Headphone VS In-ear แบบไหนเล่นเกมได้ดีกว่ากัน
23 พ.ย. 2566
กลับมาพบกันอีกเช่นเคยสำหรับคำถามที่หลายๆคนสอบถามกันเข้ามาว่า เอ้ะ! เล่นเกมจะเลือกใช้หูฟังแบบไหนดีระหว่าง Headphone แบบครอบหู หรือใช้หูฟัง In-Ear ธรรมดาก็พอ บทความ หูฟังเกมมิ่ง Headphone VS In-ear แบบไหนเล่นเกมได้ดีกว่ากัน ? จะมาดูความแตกต่างระหว่างหูฟังทั้งสองชนิดนี้ว่าถ้าใช้เล่นเกมแล้ว จะมีข้อดี หรือข้อเสียอย่างไรบ้าง สำหรับเป็นทางเลือกในการตัดสินใจซื้อหูฟังเกมมิ่งสำหรับเล่นเกมกันนะครับ ไปติดตามกันเลยจ้า
หูฟังเกมมิ่ง Headphone VS In-ear
ความสะดวก และความสบายในการใช้งาน
สำหรับสิ่งแรกที่เราจะพูดถึงกันจะเป็นเรื่องของความสบายในการสวมใส่ ซึ่งตรงนี้ต้องมีระยะเวลามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ระยะเวลาในการเล่นเกม เพราะการสวมใส่ช่วงสั้น ๆ กับช่วงนาน ๆ มีความแตกต่างกันอยู่ในเรื่องของความร้อนจากร่างกายเรา บางครั้งถ้าใส่นาน ๆ อาจรู้สึกร้อน จนเกิดความระคายเคืองก็เป็นได้ ดังนั้นในส่วนของความสบายในการสวมใส่ ต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์การใช้งานของแต่ละคน บางท่านเลือกใช้งาน In-Ear ที่ดูเหมือนจะใส่สบาย แต่เอาเข้าจริงก็รู้สึกเจ็บที่รูหูขณะสวมใส่นาน ๆ หรือบางท่านศีรษะใหญ่ทำให้ใส่ Headphone ไม่ถนัด ดังนั้นความสบายในการสวมใส่จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และสรีระศีรษะของแต่ละคนครับ
ส่วนเรื่องความสะดวก อยากจะต้องยกให้หูฟังเกมมิ่ง In-Ear เพราะว่าสามารถพกพาไปไหนมาไหนก็ได้ เพียงแค่ม้วนสายเก็บใส่กล่องหูฟังให้เรียบร้อย แล้วก็ออกไปเล่นนอกบ้านได้ทันที ในขณะที่หูฟังเกมมิ่ง Headphone มีขนาดใหญ่ เคลื่อนย้ายหรือพกพาจึงทำได้ไม่สะดวกนั่นเอง
เสียงต้องตอบโจทย์แนวเกม
สิ่งต่อมาที่เราจะโฟกัสคือเรื่องของเสียง ค่อนข้างเป็นที่แน่นอนว่า หูฟังเกมมิ่ง Headphone มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า ทั้งในส่วนของมิติ เวทีเสียง ความโอบล้อม และความแม่นยำในการระบุทิศทางซึ่งมีผลอย่างมากต่อเกมแนว FPS (First-Person Shooting) ซึ่งจะให้ประสบการณ์ในการเล่นได้อย่างสมจริงมากกว่าหูฟังเกมมิ่ง In-Ear อย่างไรก็ดีสิ่งเหล่านี้มักจะขึ้นอยู่กับแนวเกมและความจริงจังในการเล่น บางครั้งเกมแนว MOBA ไม่จำเป็นต้องใช้ความโอบล้อมหรือทิศทางเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้หูฟังเกมมิ่ง In-Ear อาจจะตอบโจทย์ตรงนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะใส่หูฟังเกมมิ่ง In-Ear เล่นเกม FPS ไม่ได้นะครับ ขึ้นอยู่กับความจริงจังในการเล่นอีกทีอย่างที่กล่าวไว้ครับ ซึ่งหูฟังเกมมิ่ง In-Ear ก็มีจุดเด่นในเรื่องของการไม่ต้องต่อการ์ดเสียงเพิ่ม เพราะโดยส่วนใหญ่หูฟัง Headphone มักจะต้องต่อการ์ดเสียงเพิ่มเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพครับ
และนอกจากเสียงในเกมแล้ว เสียงของการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมก็ต้องมีความชัดเจน สามารถพูดคุยกันได้โดยไม่ถูกเสียงไม่พึงประสงค์เข้ามารบกวน ซึ่งในส่วนของเสียงไมค์นั้นก็ต้องบอกว่า Headphone ค่อนข้างที่จะเหนือชั้นกว่า เพราะส่วนมากแล้วจะมาพร้อมกับการตัดเสียงรบกวนออกไปได้อย่างสมบูรณ์ แต่สำหรับหูฟัง In-Ear มักจะมีการตัดเสียงรบกวนที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนบางครั้งเสียงบรรยากาศรอบข้างก็เข้าไปสร้างความรบกวนในตอนที่เรากำลังพูดคุยอยู่จนดำเนินการตามแผนได้อย่างล่าช้าเลยละครับ
