ซื้อแท่นชาร์จไร้สาย ดูยังไง เลือกยี่ห้อไหนดี?
18 พ.ค. 2564
เทคโนโลยี Wireless Charging ภายในแท่นชาร์จไร้สาย นั้นเรียกได้ว่ามีการพัฒนามาอย่างยาวนาน และปัจจุบันก็เป็นเทคโนโลยีการชาร์จที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ถูกนำไปใช้กับสินค้าหลากหลายชนิด เช่น Smartphone, หูฟัง True Wireless และอุปกรณ์ Gadget Accessory ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการชาร์จไร้สายนั้นนอกจากจะช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่สะดวกสบายเพียงนำอุปกรณ์มาวางไว้บนแท่นชาร์จไร้สายเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายทั้งไม่ต้องคอยพกสายชาร์จและไม่เกะกะสายระหว่างชาร์จอีกด้วย รวมถึงยังช่วยให้พอร์ตการเชื่อมต่อไม่สึกหรอเนื่องจากถูกเสียบเข้าออกบ่อยๆ อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าผู้ใช้งานหลายๆ คนน่าจะรู้จักและเข้าใจหลักการทำงานของแท่นชาร์จไร้สายกันอยู่บ้างแล้ว แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่แน่ใจก่อนจะไปดูวิธีเลือกซื้อแท่นชาร์จไร้สายเรามาทำความเข้าใจหลักการทำงานของ Wireless Charger กันก่อนครับ
ที่ชาร์จไร้สายมีหลักการทำงานยังไง?
หลักการชาร์จของที่ชาร์จ Wireless Charger อธิบายง่ายๆ ก็คือตามชื่อเลยนั่นคือการชาร์จแบตเตอรี่โดยไม่ต้องใช้สายชาร์จมาเชื่อมระหว่างฝั่งอุปกรณ์ปล่อยพลังงานและฝั่งอุปกรณ์รับพลังงาน โดยภายในแท่นชาร์จไร้สายและอุปกรณ์ที่นำมาชาร์จจะมีขดลวดพันกันอยู่ ซึ่งขดลวดฝั่งที่ชาร์จจะแปลงพลังงานไฟฟ้าและปล่อยออกมาเป็นพลังงานแม่เหล็ก และขดลวดในอุปกรณ์ที่จะนำมาชาร์จก็จะรับพลังงานแม่เหล็กไปและเปลี่ยนให้เป็นกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่นั่นเอง
ข้อดี/ข้อเสีย ของแท่นชาร์จไร้สาย
ข้อดีก็คือความสะดวกสบายในการใช้งาน ส่วนข้อควรระวังคือการชาร์จแบบนี้จะใช้วิธีส่งคลื่นแม่เหล็กแบบกระจายออก แต่เฉพาะคลื่นที่ส่งมาตรงบริเวณแผ่นรับเท่านั้นที่จะถูกนำไปแปลงเป็นไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ หรือก็คือปล่อยไฟมา 100% แต่เข้าเครื่องจริงๆ เพียง 70% เท่านั้น ทำให้ใช้เวลานานกว่าชาร์จด้วยสายชาร์จ รวมถึงตัวขดลวดเมื่อแปลงคลื่นแม่เหล็กเป็นกระแสไฟฟ้ามากๆ ก็จะทำให้เกิดอาการร้อน ซึ่งในที่ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดการละลายก็เป็นได้
จะซื้อ แท่นชาร์จไร้สาย 2021 ควรดูจากอะไรดี?
ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย หลายๆ ค่ายต่างพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น ทั้งความเร็วในการชาร์จที่เพิ่มขึ้น การจัดการความร้อนที่ดีขึ้น ด้วยวงจรประมวลผลและชิพต่างๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาและใส่เข้าไปภายในสินค้าเพื่อช่วยประมวลผลให้อุปกรณ์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมาก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจะซื้อสินค้าที่ดีและคุ้มค่าตอบโจทย์การใช้งานรวมถึงมีความปลอดภัยควรจะพิจารณาจากอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ
1. เลือกรูปร่างของแท่นชาร์จไร้สายให้ตรงกับการใช้งานที่สุด
ก่อนหน้านี้สินค้าส่วนใหญ่จะมีรูปทรงไปในทางเดียวกันก็คือ เป็นถาดแบนๆ ทรงกลม เวลาต้องการชาร์จก็วาง Smartphone ลงไปตรงๆ ทำให้เวลาต้องการใช้ Smartphone จึงจำเป็นที่จะต้องหยิบขึ้นมาดูอยู่เสมอ ชาร์จไปใช้งานไปไม่ได้ กลายเป็นว่าไม่สะดวกเท่าที่ควรจะเป็น ทำให้ในปัจจุบันหลายๆ แบรนด์ก็ต่างออกแบบสินค้าของตนเองให้มีหลากหลายรูปทรงให้ได้เลือกซื้อด้วยกัน โดยเฉพาะทรงที่สามารถนำ Smartphone มาวางทั้งแนวตั้งเพื่อสะดวกในการมอง รวมถึงการแสกนหน้า Face ID บน iPhone ไม่ต้องหยิบขึ้นมาดูทุกครั้งให้วุ่นวาย และยังใช้งานพิมโต้ตอบหรือแชทคุยไปด้วยได้ หรือจะวางแนวนอนให้ทำมุมกับสายตาสำหรับการรับชมคลิปวิดีโอออนไลน์ YouTube Netflix ไปด้วยก็ได้ เช่นในสินค้า แท่นชาร์จไร้สาย Belkin Boost Up Wireless Charging Stand (10W) ที่ออกแบบมาให้สามารถวาง Smartphone ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยไม่ต้องวางลงไปกับพื้น เป็นต้น
2. เลือกสเปคแให้ตรงกับความต้องการและการรองรับของ Smartphone
ในปัจจุบันสามารถให้พลังงานการชาร์จได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม โดยเริ่มต้นที่แท่นชาร์จไร้สาย 5W ไปจนถึงแท่นชาร์จไร้สาย 27W เลยทีเดียว โดยตัวเลขที่มากขึ้นก็หมายถึงการชาร์จได้ไวขึ้นตามกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ส่งออกไปนั่นเอง โดยนอกจากจะดูที่สเปคของแท่นชาร์จแล้ว ก็ต้องดูที่สเปคของ Smartphone หรืออุปกรณ์ที่จะนำมาชาร์จด้วยเช่นกัน เช่นบน iPhone 12 Series ที่ตอนนี้รองรับการชาร์จไร้สายสูงสุดที่ 15W ผ่าน แท่นชาร์จไร้สาย MagSafe หรือรุ่นก่อนหน้าที่รองรับการชาร์จไร้สายสูงสุดที่ 7.5W รวมไปถึง แท่นชาร์จไร้สาย Huawei ที่ชาร์จได้สูงสุดถึง 27W เมื่อใช้กับ Smartphone Huawei ที่รองรับ ซึ่งตรงนี้ควรตรวจสอบให้ดีว่า Smartphone ที่ใช้รองรับการชาร์จสูงสุดที่กี่ W เพราะแม้จะซื้อสินค้า Spec สูงๆ ไปแต่หาก Smartphone หรืออุปกรณ์ที่ใช้รองรับการชาร์จสูงสุดไม่มากก็ไม่มีประโยชน์ครับ
3. เลือกแท่นชาร์จไร้สายที่รองรับมาตรฐาน Qi เพื่อความปลอดภัย
ปัจจุบันมาตรฐานการชาร์จไร้สายส่วนมากในตลาดจะใช้เป็น Qi (Standard) Wireless Charging หรือภาษาไทยเรียกว่าฉี ซึ่งมีความปลอดภัยได้มาตรฐานสากลและถูกใช้อย่างแพร่หลายเช่นใน Smartphone iPhone, Samsung และ Android แบรนด์อื่นๆ เป็นต้น ข้อดีของมาตรญานนี้คือตัดปัญหาเรื่องสายชาร์จคนละเส้นออกไปได้มาก จากที่ผู้ใช้งาน iPhone ต้องใช้สาย Lightning ผู้ใช้งาน Android บางรุ่นใช้ USB Type C และบางรุ่นใช้ Micro USB ก็เปลี่ยนมาใช้แท่นชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ร่วมกันได้ลดความสิ้นเปลืองออกไปได้มากทีเดียว และในปัจจุบันอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับการชาร์จไร้สายก็ยังยังเลือกใช้มาตรฐานการชาร์จ Qi อีกด้วย พูดได้ว่ามี Qi ไว้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
