คีย์แคป OEM vs Cherry Profile ต่างกันอย่างไร เลือกซื้อแบบไหนดี
23 ส.ค. 2565
คีย์แคป เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่หากกำลังจะคัสคอมคีย์บอร์ดสักตัว หรือเลือกซื้อคีย์บอร์ดสำเร็จรูป เชื่อเลยว่าหลายคนจะหยุดดูเพราะความสวยของมันเป็นอย่างแรก และไม่ใช่ว่าจะสวยอย่างเดียว หากไม่มีมัน เราจะไม่สามารถใช้งานคีย์บอร์ดได้เลย เพราะมันเป็นส่วนที่กั้นระหว่างนิ้วเราและสวิตซ์ของคีย์บอร์ด และยังทำให้คีย์บอร์ดที่เลือกใช้โปรไฟล์คีย์แคปที่ต่างกัน เกิดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย
ในปัจจุบันที่วงการคีย์บอร์ดมีความนิยมสูงขึ้น ทำให้เราสามารถเลือกซื้อคีย์แคปได้ง่ายและหลากหลายโปรไฟล์มากกว่าสมัยก่อนมาก แถมยังมีสีสันและลวดลายที่แปลกใหม่ บางแบรนด์ที่เป็นนิยม ก็มีตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว
และที่คีย์แคปที่หลายคนชื่นชอบคงหนีไม่พ้นคีย์แคป OEM และ Cherry Profile ที่มีความเหมือนกันเป็นอย่างมาก มองผ่านๆ อาจตอบไม่ได้ว่ามันคือคีย์แคปโปรไฟล์ไหน วันนี้ Mercular ของพาไปทำความรู้จักกับคีย์แคป 2 โปรไฟล์นี้ให้มากยิ่งขึ้นใน “คีย์แคป OEM vs Cherry Profile ต่างกันอย่างไร เลือกซื้อแบบไหนดี” ใครที่กำลังสับสนหรือกำลังมองหาคีย์แคปตัวใหม่อยู่ ไม่ควรพลาดเลยครับ
นอกจากสีสันและลวดลายแล้ว โปรไฟล์ของคีย์แคปเองก็เป็นสิ่งที่นักคัสตอมคีย์บอร์ดหรือผู้ใช้งานทั่วไปควรจะต้องดูเป็นอันดับแรกๆ เพราะนอกจากความสวยงามของมันแล้ว ยังส่งผลถึงความถนัดในการใช้งาน สัมผัสในการพิมพ์ และเสียงที่ได้หลังจากกดมัน ก่อนที่จะไปเปรียบเทียบความแตกต่างของมัน เราขอแวะอธิบายกันอีกสักเล็กน้อย คีย์แคปสองโปรไฟล์นี้มันคืออะไร?
โปรไฟล์คีย์แคป คืออะไร
โปรไฟล์ของคีย์แคปคือการออกแบบที่แตกต่างกันไปของคีย์แคปชุดนั้นๆ ถ้าเรามองให้ดี จะเห็นว่าคีย์บอร์ดแต่ละแถวเองมีการไล่เลียงของความสูงที่ไม่เท่ากัน นั่นเกิดจากโปรไฟล์คีย์แคปที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของส่วนสูง ความนูน จุดโค้ง และการเอียงลาด นำมาสู่เสียงและสัมผัสที่แตกต่างกันไป
หลายคนอาจจะสับสนกับ Layout คีย์บอร์ด การพิมพ์ตัวอักษร และวัสดุของคีย์แคป ทางด้าน Layout คีย์บอร์ดจะเป็นการจำแนกขนาดและจำนวนปุ่มของคีย์บอร์ดตัวนั้น การพิมพ์ตัวอักษรจะเป็นวิธีการที่ใช้พิมพ์สัญลักษณ์หรือตัวหนังสือลงไปบนคีย์แคปอีกที ส่วนเรื่องวัสดุจะพูดถึงเรื่องการเลือกใช้วัสดุที่นำมาขึ้นรูปเป็นคีย์แคป ซึ่งส่วนหลังทั้ง 3 นี้ ไม่ว่าจะเป็นคีย์แคปโปรไฟล์ไหน ก็มักจะมีตัวเลือกไม่ต่างกันมากครับ
