เลือกซื้อ Power Supply คอมพิวเตอร์ ต้องดูอะไรบ้าง ?

ในปัจจุบันนั้นการที่จะประกอบคอมพิวเตอร์มาเพื่อใช้งานสักหนึ่งเครื่องนั้น จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่างซึ่งมีความสัมพันธ์กัน เช่น หากต้องการใช้งาน CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงก็ควรจะใช้งานควบคู่กับการ์ดจอที่มีความแรง รวมไปถึงเลือกซื้อ RAM ที่มีขนาดความจุเหมาะสม ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดภายในคอมพิวเตอร์นั้นจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ PSU คอม หรือที่เราเรียกกันอย่างง่าย ๆ ว่า พาวเวอร์ ซัพพลาย ที่มีกำลังไฟฟ้าในระดับที่เหมาะสมด้วยเช่นเดียวกัน จึงจะสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดปัญหาหรืออาการขัดข้องขึ้นมาในขณะใช้งาน วันนี้ Mercular จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จัก และวิธีการเลือกซื้อเจ้าพาวเวอร์ ซัพพลายกันครับ ว่ามันสำคัญอย่างไร แล้วก่อนซื้อต้องดูอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ

Power Supply คืออะไร

Power Supply คือ อุปกรณ์ที่ช่วยในการแปลงกระแสไฟฟ้าจากปลั๊กไฟ เพื่อไปเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้มีความเหมาะสมกับกระแสไฟที่อุปกรณ์ต้องการ เช่น การเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าที่มีแรงดัน 220 โวลต์ เข้าสู่ Power Supply จะทำให้ได้แรงดันของไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน เปลี่ยนแรงดันไฟฟ้าจากกระแสสลับ ให้เป็นแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (DC) แบ่งออกเป็น 3 ชุดคือ 3.3 โวลต์, 5 โวลต์ และ 12 โวลต์ เพื่อนำไปจ่ายไฟให้กับชิ้นส่วนอื่น ๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์, พัดลมระบายความร้อน, แรม, การ์ดจอ เป็นต้น เรียกได้ว่า PSU คือแหล่งพลังงานหลักของเครื่องคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว ซึ่งคนทั่วไปมักจะมองข้ามความสำคัญของพาวเวอร์ ซัพพลาย ทำให้อาจจะเลือกซื้อรุ่นที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการของอุปกรณ์ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นขัดข้อง เกิดอาการผิดปกติ หรือว่าอาจจะดับไปเอง ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออุปกรณ์อื่น ๆ ของผู้ใช้อย่างแน่นอน 

ในการเลือกซื้อ Power Supply มีปัจจัยที่ควรคำนึงถึง ดังนี้

1.เลือกซื้อ Power Supply ที่มาจากแบรนด์ชั้นนำ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อพาวเวอร์ ซัพพลาย คือ ควรเลือกซื้อสินค้าที่มาจากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด มีการรับประกันสินค้าที่ยาวนาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานด้วยครับ นอกจากนี้ยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ แถมบางรุ่นยังผ่านการรับรองมาตรฐาน 80 Plus อีกด้วย การที่จะนำคอมพิวเตอร์ที่เรารักไปใช้งานร่วมกับ Power Supply ที่มีราคาถูก แต่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ นอกจากจะมีโอกาสทำให้อุปกรณ์ของเราชำรุดแล้วยังมีโอกาสทำให้เกิดเหตุขัดข้องต่างๆ ขณะใช้งานได้อีกด้วย เช่น คอมดับ, ไฟฟ้าลัดวงจร เป็นต้น ซึ่งแบรนด์ของ PSU คุณภาพสูงที่แนะนำก็จะมี Thermaltake, Super Flower, Antec, Corsair เป็นต้น

2. เลือกซื้อจากประเภทของพาวเวอร์ ซัพพลาย

ปกติแล้ว Power Supply แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน ซึ่งการใช้งานจริงนั้นแทบไม่แตกต่างกันเลย แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ ความสามารถในการถอดหรือเชื่อมต่อสายเคเบิ้ลเข้ากับตัวอุปกรณ์นั่นเอง ซึ่งแบ่งออกได้ดังนี้

• Non-Modula เป็น PSU ประเภทที่มีราคาถูกที่สุด เนื่องจากมีสายเชื่อมต่อออกมาจากตัวของอุปกรณ์โดยตรง นอกจากนี้ยังไม่สามารถทำการถอดออกได้ ข้อเสียคือหากผู้ใช้งานต้องการอัพเกรดหรือติดตั้งชิ้นส่วนต่างๆ เข้าไปในคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม ตัวสายเชื่อมต่อที่ให้มาอาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานนั่นเอง

