแคสต์ระดับมืออาชีพ

Focusrite Vocaster จัดพอดแคสต์ด้วยเสียงคุณภาพระดับสตูดิโอ

ปัจจุบันการทำพอดแคสต์ได้รับความนิยมมากขึ้นและกลายเป็นกระแสใหม่ของวงการทำคอนเทนต์จนเป็นสาเหตุให้แบรนด์อุปกรณ์เครื่องเสียงระดับมืออาชีพหลายแบรนด์หันมาทำสินค้าที่เกี่ยวกับพอดแคสต์และไลฟ์สตรีมกันมากขึ้น ล่าสุดเป็นคิวของ Focusrite แบรนด์ผู้ผลิต Audio Interface ชื่อดังจากประเทศอังกฤษที่ได้เปิดตัวชุดอุปกรณ์พอดแคสต์ซีรีส์ใหม่ชื่อว่า Vocaster ออกมาเป็นที่เรียบร้อย เจาะกลุ่มคนทำงานด้านเสียงและนักพอดแคสต์ทุกระดับด้วยการใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว พกพาไปใช้นอกถานที่ได้ และยังให้คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ จุดเด่นคือฟีเจอร์ Auto Gain กำหนดระดับสัญญาณอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว ช่วยปรับปรุงให้เสียงดีที่สุดในคลิกเดียว พร้อมด้วยการเชื่อมต่อที่ครบครันสำหรับใช้งานในปัจจุบัน

Focusrite Vocaster one with headphone

Focusrite Vocaster มีรุ่นอะไรบ้าง

Vocaster Series มีด้วยกัน 2 รุ่นคือ Vocaster One กับ Vocaster Two โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะเป็นกล่องอินเทอร์เฟซสำหรับเสียบไมค์ มีปุ่มปรับค่าเสียงอย่าง Mic Gain และ Volume รวมถึงโหมดเสียงต่างๆ นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังมีเป็นเซ็ตอุปกรณ์ที่มาพร้อมไมค์และหูฟังมอนิเตอร์ในชุดด้วยคือรุ่น Vocaster One Studio และ Vocaster Two Studio


Vocaster One


Vocaster One เป็นกล่องอินเทอร์เฟซพอดคาสต์สำหรับผู้ที่ทำงานเพียงคนเดียว โดดเด่นด้วยคุณภาพการบันทึกเสียงระดับสตูดิโอ มาพร้อมฟีเจอร์ Auto Gain ช่วยกำหนดระดับสัญญาณให้เหมาะสมอัตโนมัติ ปุ่ม Enhance ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงพูดให้คมชัด เคลียร์สะอาดมากขึ้น พร้อมกับพรีเซ็ตเสียงพูดให้เลือกใช้อีก 4 รูปแบบ และมีปุ่ม Mute สำหรับปิดเสียงที่ไม่ต้องการขณะพูด


ด้านการเชื่อมต่อมีช่องต่อไมค์ XLR 1 ช่อง ช่วงการรับ input ไมโครโฟน 70dB รองรับการจ่ายไฟ Phantom 48V ให้กับไมค์ชนิดคอนเดนเซอร์ และมีช่อง Headphone out สำหรับต่อหูฟัง 1 ช่อง นอกจากนี้ยังมีช่อง Speaker out สำหรับต่อลำโพงภายนอก, ช่องPhone input รับสัญญาณเสียงจากสมาร์ทโฟน และ Camera output บันทึกเสียงพอดคาสต์ลงในกล้องโดยตรง


Vocaster One Studio


เป็นชุดอุปกรณ์พอดคาสต์ที่ประกอบด้วยกล่องอินเทอร์เฟซ Vocaster One, ไมโครโฟนไดนามิกรุ่น Vocaster DM1, หูฟังมอนิเตอร์ครอบหูรุ่น HP60v และสายไมค์กับสายหูฟัง ไมค์รุ่นนี้มาพร้อม Pop Filter ในตัวช่วยป้องกันเสียงลมและเสียงกระแทก ขณะที่หูฟังมอนิเตอร์รุ่นนี้เน้นเสียงพูดที่คมชัดพร้อมการลดเสียงรบกวนภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ


