เปิดตัว DJI Osmo Pocket 3 เก็บทุกประสบการณ์อย่างเหนือชั้น

เปิดตัวกันไปแล้วนะครับกับกล้องพกพาที่สเปกใหญ่เกินตัวจากแบรนด์ DJI กับเจ้า DJI Osmo Pocket 3 โดยในครั้งนี้กลับมาก็ยังคงมีดีไซน์ที่คลับคล้ายคลับคลาเดิม แต่เพิ่มเติมเข้ามาคือสเปกและจอที่ดีมากยิ่งขึ้นซึ่งบอกได้เลยว่าดีกว่ารุ่นก่อนค่อนข้างมากเลยทีเดียว หากใครที่เป็นแฟน ๆ ของแบรนด์นี้อยู่ล่ะก็ ต้องไม่พลาดแล้วล่ะครับ หน้าจอใหญ่ขึ้นถึง 4.7 เท่าตัว แถมยังหมุนได้เพื่อการทำคอนเทนต์ที่หลากหลาย รวมไปถึงสเปกและโหมดการใช้งานต่าง ๆ อีกมากมาย เกริ่นกันมาขนาดนี้แล้ว เราไปดูกันดีกว่าครับว่าฟีเจอร์เป็นยังไง มีอะไรใหม่ และส่วนไหนได้รับการอัปเกรดมาบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1 นิ้ว

DJI Osmo Pocket 3 นั้นมากับเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นในขนาด 1 นิ้ว สามารถบันทึกภาพและวิดีโอได้แบบคุณภาพสูง สามารถจับแสงเงา รวมไปถึงไฮไลต์ต่าง ๆ ได้อย่างคมชัด และสามารถบันทึกความละเอียดได้สูงสุดถึงระดับ UHD 4K ที่ 120fps บอกเลยว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานสำหรับสายวิดีโอได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการใช้งานระดับมืออาชีพ พร้อมกับสกินโทนของผู้คนที่ถ่ายออกมาได้เป็นธรรมชาติ 

และยังมีฟีเจอร์ Glamour Effects 2.0 ที่เป็นเอฟเฟกต์ช่วยให้หน้าตาออกมาเป็นธรรมชาติดูสวยงามมากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นฟีเจอร์  ActiveTrack 6.0 ฟีเจอร์การติดตามตัวใหม่ที่สามารถใช้งานได้ง่าย โดยมากับ Face Auto-Detect ที่โฟกัสใบหน้าและติดตามตลอดการถ่ายทำ และ Dynamic Framing ที่สามารถเลือกจุดที่อยู่ในเฟรมของตัวเราหรือสิ่งของได้ ให้คุณสามารถเก็บบรรยากาศด้านหลังไปพร้อมกับคุณได้ในฟีเจอร์นี้

หน้าจอใหญ่มากขึ้น 4.7 เท่า

หน้าจอของ DJI Osmo Pocket 3 มากับขนาดที่ใหญ่ขึ้นมากว่าเดิม 4.7 เท่าด้วยขนาด 2 นิ้วแบบ OLED พร้อมระบบการสัมผัส ความละเอียดอยู่ที่ 314×556 พิกเซล และมีความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 700 nits ให้คุณได้ใช้งานหน้าจอที่ใหญ่มากขึ้น สวยงามลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ถนัดมากยิ่งขึ้นเพราะสามารถควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้ว แถมยังใช้การเปิดเครื่องผ่านการบิดหน้าจอ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นหลายเท่าตัว

ภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล

ระบบป้องกันการสั่นของเจ้า DJI Osmo Pocket 3 ก็ไม่ใช่เล่น ๆ เลยล่ะครับ เพราะเค้ามากับ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว mechanical แบบสามแกน ซึ่งหากมองจากหลากหลายที่ที่ได้ทำการรีวิวไว้นั้นบอกได้เลยว่าของเค้าดีจริง ๆ แถมยังสามารถเลือกระดับได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะนำไปถ่ายเดินแบบชิล ๆ ก็สมูธไม่เวียนหัว หรือจะเป็นวิ่งที่เคลื่อนไหวแบบรุนแรงก็ยังนิ่งราวกับว่าใช้ gimbal อยู่เลยก็ว่าได้

ฟีเจอร์การใช้งานของ DJI Osmo Pocket 3

โหมดการใช้งานนั้นเรียกได้ว่ามาให้ครบ จบในมือเดียว เพราะเค้าให้มาจัดเต็มจริง ๆ ครับ ตอบรับการใช้งานของคุณได้หมดจดแน่นอน โดยจะมีทั้ง

