เคสใส ใส่แล้วเหลือง มีวิธีแก้ไขยังไง?

เคสแบบใสมีข้อดีอย่างไร?

ปัจจุบันนี้ เคสใส เริ่มก็มีความนิยมกันมากขึ้นเพราะสามารถตกแต่งลวดลายต่าง ๆ ได้เอง และถ้าหากตกแต่งลวดลายของเคสออกมาได้สวยงาม ทำให้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนของเราดูมีมูลค่าสูง เมื่อมองแล้วรู้สึกหรูหรามีระดับมากยิ่งขึ้น ลวดลายที่ถูกออกแบบมาอาจมีความสวยงามมากกว่าเคสสีทึบปกติด้วย เพราะเคสสีทึบบางครั้งรู้สึกว่ามีการตกแต่งลวดลายสำเร็จรูปมากเกินไป ทำให้เราไม่สามารถที่จะออกแบบตกแต่งลวดลายได้ด้วยตัวเองเท่าเคสใส และอาจจะไม่ได้รูปแบบอย่างที่เราต้องการมากสักเท่าไหร่

ถ้าเทียบกับเคสแบบใสที่บางร้านมีลวดลายให้เราเลือกที่จะแต่งแต้มลงบนเคสหรือเราสามารถที่จะออกแบบลวดลายได้เอง และถ้าไม่ต้องการที่จะมีลวดลายใด ๆ ก็ทำให้เราสามารถที่จะโชว์แบรนด์ของสมาร์ทโฟนและโชว์สีที่แท้จริงของสมาร์ทโฟนเราได้ด้วยอีกต่างหาก นับได้ว่าเคสใสน่าจะมีความเป็นเคสอเนกประสงค์มากเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวก่อน เจ้าเคสใส ๆ นี้ อย่างไรก็ยังมีปัญหาระดับชาติอยู่เช่นกัน

ปัญหาของเคสใส

ปัญหาที่หลายคนที่ใช้เคสลักษณะนี้ต้องเจอกันบ่อย ๆ นั่นก็คือเมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ เคสใส จะเกิดความขุ่นมัว สีของเคสจะหมองและเหลืองขึ้น ทำให้เคสดูเก่าเกินไปและอาจจะมองดูสกปรก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะทุกอย่างมีทางแก้ไข ซึ่งวันนี้เราก็จะนำเคล็ดลับดี ๆ มาแบ่งปันกัน เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักวิธีการดูแลเคสใส และปัจจุบันนี้ เคสโทรศัพท์ ดังกล่าวเริ่มมีจำหน่ายมากขึ้นเพราะว่าสามารถที่จะออกแบบได้เอง โดยเฉพาะเคสแบบใสเปล่า ๆ ที่ยังไม่ได้ทำการเจาะมุมกล้อง หรือยังไม่เจาะช่องชาร์จ ทำให้เราสามารถที่จะเลือกมาเป็นเคสใส่มือถือได้แทบทุกแบรนด์ เพราะสามารถเจาะกล้องภายหลังได้ด้วย จึงตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากกว่า

เคสใสใช้แล้วเหลือง..มีวิธีการแก้ไขดังนี้

1. ทำความสะอาดเคสบ่อย ๆ

เปรียบเทียบเคสก็คืออุปกรณ์ใช้งานเหมือนภาชนะใส่อาหาร หรือ เปรียบเสมือนเสื้อผ้า ที่จะต้องใช้การทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ ถ้าเป็นไปได้ควรทำความสะอาดเคสใสวันเว้นวันด้วยการนำออกมาเช็ดถู ซึ่งใช้เวลาน้อยมากและการถอด รวมถึงการประกอบเคสเข้าไปใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากเลย แต่หลายคนมองข้าม จึงเป็นปัญหาที่ทำให้เคสใส มีความเหลืองเก่าโดยที่เราไม่ทันสังเกต ข้อดีของการทําความสะอาดเคสบ่อย ๆ นั่นก็จะทำให้เราสามารถที่จะหันไปใส่ใจดูแลเช็ดถูทำความสะอาดสมาร์ทโฟนของเราได้บ่อยด้วย

2. เช็ดเคสใสด้วยน้ำยาเช็ดกระจก

การทําความสะอาดเคสด้วยน้ำยาเช็ดกระจก เป็นวิธีการที่เหมาะสมเพราะน้ำยาเช็ดกระจกจะมีความทะนุถนอม ไม่กัดกินทำลายเนื้อของเคสโทรศัพท์มากเกินไป และที่สำคัญหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ช่วยทำให้เคสใสเงาวับ แถมยังสามารถที่จะใช้ได้ยาวนานอีกต่างหาก