Vocaster Two


Vocaster Two เป็นกล่องอินเทอร์เฟซพอดคาสต์สำหรับการใช้งาน 2 คน พร้อมการอัปเกรดสเปกเสมือนมี Vocaster One สองเครื่องรวมอยู่ในตัวเดียว มีปุ่ม Auto Gain, Enhance, Mute แบ่งเป็น 2 ชุดสำหรับ Host และ Guest พร้อมปุ่มวอลลุ่มควบคุมแยกจากกัน ด้านการเชื่อมต่อมีการเพิ่มช่องต่อไมโครโฟน XLR และ Headphone out เป็น 2 ช่อง รองรับการจ่ายไฟ Phantom 48V ให้กับไมค์คอนเดนเซอร์ และรองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth 5.0 ส่วนช่อง Speaker out, Phone input และ Camera output มีมาให้อย่างละ 1 ช่อง

 

Vocaster Two Studio


เป็นชุดอุปกรณ์พอดคาสต์ที่ประกอบด้วยกล่องอินเทอร์เฟซ Vocaster Two, ไมโครโฟนไดนามิกรุ่น DM14v, หูฟังมอนิเตอร์ครอบหูรุ่น HP60v และสายไมค์กับสายหูฟัง โดยไมค์รุ่นนี้มีทิศทางการรับเสียงแบบเจาะจง รับเสียงได้แม่นยำกว่า พร้อมกับป้องกันเสียงจากทิศทางที่ไม่ต้องการ


อุปกรณ์ทำพอดแคสต์คุณภาพสูง ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ใช้ทุกระดับ


ทั้ง Vocaster One และ Vocaster Two สามารถใช้งานร่วมกับ Vocaster Hub ซึ่งเป็นโปรแกรมมิกเซอร์สำหรับให้ผู้ใช้งานกำหนดค่าระดับเสียงของแหล่งสัญญาณต่างๆ ได้จากสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ และยังสามารถฟังสิ่งที่ผู้ฟังของคุณจะได้ยินอย่างชัดเจนด้วยคำสั่ง Show Mix


นอกจากนี้ ทั้ง Vocaster One และ Vocaster Two ยังมาพร้อมแพคเกจซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์แท้ Hindenburg Lite, SquadCast ระยะเวลา 3 เดือน และ Acast ระยะเวลา 6 เดือน สำหรับเริ่มต้นทำพอดแคสต์เต็มรูปแบบ และสามารถทดลองใช้ Hindenburg pro ได้ฟรีเป็นเวลา 6 เดือน

Focusrite Vocaster Two with notebook and headphone

ฟีเจอร์เด่น Vocaster One

  • 70dB gain range
  • 1 Mic Gain + 1 Volume wheel
  • XLR Microphone input 1 ช่อง
  • Headphone out 3.5mm 1 ช่อง
  • รองรับการจ่ายไฟ Phantom 48V สำหรับไมค์คอนเดนเซอร์
  • Auto Gain กำหนดระดับสัญญาณอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว
  • Mute button ปิดเสียงที่ไม่ต้องการทันที
  • Enhance button เพิ่มคุณภาพเสียง พร้อมพรีเซ็ตเสียงพูด 4 รูปแบบ
  • ใช้งานร่วมกับโปรแกรมมิกเซอร์ Vocaster Hub
  • รองรับ Phone input รับสัญญาณเสียงจากสมาร์ทโฟน
  • รองรับ Camera output บันทึกเสียงพอดคาสต์ลงในกล้องโดยตรง
  • Speaker out ต่อลำโพงภายนอกได้

ฟีเจอร์เด่น Vocaster Two

  • 70dB gain range
  • 1 Mic Gain + 2 Volume wheel
  • XLR Microphone input 2 ช่อง
  • Headphone out 3.5mm 2 ช่อง
  • รองรับการจ่ายไฟ Phantom 48V สำหรับไมค์คอนเดนเซอร์
  • Auto Gain กำหนดระดับสัญญาณอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว
  • Mute button ปิดเสียงที่ไม่ต้องการทันที
  • Enhance button เพิ่มคุณภาพเสียง พร้อมพรีเซ็ตเสียงพูด 4 รูปแบบ
  • ใช้งานร่วมกับโปรแกรมมิกเซอร์ Vocaster Hub
  • รองรับ Phone input รับสัญญาณเสียงจากสมาร์ทโฟน
  • รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth 5.0
  • รองรับ Camera output บันทึกเสียงพอดคาสต์ลงในกล้องโดยตรง
  • Speaker out ต่อลำโพงภายนอกได้
Focusrite Vocaster one on the desktop

