ซื้อหูฟังเกมมิ่งให้เทพเหมือนโปร ต้องดูจากอะไรบ้าง

23 พ.ค. 2566

ซื้อหูฟังเกมมิ่งให้เทพเหมือนโปร ต้องดูจากอะไรบ้าง

เพราะว่าการเล่นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าชัยชนะมาได้อย่างเบ็ดเสร็จนั้น นอกจากเรื่องฝีมือหรือสกิลเพลย์แล้ว ก็ย่อมจะต้องมีอุปกรณ์เกมมิ่งที่พร้อมจะตอบสนองการเล่นเกมของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ด เมาส์ หรือแม้กระทั่งหูฟัง ซึ่งตัวของหูฟังเกมมิ่งนั้นก็เป็นของที่พร้อมจะทำให้คุณนั้นสามารถแยกเสียงในเกมได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยการมีไมโครโฟนที่สามารถทำให้คุณและทีมสามารถสื่อสารกันได้อย่างชัดเจน ก็เป็นอุปกรณ์สำหรับการคว้าชัยในเกมมาได้ทั้งนั้น ซึ่งใครที่อยากได้หูฟังเกมที่จะทำให้คุณนั้นแยกเสียงในเกมได้มากขึ้น พร้อมด้วยการคว้าชัยที่เหนือชั้น มาดูบทความ ซื้อหูฟังเกมมิ่งให้เทพเหมือนโปร ต้องดูจากอะไรบ้าง ที่ Mercular นั้นนำมาฝากกันครับ

ก่อนซื้อหูฟังเกมมิ่ง ต้องดูอะไรบ้าง

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะไปเลือกซื้อหูฤังเกมมิ่งกันนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนเลยนั้นก็จะมีด้วยกัน 4 หัวข้อหลัก ๆ ที่จะทำให้คุณนั้นสามารถเลือกซื้อหูฟังที่ตรงกับความต้องการในการใช้งานของคุณ พร้อมกับได้หูฤังที่จะช่วยให้เสียงภายในเกมของคุณนั้นสามารถแยกแยะได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้การก้าวเข้าไปสู้อันดับที่หนึ่งทำได้อย่างสบาย ๆ มาดูกันเลยครับว่า 4 หัวข้อหลักนั้นมีอะไรบ้าง


  • ประเภทของหูฟัง
  • การเชื่อมต่อ 
  • ระบบเสียง
  • ฟีเจอร์เสริม
ก่อนซื้อหูฟังเกมมิ่งต้องดูอะไรบ้าง

ประเภทของหูฟัง

ประเภทของหูฟัง

มาเริ่มกันที่การเลือก ประเภทของหูฟัง ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่เรานั้นจะได้สัมผัส เนื่องจากประเภทของหูฟังนั้นมักจะมาพร้อมกับรูปทรงและการออกแบบที่เราสามารถเห็นได้ทันที พร้อมทั้งการหยิบขึ้นมาสวมใส่นั้นก็จะแตกต่างกันออกไปตามดีไซน์ของแต่ละประเภท เพราะฉะนั้นตอนนี้มาทำความรู้จักกับประเภทของหูฟังเกมมิ่งกันดีกว่าครับ ว่ามีประเภทไหนกันบ้าง รวมไปถึง ข้อดีและข้อจำกัด ที่คุณจะต้องเจอเมื่อซื้อมาใช้งาน ไปดูกันเลย

หูฟังแบบครอบหู (Over Ear)


สำหรับแบบแรกอย่าง หูฟังแบบครอบหู (Over Ear) นั้นจะมีรูปร่างและการดีไซน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพราะการสวมใส่นั้นจะทำให้ตัวหูฟังนั้นครอบไปที่หูของคุณได้หมด หรือบางตัวก็เป็นแค่การวางไว้ที่หูแล้วแต่ขนาด โดยตัวหูฟังนั้นจะมีไมโครโฟนยื่นออกมาให้ใช้งาน ซึ่งหูฟังแบบนี้เป็นที่นิยมใช้กันสำหรับพวกสตรีมเมอร์รวมทั้งนักแข่งอีกด้วย เหมาะสมสำหรับการนำไปเล่นเกมคอมทั่วไปและเกมคอนโซลทั้งหลายอีกด้วย


