5 วิธีเลือกซื้อ Smart Watch ให้เหมาะกับคุณ

สำหรับใครที่ยังมีความลังเลอยู่ว่าจะเลือกซื้อ Smart Watch หรือซื้อนาฬิกาทั่วไปที่ทำได้แค่ดูเวลาดี? ต้องบอกเลยว่า Smart Watch คุ้มค่ากว่าแน่นอน! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน แต่ Smart Watch นั้นถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะว่านอกจากจะสามารถดูเวลาได้แล้ว ยังสามารถรับสายเรียกเข้า รับการแจ้งเตือนข้อความ ตอบกลับแบบเรียลไทม์ ตรวจจับค่าสุขภาพอย่างอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด ตรวจจับแคลอรีระหว่างวัน ใช้จ่ายแบบไร้สัมผัส ควบคุมการทำงานแอปพลิเคชันการฟังเพลงได้บนข้อมือ และอื่น ๆ อีกมากมาย

เรียกได้ว่ามี Smart Watch เรือนเดียวนั้นช่วยอำนวยความสะดวกคุณได้มากเลยทีเดียว แต่การจะเลือกซื้อ Smart Watch นั้น จำเป็นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย วันนี้ Mercular ขอแนะนำวิธีเลือกซื้อ Smart Watch ให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณ ดังนี้

1. เลือกซื้อ Smart Watch จากดีไซน์และวัสดุ

สำหรับวิธีการเลือกซื้อ Smart Watch ในข้อแรกที่คุณควรพิจารณาเลยคือการเลือกซื้อจากดีไซน์และวัสดุ เนื่องจากอุปกรณ์อย่าง Wearable นั้นเป็นอุปกรณ์ที่สวมใส่ภายนอก ดังนั้นการเลือกดีไซน์ที่ดูดีและเหมาะกับสไตล์ของเราจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งปัจจุบันมีทั้งดีไซน์แบบวงกลมและสี่เหลี่ยม ทั้ง 2 รูปแบบนั้นสามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย แต่อาจจะต้องพิจารณาจากขนาดด้วยเช่นกัน ซึ่งขนาดที่พบได้ในปัจจุบันก็มีตั้งแต่ 39 มิลลิเมตรไปจนถึง 50 มิลลิเมตรเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงควรพิจารณาขนาดของข้อมือให้เหมาะสมกับหน้าปัดนาฬิกาด้วยเช่นกัน

ในเรื่องของวัสดุก็ถือเป็นอีกหนึ่งข้อควรพิจารณาก่อนการเลือกซื้อ Smart Watch เช่นกัน ปัจจุบันตัวเรือนมักใช้เป็นอลูมิเนียม อัลลอย ไทเทเนียม เป็นต้น เนื่องจากมีความทนทานแข็งแรงและน้ำหนักเบา หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายล่ะก็ การเลือกซื้อตัวเรือนและสายที่สามารถกันน้ำได้ หรือสามารถทำความสะอาดได้นั้นถือเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างมาก หากเลือกซื้อนาฬิกาที่เป็นสายหนัง อาจทำให้เสื่อมสภาพการใช้งานได้ไวและอาจส่งกลิ่นอับได้เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน ดังนั้นการเลือกวัสดุที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเลยล่ะ

2. เลือกซื้อ Smart Watch จากฟีเจอร์

ในช่วงที่ Smart Watch นั้นได้รับความนิยม ทำให้หลาย ๆ แบรนด์มีการพัฒนาฟีเจอร์และฟังก์ชันการใช้งานกันอย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ โซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งเรื่องของสุขภาพ จึงทำให้การเลือกซื้อ Smart Watch สักเรือนนั้นจำต้องพิจารณาถึงข้อนี้ด้วย ดังนั้นเราจึงขอแนะนำฟีเจอร์โดดเด่นที่ควรนำไปพิจารณาก่อนการเลือกซื้อ Smart Watch ดังนี้

-หน้าจอ Touch Screen นั้นรองรับการแสดงค่าแบบ Always-On หรือไม่?

-รองรับการตรวจจับค่าสุขภาพอะไรบ้าง? (อัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าออกซิเจนในเลือด, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG, คุณภาพการนอนหลับ, การหายใจ, ความเครียด)

-มาตรฐานการกันน้ำอยู่ที่เท่าไหร่? สามารถใส่ดำน้ำได้ไหม

-โหมดการออกกำลังกาย มีมาให้ในตัวเรือนหรือไม่? มีกี่ประเภทการออกกำลังกาย? 

-แจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความเข้าไหม? สามารถรับสายและตอบกลับข้อความได้ทันทีหรือไม่?

-มีระบบ GPS ในตัว ที่สามารถตรวจจับตำแหน่งที่อยู่ได้แม่นยำไหม? ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนมาก็สามารถใช้งานได้หรือไม่?

-สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้หรือไม่?

-ควบคุมแอปพลิเคชันการฟังเพลงได้บนตัวเรือนเลยไหม?

-สามารถใช้จ่ายระบบ Cashless ได้บนตัวเรือนได้หรือไม่?

สิ่งที่ควรพิจารณาด้านบนนั้นเป็นเพียงข้อพิจารณาก่อนการเลือกซื้อ Smart Watch ในเรื่องของฟีเจอร์การทำงานเบื้องต้นเท่านั้น แท้จริงแล้วยังมีฟีเจอร์การทำงานอีกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้นแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นคุณจึงควรพิจารณาฟีเจอร์การทำงานของ Smart Watch แต่ละเรือนให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณเสียก่อน จึงค่อยจัดสินใจซื้อ

3. เลือกซื้อ Smart Watch จากการเชื่อมต่อ

อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีว่า Smart Watch นั้นจะทำงานร่วมกันกับสมาร์ทโฟน ดังนั้นการเลือกซื้อ Smart Watch จากการเชื่อมต่อจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ หากคุณใช้งาน Apple คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับ Smart Watch ที่รองรับการเชื่อมต่อด้วยระบบ iOS อย่างง่ายดาย แต่หากคุณใช้สมาร์ทโฟนระบบอื่นอย่าง Android หรือ Windows คุณอาจจะต้องพิจารณาการเชื่อมต่อให้ดีเสียก่อน ว่าสามารถเชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth หรือ WiFi ได้ทันทีเลยหรือไม่ ทางที่ดีก่อนการเลือกซื้อ ควรพิจารณาคุณสมบัติอย่างละเอียด และลองเชื่อมต่อดูก่อนว่าสามารถเชื่อมต่อได้อย่างลื่นไหลหรือไม่ และสามารถใช้แอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ปกติหรือไม่ จึงจะเลือกซื้อมาใช้งาน

4. เลือกซื้อ Smart Watch จากความจุแบตเตอรี

มองเห็นแบตเตอรี 99% บนสมาร์ทโฟนก็ไม่อยากออกจากบ้านแล้ว สมาร์ทวอทช์ก็เช่นกัน! ดังนั้นการเลือกซื้อ Smart Watch จากความจุของแบตเตอรีก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพิจารณาก่อนเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์สักเรือน โดยส่วนใหญ่แล้วหากเป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่เป็นหน้าจอสีรองรับการแสดงผลแบบ Always-On จะสามารถอยู่ได้นาน 1-2 วันต่อการชาร์จแบตเตอรี 1 ครั้ง แต่ในบางรุ่นนั้นสามารถอยู่ได้นานถึง 15 วัน 30 วัน ฯลฯ ขึ้นอยู่กับความจุและฟีเจอร์การทำงานด้วย เพราะฉะนั้นคุณจึงควรพิจารณาก่อนว่าคุณขยันชาร์จแบตเตอรีนาฬิกาได้บ่อยแค่ไหน ในบางรุ่นรองรับการชาร์จแบบ Wireless Charger อาจช่วยทุ่นเวลาและอำนวยความสะดวกในการชาร์จแบตเตอรีของคุณมากขึ้น

5. เลือกซื้อ Smart Watch จากราคาที่เข้าถึงได้

การเลือกซื้อ Smart Watch จากราคานั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีการเลือกซื้ออย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานที่สุด ซึ่งในปัจจุบันสมาร์ทวอทช์นั้นมีตั้งแต่ราคาไม่ถึงพันไปจนถึงสี่ห้าหมื่น ซึ่งจะแตกต่างกันตั้งแต่ดีไซน์ การออกแบบ วัสดุ ฟีเจอร์การทำงาน ฯลฯ เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการ Smart Watch เพื่อใช้งานแบบเบสิกพื้นฐานล่ะก็ ราคาพันต้น ๆ ก็ถือว่าตอบโจท์การใช้งานแล้วล่ะ หากใครยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ Smart Watch ในราคาพันต้น ๆ ที่ไหน เรารวมไว้ให้แล้วที่นี่ 5 อันดับ Smart Watch ราคาไม่เกิน 2,000 ปี 2022 บอกเลยว่าใช้งานได้นานคุ้มค่าแน่นอน!

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 วิธีเลือกซื้อ Smart Watch ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณและตอบโจทย์การใช้งานอย่างถ่องแท้ คุณสามารถเซฟบทความนี้ไว้แล้วนำไปพิจารณากันหน้าร้านขายสมาร์ทวอทช์ได้เลย แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์แบรนด์ไหนดี? Mercular เรารวม 10 สมาร์ทวอทช์ ของมันต้องมี ปี 2022 ไว้ให้แล้ว สามารถไปเลือกพิจารณาฟีเจอร์พร้อมช้อปไปกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง!