Office Syndrome ภัยร้ายในที่ทำงาน

ตื่นเช้า มาทำงาน กลับบ้าน วนลูปชีวิตแบบนี้เป็นเวลานาน ๆ แถมตอนมาทำงานต้องนั่งหน้าคอมเป็นวัน ๆ ใครมีพฤติกรรมแบบนี้ระวังไว้ให้ดี เพราะว่าโรคประจำออฟฟิศตัวร้ายอาจจะเข้ามาหาคุณโดยไม่รู้ตัว มันจะทำให้คุณปวดคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ ตาพร่า มือชา นิ้วล็อกได้เลยทีเดียว และมันจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก ออฟฟิศซินโดรมเจ้าตัวร้ายในที่ทำงานนั่นเอง เราอาจจะเคยได้ยินชื่อมันมานานจนชินหู และคิดว่ามันคงไม่ได้ส่งผลกับชีวิตมาก ช้าก่อน เพราะว่ามันอันตรายมากกว่าที่คุณคิดแน่นอน

ออฟฟิศซินโดรม Office Syndrome

มันคือกลุ่มอาการการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด  (Myofascial Pain Syndrome)  โดยเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเดิม ๆ ที่ถูกใช้งานซ้ำ ๆ เป็นระยะเวลาต่อเนื่องนาน ๆ นั่นทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งจะเกิดขึ้นมากในช่วงคอ ช่วงบ่า ช่วงไหล่ ลามลงไปถึงแขนและข้อมือนั่นเอง ซึ่งเมื่อเป็นบ่อยมากเข้าอาจจะทำให้เกิดเป็นอาการปวดเรื้อรังได้ด้วยนั่นเอง

อาการของ Office Syndrome

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ในภาวะนี้จริง ๆ รึเปล่า ซึ่งบอกเลยว่าอาการนี้ไม่ได้มีแค่การปวดตามจุดยอดฮิตอย่างคอ บ่า ไหล่เท่านั้น ซึ่งยังมีอาการแบบอื่นที่น่ากลัวไม่แพ้กันรวมอยู่ด้วย งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าอาการของเจ้าออฟฟิศซินโดรมเนี่ย มันเป็นยังไง เผื่อใครที่อาจจะคิดว่าตัวเองอยู่ในภาวะเสี่ยง ก็ลองใช้เกณฑ์นี้ในการพิจารณาได้เลยครับ

• ปวดหลัง ปวดคอ
• ปวดตึงบริเวณขา
• ปวดหัว
• ตาพร่ามัว ตาแห้ง ปวดตา
• ปวดข้อมือ นิ้วล็อก มือชา

หากเป็นเกือบทั้งหมดที่ว่ามานี้คุณอาจจะตกอยู่ในภาวะออฟฟิศซินโดรมก็เป็นได้ น่ากลัวกว่าที่คิดใช่มั้ยล่ะครับ มันทรมานจริง ๆ สำหรับคนทำงานอย่างเรา และหากว่าเรื้อรังมาก ๆ เข้าอาจจะนำไปสู่ความเครียดที่มากขึ้น สุขภาพแย่ลง แถมอาจจะนำไปสู่อาการปวดหัวไมเกรนได้อีกด้วยครับ ต้องระวังกันให้มากแล้วล่ะ

สาเหตุ

ขึ้นชื่อว่าออฟฟิศซินโดรมขนาดนี้แน่นอนว่าสาเหตุหลักของมันเลยคงหนีไม่พ้นการนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานานมาก ๆ แบบแทบจะไม่เปลี่ยนท่าทางเลย ต้องนั่งเกร็งคอ บ่า ไหล่อยู่ตลอดเวลา ในช่วงแรก ๆ อาจจะแค่รู้สึกว่าปวดเมื่อยแล้วหายไป แต่พอมากเข้า อาการเหล่านี้อาจจะมาบ่อยขึ้น นานขึ้น เรื้อรังมากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเองครับ แต่ว่าปัจจัยภายนอกก็มีส่วนเช่นกันทั้งโต๊ะทำงานที่ต่ำหรือสูงเกินไป เมาส์และคีย์บอร์ดที่อาจจะตั้งติดตัวเกินไป รวมไปถึงปัจจัยเสริมอื่น ๆ เช่นความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ นอนน้อย และการทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ก็อาจจะเป็นปัจจัยเสริมได้เช่นกันครับ