• SpinShot : หมุนกล้องได้ถึง 180 องศา แบบลื่นไหลสมูธขั้นสุดได้ด้วยการใช้มือเดียว
• Motionlapse : เก็บภาพตลอดช่วงเวลาที่งดงามตระการตาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นหรือเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม
• การซูมดิจิทัล : การซูมดิจิทัลสูงสุด 4x ด้วยความสมูธให้คอนเทนต์ของคุณมีคุณภาพสูงสุด
• พาโนรามา : เก็บภาพทิวทัศน์ได้ครบทุกรายละเอียด
• โหมดสี D-Log M 10 บิตและ HLG 10 บิต บันทึกภาพให้ได้ไดนามิกที่สูง ความละเอียดของสีสูง รวมไปถึงดีเทลสีที่ละเอียดอ่อนเพื่อนำไปตัดต่อเกลี่ยสีในระดับมืออาชีพ
• Product Showcase โหมดใหม่ที่ทำออกมาเพื่อการสตรีมและไลฟ์สด เพื่อโหมดนี้จะเป็นการโฟกัสพื้นหน้า ลำดับความสำคัญของวัตถุ แถมยังปรับโฟกัสได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

ไมโครโฟนรับเสียงที่คมชัด

DJI Osmo Pocket 3 ยังมากับไมโครโฟนภายใน 3 ตัวที่จะบันทึกเสียงสเตอริโอที่หลากหลายได้อย่างสมจริง และยังลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะลม ผู้คน หรือเสียงต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น และยังรองรับโปรโตคอลเสียง USB ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับไมโครโฟนภายนอกและหูฟังมอนิเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว

รองรับการตัดต่อที่รวดเร็ว

ด้วยแอพ LightCut จาก DJI สามารถให้คุณเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อนำไปตัดต่อโดยที่ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดฟุตเทจลงในอุปกรณ์มือถือ ซึ่งมันจะช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในสมาร์ทโฟน และมีฟีเจอร์ One-Tap Edit เพื่อการตัดต่อที่ง่ายดายเพียงปลายนิ้ว แถมในแอพยังมีเทมเพลตวิดีโอที่หลากหลาย ให้คุณสามารถตัดต่อได้ในระดับมืออาชีพอย่างง่ายดาย

ชาร์จไว ใช้ได้ยาวนาน

ด้วยแบตเตอรีของ DJI Osmo Pocket 3 นั้นจะทำให้คุณถ่ายทุกอย่าง และสนุกเพลิดเพลินกับการบันทึกได้ทั้งวัน ซึ่งรองรับการชาร์จที่รวดเร็วมากขึ้นถึง 3 เท่าจากรุ่นก่อน คุณจะได้แบตเตอรี่ 80% เมื่อชาร์จทิ้งไว้เพียง 16 นาที ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว และสามารถบันทึกวิดีโอ 4K/60fps ได้นานถึง 116 นาที หรือฟุตเทจ 1080p/24fps ได้นานถึง 166 นาที

ซึ่งในตอนนี้ทางบ้านเรานั้นก็มีบางร้านค้าชั้นนำใหญ่ ๆ ที่นำเข้ามาขายกันบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นแบบ Pre-Order อยู่นั่นเอง ซึ่งคาดการณ์ว่าอีกไม่นานก็คงจะได้จับจองกันแบบไม่ต้อง Pre-Order อย่างแน่นอน ส่วนการวางขายนั้นก็จะมีให้เลือก 2 แบบคือแบบธรรมดา กับแบบ Creator Combo ที่จะเพิ่มอุปกรณ์เสริมมากมายสำหรับสายครีเอเตอร์นั่นเอง โดยแต่ละเซตราคาก็จะอยู่ที่

• DJI Osmo Pocket 3 - Single  ราคาขาย 17,900 บาท
• DJI Osmo Pocket 3 - Creator Combo  ราคาขาย 21,900 บาท

เป็นอีกหนึ่งกล้องพกพาที่สเปกน่าสนใจสุด ๆ เลยก็ว่าได้ครับ บอกเลยว่าสาย Vlog Youtuber หรือครีเอเตอร์อื่น ๆ นั้นหากได้เจ้า DJI Osmo Pocket 3 ไปแล้วล่ะก็ สามารถทำงานได้ง่ายดาย สะดวกสบายมากขึ้นแน่นอน ทั้งดีไซน์ที่ถนัดมือ ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่จัดเต็ม กันสั่นก็ยอดเยี่ยม ถ่ายกลางคืนหรือแสงน้อยก็ดีสุด ๆ ไมโครโฟนก็ให้เสียงชัดเจน หน้าจอก็ใหญ่มากกว่าเดิมมาก ไม่รู้จะจัดเต็มยังไงแล้ว รองรับคุณภาพงานตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพได้อย่างแน่นอนครับผม