โน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปและ Ultrabook ต่างกันยังไง ?
21 พ.ย. 2566
เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องได้ยินผ่านหูกันมาบ้างกับเจ้าสิ่งที่เรียกว่า Ultrabook อีกหนึ่งทางเลือกที่หลาย ๆ คนมักจะแนะนำกัน เวลาที่เราจะเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่สักเครื่องมาใช้เรียนใช้ทำงานทั่วไป จนต้องเกิดคำถามขึ้นมาในใจหลาย ๆ คนแน่ว่า โน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปและ Ultrabook ต่างกันยังไง ? แล้วทำไมเราถึงต้องสนใจใน Ultrabook นี่ด้วย วันนี้พวกเรา Mercular.com จะมาบอกถึงความแตกต่างของเจ้าสองเครื่องนี้กัน พร้อมเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจในการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คคู่ใจเครื่องใหม่ของคุณด้วย เจ้า Ultrabook จะต่างกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปยังไง ไปดูกันเลย
ก่อนจะไปดูกันว่าโน๊ตบุ๊คและ Ultrabook นั้นต่างกันยังไง เรามาทำความรู้จักกับเจ้าสองอย่างนี้กันก่อนดีกว่าและมาดูกันว่ามีความเหมือนอย่างไรบ้าง สำหรับโน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปนั้นคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว กับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลและคีย์บอร์ดในตัวพร้อมให้ใช้งานได้ทุกที่ ส่วน Ultrabook นั้นจะมีลักษณะเป็นเหมือนกับโน๊ตบุ๊คเลยเพียงแต่จะเบากว่าและบางกว่า ส่วนใหญ่มักมีขนาดหน้าจอไม่เกิน 14 นิ้วและหนาไม่เกิน 18 มม. ถูกออกแบบมาเพื่อการพกพาโดยเฉพาะ ติดตัวไปทำงานได้ทุกที่ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานนอกบ้านได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทั้งคู่จึงมีลักษณะภายนอกที่คล้ายกันทั้งหน้าตา ดีไซน์รวมถึงการใช้งานประมวลผลที่ทำได้เหมือนกัน ถ้าให้สรุปง่าย ๆ เลย Ultrabook ก็คือโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ขนาดเล็กกว่า พกพาง่ายกว่า และแบตอึดกว่า นั่นเอง
โน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปและ Ultrabook ต่างกันยังไง ?
ด้วยขนาดของ Ultrabook ที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คบุ๊คใช้งานทั่วไป ทำให้รายละเอียดภายในของเจ้า Ultrabook นั้นแตกต่างกันตามไปด้วย โดยจะส่งผลตั้งแต่ดีไซน์ภายนอก ที่เพรียวบางกว่าลงและกระทัดรัดกว่า, ขุมพลังภายในที่ต้องจัดสรรตามขนาดของตัวเครื่อง, ความจุของแบตเตอรี่ รวมไปถึงราคาเริ่มต้นที่ต่างกันอีกด้วย
ดีไซน์และการพกพา
ความบางเบาอันเป็นจุดเด่นหลักของ Ultrabook เป็นเหมือนตัวเปิดโลกสู่ดีไซน์ที่สวยงามใหม่ ๆ ด้วยความเพรียวบางที่มักหนาไม่เกิน 18 มม. เพื่อให้สามารถอยู่ในกระเป๋าได้ทุกขนาดจึงเป็นข้อได้เปรียบหลัก โดยเฉพาะเมื่อวางเทียบกันแล้ว โน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปจะดูใหญ่เทอะทะไปเลย ในส่วนของความทนทาน Ultrabook แม้จะมีหน้าตาที่เพรียวบางแต่ด้วยความที่ถูกออกแบบมาให้พกพาเป็นหลัก จึงมีวัสดุตัวบอดี้ที่ทนทานให้พร้อมลุยได้ทุกที่ ตั้งแต่พลาสติกคุณภาพดีไปยันอะลูมิเนียมระดับพรีเมียมเพื่อให้การหย่อน Ultrabook ลงกระเป๋าในแต่ละวันนั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องห่วงเลย
สเปกภายใน
เมื่อต้องพูดถึงโน๊ตบุ๊คยังไงสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของสเปกภายใน สำหรับ Ultrabook จะมีสเปกภายในที่เน้นความรวดเร็วในการใช้งานด้วย RAM และ SSD ที่มีความเร็วสูง เปิดเครื่องติดภายในไม่ถึง 7 วินาที โดยจะมีซีพียูภายในที่บาลานซ์ระหว่างประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานเพื่อสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน ส่วนมากจะใช้ซีพียูประหยัดพลังงานที่มาพร้อมกับการ์ดจอออนบอร์ดแต่ก็มีรุ่นระดับ High-End ที่มีการ์ดจอแยกสำหรับเล่นเกมมาด้วย
ส่วนโน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปจะมีสเปกภายในให้เลือกที่หลากหลายกว่าสามารถเลือกได้ตามความต้องการของผู้ใช้เลย มีแยกย่อยตั้งแต่ซีพียูประหยัดพลังงานที่มีการ์ดจอออนบอร์ด, ซีพียูทั่วไปพร้อมการ์ดจอแยกไปจนถึงเครื่องระดับ High-End ซึ่งจุดน่าสังเกตของ Ultrabook คือขนาดที่บางเบาจึงต้องเจอกับปัญหาความร้อน ด้วยพื้นที่ที่จำกัดภายในขนาดตัวอันบางเฉียบนั้น จึงส่งผลต่อขนาดพัดลมที่มีอยู่ในเครื่องนำไปสู่ปัญหาการระบายความร้อนที่อาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน ถึงแม้โน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปนั้นจะต้องเจอปัญหานี้เหมือนกัน แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าทำให้พัดลมระบายความร้อนสามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ดีกว่าตามไปด้วย