คีย์แคป OEM Profile
คีย์แคป OEM หรือที่หลายคนอาจติดปากว่าเป็นคีย์แคปทรงมาตรฐาน เพราะมันมักถูกใส่ในคีย์บอร์ดราคาเริ่มต้นหลากหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดทำงานหรือคีย์บอร์ดเกมมิ่ง และไม่ว่าจะเป็นแมคคานิคอลคีย์บอร์ดหรือคีย์บอร์ด Rubber Dome หลายตัวก็เลือกใช้โปรไฟล์นี้เช่นกัน แบรนด์เกมมิ่งอย่าง Logitech, Razer, Corsair และ Steelseries เองก็นำคีย์แคป OEM ไปใช้กับคีย์บอร์ดเกมมิ่งหลากหลายตัว นั่นทำให้มันคุ้นตาเป็นอย่างมาก เผลอๆ คีย์บอร์ดที่หลายคนใช้อยู่ตอนนี้ ก็เป็นคีย์แคปแบบ OEM นั่นเอง
คีย์แคป Cherry Profile
คีย์แคป Cherry จะพบยากเสียหน่อย เพราะเป็นคีย์แคปที่ต้องขออนุญาตจากทางต้นแบรนด์อย่าง Cherry Company และเสียเงินให้หากต้องการทำคีย์แคปโปรไฟล์นี้ จึงมีไม่กี่แบรนด์ที่ทำ เช่น GMK ทางด้านดีไซน์จะมีความคล้ายกับ OEM เป็นอย่างมาก แต่ด้านความแน่นจะมากกว่า แถมยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง เช่นบางตัวอาจเริ่มที่หลักพันจนถึงหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว แต่ด้วยสมัยนี้ที่ความนิยมคีย์บอร์ดสูงขึ้น จึงมีหลายแบรนด์ที่เลือกทำคีย์แคปโปลไฟล์ Cherry และเปิดให้ทำการซื้อแบบ Group Buy ไม่ต้องรอจาก GMK อย่างเดียว แต่ด้วยวิธีการ และความเป็นเอกลักษณ์ของคีย์แคปโปลไฟล์นี้ ราคาของมันไม่ว่าใครทำก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยครับ
คีย์แคป OEM vs Cherry Profile เปรียบเทียบชัดๆ ต่างกันอย่างไร
แม้จะแยกกันได้ยาก เหมือนกาสะลอง ซ้องปีบ มุนิน มุตา เอื่อย อ้าย สายฟ้า พายุ แต่หากลองมองกันดีๆ ก็สามารถแยกความต่างของทั้งสองโปลไฟล์คีย์แคปได้เหมือนกัน เราจึงขอแบ่งออกเป็นหัวข้อย่อยๆ เพื่อให้สามารถจำความแตกต่างของมันได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ
ดีไซน์
ทางด้านดีไซน์ไม่ว่าจะเป็น OEM หรือ Cherry เมื่อดูจากด้านข้างของคีย์บอร์ด จะเห็นได้ว่าความสูงของคีย์แคปจากแถวบนสุดและแถวสุดท้ายจะลาดเอียงเข้าหาแถวตรงกลาง
แถว R1 จะสูงสุด และลดระดับจนมาถึง R3 และถ้ามองจากล่างขึ้นมาแถว Spacebar จะสูงที่สุด และลาดเข้ามาหา R3 เช่นเดียวกัน
จุดที่แตกต่างจะไปอยู่ที่ความสูงของการเอียง และการลาดลงของคีย์แคปแต่ละตัว ซึ่งสรุปได้ว่า คีย์แคป OEM จะมีความสูงมากกว่าคีย์แคป Cherry เล็กน้อย แม้จะไม่ต่างกันมากเมื่อเทียบกับโปรไฟล์คีย์แคปตัวอื่น แต่ความสูงนี้ก็ส่งผลต่อการวางมือ เสียงกด ความแม่นยำในการกดด้วยเช่นกันครับ