• Semi-Modula สำหรับ PSU ประเภทนี้ ข้อดีคือมีช่องสำหรับเชื่อมต่อสายเคเบิลบางประเภทเพิ่มเติมได้ แต่จะมีสายหลักติดตั้งมากับอุปกรณ์คล้ายกับประเภท Non-Modula ส่วนสายที่ติดตั้งเพิ่มได้มักจะเป็นสายประเภท Power Connector ของการ์ดจอ เพื่อที่จะได้สามารถทำการเชื่อมต่อแบบ SLI หรือ Crossfire ในการติดตั้งการ์ดจอจำนวน 2 ตัวเข้าสู่อุปกรณ์นั่นเองครับ 

• Full-Modula เป็น PSU ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่เกมเมอร์หรือว่าผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งคอมพิวเตอร์ เนื่องจากสามารถถอด/ต่อสายออกจากตัวอุปกรณ์ได้หมดทุกเส้นนั่นเอง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดสายไฟภายในอุปกรณ์ให้มีความเป็นระเบียบเป็นอย่างมาก

3. เลือกซื้อ Power Supply จากขนาดความจุ

ที่จริงแล้วการเลือกซื้อพาวเวอร์ ซัพพลายตามขนาดความจุ เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งหลายคนยังไม่รู้ว่า ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดภายในคอมพิวเตอร์ของเรานั้น ควรที่จะใช้งานคู่กับ PSU ความจุเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งขนาดความจุนั้นก็เริ่มต้นตั้งแต่ 400W ไปจนถึง 1250W เลยทีเดียว ยิ่งตัวเลขเยอะก็หมายความว่าสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีสเปคสูง ที่ต้องการกำลังไฟฟ้าในการใช้งานมาก พร้อมกันได้หลายชิ้น นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีเสริม เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ส่วนการเลือกขนาดความจุที่เหมาะสมนั้น หากสเปคคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ นั้น ใช้การ์ดจอ NVIDIA GEFORCE 2060 , หรือ AMD RX 5600XT ขึ้นไป, ซีพียู Intel i5, i7, Ryzen 5, 7, แรม 16GB ติดตั้ง SSD และ HDD ควรเลือกใช้พาวเวอร์ ซัพพลาย กำลังไฟฟ้า 650W ขึ้นไป แค่นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานทุกรูปแบบแล้วครับ

ซื้อ Power Supply กำลังไฟฟ้าสูง มาเผื่อไว้ดีไหม ?

หากพูดในหลักความเป็นจริงแล้ว ซื้อเผื่อไว้ ยังไงก็ดีกว่าขาดครับ หากเราต้องการซื้อ Power Supply กำลังไฟฟ้า 750W หรือ 1000W มาใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟฟ้ารวม 500W นั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้และควรทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสุดท้ายแล้วอุปกรณ์ก็จ่ายไฟตามกำลังไฟฟ้าที่ต้องการอยู่ดี ในอนาคตถ้าเราต้องการจะอัพเกรดอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟฟ้าสูงกว่าเดิม ก็จะสามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยน Power Supply ทำให้ประหยัดงบประมาณไปได้ส่วนหนึ่ง แถมยังช่วยให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นไปได้อย่างเสถียร ถึงแม้จะแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าก็ตาม แต่หากได้ระยะเวลาในการรับประกันของสินค้าที่เพิ่มขึ้นมาอีกในระดับ 5-10 ปี ก็เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก

สุดท้ายแล้วการเลือกซื้อพาวเวอร์ ซัพพลายให้คุ้มค่าและถูกต้องนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามเลย ซึ่งผู้ใช้งานควรตรวจสอบปัจจัยต่าง ๆ ที่จำเป็น ก่อนจะทำการซื้อ ซึ่งหลักๆ จะประกอบไปด้วย 1. แบรนด์ 2. ประเภทของ Power Supply 3. ขนาดความจุของอุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล ไม่เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง อีกทั้งยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรารักอีกด้วยครับ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเลือกซื้อ Power Supply จากเหล่าแบรนด์ยอดนิยมที่มีคุณภาพสูงจากหน้าเว็บไซต์ Mercular ที่มีให้เลือกหลากหลายความจุและช่วงราคา ตามความต้องการได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