ตั้งค่าหูฟังเกมมิ่ง สำหรับเล่นเกมอย่างไรดี?

อย่างที่เคยบอกไปครับ หูฟังเกมมิ่งนั้นมีราคาที่สูงแลกกับฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ มากมาย ฉะนั้นเมื่อผู้อ่านลองซื้อมันมาใช้งานแล้วก็ลองใช้งานมันเหล่านั้นให้ถึงขีดสุดดูกันเถอะครับ ปกติแล้วหูฟังเกมมิ่งจะไม่มีโปรแกรมเกี่ยวกับปรับจูนเสียงมาให้ ซึ่งเราก็สามารถใช้ร่วมกันกับโปรแกรมที่ช่วยในการจูนเสียงอื่น ๆ หรือหูฟังบางยี่ห้อก็จะแถมโปรแกรมในการ Equalize เสียงมาให้ด้วยครับ ซึ่งหน้าตาของโปรแกรมทุกตัวนั้นก็จะมีค่าต่าง ๆ ให้ปรับจูนใกล้เคียงกัน แต่ในวันนี้ผมจะขอพูดถึงการปรับจูนเสียงที่ง่ายที่สุด ที่มือใหม่ก็ทำได้ครับ

เริ่มต้นที่ความแตกต่างของระบบเสียงก่อน

ก่อนอื่นเป็นเรื่องของความแตกต่างระหว่างระบบเสียงครับ หูฟังบางประเภทสามารถปรับเปลี่ยนระบบเหล่านี้ได้ แต่บางรุ่นก็จะมีระบบเสียงที่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ครับ ซึ่งระบบเหล่านั้นก็จะได้แก่

ระบบเสียงแบบ 7.1 หมายถึงหูฟังตัวนั้นสามารถให้เสียงคุณได้สูงสุดถึง 7 ทิศทาง (ซ้าย 3 ระดับ ขวา 3 ระดับ และเสียงที่เกิดขึ้นตรงหน้า) ซึ่งในเกมประเภท Virtual World, Open World แล้วระบบเสียงแบบนี้นับว่าเหมาะสมที่สุดเพราะคุณจะได้ยินเสียงจากซ้ายขวาหน้าหลังของคุณอย่างชัดเจน แต่สำหรับเกมประเภทชูตติ้งแล้วมีหลายเสียงบอกว่ามันอาจจะละเอียดอ่อนเกินไปจนจำแนกทิศทางยาก บางคนก็บอกว่าสะดวกมากสำหรับการระบุทิศทางครับ

ระบบเสียงแบบ 5.1 หมายถึงหูฟังตัวนั้นสามารถให้เสียงคุณได้สูงสุดถึง 5 ทิศทาง (ซ้าย 2 ระดับ ขวา 2 ระดับ และเสียงที่เกิดขึ้นตรงหน้า) ซึ่งเป็นระบบเสียงที่ 7.1 พัฒนาต่อมานั่นเอง ซึ่งยังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เล่นบางประเภทที่บอกว่าความซับซ้อนของเสียงปาณกลางนี้นี่แหละทำให้เกมลื่นไหล ซึ่งก็มักจะเป็นแนวคิดของกลุ่มเล่นเกมชูตติ้งครับ

ระบบเสียงแบบ 2.1 หรือ Stereo ที่ให้ทิศทางเสียงได้เพียง 2 ทิศทาง แม้ว่าอาจจะดูน้อยกว่าเพื่อนแต่ผู้เล่นมือเก๋าหลาย ๆ คนยังนิยมใช้ระบบเสียงรุ่นเก่าอย่าง Stereo อยู่อย่างคับคั่ง ระบบเสียงสเตอริโอนั้นไม่มีความซับซ้อน ฉะนั้นทำให้ผู้เล่นที่ไม่เก่งในเรื่องการแยะแยะเสียงได้รับประสบการณ์เล่นได้อย่างง่ายได้โดยไม่ต้องพยายามอะไรมากนัก อีกทั้งหลาย ๆ คนยังบอกว่าระบบเสียงที่ละเอียดอ่อนเกินไปบางครั้งก็ทำให้พวกเขาสับสนได้นั่นเอง

ตั้งค่าเสียงตรงไหน ได้อะไรเพิ่มบ้าง?

นอกจากเหนือจากการปรับระบบเสียงแล้วการปรับแต่งหูฟังของคุณอย่างง่ายยังมีอีกวิธีหนึ่งครับ วิธีนี้เป็นการตั้งค่าที่เข้าใจได้ง่ายมาก ๆ นั่นก็คือการปรับเสียง Bass และ Treble ซึ่งเราลองไปดูความแตกต่างของเสียงทั้งสองแบบดูครับ

• เสียง Bass นั้นก็คือเสียงทุ้มต่ำครับ พวกการระเบิด เสียงหมัด และแรงกระแทกต่าง ๆ จะจัดเป็นเสียงโซนนี้ทั้งหมด ซึ่งการปรับค่าให้สูงนั้นจะทำให้ตัวเกมมีความอึกทึกครึกโครมสะใจ เหมาะสำหรับผู้เล่นแบบ Casual ที่เน้นความบันเทิงและเพลิดเพลิน
• เสียง Treble คือเสียงย่านแหลมครับ เสียงกรีดร้อง เสียงแหวกอากาศของลูกปืน เสียงโลหะต่าง ๆ จะจัดอยู่ในย่านนี้ ซึ่งการปรับค่าให้สูงก็จะทำให้ให้เราได้ยินเสียงหางกระสุนเหล่าชัดเจนและนานขึ้น ซึ่งนั่นก็จะทำให้เรามีเวลาแยกแยะและระบุทิศทางของมันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ฉะนั้นแล้วถ้าเป็นผู้เล่นที่เน้นเรื่องความสะใจการเปิดโหมด 5.1 หรือ 7.1 Surround และจัดเสียง Bass หนัก ๆ จะทำให้คุณรู้สึงเหมือนกำลังวิ่งอยู่ในสมรภูมินั้นด้วยตัวเองเลยล่ะครับ แต่ถ้าเกิดเป็นผู้เล่นที่เน้นการเล่นแบบจริงจังแล้ว อาจจะต้องลองปรับแต่งให้ได้เสียงที่เหมาะสมกับที่ตนเองชอบและเข้ากับสไตล์การเล่นของตนเองดูครับ