วิธีเลือกซื้อเมาส์เกมมิ่ง สำหรับเล่นเกม
23 ก.ย. 2561
หลังจากที่เราเคยแนะนำ คีย์บอร์ด และ หูฟัง ให้เพื่อนๆกันไปแล้ว อีกหนึ่งอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ที่จะขาดไปไม่ได้เพราะถือได้ว่าเปรียบเสมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ของเหล่าบรรดาเกมเมอร์นั่นก็คือ เมาส์เกมมิ่ง นั่นเอง เพราะเนื่องจากทุกวันนี้เกมเมอร์จำนวนไม่น้อย เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับอุปกรณ์นี้กันมากขึ้นเพราะช่วยให้การเล่นเกมของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อเมาส์เกมมิ่งแบบไหน หรือต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อเมาส์เกมมิ่ง สำหรับเล่นเกม ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
1. ประเภทเกมที่เล่น
เมาส์เกมมิ่งแต่ละรุ่นนั้นก็ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมที่แตกต่างแนวออกไป โดยส่วนใหญ่จะถูกแยกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆนั้นก็คือแนวเกม Moba และ FPS โดยเมาส์ทั้งสองประเภทนี้จะแยกออกจากกันอย่างชัดเจนโดยเราจะมาแยกประเภทของเมาส์ที่เหมาะในแต่ละแนวเกมกัน
โดยเมาส์สำหรับเกมแนว FPS นั้นการออกแบบจะออกมาให้ เข้ากับสริระ ของมือเรามากที่สุด จึงช่วยให้การควบคุมเมาส์ของเราทำได้ดียิ่งขึ้น ส่วนในด้านมาโคร นั้นตัวเมาส์สำหรับการเล่นเกม FPS นั้นจะมีปุ่มมาโคร ที่ค่อนข้างน้อยประมาณ 2-3 ปุ่มเท่านั้น เพราะว่าการเล่นเกม FPS นั้นไม่จำเป็นต้องใช้งานปุ่ม มาโคร สักเท่าไหร่
ส่วนเมาส์สำหรับเกมแนว Moba นั้นจะมีปุ่ม มาโครที่ค่อนข้างเยอะ เน้นไปที่รูปลักษณ์ที่ค่อนข้างทันสมัย เนื่องจากเมาส์แบบนี้นั้นจะไม่ต้องเน้นการควบคุมมากนักแต่จะต้องเน้นตัว เซนเซอร์เมาส์ที่มีความแม่นยำ และ การตอบสนอง ของเซนเซอร์ที่ไวมากกว่า
2. เมาส์มีสายหรือไร้สาย
โดยทั่วไปแล้วการส่งสัญญาณไปตามสายสามารถทำได้ทันทีแต่การจะส่งสัญญาณคลื่นนั้นจำเป็นที่จะต้องแปลงสัญญาณไฟฟ้าไปเป็นสัญญาณคลื่นก่อน จึงทำให้ผู้ที่ใช้เมาส์ไร้สายต้องประสบปัญหาที่เกิดจากการ lag การตอบสนองก็จะช้ากว่าเมาส์ที่มีสาย พราะฉะนั้นเมาส์เกมมิ่ง แบบมีสายจึงมีความเสถียรมากกว่า แต่เมาส์เกมมิ่งไร้สายมีความสะดวกกว่ามาก ดังนั้นการเลือกเมาส์แบบมีสายหรือไร้สายจึงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
3. รูปแบบการจับเมาส์
ผู้เล่นควรตัดสินใจเลือกสไตล์การจับเมาส์ให้เหมาะสมกับตนเองที่สุด อย่างที่ทราบกันแล้วว่าวิธีการจับเมาส์มี 3 วิธี ได้แก่ Palm Grip, Claw Grip และ Fingertip Grip โดยเมาส์แต่ละรุ่นนั้นจะมีขนาดที่แตกต่างกัน ที่ออกมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทุกรูปแบบโดยเมาส์ส่วนใหญ่นั้นจะออกมาเป็น 2 ขนาดนั้นก็คือ ขนาดกลางสำหรับคนเอเชีย และขนาดใหญ่สำหรับคนยุโรป หากเราเลือกที่จะใช้เมาส์ที่ขนาดไม่ตรงกับมือเรา จะทำให้เราเกิดอาการล้าหรือปวดข้อมือได้ด้วยเช่นกัน
4. ชนิดของ Sensor (Optical vs Laser)
เมาส์เกมมิ่งโดยปกติแล้วจะมี Sensor 2 ชนิด ที่รู้จักกันดีได้แก่ Optical Sensor และ Laser Sensor ความแตกต่างหลักๆ ของ Sensor สองชนิดนี้ก็คือเรื่องของ DPI โดย Laser Sensor สามารถทำงานได้บนพื้นผิวหลายประเภทแต่ข้อเสียคือ Laser Sensor มีความอ่อนไหวต่อฝุ่นละอองและพื้นผิวที่ขรุขระ จึงต้องการพื้นผิวที่เรียบเป็นพิเศษ แต่ในขณะที่ Optical Sensor จะมีความอดทนต่อฝุ่นละอองมากกว่า สามารถทำงานได้กับแผ่นรองเมาส์ทั้งหมดหรือพื้นผิวที่มีความขรุขระกว่าและมีความเสถียรต่อความเร็วของการเลื่อนเมาส์ที่สูงมาก ๆ ด้วย
และนี่ก็คือ 4 วิธีการเลือกซื้อเมาส์เกมมิ่ง สำหรับเล่นเกมที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ ถ้าเกมเมอร์คนไหนจะนำไปใช้เป็นเทคนิคในการเลือกซื้อเมาส์เกมมิ่งเราก็ไม่ว่ากันนะครับ ส่วนใครที่มีวิธีการเลือกซื้อเมาส์เกมมิ่งนอกเหนือจาก 4 วิธีที่เรานำมาเสนอในวันนี้ก็สามารถแสดงความคิดเห็นเข้ามากันได้นะครับ แล้วครั้งหน้าเราจะมีสารประโยชน์อะไรมาแนะนำกันอีก ฝากติดตามกันด้วยนะครับ