ข้อดี


  • มิติเสียงลึก
  • เวทีเสียงกว้าง
  • สวมใส่สบาย


ข้อจำกัด


  • พกพายาก
  • ใส่นานอาจเมื่อยศีรษะ

หูฟังอินเอียร์ (In-Ear)


ประเภทต่อมาอย่าง หูฟังอินเอียร์ (In-Ear) นั้น จะเป็นหูฟังที่สามารถใส่เข้าไปได้เลยในหู โดยจะมีความกระชับ ไม่หลุดล่วงได้ง่าย ๆ ใครที่ชอบอินกับเกมแล้วโยกศีรษะบ่อย ๆ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหลุดออกจากหู ซึ่งใครที่ใส่ไม่เข้าหรือรู้สึกว่าจุกใหญ่กว่าหู ก็สามารถเปลี่ยนจุกได้ตามต้องการ โดยจะมีขนาดเล็ก กลางและใหญ่ ให้เลือกใช้งานเพื่อที่จะเข้ากับหูของคนสวมใส่มากที่สุด ซึ่งใครที่ชื่นชอบเกมแนว FPS นั้นต้องลองหาซื้อมาใช้งานกันแล้วครับ เพราะว่าหูฟังประเภทนี้เหมาะสมกับเกมแนวนี้ที่สุด


ข้อดี


  • น้ำหนักเบา พกพาง่าย
  • รายละเอียดเสียงดี
  • กันเสียงรบกวนได้ดี


ข้อจำกัด


  • มิติเสียงไม่กว้างเท่าครอบหู
  • ไม่ค่อยแข็งแรง
  • ใส่นานอาจเจ็บหู

หูฟังทรูไวเลส (True Wireless)


หูฟังทรูไวเลส (True Wireless) คือหูฟังที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากความสามารถในการพกพา ที่สะดวก ไร้สายพันกันตอนหยิบออกมาใช้เนื่องจากเป็นหูฟังที่ต้องใช้งานเชื่อมต่อแบบไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบ Wireless และ Bluetooth มีกล่องเก็บให้เรียบร้อยพร้อมกับการชาร์จแบตเตอรี่ภายในตัว ทำให้ใครหลายคนต่างก็เลือกใช้งานกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเกมที่เหมาะฟังกับหูฟังประเภทนี้นั้นก็ได้แก่ เกมมือถือ นั่นเอง


ข้อดี


  • เสียงดี ไมค์ชัด
  • พกพาสะดวก
  • ไม่มีสายเกะกะ


ข้อจำกัด


  • ต้องชาร์จแบต
  • Dongle ห้ามหาย (ยกเว้น Bluetooth)
  • เล่นเกมอาจมีดีเลย์บ้าง

การเชื่อมต่อ

อีกหนึ่งทางเลือกของเหล่าผู้คนในการซื้อหูฟังนั้นก็ได้แก่ การเชื่อมต่อ เพราะว่าการเชื่อมต่อของหูฟังแต่ละประเภทนั้นก็พร้อมจะตอบสนองความถนัดของแต่ละคน โดยการเชื่อมต่อนั้นจะสามารถทำได้ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือแบบ มีสาย และ ไร้สาย ซึ่งสำหรับหูฟังเกมมิ่งบางแบรนด์นั้นก็สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 2 แบบ อยู่ที่วิธีใช้การของแต่ละคน เพราะฉะนั้นแล้วมาดูการเชื่อมต่อกันดีกว่าว่าแต่ละแบบนั้นจะเป็นยังไงบ้าง คุณจะได้เลือกซื้อกับสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด

การเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อแบบมีสาย


ชื่อก็บอกแล้วว่าคือ การเชื่อมต่อแบบมีสาย ดังนั้นหูฟังจึงจำเป็นต้องมีสายสำหรับการเชื่อมต่อ โดยตัวสายนั้นจะพ่วงมากับตัวของหูฟังเลย ในเรื่องของความยาวนั้นจะอยู่ตั้งแต่ 1.5 - 1.8 ม. ความโดดเด่นของการเชื่อมต่อแบบนี้นั้นก็คือ คุณสามารถใช้งานได้เลยง่าย ๆ ไม่ต้องยุ่งยาก เพียงแค่เสียบใส่ช่องไม่ว่าจะเป็น USB หรือ AUX 3.5 ก็เริ่มการใช้งานได้ในทันที 