เทียบความต่าง Vocaster One vs Vocaster Two

รู้จัก Focusrite Vocaster กันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว มาดูว่าระหว่างรุ่น One กับรุ่น Two มีความแตกต่างกันอย่างไร

Vocaster One

Vocaster Two

Gain range

70dB

70dB

Microphone input

XLR Connector 1 ช่อง

XLR Connector 2 ช่อง

Headphone output

3.5mm Headphone Jack 1 ช่อง

3.5mm Headphone Jack 2 ช่อง

ปุ่มควบคุมบนตัวเครื่อง

Mic Gain 1 ปุ่ม + Volume 1 ปุ่ม

Mic Gain 1 ปุ่ม + Volume 2 ปุ่ม

Auto Gain

มี

มี

ปุ่ม Mute เสียง

มี

มี

Enhance Mode พร้อม Voice preset 4 รูปแบบ

มี

มี

การเชื่อมต่อ Bluetooth 

ไม่มี

มี, Bluetooth 5.0

Phone input

มี

มี

Camera output

มี

มี

Speaker out

มี

มี

การใช้งาน

เหมาะสำหรับใช้งานคนเดียว 

เหมาะสำหรับใช้งาน 2 คน

Studio set

ไมค์ไดนามิก Vocaster DM1

หูฟังมอนิเตอร์ครอบหู HP60v 

ไมค์ไดนามิก Vocaster DM14v

หูฟังมอนิเตอร์ครอบหู HP60v

ราคา

$229.99 (Vocaster One)

$339.99 (Vocaster One Studio)

$339.99 (Vocaster Two)

$569.99 (Vocaster Two Studio)

จากตารางจะเห็นว่า Vocaster ทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกันที่ Microphone input และ Headphone output โดยรุ่น Two ให้มา 2 ช่องตามชื่อรุ่น นั่นหมายความว่ารองรับนักพอดคาสต์ได้ 2 คนพร้อมกันและแต่ละคนสามารคอนโทรลเสียงของตัวเองได้แยกกัน นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อ Bluetooth กับสมาร์ทโฟนได้ ให้ความสะดวกในการใช้งานได้มากกว่ารุ่น One 

Focusrite Vocaster one and two white background

Focusrite Vocaster ราคาเท่าไร

Focusrite Vocaster เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การทำพอดคาสต์กลายเป็นเรื่องง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ซึ่งความง่ายและสะดวกแบบนี้ยังมาพร้อมกับคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะถ้าซื้อเป็นเซ็ต Studio ก็เรียกว่าทีเดียวจบพร้อมใช้งานทันที เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นทำพอดแคสต์และผู้นักพอดแคสต์มืออาชีพที่ต้องการอัปเกรดอุปกรณ์เพื่อคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ลูกค้าท่านใดที่กำลังมองหาอุปกรณ์สำหรับทำพอดแคสต์หรือสตรีมสดทางออนไลน์เตรียมตัวรอซื้อได้เลย


ราคาจำหน่ายของ Focusrite Vocaster ในต่างประเทศรุ่น One จะอยู่ที่ $229.99 (ประมาณ 7,900 บาท) รุ่น One Studio และรุ่น Two ราคาเท่ากันที่ $339.99 (ประมาณ 11,800 บาท) ขณะที่รุ่น Two Studio จะแพงที่สุด ราคาอยูที่ $569.99 (ประมาณ 19,700 บาท) สำหรับประเทศไทยยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือกำหนดการวางขายแน่ชัด เช่นเดียวกับราคาค่าตัวที่ยังตอบไม่ได้ว่าจะอยู่ที่เท่าไร คาดว่าอีกไม่นานสินค้าน่าจะเริ่มมีเข้ามาให้ได้จับจองเป็นเจ้าของกัน ถ้าสินค้ามีเข้ามาเมื่อไรทางเราจะรีบนำมารีวิวแนะนำให้ลูกค้าทุกท่านได้รับทราบโดยเร็วที่สุด


สุดท้ายนี้ Mercular.com ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกับพรีวิวสินค่ารุ่นใหม่ที่น่าสนใจได้ที่เว็บไซต์ของเรา สวัสดีครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2