RAM DDR มีกี่ประเภทและความเร็ว Bus คืออะไร

ต้องบอกเลยครับว่าในการเลือกซื้อ RAM สักตัวเนี่ย เราจะดูแค่ขนาดของพื้นที่ความจำเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะในนอกจากขนาดของพื้นที่ที่ไว้ใช้เก็บข้อมูลแล้ว ความเร็วในการส่งต่อข้อมูลก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าหากเก็บไว้ได้เยอะแต่ส่งไปได้ช้าก็คงมีปัญหาอย่างอื่นตามมาได้ ซึ่งความเร็วในการส่งข้อมูลของแรมเนี่ยสามารถดูได้จากประเภทของ DDR และความเร็วอย่าง Bus Speed ดังนั้นวันนี้พวกเรา Mercular.com จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ RAM DDR มีกี่ประเภทและความเร็ว Bus คืออะไร ที่จะช่วยให้การเลือกซื้อแรมของคุณนั้นเป็นเรื่องง่าย นำไปคุยกับช่างซ่อมคอมได้อย่างไม่อายใคร ซึ่งก่อนจะไปดูกันว่า DDR มีกี่ประเภทและ Bus คืออะไรเรามาทำความรู้จักกับ RAM กันก่อนดีกว่า

สำหรับ แรม หรือ RAM (Random-Access Memory) นั้นเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของทั้งคอมพิวเตอร์ มีหน้าที่เป็นพื้นที่สำหรับพักข้อมูลจากพื้นที่เก็บข้อมูลอย่าง SSD หรือ HDD ก่อนส่งไปประมวลผลที่ CPU ยิ่งมีความเร็วที่สูง ก็ยิ่งดึงข้อมูลมาจากพื้นที่เก็บข้อมูลมาไว้กับตัวและส่งข้อมูลไปประมวลผลที่ CPU ได้ไว ซึ่งความรวดเร็วนี้จะช่วยให้การใช้งานทุกอย่างภายในคอมพิวเตอร์ของเราทำงานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด เปรียบเหมือนสายพานที่สามารถรับสิ่งของที่จำเป็นทุกอย่างมาไว้กับตัวและส่งไปตำแหน่งต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหาในห้องเก็บของ ซีพียูสามารถหยิบจากที่นี่ได้ทันที

DDR มีกี่ประเภท ?

อย่างที่บอกไปนะครับว่าแรมเนี่ยเป็นสิ่งสำคัญของคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้การทำงานทุกอย่างนั้นราบรื่น จึงเป็นอีกชิ้นส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีแรมที่เราใช้กันอยู่นั้นจะถูกเรียกว่า DDR ที่ย่อมาจาก Double Data Rate ที่บ่งบอกถึงการทำงานที่สามารถส่งข้อมูลได้มากกว่า SDRAM เดิม ๆ ถึง 2 เท่า โดยจนถึงตอนนี้ก็ได้มี DDR ออกมาทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน ไล่เรียงกันตั้งแต่ DDR, DDR2, DDR3, DDR4 และล่าสุดคือ DDR5 ซึ่งแต่ละรุ่นก็ได้พัฒนาประสิทธิภาพให้มากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้รวดเร็วมากขึ้น มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเดิมและกินพลังงานน้อยลง 

• DDR2: สำหรับเจ้า DDR2 จะเป็นแรมประเภทแรกที่สามารถเสียบคู่กันสองตัวเพื่อการใช้งานแบบ Dual-Channel ได้ ช่วยเพิ่มหน่วยความจำ (Memory) ของแรมในคอมพิวเตอร์ให้สูงมากขึ้นกว่าเดิม
• DDR3: สำหรับเจ้า DDR3 นั้นจะได้รับการเสริมประสิทธิภาพมากกว่า DDR2 ถึง 2 เท่าทั้งขยาย Bandwidth และความเร็วในการส่งข้อมูล แต่จุดที่โดดเด่นของ DDR3 เลยคือความประหยัดพลังงานที่กินไฟน้อยลงกว่า DDR2 มาก จึงเป็นประเภทแรมที่นิยมในการเอาใช้งานในโน๊ตบุ๊คหรืออุปกรณ์พกพาสุด ๆ 
• DDR4: สำหรับเจ้า DDR4 นี้จะพัฒนาความเร็วในการส่งข้อมูลจาก DDR3 ไปได้สูงกว่าเดิมมาก ๆ มีความเร็วเริ่มต้นที่สูงถึง 1600 MT/s (เทียบเท่ากับความเร็วสูงสุดของ DDR3) และสามารถพุ่งสูงถึง 3200 MT/s (ซึ่งสามารถไปได้สูงกว่านี้หาก Overclock เพิ่มเติม) แม้จะมี DDR5 แล้วแต่เจ้า DDR4 ยังคงเป็นมาตรฐานของแรมในปัจจุบันอยู่ ด้วยความเร็วที่เพียงพอกับการใช้งานและตัวเลือกที่มีให้อย่างหลากหลาย
• DDR5: ว่าที่มาตรฐานใหม่ของแรมในอนาคตอย่าง DDR5 ที่มีประสิทธิภาพแซงแรมประเภทก่อนหน้าทุกด้านอย่างก้าวกระโดด ทั้งความเร็วเริ่มต้นที่สูงกว่า สามารถดันความเร็วให้สูงกว่าเมื่อก่อนมาก ๆ (สูงสุดตอนนี้มีความเร็วสูงเกินกว่า 8700 MHz ไปแล้ว) กินพลังงานน้อยกว่า และมีอายุการใช้งานที่นานกว่าเคย แต่ด้วยความที่ยังใหม่อยู่ จึงมีราคาที่สูงและในการอัปเกรดแรมเป็นประเภทที่ใหม่กว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่แบบยก Mainboard แต่บอกได้เลยว่าอีกไม่นานเกินรอ DDR5 จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับวงการแรมและเทคโนโลยีแน่ ๆ ครับ