ข้อดี


  • เชื่อมต่อง่าย
  • มีความเสถียรสูง
  • ไม่ต้องชาร์จแบต


ข้อจำกัด


  • สายเกะกะ
  • ขั้วต่อมีโอกาสพัง

การเชื่อมต่อแบบไร้สาย


และอีกหนึ่งการเชื่อมต่ออย่าง การเชื่อมต่อไร้สายนั้น จะทำให้คุณไม่ต้องรู้สึกเกะกะจากสายที่พังกันอย่างยุ่งเหยิง เพราะหูฟังแบบนี้ใช้งานผ่าน Wireless และ Bluetooth ซึ่งใครที่ไม่ชอบให้มีสายอะไรพันตามตัว หรือใช้เวลาในการแกะสายนานจะต้องชอบการเชื่อมต่อแบบนี้แน่นอน และยังสามารถพกพาไปใช้งานข้างนอกได้อย่างสะดวกอีกด้วย


ข้อดี


  • ใช้งานระยะไกลได้
  • ไม่มีสายให้เกะกะ


ข้อจำกัด


  • เชื่อมต่อยากกว่า
  • อาจมีดีเลย์บ้าง
  • ต้องชาร์จแบต

ระบบเสียง

ระบบเสียง

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการคว้าชัยของเหล่าเกมเมอร์นั้นก็คือ ระบบเสียง ที่หูฟังนั้นจะมอบให้ เพราะยิ่งมีระบบเสียงที่ดีมากขึ้นเท่าไหร่ ความชัดเจนในการเล่นเกมต่าง ๆ ก็จะมีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงฉาก เสียงตัวละครทั้งการเคลื่อนไหวหรือการกระทำต่าง ๆ เช่น ยิงปืน เป็นต้น รวมไปถึงเสียงพาหนะที่จะเข้ามาหาเราจากทิศทางต่าง ๆ ยิ่งระบบเสียงดีเท่าไหร่ความชัดเจนก็จะสามารถบอกได้อย่างละเอียดทำให้คุณนั้นกำหนดทิศทางของเสียงได้เป็นอย่างดี โดยส่วนมากแล้วระบบเสียงของหูฟังเกมมิ่งจะมีด้วยกัน 2 แบบนั่นก็คือ 2.0 Stereo และ 7.1 Virtual


หมายเหตุ : ใครที่มีหูฟังเสียง 2.0 อยู่แล้วสามารถต่อกับซาวด์การ์ดเพื่อใช้งานฟีเจอร์จำลองเสียง 7.1 ได้

2.0 Stereo 


สำหรับระบบเสียงแบบแรกอย่าง 2.0 Stereo ถือว่าเป็นระบบเสียงมาตรฐานทั่วไป ซึ่งเสียงระบบนี้นั้นก็เป็นระบบสำหรับฟังเพลงและเล่นเกมทั่วไป เพราะมีตัวเสียงที่สมจริง ฟังแล้วสบายหู ไม่ต้องตกแต่งอะไรมากมาย ก็สามารถได้ยินรายละเอียดของเสียงได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับใช้เล่นเกมอย่าง FPS หรือจะใช้ฟังในเกมทั่วไปก็ได้ไม่มีปัญหา


