รวม 5 โปรแกรมสตรีมเกม PC ไลฟ์สด ที่สร้างรายได้อย่างมือโปร
10 ก.ค. 2561
Live Streaming คือการรับ/ส่ง สัญญาณภาพและเสียงบนระบบ Internet โดยอาศัยเทคโนโลยี Internet ในการเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือ สมาร์ททีวี ทำให้ผู้ชมสามารถรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา และกลายเป็นแพลทฟอร์มความบันเทิงหนึ่งที่น่าสนใจ และมีคนเข้าไปทำจำนวนมากทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ที่เห็นได้ชัดก็จะเป็นรายการไลฟ์สตรีมต่าง ๆ รวมไปถึงการแคสต์เกมก็จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ด้วยนั่นเอง เชื่อได้ว่าหลายคนคงอยากจะมีรายการ Live Streaming เป็นของตัวเองดูบ้าง วันนี้ Mercular.com จุงได้รวบรวมโปรแกรม Streaming PC 5 ตัวเด่นที่มีการพูดถึงบ่อย ๆ ในวงการ จะมีตัวใดบ้างนั้นลองไปดูกันเลย
5 โปรแกรมสตรีมเกม pc ไลฟ์สด
- 1. OBS Studio
- 2. XSplit
- 3. Wirecast
- 4. vMix
- 5. Lightstream
1. OBS Studio
1. OBS Studio
โปรแกรม Open Broadcaster Software Studio หรือ OBS Studio ถือว่าเป็นโปรแกรมสตีรมมิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล เพราะการใช้งานของมันค่อนข้างครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นที่เหล่าสตรีมเมอร์ต้องการ และที่สำคัญคุณสามารถเข้าถึงตัวโปรแกรมได้ทุกส่วนโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว นั่นทำให้สตรีมมิ่งโปรแกรม ตัวนี้มียอดผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก แต่ในข้อดีย่อมมีข้อเสีย เพราะสำหรับ OBS Studio นั้นมีการทำงานที่ค่อนข้างจะหนักเครื่องเล็กน้อย รวมไปถึงมี Interface ที่ไม่เป็นมิตรสำหรับผู้เริ่มต้น การสตรีมไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ ผู้ใช้งานก็ต้องกำหนดค่าเอง เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นโปรแกรมที่ให้การใช้งานมาครบครัน แต่มีการใช้งานที่ค่อนข้างจะ Manual นั่นเอง
สรุป: โดยรวมแล้วเจ้าโปรแกรม OBS Studio นั้นเหมาะทั้งผู้ใช้งานทุกประเภท ที่ไม่ต้องการฟังก์ชั่นใช้งานระดับสูงเช่นการสตรีมหลายแพลตฟอร์ม หรือ Guest Housing (ประชุมสาย)
ข้อดี
- ใช้งานโปรแกรมเต็มได้ฟรี
- ใช้งานได้ทั้ง Window, Mac และ Linux
- ฟังก์ชั่นในการปรับแต่งและจัดหน้าจอครบ
- การทำงานเสถียร
ข้อควรระวัง
- การทำงานหนัก CPU เล็กน้อย
- การใช้งานค่อนข้าง Manual มือใหม่ใช้ยาก
- ไม่มีฟังก์ชั่นใช้งานระดับสูง
2. XSplit
2. XSplit
Xsplit ถือว่าเป็นอีก 1 โปรแกรมสตรีมมิ่งที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อย ๆ เพราะในเรื่องการมใช้งาน การออกแบบของตัวโปรแกรมนั้นเป็นมิตรกับมือใหม่กว่า OBS Studio มาก ๆ อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถสตรีมไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติไม่ต้องเชื่อมเองลิงค์เองแบบ OBS ทำให้ผู้เริ่มต้นการไลฟ์หลาย ๆ คนเลือกจะใช้งานโปรแกรมนี้กันมากกว่า เพราะหลาย ๆ อย่างในโปรแกรมค่อยข้างจะจัดแจงมาให้ในแบบสำเร็จรูป แต่สำหรับข้อเสียงของ XSplit คือความละเอียดภาพสำหรับการใช้งานแบบฟรี ๆ นั้นจะสูงสุดอยู่ที่ 720p ซึ่งถือว่าน้อยสำหรับการสตรีมมิ่งในปัจจุบัน อีกทั้งฟีเจอร์การใช้งานที่สำคัญหลายตัวก็จำเป็นจะต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าถึง แต่ด้วยความสะดวกในการใช้งาน Streamer หลายคนก็ยินดีจ่ายให้กับตัวโปรแกรมเช่นกัน
สรุป: Xsplit เป็นโปรแกรมไลฟ์สตรีมที่มี UI ใช้ง่ายเข้าใจง่ายที่สุด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเป็นอย่างมาก
ข้อดี
- ใช้งานง่าย จัดหน้าจอสะดวก
- โปรแกรมค่อนข้างเสถียรไม่หน่วงเครื่อง
- ไลฟ์ตรงเข้าแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้เลย Multi-Platform ได้
ข้อควรระวัง
- สำหรับการสตรีมที่ความละเอียด 720p ขึ้นไป ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
- ฟีเจอร์การใช้งานเพิ่มเติมเป็นแบบเสียงเงิน
- รองรับ Windows เท่านั้น