3. น้ำยาล้างจานผสมน้ำเช็ดเคสใสให้เงางาม

เป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่ายมากเพราะทุกบ้านย่อมต้องมีน้ำยาล้างจานกันอยู่แล้ว ใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่ปลายนิ้วนำมาผสมกับน้ำ ซึ่งควรที่จะใช้ผ้าหมาด ๆ เช็ดที่เคสของเราให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้งหนึ่ง จะได้เคสใสที่แจ่มแจ๋ว เงางาม วิ้งวับ ดีมาก เจ้าน้ำยาล้างจานนี้มีข้อดีตรงที่ช่วยทำให้เคสเกิดความเงามันและเกิดความสะอาด แถมยังมีความปลอดภัยเนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่เราใช้ล้างภาชนะสำหรับกินอาหาร

4. ยาสีฟันช่วยให้เคสใสกลับมาใหม่อีกครั้ง

แน่นอนว่ายาสีฟันคือสิ่งที่เรามีประจำบ้านและประจำตัวทุกคนดังนั้นจึงเป็นวัตถุดิบอีกชนิดหนึ่งที่หาได้ง่าย ดังนั้นเราจึงใช้ของที่มีอยู่แล้วมาทำความสะอาดเคสซะเลยก็น่าจะเป็นการดี

• นำเคสใสล้างน้ำและน้ำยาสีฟันมาป้าย จากนั้นใช้แปรงเก่าขัดถูเบา ๆ ทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างน้ำออก
• ถ้าเคสมีความเหลืองมาก ๆ ก็สามารถที่จะใช้ยาสีฟันผสมเบกกิ้งโซดา หรือน้ำมะนาว 1/4ลูก ป้ายให้ทั่วทิ้งไว้ไม่เกิน 1 นาที แล้วล้างน้ำออก เช็ดให้แห้งสนิท เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

5. น้ำยาล้างเล็บช่วยขจัดคราบที่ฝังลึกในเคสใส

น้ำยาล้างเล็บถือเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาถูกและดีมาก ๆ สำหรับช่วยขจัดคราบที่มีความฝังลึกมากเกินไปโดยเฉพาะคราบที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิด ไม่ว่าจะเป็นเมจิกแบบลบไม่ได้ที่พลาดไปโดนเคสใสของเรา หรือเป็นคราบเลอะเทอะจากอาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่สามารถจะทำความสะอาดให้หลุดลอกออกไปได้โดยง่ายเช่นคราบกาแฟ น้ำยาล้างเล็บนี่แหละที่จะช่วยขจัดปัญหาเหล่านั้นออกไป แต่ขอแนะนำว่าให้ใช้ในกรณีที่มีคราบฝังแน่นเท่านั้นเพราะหากใช้เป็นประจำ เคสโทรศัพท์จะมีความแห้งมากเกินไปขาดความเงางาม ๆ

6. ใช้แอลกอฮอล์ผสมน้ำสบู่เช็ดดูแลรักษาเคสใสและฆ่าเชื้อโรคได้

ถ้ามีความเป็นไปได้อยากแนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์แบบที่ใช้ล้างแผลธรรมดาผสมน้ำเจือจางก็ได้ เช็ดถูเคสใส จะช่วยทำให้โทรศัพท์ของเราได้รับการดูแลให้มีความใสปิ๊งได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญ ฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย ถ้าหากทำได้ทุกวัน ถือว่าจะเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว

7. เปลี่ยนเคสบ้างเมื่อครบอายุการใช้งาน

อุปกรณ์เสริมมือถือ อย่างเคสทุกประเภทล้วนมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะ เคสใส ที่อายุการใช้งานบางรุ่น บางยี่ห้อที่เป็นลักษณะบางมาก ๆ อายุการใช้งานก็อาจจะไม่มากเท่าเคสใสแบบเข็ง เนื่องจากซิลิโคน ความยืดหยุ่น และองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น การโดนของร้อนจัด เย็นจัด หรือสารเคมีบางชนิด ก็อาจจะมีส่วนที่ทำให้อายุการใช้งานของเคสลดลง ซึ่งหากประสิทธิภาพของเคสลดลงแล้ว ก็จะไม่เป็นผลดีต่อการใช้งาน เพราะเคสมีหน้าที่ปกป้องตัวเครื่องมือถือ หากเคสมีความหย่อนยาน หรือไม่เกาะกับตัวมือถือ ก็มีโอกาสอย่างมากที่มือถือจะเสียหาย ดังนั้น ไม่ว่าผู้ใช้งานจะใช้เคสใสหรือเคสแบบใด ก็ควรที่จะมั่นตรวจสอบความสมบูรณ์ และอายุการใช้งานของเคสมือถืออย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ การเลือกเคสสำหรับใช้งาน อยู่ที่ความคล่องตัวและความชอบของผู้ใช้งานเป็นหลัก แต่ไม่ว่าจะเป็นเคสใสหรือเคสแบบใดผู้ใช้งานก็ควรที่จะดูแล ตรวจสอบ หรือใช้เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทางทีม Mercular.com นำมาฝากกัน เพื่อให้เคสที่ใช้งานมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและยังดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชอบการใช้เคสใส ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ แล้วทางทีมงานจะนำเอาเทคนิคดี ๆ แบบนี้มาอัพเดทเรื่อย ๆ ครับ