วิธีเลือกซื้อสายชาร์จที่ถูกต้อง ต้องดูอะไรบ้าง? ใช้แล้วปลอดภัย
28 ม.ค. 2565
หลายคนมักจะมองข้ามในเรื่องของการเลือกซื้อสายชาร์จที่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลที่ว่า สายชาร์จแบบไหนก็สามารถชาร์จใช้งานได้เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สายชาร์จมือถือ แต่ละแบบ แต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกันอยู่ ปัจจุบันนี้สายชาร์จจะมาพร้อมดีไซน์ มีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลาย ทั้งแบบสายชาร์จ Lightning, สายชาร์จ Type C, สายชาร์จ Micro USB และสายชาร์จอเนกประสงค์ หรือ สายชาร์จ 3 in 1 สามารถชาร์จได้ทั้ง Micro-USB , Type-C , Lightning บางสายชาร์จก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วอีกด้วย ราคาก็มีให้เลือกซื้อตั้งแต่ราคาย่อมเยาที่หลักร้อย ไปจนถึงราคาสูงถึงหลักพัน ยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่มากเท่าไร ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการเลือกสายชาร์จที่มีคุณภาพดีได้มาตรฐานก็จะส่งผลให้ใช้งานได้ยาวนาน ไม่เกิดปัญหาขึ้น
สายชาร์จไม่ได้มาตรฐาน จะชาร์จเท่าไหร่แบตเตอรี่ก็ไม่เต็ม
หลายคนอาจได้เคยอ่านบทความกันมาบ้างแล้วกับ บทความในเรื่องการเลือกซื้อสายชาร์จควรดูจากอะไรบ้าง? แต่จะเลือกยังไงให้ถูกต้องที่สุด เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่ วันนี้ Mercular อยากมาแนะนำ วิธีเลือกซื้อสายชาร์จที่ถูกต้อง ต้องดูอะไรบ้าง? เพื่อที่ว่าผู้ใช้งานจะได้ซื้อสายชาร์จที่ได้คุณภาพดี ใช้งานได้ยาวนาน หรือหากว่าใครที่ยังสงสัยในเรื่องของสายชาร์จธรรมดา และสายชาร์จเร็ว แตกต่างกันอย่างไร ทำไมต้องใช้งานสายชาร์จเร็ว เราก็มีมาฝากกันครับ
สายชาร์จธรรมดา และสายชาร์จเร็ว แตกต่างกันยังไง?
ทำไมต้องใช้สายชาร์จเร็ว? ในยุคนี้ต้องบอกเลยว่า การดำรงชีวิตของคนส่วนใหญ่หมดเวลาไปกับการใช้งาน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไอแพด และคอมพิวเตอร์ ด้วยเหตุนี้ สายชาร์จ และหัวชาร์จจึงเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามาช่วยเติมเต็มแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ ให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แล้วหากว่าเราต้องใช้เวลาในการชาร์จแบตมือ หรืออุปกรณ์ Smart Gadget เป็นเวลานานถึง 3 - 5 ชั่วโมง ก็คงจะไม่ไ่ด้ ด้วยสายชาร์จธรรมดาทั่วไปอาจจะทำให้การใช้งานของเราสะดุดลงไป พลาดโอกาสต่าง ๆ หลายแบรนด์หลายค่ายมือถือเลยต่างพยายามออกเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มาช่วยเหลือผู้ใช้งานในเรื่องนี้ ฟีเจอร์หลัก ๆ ที่ทุกแบรนด์ทางเลือกเลือกใช้นั่นก็คือ การชาร์จเร็ว Fast Charging ด้วยสายชาร์จและ หัวอะแดปเตอร์ ไปจนถึงแบตชนิดใหม่ที่มาพร้อมคววามอึดขึ้นกว่าเดิม ทำให้เกิดเป็น สายชาร์จเร็ว และหัวชาร์จเร็ว ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย สิ่งที่จะมาช่วยในการเร่งพลังงานให้กับแบตเตอรี่ของคุณให้ใช้เวลาในการชาร์จที่สั้นลง ที่จากปกติต้องชาร์จแบตต่อเนื่อง 3 - 5 ชั่วโมง สำหรับสมาร์ทโฟน 1 เครื่อง ก็อาจจะลดเหลือเพียง ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากครับ
สายชาร์จเร็ว สิ่งที่จะช่วยเร่งพลังงานให้กับแบตเตอรี่ของคุณให้ใช้เวลาในการชาร์จสั้นลง
นอกจากนี้ Mercular อยากมาแนะนำแบรนด์ผู้ผลิตทางเลือกทั้งสายชาร์จไอโฟน, สายชาร์จ Type C, สายชาร์จ Type C To Type C, สายชาร์จ Micro USB และอย่าง สายชาร์จอเนกประสงค์ 3 in 1 / 2 in 1 ทั้งแบรนด์ยอดนิยมทั่วโลก และแบรนด์ยอดนิยมในไทย อย่าง Aukey, Anker, Nomad, Xiaomi, Belkin, Energea, Eloop, Hoco และ Remax เป็นต้น ที่จะช่วยให้เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น และทำให้มั่นใจได้ว่าได้ของมีคุณภาพ ปลอดภัยต่ออปุกรณ์ของคุณอย่างแน่นอน
5 วิธีการเลือกซื้อสายชาร์จที่ถูกต้อง
1. การชาร์จ และอุปกรณ์ที่รองรับ
ข้อแรกถือว่าสำคัญที่สุด! เพราะถึงแม้ว่าสายชาร์จจะออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนที่รองรับ แต่หากว่าเราใช้งานไม่ตรงตามอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่ก็ส่งผลทำให้ใช้งานร่วมกันไม่ได้ เพราะบางแบรนด์บางรุ่นก็มีคุณสมบัติพิเศษของมือถือที่แตกต่างกันรวมถึงค่าแรงดันไฟของที่ชาร์จ ดังนั้นก่อนเลือกสายชาร์จ เราควรตรวจสอบก่อนว่าอุปกรณ์เสริมมือถือที่เราใช้งานอยู่นั้นรองรับสายชาร์จพอร์ตแบบไหน? จ่ายไฟปริมาณที่เท่าไร? สายชาร์จที่เราเลือกใช้อยู่เพียงพอหรือเหมาะสมกับหัวชาร์จหรือไม่? รวมไปถึงหัวชาร์จที่เราเลือกมาใช้งานนั้นจะต้องแรงดันไฟเพียงพอกับสายชาร์จที่เราเลือกใช้งานด้วย หากว่าเราเลือกใช้งานสายชาร์จที่ไม่ตรงตามอุปกรณ์ย่อมส่งผลเสียมากมายไม่ว่าจะชาร์จใช้งานไม่ได้ จ่ายไฟไม่เต็มประสิทธิ ถึงขั้นแย่สุดคือ สมาร์ทโฟนของเราอาจเกิดความเสียหายขึ้นได้
2. ดีไซน์ และวัสดุ
เรื่องของดีไซน์ และวัสดุถือได้ว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันก่อนทำการเลือกซื้อเราควรเลือกใช้สายชาร์จที่มีความแข็งแรงเน้นทนทาน วัสดุของสายชาร์จที่มีให้เห็นอยู่มีทั้งพลาสติกแข็ง PVC, ยาง TPE, เชือกถักไนล่อน และอลูมิเนียม หากใครที่อยากได้สายชาร์จที่มีความทนหทาน ไม่ขาดง่าย แนะนำเป็นวัสดุไน่ล่อนถัก แต่หากเน้นความเรียบง่ายดีไซน์คล้ายแบรนด์ผู้ผลิตมือถืออย่าง Apple แนะนำเป็นสายชาร์จวัสดุ TPE แต่หากเน้นเรื่องความสวยงามแตกต่างแนะนำเป็นอลูมิเนียม แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้งานดีไซน์ไหนอยากให้เลือกจากแบรนด์ที่ใช้วัสดุคุณภาพ ได้มาตรฐานเพื่อให้อยู่ใช้งานกับเราไปได้นาน
3.แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน
การซื้อสายชาร์จ เราควรเลือกสายชาร์จที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าสินค้าที่ผลิตจากแบรนด์ผู้ผลิตที่ไว้ใจได้ถือว่าเป็นการรับรองคุณภาพสายชาร์จไปในตัวอีกด้วย เช่น สายชาร์จไอโฟน หรือสาชาร์จ Lightning ควรเลือกสายชาร์จที่ได้มาตรฐาน MFi (Made for iPhone) มาตรฐานอุปกรณ์เสริมจาก Apple ทำให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อย่าง iPhone และ iPad ได้อย่างปลอดภัยไม่เกิดการขึ้นฟ้อง ส่วนแบรนด์สายชาร์จที่เราจะเลือกซื้อควรดูก่อนว่าแบรนด์นั้นมีคุณภาพดีมีมาตรฐานรองรับหรือไม่ อาจจะดูจากรีวิวจากผู้ใช้งานจริงก่อน เลือกซื้อเพื่อทำให้เราแน่ใจขึ้นว่าแบรนด์นี้ไว้ใจได้