3. Wirecast
3. Wirecast
สำหรับ Wirecast มาพร้อมกับเวอร์ชั่นย่อย 2 เวอร์ชั่นได้แก่ Wirecast Studio และ Wirecast Pro ซึ่งทั้ง 2 ตัวเป็นโปรแกรมแบบเสียเงินทั้งคู่ โดยการทำงานของมันถือว่าครบครันที่สุดในบรรดาโปรแกรมสตรีมมิ่ง เหมาะสำหรับคนที่ OBS Studio ไม่ตอบโจทย์แล้ว เพราะต้องการความหลากหลายในตัวรายการมากขึ้น หรือว่าลูกเล่นบนตัว OBS ไม่มากพอนั่นเอง ตัวโปรแกรมสามารถใช้งานได้กับทั้งเครื่อง Mac และ PC มี Layout แบบสำเร็จรูปมากมายให้เลือกใช้และมีการออกแบบมาให้อย่างสวยงาม รวมไปถึงลูกเล่นเอฟเฟคต่าง ๆ ที่ไม่มีในโปรแกรมอื่น ๆ เรียกได้ว่ามี Tools และเอฟเฟคให้เล่นอย่างจุใจ ส่วนการใช้งานที่โดดเด่นก็สามารถต่อกล้อง Guest เพื่อทำการ Co-Stream ได้ สามารถสตรีมบน Multi-Platform ได้
สรุป: Wirecast เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการฟังก์ชั่นการใช้งานระดับสูง และต้องการ Layout สตรีมสำเร็จรูปสวย ๆ รวมไปถึงรองรับการสตรีมในระดับ HD
ข้อดี
- ฟังก์ชั่นเยอะ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
- ใช้ได้ทั้งบน Mac และ PC
- Layout สำเร็จรูปสวยงาม มีเอฟเฟคให้เล่นเยอะ
- มีการอัพเดทค่อนข้างถี่ มีของให้เล่นเพิ่มตลอด
ข้อควรระวัง
- กินพื้นที่ในเครื่องค่อนข้างมาก
- ราคาเริ่มต้นค่อนข้างสูง
4. vMix
4. vMix
คือโปรแกรมสตรีมมิ่งตัวโปรที่เป็นเหมือนคู่แข่งของ Wirecast โดยกลาย เพราะทั้ง 2 โปรแกรมมีฟีเจอร์การใช้งานระดับสูงที่ไม่ต่างกันมาก แต่ระบบการชำระเงินของ Wirecast นั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกจ่ายเงินให้กับบริการที่ต้องการใช้งานเป็นจุด ๆ ไป เหมือนการซื้อ DLC เพิ่มเติม โดยเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงราคาแพงที่สุดถึงประมาณ 4 หมื่นบาทเลยทีเดียว แต่จุดไฮไลท์ที่มองข้ามไปไม่ได้เลยของ vMix ก็คือการรองรับสัญญาณภาพแบบ 4K ซึ่ง Wirecast ไม่รองรับ และการ Encoding ของ OBS นั้นถือว่าไม่เหมาะสมกับการถ่ายทอดสัญญาณภาพในระดับนี้นั่นเอง ทำให้ vMix คือโปรแกรมที่ต้องมีสำหรับการสตรีมเกมในความละเอียด 4K โดยไม่มีโปรแกรมใดสามารถมาทดแทนได้นั่นเอง
สรุป: โปรแกรมที่มีการใช้งานครบที่สุดถ้าเงินถึง สามารถไลฟ์ 4K ได้ มี Switcher ให้ใช้ในโปรแกรม
ข้อดี
- ฟีเจอร์ high-end เยอะมาก
- เหมาะกับการใช้งานระดับโปร
- ออกแบบมาให้รองรับการไลฟ์ 4K ได้ลื่นไหล
ข้อควรระวัง
- รูปแบบโปรแกรมเป็นแบบจ่ายมากใช้งานได้มาก
- ไม่เหมาะกับคนเริ่มต้นสตรีม
- ใช้งานได้กับ Windows เท่านั้น
5. Lightstream
5. Lightstream
LightStream ถือว่าเป็น Streaming Program ที่มีความแตกต่างเพราะตัวของมันทำงานบน Browser ได้เลยโดยไม่ต้องดาวน์โหลดลงเครื่องเพราะตัวโปรแกรมทำงานอยู่บน Cloud นั่นเอง นั่นทำให้ LightStream กินสเปคเครื่องในการทำงานน้อยมาก ๆ ไม่ทำให้ CPU หน่วง และมีการใช้งานที่ค่อนข้างอัตโนมัติเป็นมิตรกับมือใหม่ แต่ตัวโปรแกรมนั้นติดในส่วนของคุณภาพการแพร่ภาพสูงสุดที่ทำได้เพียง 720p เท่านั้น และฟีเจอร์หรือลูกเล่นก็ทำได้แค่เบสิคไม่หวือหวา แต่การที่สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะคุณสามารถเซฟ Presets หน้าจอไลฟ์ที่คุณตั้งค่าเอาไว้ได้ และเปิดใช้งานได้กับเครื่องอื่น ๆ เพียงแต่ล็อคอินไอดีของตัวเอง ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานในกรณีฉุกเฉิน ใช้งานกับคอมที่สเปคไม่แรง
ข้อดี
- ไม่ต้องโหลดลงเครื่องก็พร้อมใช้งาน
- จดจำการตั้งค่าผ่าน ID
- เหมาะกับงานไลฟ์/บอร์ดแคสทั่ว ๆ ไป
ข้อควรระวัง
- คุณภาพการไลฟ์มีจำกัด
- ฟีเจอร์และลูกเล่นน้อย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 5 โปรแกรม Streaming PC สำหรับการทำ Live Streaming ผ่านคอมพิวเตอร์ หวังว่าทุกคนจะลองไปหามาติดตั้งแล้วลอง Live Streaming ดูไม่แน่นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้ และทำให้คุณเป็นที่รู้จักในวงกว้างก็เป็นไปได้ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการ Live Streaming ให้โดนใจผู้ติดตามได้ที่นี่