การเอียงของคีย์แคปแต่ละแถว
มาต่อกันอีกหน่อยในเรื่องของความสูงที่ต่างกัน แต่เราจะมาพูดถึงทีละแถวเลยครับ
โปรไฟล์คีย์แคป OEM ตั้งแต่แถว R1 จะนูนขึ้นจากส่วนบนและลาดเอียงลงมา ส่วนแถวอื่นๆ จะเอียงจากด้านล่างเล็กน้อยมากจนอาจจะไม่ทันสังเกต แต่ทุกแถวยังคงมีระดับที่ต่างกัน แถวบนสุดและล่างสุดจะมาบรรจบกันที่แถวตรงกลางหรือ R3 นั่นเอง
ส่วนโปรไฟล์คีย์แคปแบบ Cherry แถวแรกหรือ R1 กรอบจะไม่เอียง ไม่นับว่ามันมีหลุมตรงกลางเพื่อให้กดเข้านิ้ว แต่ขอบทั้ง 4 ด้านจะไม่มีด้านไหนสูงต่ำไปกว่าใคร ไม่เอียงเหมือนกับ OEM แต่จะมาเริ่มเอียงที่แถวที่สองหรือ R2 โดยเอียงจากส่วนล่างขึ้นมาเล็กน้อย และใช้หลักการเดียวกันคือแต่ละแถวจะมีความสูงไม่เท่ากัน แถวบนสุดและล่างสุดจะมาบรรจบกันที่แถวตรงกลางหรือ R3 ครับ
วัสดุและการพิมพ์ตัวอักษร
ไม่ว่าจะเป็น OEM หรือ Cherry Profile ก็จะมีให้เลือกทั้งวัสดุ ABS และ PBT เหมือนกันหมดครับ ไม่แตกต่างกัน ไม่ได้มีวัสดุเฉพาะที่ใช้ทำคีย์แคปชนิดนี้ชนิดเดียว ความต่างของวัสดุจะส่งผลถึงเรื่องความทนทาน ความยืดหยุ่นและเสียง เช่นเดียวกับการพิมพ์ตัวอักษรเองก็มีให้เลือกมากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนี้คนหนีไม่พ้นการพิมพ์ตัวอักษรแบบ Double Shot ที่เด่นเรื่องตัวอักษรติดแน่น ทนนานครับ
การใช้งาน
ด้านการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งานทั่วไปหรือเล่นเกม ส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนเลยครับ บอกไม่ได้เลยว่าโปรไฟล์คีย์แคปตัวไหนจะดีไปกว่ากัน แต่มันมีเรื่องความสูงมาเกี่ยวด้วย จึงสามารถบอกได้ว่าคีย์แคปที่มีความเตี้ยกว่าอย่าง Cherry จะสบายมือกว่าเมื่อต้องกดใช้งาน เพราะว่ามันมีความสูงที่ไม่มาก ไม่ต้องงอมืองอนิ้วเยอะไป แต่ปัญหานี้หากต้องการใช้งาน OEM ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้งานคีย์บอร์ดร่วมกับแผ่นรองข้อมือครับ ตัวนี้ช่วยได้เยอะเลย
ส่วนเรื่องของความแม่นยำก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนเช่นกัน แม้จะบอกว่า Cherry ที่มีความสูงน้อยกว่าจะช่วยเรื่องความแม่นยำมากขึ้น แต่หากได้ลองเปลี่ยนจาก OEM มาเป็น Cherry เลย วันแรกๆ ของการใช้งานก็มีอาการกดผิดกันบ้าง เพราะตำแหน่งและความสูงที่เปลี่ยนไป ทางทีดี ควรได้ลองใช้งานคีย์แคปทั้ง 2 โปรไฟล์เสียก่อน จะได้รู้ว่าเราชอบใช้งานคีย์แคปตัวไหนครับ
เสียงที่ได้
เสียงที่เกิดจากคีย์แคป ไม่ใช่เสียงเดียวที่เกิดขึ้นบนแมคคานิคอลคีย์บอร์ดหรือคัสตอมคีย์บอร์ด รวมถึงความชอบของแต่ละคน จึงบอกไม่ได้ว่าตัวไหนจะดีมากกว่ากัน