4. เลือกแท่นชาร์จไร้สายที่มีระบบตรวจจับความร้อน
ยังคงเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากและเป็นของคู่กันระหว่าง แท่นชาร์จไร้สายและความร้อน นั่นเป็นเพราะกระบวนการการเหนี่ยวนำกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า หรือก็คือการแปลงคลื่นแม่เหล็กมาเป็นคลื่นไฟฟ้าจะทำให้เกิดความร้อนที่บางครั้งหากไม่มีชิพประมวลผล หรือระบบการจัดการความร้อนดีๆ ก็อาจจะทำให้อุปกรณ์ที่ชาร์จเกิดความร้อนสูงจนทำให้ละลาย หรือไปถึงขั้นระเบิดได้โดยเฉพาะสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นจึงควรเช็คทุกครั้งว่าแท่นชาร์จนั้นมีระบบจัดการความร้อนมาในตัวหรือไม่ เช่น ตัดหรือพักการส่งคลื่นไฟฟ้าหากมีระดับอุณหภูมิที่สูงเกินไป หรือส่งคลื่นชาร์จเป็นระยะเพื่อลดความร้อนที่จะเกิดขึ้นลง ทั้งนี้เทคโนโลยีนี้อาจถูกใส่มา Smartphone เรือธงของแบรนด์ดังเช่น Apple และ Samsung เป็นต้น ที่จะมีระบบตรวจจับความร้อนหากเครื่องร้อนเกินไปก็จะหยุดรับและแปลงคลื่นไฟฟ้าชั่วคราวจนกว่าเครื่องจะเย็นลงโดยอัตโนมัติ แต่ทั้งนี้เทคโนโลยีนี้ก็มีบนสินค้าจากแบรนด์เด่นๆ เช่น แท่นชาร์จไร้สาย Anker, แท่นชาร์จไร้สาย Aukey, แท่นชาร์จไร้สาย Energea และ แท่นชาร์จไร้สาย Belkin ด้วยเป็นต้น
5. ราคาก็เป็นส่วนสำคัญต่อการเลือกซื้อแท่นชาร์จไร้สาย
ปัจจัยสุดท้ายที่จะมาแนะนำกันก็คงไม่พ้นเรื่องของราคา ในปัจจุบันมีสินค้ามากมายหลายราคารให้เลือกทั้งราคาสูง ราคากลาง และราคาเป็นมิตร ที่สำหรับบางแบรนด์แม้จะมีราคาไม่สูงมากแต่ก็ต้องยอมรับว่าของถูกและดีมีอยู่จริง เช่น แท่นชาร์จไร้สาย Anker และ แท่นชาร์จไร้สาย Energea เป็นต้น ในขณะเดียวกันบางแบรนด์แม้จะมีราคาที่สูงแต่ก็มาพร้อมความคุ้มค่าที่มากขึ้น เช่น มีช่องชาร์จหลายช่องสำหรับชาร์จได้หลายอุปกรณ์เช่น iPhone Apple Watch และ AirPods วัสดุที่เลือกใช้มีความทนทาน แข็งแรง และดูหรีเมียม รวมไปถึงเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและการรับประกัน เป็นต้น ดังนั้นการจะเลือกซื้อให้คุ้มค่าจึงขึ้นอยู่กับ งบประมาณที่มีกับความต้องการในการใช้งาน ถ้ามีงบมากการจ่ายหนักครั้งเดียวก็ถือว่าเป็นการเจ็บแต่จบ ได้สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานได้ในทีเดียว หรือถ้ามีงบน้อยก็เลือกสินค้าที่มีความปลอดภัย ชาร์จได้เร็วในราคาที่สบายกระเป๋า ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์และหลากหลากหลายรุ่นด้วยเช่นกันครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับคำแนะนำในการซื้อแท่นชาร์จไร้สาย ดูยังไง เลือกยี่ห้อไหนดี? ที่ทาง Mercular.com นำมาแนะนำกันในครั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาสินค้าราคาคุ้มค่า ฟังก์ชันครบครัน รวมถึงอุปกรณ์เสริมมือถือที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานในราคาสุดเป็นมิตรก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อกันได้เลยครับ ทางทีมงานหวังว่าบทความและข้อมูลในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกซื้อสินค้าไม่มากก็น้อยครับ ครั้งหน้าหากมีข้อมูล ความรู้ หรือเรื่องราวใดๆ ที่น่าสนใจอีก ทาง Mercular.com ก็จะรีบนำมาแนะนำกันอย่างแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้สวัสดีครับ