วิธีป้องกัน

มาขนาดนี้แล้วก็มาดูกันดีกว่าว่าเราจะสามารถป้องกันเจ้า ออฟฟิศซินโดรมให้ห่างไกลจากตัวเราได้ยังไง อาจจะเป็นวิธีที่ง่ายยากต่างกันไปสำหรับบางคน แต่บอกเลยว่าพอลองแล้วได้ผลระยะยาวแน่นอนครับ

• การออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
• การออกกำลังกายเพื่อกล้ามเนื้อที่แข็งแรง
• การปรับสภาพแวดล้อมที่ทำงาน
• การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน
• การใช้อุปกรณ์เสริม Ergonomic

Ergonomic ช่วยได้ยังไง ?

บอกก่อนว่าอุปกรณ์เกี่ยวกับ Ergonomic นั้นมีเยอะมากเลยก็ว่าได้ครับ ถ้าจะบอกว่ามันออกแบบมาเพื่อการทำงานที่ยาวนานแถมห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรมเลยก็ไม่เกินจริง โดยจะมากับอุปกรณ์หลายแบบ แต่ละแบบจะช่วยอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

• โต๊ะปรับระดับ จะช่วยให้เราทำงานได้สบายมากยิ่งขึ้นเพราะจะสามารถปรับความสูงให้เท่ากับที่เราต้องการได้เลย แถมในบางรุ่นยังมีการตั้งเวลาเพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้งานหากนั่งนานเกินไปอีกด้วย

• เก้าอี้สุขภาพ คือเก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อซัพพอร์ตทุกส่วนในร่างกายโดยเฉพาะหลังเลยก็ว่าได้ ด้วยระบบ Lumbar Support ที่มีติดมาให้ทำให้เราพิงหลังได้สบาย แถมยังทำให้ท่านั่งเราเป็นธรรมชาติกับกระดูกสันหลังที่สุดอีกด้วย

• แผ่นรองเมาส์และรองคีย์บอร์ด ที่ช่วยให้องศามือของเราอยู่ในองศาที่พอดี ไม่หักข้อมือเกินไป ลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเส้นประสาทข้อมือกดทับหนึ่งในอาการตัวร้ายของออฟฟิศซินโดรมไปได้เลย

• ที่วางเท้า ช่วยให้ขาและเท้าอยู่ในองศาที่ดี เพื่อลดการปวดเกร็งเมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานาน จะเห็นได้ว่าอาจจะมีบางครั้งที่รู้สึกปวดและจี๊ดขึ้นมาเมื่อลุกจากเก้าอี้ไว ๆ ถ้ามีเจ้านี่อยู่จะช่วยเรื่องนี้ได้มากเลยทีเดียว

ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ Ergonomic ที่จะเข้ามาช่วยให้คุณหลุดพ้นจากออฟฟิศซินโดรมได้อย่างแน่นอน ซึ่งหากใครต้องการหาอุปกรณ์เกี่ยวกับ Ergonomic เพิ่มเติม ทาง Mercular.com เรามีทั้งโต๊ะปรับระดับ เก้าอี้สุขภาพ แผ่นรองเมาส์และรองคีย์บอร์ดสุขภาพ ที่ทางเท้า รวมไปถึงขาจับจอคอมพิวเตอร์และที่วางโน๊ตบุ๊คเพื่อช่วยให้คุณทำงานได้อย่างคล่องตัว มีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน มั่นใจให้เราห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรมได้เลยครับผม