จอ 144Hz ดียังไง ทำไมเกมเมอร์ชอบใช้กัน ?
14 ต.ค. 2563
การที่จะเล่นเกมคอมพิวเตอร์ให้ไหลลื่นนั้น องค์ประกอบหลักนอกจากชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น CPU, การ์ดจอ, RAM อีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมากนั่นก็คือจอมอนิเตอร์ หรืออุปกรณ์สำหรับแสดงผลภาพนั่นเอง จากบทความแรกที่ได้พูดถึงการเลือกซื้อจอเกมมิ่ง ควรมีขนาดกี่นิ้วดีจึงจะเหมาะสมกับผู้ใช้งาน แต่การที่จะเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลจำเป็นต้องใช้จอภาพ ที่มีค่ารีเฟรชเรทหรือจำนวนเฮิรตซ์ที่สูงด้วยเช่นกัน ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันนั้นหน้าจอได้มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น 75Hz, 120Hz, 144Hz, 165Hz และ 240Hz แต่คำถามที่มักจะได้ยินคนพูดถึงกันอย่างบ่อยครั้งคงจะหนีไม่พ้นว่า จอ 144Hz นั้นมีข้อดียังไง มีความแตกต่างอะไรบ้างกับจอมอนิเตอร์ทั่วไป ทำไมเหล่าเกมเมอร์ รวมไปถึงโปรเพลเยอร์ ถึงนิยมใช้กัน วันนี้ Mercular.com จะมาตอบทุกปัญหาให้ผู้อ่านทุกท่านได้ทำความเข้าใจกันครับ
Refresh rate คืออะไร
โดยปกติแล้วจอ คอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น LCD หรือ LED จะมีค่าอัตราการรีเฟรช หรือรีเฟรชเรท อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 60Hz ซึ่งถือว่าเป็นค่ามาตรฐานในการใช้งาน ถ้ารุ่นไหนไม่ได้ชูจุดขายว่ามีรีเฟรชเรทมากกว่านั้นก็แสดงว่ามีเฮิรตซ์อยู่ที่ 60 เป็นหลัก ส่วนค่านี้มีผลอย่างไรต่อการใช้งานคอมพิวเตอร์บ้าง โดยค่านี้จะเป็นตัวบอกว่าจอภาพนั้นสามารถแสดงผลที่เป็นภาพนิ่งได้กี่ภาพ ภายในเวลา 1 วินาที หรือรองรับการแสดงผลที่ Frame per second (FPS) สูงสุดเท่าไหร่ หากจอนั้นรองรับแค่ 60Hz ก็แสดงว่ารองรับการแสดงผลสูงสุดที่ 60FPS แต่ถ้าเป็นจอเกมมิ่ง 144Hz ก็จะรองรับอยู่ที่ 144FPS ยิ่งค่า FPS มากเท่าไหร่ ภาพที่แสดงผลออกมาสู่สายตาของเราก็จะมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้นตามลำดับ ดังคำที่กล่าวไว้ว่า ถ้าคุณได้ลองเล่นเกมด้วยจอ 144Hz สักครั้งนึงแล้ว คุณจะไม่อยากกลับไปเล่นเกมด้วยจอ 60Hz อีกต่อไปอย่างแน่นอน
จอ 144Hz ดีกว่าจอทั่วไปยังไง ?
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า จอเกมมิ่ง 144Hz กำลังเป็นได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยฟีเจอร์ในการใช้งานที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นเกมได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงหากเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งข้อดีของจอเกมมิ่ง 144Hz นั้นคือภาพที่แสดงผลออกมาจะมีความสมูท ลื่นไหล ดูสบายตา ให้เฟรมเรตที่สูง อีกทั้งยังมีค่าอัตราตอบสนองที่ต่ำอยู่ที่ประมาณ 1-4 ms หรือ 1 ใน 1,000 ต่อวินาที เท่านั้น โดยค่านี้ยิ่งน้อย ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อความเร็วในการขยับของภาพ หากนำมาเล่นเกมประเภท FPS หรือ Shooting จะทำให้ได้เปรียบมากกว่าการจอ 60Hz เป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้เห็นศัตรูก่อน รวมถึงการขยับตัวละครก็จะมีความลื่นไหลกว่ามาก ช่วยให้ได้เปรียบในการแข่งขันที่ตัดสินกันด้วยเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีได้เลย นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บางรุ่นยังติดตั้งเทคโนโลยีเสริมมาเพื่อช่วยป้องกันการฉีกขาดของภาพ จึงหมดกังวลไปได้เลยว่าจะพบกับปัญหาภาพกระตุกขณะเล่นเกม แต่มีข้อแม้อยู่ที่ เครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ๆ ต้องมีฮาร์ดแวร์แรงพอที่จะสามารถขับเฟรมเรตออกมาให้อยู่ในระดับ 144Hz ซึ่งฮาร์ดแวร์ดังกล่าวก็คือพวก CPU, RAM, GPU หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าการ์ดจอนั่นเอง หากซื้อจอเกมมิ่งที่รองรับค่ารีเฟรชเรทสูง ๆ มาใช้งานแต่อุปกรณ์ของเราไม่สามารถดึงศักยภาพในการทำงานสูงสุดออกมาได้ ก็จะเป็นการเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์นั่นเองครับ นอกจากนี้สายสัญญาณที่นำมาเชื่อมต่อก็ควรจะเป็นสายได้รับมาตรฐานหรือเป็นสายแท้ที่แถมมากับอุปกรณ์ เพื่อให้การทำงานระหว่างอุปกรณ์นั้นมีความสอดคล้องกัน เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด ซึ่งในบทความหน้าเราจะมาสอนวิธีเช็คเฟรมเรตของเครื่องคอมพิวเตอร์กันนะครับ ว่าสามารถทำได้โดยวิธีใดบ้าง
จะรู้ได้ยังไงว่าจอที่เราใช้นั้นกี่เฮิรตซ์
การที่เราจะตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของเรานั้นมีรีเฟรชเรทอยู่ที่กี่เฮิรตซ์ สำหรับผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการณ์ Windows 10 สามารถทำได้โดยการคลิกขวาที่หน้าจอเดสก์ท็อปของจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นให้เข้าไปที่คำสั่ง Display settings เมื่อเข้ามาสู่หน้าจอ Display แล้วให้เลื่อนเมาส์ลงมาที่คำสั่ง Advanced display settings เมื่อกดเข้าไปก็จะพบกับรายละเอียดเกี่ยวกับจอ Monitor ของเรา ซึ่งจะประกอบไปด้วย ความละเอียด รีเฟรชเรท และค่าอื่น ๆ ของอุปกรณ์ของเราครับ
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนั้น เทคโนโลยีของจอภาพพัฒนาไปไกลขึ้นมาก ๆ ไม่ใช่แค่เพียงอัตรารีเฟรชเรทที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ความละเอียดของภาพก็ได้ถูกพัฒนาไปจนถึงระดับจอคอม 4K เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย เมื่อมีของใหม่ออกมา ก็เป็นเรื่องปกติที่รุ่นเก่าถูกลดราคาลง ทำให้จอเกมมิ่ง 144Hz ในขณะนี้มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ไม่ถึง 5,000 บาท เช่นรุ่น ViewSonic 24" @ 144Hz VX2458 Monitor หรือเพื่อนอาจจะลองหา จอ 144Hz มือสอง ที่มีราคาถูก มาลองใช้งานดูก่อนก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใดครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถตัดสินใจซื้อจอเกมมิ่งชิ้นใหม่ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองได้นะครับ