แบตเตอรี่
อีกหนึ่งจุดเด่นของเจ้า Ultrabook นั่นก็คือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานทั้งวันภายในการชาร์จครั้งเดียวด้วยรากฐานจากซีพียูที่ประหยัดพลังงาน โดยแรกเริ่ม Intel ได้ระบุไว้ว่าควรใช้งานได้ต่อเนื่องเกิน 5 ชั่วโมงจากการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งในปัจจุบันตอนนี้ Ultrabook นั้นประหยัดพลังงานมากขึ้น บางรุ่นสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเกิน 10 ชั่วโมงเลยก็มี แต่ด้วยการนี้ Ultrabook จึงมีแบตเตอรี่แบบบิ้วท์อินติดตัว ไม่สามารถถอดออกได้ง่าย ๆ เหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ราคา
ในด้านของราคาที่ต้องบอกเลยว่า Ultrabook นั้นเป็นเวอร์ชันย่อยของโน๊ตบุ๊คที่เรียกว่าใหม่เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ออกมาหลายสิบปีแล้ว Ultrabook จึงมีตัวเลือกในตลาดที่น้อยกว่าและมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า สำหรับโน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปสมัยนี้ไม่ถึง 10,000 บาท ก็สามารถใช้งานทั่วไปได้ครบแถมใช้เล่นเกมเล็กนิด ๆ หน่อย ๆ ได้ แต่สำหรับ Ultrabook ราคาเริ่มต้นก็ราว ๆ 16,000 - 20,000 บาทแล้ว โดยรุ่นท็อป ๆ ที่ทำงานเฉพาะทางได้ก็พุ่งเกิน 4 - 50,000 บาทเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อมีสเปกที่พอ ๆ กัน Ultrabook จะแพงกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะเจ้า Ultrabook นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ภายในที่มากกว่าทั้งน้ำหนักที่เบากว่า แบตที่อึดกว่า รวมถึงดีไซน์ที่สวยสะดุดตาเหมาะแก่การพกพามากกว่า
โน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปและ Ultrabook เหมาะกับใคร ?
- สำหรับ Ultrabook นั้นจะโดดเด่นในเรื่องของการพกพา มาพร้อมกับสเปกภายในที่แรงพอจะใช้งานซอฟต์แวร์เฉพาะทางบางตัว จึงเหมาะกับคนที่ต้องใช้งานโน๊ตบุ๊คนอกบ้านเป็นประจำ เช่น นักเรียนนักศึกษา, นักเขียนโค้ด, นักธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ติดบ้าน ยิ่งใน Ultrabook บางรุ่นที่มีหน้าจอระบบสัมผัสมาให้ ยิ่งช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งจดงานที่อาจารย์สั่ง หรือทำสไลด์นำเสนอลูกค้า
- สำหรับโน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปนั้นก็ตามชื่อเลย เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปท่องเน็ต ดูซีรีส์ ประชุมงาน และอาจจะพกออกไปทำงานนอกบ้านบ้างแต่ให้พกติดตัวตลอดเวลาก็คงไม่ไหว ข้อดีที่โน๊ตบุ๊คทั่วไปมีคือมีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่าและมีตัวเลือกให้เลือกเยอะกว่ามาก ตั้งแต่สเปกเริ่มต้นไปจนถึงระดับตัวแรง จึงเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายกว่า เช่น คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสเปกเริ่มต้นมาใช้งาน ไม่ต้องการสเปกที่เวอร์วังมาก หรือโปรแกรมเมอร์เขียนโค้ดเฉพาะทางที่ต้องพกพาโน๊ตบุ๊คจากแค่บ้านไปออฟฟิศเท่านั้น ดังนั้นในการเลือกซื้ออุปกรณ์สักเครื่องยังไงก็ต้องคำนึงถึงการใช้งาน ความชอบส่วนตัวและงบประมาณเป็นหลักของตัวผู้ซื้อเป็นหลัก
สุดท้ายแล้วในการเลือกซื้อเครื่องโน๊ตบุ๊คสักเครื่องก็ต้องดูจากเป้าหมายในการใช้งานและงบประมาณที่กำหนดไว้ด้วยนะครับ เพื่อที่จะได้อุปกรณ์ที่ทั้งถูกใจและใช้งานได้ตามที่ต้องการ และนี่คือทั้งหมดของ โน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปและ Ultrabook ต่างกันยังไง ? หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คคู่ใจเครื่องใหม่ของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากแนวทางในการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คแล้วพวกเรา Mercular.com ยังมี Buying Guide ในการเลือกซื้อแกดเจ็ตทันสมัยอีกเพียบทั้งลำโพง หูฟัง และสินค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ที่พร้อมจะช่วยให้การซื้อสินค้าคู่ใจชิ้นใหม่ของคุณเป็นเรื่องง่าย สามารถเข้ามาติดตามได้ที่เว็บไซต์ของเราได้เลย สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