4. ราคา
ทุกวันนี้เราจะเห็นว่าสายชาร์จมีหลายแบรนด์ทางเลือกให้ซื้อใช้งานกันค่อนข้างมากมาย ส่วนใหญ่สายชาร์จที่มาในค่อนข้างสูงจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว เลยส่งผลทำให้ราคาสูงขึ้นตามประสิทธิภาพ บางคนเลยเลือกที่จะซื้อสายชาร์จราคาถูก เพราะคิดว่าก็สามารถชาร์จใช้งานได้เหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว ไม่จริงเสมอไป สายชาร์จอาจจะจ่ายไฟไม่ตรงตามสเปคเครื่อง หรือไม่ได้มีมาตรฐานคุณภาพ ซึ่งนั่นส่งผลเสีย อาจทำให้ใช้ไปไม่กี่ครั้งก้ต้องเปลี่ยน อาจถึงขั้นอุปกรณ์เสริมของเราเกิดความเสียหายอีกด้วย
5.ความยาว
ตัวสุดท้ายคือในเรื่องของความยาวสายชาร์จ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้ผู้ใช้งานเลือกใช้งาน ความยาวสายชาร์จที่เหมาะสม จะส่งผลช่วยให้เราใช้งานสายชาร์จ และสมาร์ทโฟนได้สะดวกสบายมากขึ้น สายชาร์จในตอนนี้มีความยาวให้เลือกหลากหลาย หากต้องสายชาร์จสำหรับพกติดตัวไปทำงานนอกสถานที่ เดินทางหรือใช้งานคู่กับแบตสำรอง ความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร จะเป็นความยาวที่พอดีไม่ทำให้สายไม่พันกัน แต่หากต้องการใช้งานสายชาร์จสำหรับ ชาร์จใช้งานที่โต๊ะปลั๊กอยู่ไกลหน่อย ควรเลือกสายความยาวประมาณ 1 เมตร เพื่อที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกจะไม่เกะกะ และหากอยากได้ยาวกว่านั้น 2 เมตรก็มีให้เลือกซื้อใช้งานกัน ส่วนใหญ่จะเลือกไปใช้งานบนเตียง หรือพื้นที่ระยะไกลมาก ๆ จากปลั๊กเสียบเพื่อป้องกันไม่ให้สายไม่ตึง ไม่หลุดง่าย และไม่ทำให้สายหักงอีกด้วย
ก็จบลงไปแล้วกับ Buying Guide 5 วิธีเลือกซื้อสายชาร์จที่ถูกต้อง ต้องดูอะไรบ้าง? เพื่อที่ว่าผู้ใช้งานจะได้ซื้อสายชาร์จที่ได้คุณภาพดี ถูกต้องเอาไว้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของความแตกต่างระหว่างสายชาร์จธรรมดา และสายชาร์จเร็ว แตกต่างกันอย่างไร แล้วทำไมสายชาร์จเร็วจึงดีกว่า สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเลือกใช้งานสายชาร์จแบบไหน อยากให้เลือก สายชาร์จที่ตอบโจทย์มากที่สุด และได้คุณภาพ พร้อมมตรฐาน หากว่าเราซื้อสายชาร์จราคาถูกจนน่าตกใจมาใช้ อาจส่งผลใฟ้ใช้งานไมไ่ด้ เพราะในปัจจุบันนี้แบรนด์มือถือส่วนใหญ่อย่าง Apple มาพร้อมฟังก์ชันตรวจจับสายชาร์จปลอม และส่งผลให้ปฏิเสธการชาร์จใช้งาน อาจทำให้คุณเสียเงินไฟรี ๆ ดังนั้นเลือกซื้อสายชาร์จจากแบรนด์ผู้ผลิตที่ไว้ใจได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน เพื่อความคุ้มค่า ทำให้ใช้งานไปนานอีกนาน ซึ่งตอนนี้ Mercular.com ได้มีสายชาร์จคุณภาพ แบรนด์ยอดนิยมมีมาตรฐาน จึงทำให้เรามั่นใจได้ในเรื่องของปลอดภัย ส่วนครั้งหน้าจะเป็นบทความอะไรอีกรอติดตามกันได้เลย วันนี้ไปก่อน สวัสดีครับ