สรุปในส่วนของเสียง ต้องบอกเลยว่า หูฟังเกมมิ่งแบบ Headphone ค่อนข้างกินขาด หากใครที่จะมาสายเกมมิ่งยืนระยะนาน ๆ การใช้หูฟังเกมมิ่ง Headphone ยืนระยะได้ดีกว่าทั้งในเรื่องของเสียง และตัวไมโครโฟนเอง ที่มักจะให้เสียงพูดที่ชัดเจนกว่า ไม่ค่อยมีเสียงรบกวนเหมือนกับหูฟังเกมมิ่ง In-Ear นั่นเอง
การเชื่อมต่อต้องเสถียร
แน่นอนว่าสำหรับในเรื่องของการเชื่อมต่อนั้น ก็สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายเลย ไม่ว่าจะเป็น Headphone หรือ In-Ear ก็ตาม ซึ่งถ้าให้ต้องเลือกว่าแบบไหนนั้นจะใช้งานได้ดีกว่ากัน ก็ต้องบอกว่าพอ ๆ กันทั้งคู่ เพราะหากเป็นการใช้งานแบบมีสาย จะสามารถต่อตรงเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ทันที ช่วยลดการดีเลย์ เพื่อให้ตัวเสียงมาในจังหวะที่ตรงกับหน้าจอได้อย่างพอดี ไม่มีล่าช้าสักวิเดียว โดยสำหรับตัวเสียบก็มีให้เลือกทั้งแบบ AUX 3.5 mm และ Type-A หรือ C ก็เลือกได้ตามแต่รุ่นของแบรนด์นั้น ๆ ที่ได้ทำการผลิตออกมา ส่วนสำหรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย หลาย ๆ คนก็อาจจะต้องเคยลองใช้ในรุ่นของตัวเก่า แล้วพบว่ามีความหน่วงและดีเลย์ ทำให้ตัวเสียงนั้นไม่สามารถมาพร้อมกับภาพได้ แต่ในปัจจุบันนี้ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้การเชื่อมต่อแบบไร้สายนั้นไม่ต้องพบเจอกับปัญหาดีเลย์อีกต่อไป เพราะฉะนั้นถ้าต้องเลือกว่าทั้งสองแบบนี้อย่างไหนดีกว่ากันก็คงต้องบอกว่า ยกนี้ให้เสมอกันไป แต่ก็อยู่ที่ความชอบของคนอีกด้วย ว่าชอบมีสายหรือไร้สาย เพราะหากซื้อรุ่นใหม่ ๆ ความเสถียรย่อมดีกว่ารุ่นเก่าอย่างแน่นอนครับ
หูฟังเกมมิ่ง Headphone
- สวมใส่สบายด้วยฟองน้ำรองหูขนาดใหญ่
- สามารถป้องกันเสียงรบกวนได้ดี
- ไมโครโฟน มีความชัดเจนสูง
- เสียงดี มิติชัด ความแม่นยำสูง ได้ความสมจริง
- ใช้ควบคู่กับการ์ดเสียงเพื่อเสียงที่ดีขึ้น
หูฟังเกมมิ่ง In-Ear
- มีความสะดวก ขนาดเล็ก สามารถพกพาได้
- สามารถเปลี่ยนจุกเพื่อทำความสะอาดได้
- ไม่จำเป็นต้องต่อการ์ดเสียงเพิ่ม
สรุปแล้วเล่นเกมควรใช้แบบไหน?
สำหรับการเล่นเกมหากคุณผ่านการทดสอบเรื่องความสบายในการสวมใส่เป็นระยะเวลานาน ตามเวลาที่เรานั้นใช้เล่นเกมแล้ว สิ่งที่เป็นตัววัดคือความจริงจังในการเล่นเกมนั่นเอง หากคุณเป็นเกมเมอร์สายแข็ง การเลือกใช้ Headphone แบบครอบหูมักจะตอบโจทย์ในการเล่นเกมได้มากกว่า ทั้งในส่วนของการเพิ่มการ์ดเสียงเข้ามาช่วยเพื่อให้ได้รับเสียงที่มีคุณภาพเยี่ยมและดีมากยิ่งขึ้น หรือไมโครโฟนที่มีความชัดเจน สื่อสารได้ถนัดกว่า ส่วนใครที่เป็นเกมเมอร์ทั่วไป เล่นบ้างแล้วแต่เวลาจะอื้ออำนวย อันนี้ก็เลือกตามความถนัดเลยครับ อีกกรณีหนึ่งที่มักจะใช้หูฟังเกมมิ่ง In-Ear คือในส่วนของการเล่นเกมผ่านมือถือ อันนี้จะตอบโจทย์ความสะดวกในการพกพานั่นเอง ถ้าใครไม่จริงจังเน้นเล่นเกมมือถือก็ลองหันมาใช้ In-Ear จะคล่องตัวดีกว่าครับ
ทิ้งท้ายนิดนึง ส่วนใหญ่ที่เราเห็นในการแข่งขันกีฬา E-Sports การใส่หูฟังทั้งสองแบบทับกันมักจะเป็นเรื่องของสปอนเซอร์ หรือ ลักษณะการใช้งานนั่นเอง เช่น ใช้หูฟัง In-Ear เป็นหลัก แล้วใช้ Headphone ครอบทับอีกทีเพื่อกันเสียงรบกวนจากการแข่งขัน หรือเป็นการสร้างสมาธิสำหรับผู้เล่นนั่นเอง ซึ่งสำหรับใครที่อยากเลือกใช้งานหูฟังเกมมิ่งทั้งสองแบบนี้จากแบรนด์ชั้นนำที่ขึ้นชื่อเรื่องเล่นเกม รวมถึงเป็นที่ไว้วางใจของเหล่าเกมเมอร์มือโปรที่นำไปลงแข่งขันด้วยนั้น ก็สามารถเข้ามาเลือกใช้งานหูฟังเกมมิ่งได้ที่ Mercular.com นี้ครับ