ข้อดี


  • แยกตำแหน่งเสียงได้ดีกว่า 7.1
  • ให้มิติ/เวทีเสียงตรงกับต้นฉบับ


ข้อจำกัด


  • เวทีเสียงไม่สมจริงเมื่อเทียบกับ 7.1

7.1 Virtual 


ระบบเสียงแบบ 7.1 Virtual จะเป็นการสร้างเสียงให้ใกล้เคียงกับระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ เรียกได้ว่าทวีความกระหึ่มให้แก่การเล่นเกมหรือการดูหนังเป็นอย่างมาก เพราะตัวของเสียงนั้นจะกว้างและให้ความชัดเจนอย่างสูง ใครที่ชอบเสียงกระหึ่ม สะใจ เบสแน่น ๆ แล้วละก็ ต้องเลือกใช้ระบบเสียงนี้เลยครับ โดยตัวเสียงแบบนี้นั้นก็เหมาะกับการเล่นเกม RPG หรือ Openworld เพื่อการซึมซับกับบรรยากาศและเนื้อเรื่องภายในเกมให้ไม่ต่างกับการดูหนังดี ๆ สักเรื่องหนึ่งเลย


ข้อดี


  • เสียงบรรยากาศสมจริง
  • เพิ่มอรรถรสในการเล่น


ข้อจำกัด


  • แยกเสียงทิศทางยากกว่า 2.0

ฟีเจอร์เสริม

สำหรับหมวดหมู่ฟีเจอร์เสริมนั้น ก็คือลูกเล่นที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการใช้หูฟังเกมมิ่งให้มากขึ้น ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้นต่างก็มีฟีเจอร์เสริมที่แตกต่างกันออกไป ใครที่ชอบแบบไหนก็ลองตรวจสอบดูได้ว่าเข้ากับตัวตนของเราหรือไม่ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้เรานั้นได้ใช้งานหูฟังเกมมิ่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งบ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างดีที่สุด ซึ่งสำหรับฟีเจอร์เสริมหลัก ๆ นั้นมีอะไรกันบ้างนั้น ก็ไปดูกันได้เลย

ฟีเจอร์เสริม

ไฟ RGB 


ช่วยเพิ่มความสวยงามให้หูฟังกับไฟ RGB หลากหลายล้านสี ที่ไม่เพียงแค่ความสวยงามที่ตัวของหูฟังเท่านั้น แต่ยังถือว่าเป็นอีกสิ่งที่ช่วยตกแต่งโต๊ะเกมของเราให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีกด้วย เพราะมีคำกล่าวเอาไว้ว่า ไฟ RGB นั้นก็คือ หัวใจของการเป็นเกมเมอร์ กันเลยทีเดียว

ซอฟต์แวร์


หูฟังเกมมิ่งไหนที่มีการรองรับการตั้งค่าจากซอฟต์แวร์ จะทำให้การเล่นเกมของคุณนั้นสนุกมากยิ่งขึ้นในชั่วพริบตา เพราะคุณสามารถตกแต่งรูปแบบของเสียง หรือแม้แต่ไฟ RGB ให้มีลวดลายได้ตามใจชอบ อีกทั้งบางหูฟังยังมีการปรับแต่งสำหรับโหมดเกมต่าง ๆ ให้มีเสียงแตกต่างตามเกมที่คุณกำลังเล่นอีกด้วย

Noise-cancelling (ANC)


อีกหนึ่งฟีเจอร์เสริมที่แทบจะกลายเป็นฟีเจอร์หลักไปแล้วกับ ระบบตัดเสียงรบกวน ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ว่าจะเป็นเสียงเมาส์หรือคีย์บอร์ด ไม่ให้เข้าไปรบกวนเสียงของเกมในตอนที่คุณนั้นกำลังต้องการฟังรายละเอียดต่าง ๆ อย่างใจจดใจจ่อ ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ให้คุณนั้นดื่มด่ำกับเสียงในเกมได้อย่างเต็มที่กันเลยทีเดียว

ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน


นอกจากเสียงจะได้ยินชัดแล้ว การสื่อสารของคุณกับเพื่อนร่วมทีมก็ต้องชัดเจนไม่ต่างกัน ดังนั้นฟีเจอร์ทีเด็ดอย่าง ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน จึงควรที่จะต้องมีใช้เป็นอย่างมาก เพราะว่าการสนทนาทุกประโบค แผนทุกแผนที่เตรียมไว้สำหรับชัยชนะ จะได้สื่อสารออกมาได้อย่างคมชัด เข้าใจกันจนเหมือนนั่งอยู่ข้างกันโดยที่ไม่มีอะไรมากั้นขวาง