ซึ่งใครที่สงสัยว่าควรเลือกแบบไหน พวกเราก็ได้ทำสรุปไว้ให้แล้วที่ DDR4 vs DDR5 แตกต่างกันอย่างไร ซื้อตอนนี้คุ้มหรือไม่ ที่นอกจากจะสรุปความแตกต่างของทั้งสองประเภทนี้แล้วยังช่วยตอบคำถามต่าง ๆ เช่น การใช้งานร่วมกัน, เหมาะกับใคร ฯลฯ พร้อมช่วยให้การตัดสินซื้อแรมตัวใหม่ของคุณง่ายขึ้นด้วยครับ

Bus คืออะไร ต้องเร็วแค่ไหนถึงจะพอใจเธอ

เมื่อพูดถึงแรมแล้วนอกจากพื้นที่ความจำ (Memory) และประเภทของแรมแล้ว สิ่งที่จะเห็นได้ตลอดเลยคือ Bus Speed ที่มักจะอยู่ต่อท้ายชื่อแรมตามหน้าร้านต่าง ๆ เช่น 16 GB DDR4-3200 ซึ่งเจ้า Bus คือความเร็วของการโอนถ่ายข้อมูลระหว่าง CPU กับ RAM กล่าวคือยิ่งมี Bus เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานได้ราบรื่นขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ในการใช้งานเล่นเกมความเร็ว Bus สามารถส่งผลต่อเฟรมเรทที่เราทำได้ในเกมอีกด้วย ยิ่งเกมไหนที่มีฉากและองค์ประกอบที่ต้องเรียกใช้งานเยอะ ๆ การมีแรมที่รวดเร็วจะช่วยให้การเล่นเกมของเรานั้นลื่นไหลไม่มีสะดุดเลยด้วย 

ในการวัดความเร็วของ RAM นั้นส่วนใหญ่จะใช้หน่วยเป็น MHz แต่ในบางครั้งเราเห็นว่ามีการใช้หน่วย MT/s (หนึ่งล้านหน่วยต่อวินาที) ซึ่งหน่วย MT/s จะเป็นการวัดจำนวนข้อมูลที่โอนถ่ายจริง ๆ ส่วน MHz จะใช้ระบุรอบความถี่การทำงานที่ทำได้ ส่วนมากค่า MT/s จะสูงกว่าค่า MHz ถึงสองเท่า เช่น DDR4-2400 เมื่อใช้งานจริงอาจจะมีความเร็วที่ 1200 MHz แต่ข้อมูลที่โอนถ่ายได้จริง ๆ คือ 2400 MT/s ตามที่สเปกระบุ

โดยปัจจุบันความเร็ว Bus ขั้นต่ำที่แนะนำคือ 3000 สำหรับ DDR4 และ 4800 สำหรับ DDR5 เพื่อให้รองรับการใช้งานในสมัยนี้ได้อย่างทั่วถึงและลื่นไหล บอกลาหน้าโหลดหมุน ๆ ทั้งเล่นเกมและใช้ทำงาน ทั้งนี้ก็ต้องดูความเข้ากันได้ระหว่างแรมและชิ้นส่วนอื่น ๆ อย่าง CPU และ GPU ด้วย เพื่อป้องกันปัญหาคอขวดที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาด้วยนะครับ

สำหรับ RAM นั้นก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่ต้องให้ความสำคัญในคอมพิวเตอร์ไม่แพ้การ์ดจอหรือซีพียูเลย เพราะการมีแรมที่รวดเร็วและมีพื้นที่ความจำจำนวนมาก ๆ เนี่ยจะช่วยให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ในแต่ละวันของคุณลื่นไหลจนลืมปัญหาคอมค้าง โหลดโปรแกรมไม่ทันไปได้เลย ก่อนจากกันไปที่นี่ Mercular.com เรามีโน๊ตบุ๊คสเปกแรงที่อัดแน่นไปด้วย RAM ความเร็วสูงอยู่เพียบ ทุกรุ่นทุกตัวคัดสรรมาจากแบรนด์คุณภาพ มาพร้อมกับประกันที่ไว้ใจได้และบริการหลังการขายที่บอกเลยว่าหายห่วง