แต่ในด้านความแตกต่างของความสูงที่ไม่เท่ากัน ทำให้เสียงที่เกิดจากคีย์แคปที่สูงกว่าอย่าง OEM มีความก้อง เพราะมีพื้นที่ภายในคีย์แคปมากกว่า ส่วนทางคีย์แคป Cherry ที่มีพื้นที่ภายในน้อยและแน่น จึงได้เสียงที่ทุ้มหนัก ซึ่งอย่างที่บอกว่าเสียงที่มาจากคีย์แคปนั้นไม่ได้เป็นเสียงเดียวที่ออกมาจากคีย์บอร์ด แถมวัสดุที่เลือกใช้ทำคีย์แคปไม่ว่าจะเป็น ABS หรือ PBT ก็ให้เสียงที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ในหัวข้อนี้จึงบอกได้แค่ว่ามันมีเสียงที่ออกไม่เหมือนกันจริง และเกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยครับ
ราคา
คีย์แคป OEM ที่หลายแบรนด์ผลิตได้ง่ายนั้นจะมีราคาที่ถูกกว่ามาก เราสามารถเลือกโปรไฟล์คีย์แคป OEM ได้ตั้งแต่ราคาหลักร้อย จนถึงพันต้นๆ ซึ่งมันเป็นมิตรต่อผู้เล่นใหม่ และผู้เล่นเก่าที่มีงบจำกัดอย่างมาก แต่สำหรับ คีย์แคปโปรไฟล์ Cherry ที่เราได้อธิบายไปว่ามันไม่ได้ผลิตได้ทันที ต้องขออนุญาตจากทางต้นแบรนด์ และแบรนด์ใหญ่ๆ ผู้ผลิตอย่าง GMK ราคาก็ไม่ใช่เล่นๆ แถมยังผลิตมาน้อยชิ้นเสียด้วย การจะหาคีย์แคปโปรไฟล์ Cherry จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และราคาที่สูงพอตัวก็ทำให้หลายคนถอดใจ แต่ด้วยความนิยมของแมคคานิคอลคีย์บอร์ดและคัสตอมคีย์บอร์ดที่มีมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นคีย์บอร์ดได้สร้างกลุ่มกันเพื่อซื้อคีย์แคปล็อตแรกแบบ Group Buy ซึ่งราคาแม้จะสูง แต่เชื่อเถอะว่าหลังจากที่มันปล่อยออกไปแล้ว ราคามือสองแบบใหม่เกะกล่องของมันนั้นน่ากลัวมากทีเดียว
คีย์แคป OEM vs Cherry Profile ความเหมือนที่มีจุดเด่นไม่เหมือนกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับการเปรียบเทียบคีย์แคปทั้ง 2 โปรไฟล์ หลายคนคงหายสงสัยกันแล้วว่ามันต่างกันอย่างไร รวมถึงใครที่ตกใจกับราคาคีย์แคป Cherry จะได้ตกใจเหมือนเดิมแต่น้อยลง เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมราคามันถึงได้ไปไกลขนาดนั้น แต่หากมีโอกาส ก็อยากให้ลองกดมันดูสักครั้ง อาจจะติดใจก็ได้ ส่วนใครที่เป็นสาวก OEM ก็ไม่ต้องน้อยใจ คีย์แคปโปรไฟลน์นี้ยังคงได้รับความนิยมและมีผู้ใช้งานมากที่สุดตลอดมา ทั้งเรื่องหน้าตาที่คุ้นเคย และราคาที่ผู้ผลิตรักเรา
หากใครกำลังมองหาแมคคานิคอลคีย์บอร์ด หรือคีย์แคปดีๆ สักชุดอยู่ ที่ Mercular เรามีสินค้าให้เลือกมากมาย คัดสรรจากหลายแบรนด์ดัง เพื่อให้คนรักคีย์บอร์ดเหมือนชาวเราได้กดมันอย่างสะใจ ได้เสียงและสัมผัสตามที่ต้องการ