ไมโครโฟนถอดได้


สำหรับใครก็ตามที่เวลาเลิกเล่นเกมแล้วอยากเก็บหูฟังอย่างเป็นระเบียบ ไม่ต้องกลัวว่าไมโครโฟนที่ติดอยู่กับตัวหูฟังจะเกะกะนั้น ก็ขอแนะนำฟฟีเจอร์ ถอดไมโครโฟน ที่จะช่วยให้การใช้งานหรือการเก็บหูฟังหลังใช้งานนั้น สามารถทำได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น 

Game Mode (True Wireless)


ใครที่เลือกใช้งานหูฟังเกมมิ่งแบบ True Wireless นั้น อาจจะต้องเจอกับปัญหาอย่าง เสียงดีเลย์ จนทำให้พลาดจังหวะที่สำคัญไป แต่ไม่ต้องกังวลหากหูฟังที่คุณใช้นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์นี้ ก็จะช่วยลดดีเลย์ให้ต่ำในขณะที่กำลังเล่นเกม คุณจึงได้ยินเสียงในจังหวะที่เร็วขึ้น เพื่อไม่ให้การกะจังหวะในการชิงชัยของคุณนั้นคลาดเคลื่อนไป

สรุป ชอบเล่นเกมแนวนี้ ซื้อหูฟังแบบไหนดีนะ ?

หูฟังเกมมิ่ง

และก็เดินมาถึงบทสรุปกันแล้วนะครับกับการเลือกซื้อหูฟังเกมมิ่งที่พร้อมจะตอบสนองการใช้งานและเกมที่คุณต้องการจะเล่น ซึ่งใครที่ยังไม่รู้ว่าเกมที่ตนเองนั้นจะต้องเล่นเหมาะสมกับหูฟังแบบไหน หรืออุปกรณ์การเล่นเกมที่ตนเองนั้นใช้บ่อย ๆ จะเข้าคู่กับหูฟังอะไรดีนั้น ทาง Mercular ก็จัดทำเป็นตารางสรุปออกมาให้กับทุกคนได้ดูกันแล้วว่าจะจับคู่แบบไหนถึงจะได้ประสิทธิภาพที่สูงสุดสำหรับการใช้งานเพื่อให้คุณนั้นสามารถเล่นเกมออกมาได้อย่างเต็มที่ เล่นเกมกันได้อย่างกับโปรไปเลย

เกมคอมทั่วไป


ประเภท : ครอบหู/อินเอียร์

การเชื่อมต่อ : มีสาย (เน้นประหยัด !)

ระบบเสียง : 2.0/7.1 Virtual

ฟีเจอร์เสริม : RGB/ไมค์ถอดได้/ซอฟต์แวร์

เกม FPS


ประเภท : ครอบหู/อินเอียร์

การเชื่อมต่อ : มีสาย/ไร้สาย

ระบบเสียง : 2.0 (เน้นฟังเสียงเท้า !)

ฟีเจอร์เสริม : ANC/ไมค์ตัดเสียงรบกวน

เกมคอนโซล


ประเภท : ครอบหู/อินเอียร์

การเชื่อมต่อ : เลือกตามใจชอบ !

ระบบเสียง : 2.0/7.1 Virtual

ฟีเจอร์เสริม : ANC/ไมค์ตัดเสียงรบกวน

เกมมือถือ


ประเภท : อินเอียร์/ทรูไวเลส

การเชื่อมต่อ : ไร้สาย (เน้นพกพา !)

ระบบเสียง : 2.0

ฟีเจอร์เสริม : ANC/Game Mode

และสำหรับใครก็ตามที่กำลังหูฟังเกมมิ่งคุณภาพดีจากแบรนด์ชั้นนำนั้น Mercular ก็ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหูฟังเกมมิ่งแบบไหน ระบบเสียงอะไร รวมไปถึงฟีเจอร์เด็ดต่าง ๆ ก็สามารถเข้ามาเลือกได้เลยที่ Mercular.com รับรองได้เลยว่าเรานั้นคัดสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ มารวมกันเอาไว้ที่นี่แล้ว มีให้เลือกทุกราคาและทุกแบบที่คุณอยากจะมีเลยละครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2