Galaxy S22 Ultra VS Galaxy S21 Ultra ควรอัปเกรดต่อหรือพอแค่นี้!
22 มี.ค. 2565
ก็จบกันไปแล้วกับการเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่กับสมาร์ทโฟนเรือธง Samsung Galaxy S22 Series ที่ออกมาถึง 3 รุ่น Galaxy S22, Galaxy S22+ และ Galaxy S22 Ultra แต่รุ่นที่ถือว่าได้รับความสนใจก็คงหนีไม่พ้นรุ่น TOP อย่าง Galaxy S22 Ultra ที่อัดแน่นไปด้วยสเปคสุดลํ้าไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ดีไซน์ที่หรูหราที่สะดุดตาพร้อมความบางสีมันเงาที่พรีเมียม รวมไปถึงเลนส์กล้องกระจกทรงกลมที่เรียงแนวตรงลอยตัวกันอย่างสวยงาม โดยยังให้ภาพที่คมชัดราวกับกล้องถ่ายรูประดับอาชีพเลย และที่น่าตื่นตาตื่นใจคือในเรื่องของปากกา S Pen ที่ไม่ต้องแยกซื้อ เหมือนเดิมรุ่นก่อนอย่าง Galaxy S21 Ultra นับว่าเป็นครั้งแรกของ Galaxy S มาในรูปแบบของ Note แต่สำหรับผู้ที่ยังเลือกใช้ Galaxy S21 Ultra และหากว่ายังมีความลังเล เอ๊ะๆ สงสัยกันอยู่ว่า หรือเราจะเปลี่ยนเป็น Galaxy S22 Ultra เพื่ออัปเกรดสเปคให้ดีขึ้น หรือจะยังก่อนดี วันนี้ Mercular.com เลยขอมาขอเทียบชัดๆ Galaxy S22 Ultra VS Galaxy S21 Ultra ควรอัปเกรดต่อหรือพอแค่นี้! น่าจะช่วยให้ใครหลายๆ คนตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าครับ
เทียบสเปค Galaxy S22 Ultra VS Galaxy S21 Ultra ควรอัปเกรดไหม?
ดีไซน์
- ขอเริ่มกันในเรื่องของดีไซน์ด้านหน้ากันก่อนเลย วัสดุหน้าจอจะเลือกใช้ กระจกกันรอย Gorilla Glass Victus ที่เหมือนกั แต่ สำหรับ Galaxy S22 Ultra จะอัพเกรดขึ้นมาหน่อยเป็น + ส่วนเรื่องของดีไซน์ S22 Ultra ทรงเหลี่ยมที่ก็แอบคล้ายคลึงดีไซน์ Note ดูเทรนดี้น่าใช้มากขึ้น ส่วน Galaxy S21 Ultra จะมาในดีไซน์ทรงโค้งมนให้สัมผัสที่เข้ามือมากกว่า หากคนที่ชอบสัมผัสโค้งรับกับอุ้งมือได้ดีแล้วล่ะก็ขอยกให้ Galaxy S21 Ultra ถือใช้สบายมือกว่ากันเยอะครับ
- มาถึงส่วนดีไซน์ด้านหลังกันต่อเลย ที่จะพูดก็คือส่วนของเลนส์กล้องหลัง ที่ Galaxy S22 Ultra จะมีดีไซน์ที่แยกตัวออกมา และมีความนูนที่โดดเด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ S21 Ultra จะมาพร้อมกรอบเลนส์ขนาดใหญ่ช่วยครอบตัวเลนส์ของเราทั้ง 4 ตัวไว้อย่างดี อาจจะเป็นข้อดีของ Galaxy S21 Ultra ในเรื่องของการปกป้องเลนส์กล้องหลังครับ
- สุดท้ายเรื่องของขนาด และนํ้าหนัก S22 Ultra และ S21 Ultra จะขนาดและน้ำหนักที่กันเคียงกัน หรือแทบจะไม่ต่างกันเลย ในส่วนของความบางเพียง 8.9 มม. เท่า ส่วนนํ้าหนักต่างกันเล็กน้อย Galaxy S22 Ultra 228 กรัม และ Galaxy S21 Ultra 227 กรัม
หน้าจอแสดงผล
- ในส่วนของหน้าจอแสดงผล S22 Ultra และ S21 Ultra จะมาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว และค่าความสว่างสูงสุดที่ 1,750 nits ที่เท่ากันเลยครับ แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของ อัตราส่วนที่ต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะดูเลยว่าหน้าจอของ S22 Ultra จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ที่ดูด้วยตาเปล่าก็จะรู้เลยครับ ในส่วนหน้าจอแสดงผลเลยสรุปว่า ไม่แตกต่างกันมากครับ
S Pen Galaxy S22 Ultra VS Galaxy S21 Ultra
- จุดเด่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ปากกา " S Pen " อย่างที่รู้กัน Samsung ได้พัฒนาให้ Galaxy S Series สามารถใช้งานร่วมกับ S Pen ได้อย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่รุ่น S21 Ultra เป็นต้นมา แต่เสียดายที่เราต้องเสียเงินซื้อแยกเองจะไม่ได้แถมมาในตัวเครื่อง S22 Ultra ไม่ทำให้คิดหวัง โดยได้นำ S Pen มาให้พร้อมในเครื่อง ที่จะมาในดีไซน์คล้าย Note ที่เป็นการกดด้านล่างแล้วดึงมาใช้งานได้ทุกเมื่อ
- การใช้งาน S Pen ต่อมาขอพูดถึงในเรื่องของการใช้งาน ที่จะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร โดยที่ S22 Ultra ได้มีการพัฒนาให้มีความหน่วงในการตอบสนองได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับ S21 Ultra ที่ยังตอบสนองการใช้งานได้ไม่ดีนัก ไม่สามารถรองรับการใช้งาน ในโหมดของการสั่งชัตเตอร์ การเลื่อนรูปภาพ รวมไปถึงเข้าแอปได้แบบทันที จุดนี้เองที่ S21 Ultra จะไม่สามารถทำได้ครับ
ฟีเจอร์ล้ำ ๆ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้
สเปคกล้อง
- ต้องบอกก่อนเลยว่าสเปคกล้องบอกเลย Samsung ไม่เคยทำให้ผิดหวัง!! หรือเรียกว่าแทบจะไม่ได้แตกต่างกันมากครับ โดย Galaxy S22 Ultra ความละเอียดของกล้องหลักจะมาพร้อมความละเอียดสูงสุด 108MP เลนส์กล้อง Ultra Wide สามารถถ่ายภาพแบบ Macro และ Tele ที่จะมีระยะการซูม 2 ระยะ 3X และ 10X แต่จะเห็นได้ว่า S22 Ultra ได้มีการ เซ็ตชิปตัวใหม่อย่างซอฟต์แวร์ AI ที่แรงขึ้น เชียวชาญขึ้น เลยทำให้กล้อง S22 Ultra ถ่ายภาพได้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าโดยเฉพาะในเรื่องของความคมชัด Noise เรียกได้ว่าสุดยอดดีกว่าอย่างชัดเจน และสุดท้าย S22 Ultra มาพร้อมฟีเจอร์ที่สำคัญอย่าง Nightography พร้อมพิกเซลเซนเซอร์ 2.4 ไมโครเมตร ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ซัมซุงเคยมี เลยช่วยให้การถ่ายวิดีโอเวลากลางคืนได้คมชัดไม่มีแสงแฟลร์ก็ยังถ่ายสวย เลยทำให้เรื่องของสเปคกล้องขอยกตำแหน่งให้ Galaxy S22 Ultra ไปเลยครับ
สเปคแบตเตอรี่ / รองรับชาร์จเร็ว
- ในส่วนของเรื่องแบตเตอรี่ Galaxy S22 Ultra และ Galaxy S21 Ultra มาพร้อมแบต 5000mAh ที่เหมือนกัน ทำให้การใช้งานใกล้เคียงกันมากๆ แต่จุดที่แตกต่างก็คือในส่วนของ S22 Ultra เพิ่มการชาร์จเร็ว 45W ซึ่งจากเดิม Galaxy S21 ที่รองรับชาร์จเร็ว 25W เท่านั้น ใครที่ชอบความเร็วในการชาร์จ ขอเทใจให้ Galaxy S22 Ultra ไปเลย
สเปคอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- สเปคสุดลํ้าที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้น การใส่ชิป Snapdragon 8 Gen 1 ที่เร็วที่สุดของชิปเซ็ต 4 นาโนเมตร ใน S22 Ultra ทำให้ได้ภาพถ่ายกลางคืนได้สวยขึ้นกว่าเดิม มี AI (Artificial Intelligence) และ ML (Machine Learning) ที่ฉลาดขึ้น AI ช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้ยาวนานขึ้นในแต่ละวัน นอกจากนี้มี Wi-Fi 6E ที่เร็วกว่า Wi-Fi 6 ถึงสองเท่า ทำให้ผู้ใช้งานได้สนุกไปกับการใช้งาน และ ทำคอนเทนต์ รวมไปถึงการเล่นเกมส์ที่ทำได้ยาวนาน เพราะหากจะ ซึ่งหากเทียบกับ S21 Ultra ที่จะเป็นการใช้ชิป Exynos 2100 ส่งผลให้ช้ากว่า และแตกต่างกันถึง 30% ได้เลยทีเดียว จุดนี้เองทำให้ S22 Ultra ได้เปรียบกว่าเยอะเลยครับ
- ด้านความปลอดภัย ขอยกให้ Galaxy S22 Series ทั้งเรื่องระบบปฏิบัติการ และหน่วยความจำ ด้านความปลอดภัยสถาปัตยกรรมไมโคร ARM (ARM micro architecture) ที่จะช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์มายังระบบปฏิบัติการ และหน่วยความจำส่งผลช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดีเลยครับ
ราคา
Samsung Galaxy S22 Ultra
- รุ่น 8GB+128GB : 39,900 บาท
- รุ่น 12GB+256GB : 43,900 บาท
- รุ่น 12GB+512GB : 47,900 บาท
Samsung Galaxy S21 Ultra
- รุ่น 128GB : 39,900 บาท
- รุ่น 256GB : 41,900 บาท
- รุ่น 512GB : 45,900 บาท
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับเทียบชัดๆ Galaxy S22 Ultra VS Galaxy S21 Ultra ควรอัปเกรดต่อหรือพอแค่นี้! ที่ทาง Mercular.com นำมาฝากกันในครั้งนี้หลายคนคงได้คำตอบในใจกันแล้วว่าจะเปลี่ยนเลยดีไหม? หากจะให้แนะนำลองลิสต์เป็นข้อดีเหล่านี้จะช่วยตอบโจทย์เราหรือไม่? ซึ่งหากอยากได้สเปคที่แรงขึ้นพร้อมกับชิปเซ็ตแรงขึ้นอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 และยังมาพร้อมปากกา S Pen ในตัวเลย Galaxy S22 Ultra ก็จะตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว แต่หากยังคิดว่า Galaxy S21 Ultra ก็ยังใช้งานได้ดีไม่แตกต่างกันมาก อาจจะอดใจจัด Note Series รุ่นใหม่ไปเลยแล้วกัน ก็อดใจรอไปก่อนครับ!
แต่หากใครที่ตรงลงปลงใจแล้วว่าต้องจัด Galaxy S22 Ultra ชัวร์ๆ วันนี้ Mercular.com ได้คัดอุปกรณ์เสริมมือถือคุณภาพดีมามากมาย ทั้งเคสกันกระแทก หัวชาร์จ พาวเวอร์แบงค์ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ Mercular.com เพราะตอนนี้เรามีราคาดีโปรโมชั่นมาให้เพียบ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นบทความอะไร อยากให้รอติดตามกันแล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