มินิรีวิว Razer Kiyo Pro Web Camera
26 มี.ค. 2564
สำหรับกล้อง Razer Kiyo Pro กล้องเว็บแคมรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Razer ตัวนี้มาพร้อมกับราคาเปิดตัวที่อเมริกาสูงถึง 20 ดอลล่าห์ ซึ่งจัดว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก ๆ เพราะราคาเริ่มต้นไนไทยนั้นไม่ต่ำกว่าเลข 7 แน่ ๆ จนต้องถามหาความคุ้มค่ากันยกใหญ่ ซึ่งจากสเปค และทีมงาน Mercular บางคนที่ได้ทดลองใช้ไปแล้วก็ต้องบอกว่าความคุ้มค่าของกล้องเว็บแคม Razer Kiyo Pro ตัวนี้ อยู่ในระดับกลาง ๆ โดยการใช้งานหลัก ๆ ตัวกล้องจะเน้นการใช้งานง่าย ๆ เกือบทุกอย่างทำงานอัตโนมัติที่มีการคำนวนรวดเร็ว เซ็นเซอร์แสงดี ชดเชยแสงใช้งานง่าย ถือว่าเป็นกล้องที่เอาเม็ดเงินไปแลกกับความขี้เกียจก็ว่าได้
การออกแบบของ Razer Kiyo Pro
โดยการออกแบบตัวกล้องเว็บแคม Razer Kiyo Pro จะใช้วัสดุโลหะอลูมิเนียม ส่วนกระจกป้องกันเลนส์นั้นก็ให้มาเป็น Gorilla Glass 3 ที่ เชื่อมต่อผ่านสาย USB 3.0 Pro รองรับความละเอียดภาพสูงสุดในระดับ Full HD 1080p 60fps ทำให้สามารถส่งข้อมูลปริมาณมากได้อย่างลื่นไหล ทำให้เฟรมภาพไม่กระตุก สามารถสตรีมได้ต่อเนื่องตลอดจนจบไลฟ์ สามารถเปิดใช้งาน HDR Mode ได้ และมาพร้อมกับ Mount ขนาด Universal ที่ใช้ร่วมกับ Camera Accessory อย่างเช่นขา Tripod ได้
Razer Kiyo Pro สเปค และการใช้งานเป็นอย่างไร ?
โดยฟีเจอร์การใช้งานหลัก ๆ ของกล้อง Live Stream Razer Kiyo Pro ก็คือ Adaptive Light Sensor ที่จะช่วยให้ตัวกล้องสามารถวิเคราะห์แสงได้แม่นยำและชดเชยแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้คุณใช้งานเจ้า Razer Kiyo Pro ได้ไม่ว่าจะเป็นใน สถานการณ์ ย้อนแสง /แสงน้อย /แสงจ้า หรือ ห้องที่เป็นไฟ RGB ที่มีการเปลี่ยนแปลงของสีสันอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นก็ยังปรับองศาการรับภาพของตัวกล้องได้อีก 3 ระยะได้แก่ 103° 90° และ 80° นอกจากนั้นแล้วตัวกล้องยังมาพร้อมกับไมโครโฟน Omnidirectional ในตัวรองรับ Audio Codec 16 Bit 48 KHz โดยคุณภาพเสียงที่ได้ออกมาถือว่าไม่เลวเลย แต่อาจจะต้องระวังเรื่องพื้นที่ใช้งานหน่อยเพราะตัวไมค์ไม่ได้ตัดเสียงรบกวนอาจจะไม่เหมาะกับห้องที่มีเสียงเข้าเยอะมากนั่นเอง ทั้งยังรองรับ Software Razer Synapse เพื่อการปรับแต่งเพิ่มเติมอื่น ๆ ได้อีกด้วยนั่นเอง โดยตัวกล้องจะรองรับการทำงานกับ Software หรือ อุปกรณ์ Live Streaming ส่วนมากได้อยู่แล้ว
สรุปซื้อ Razer Kiyo Pro ดีไหม ?
สรุปแล้ว ถ้าดูจากความละเอียดของภาพหรือการใช้งานหลัก ๆ แล้ว Razer Kiyo Pro ถูกออกแบบมาให้เป็นกล้อง Webcam all-in-one ที่มีการใช้งานจบในตัว และเน้นใช้สตรีมมิ่งเป็นหลัก ดูได้จากความละเอียดภาพที่ให้มาไม่สูงมาก เหมือนกับเจ้าอื่นทั้งนี้ก็เพราะเวลาเราไลฟ์จริง ๆ ตัว Platform ที่ใช้กันก็ไม่ได้รองรับคุณภาพสูงถึงระดับ 4k ได้ ฉะนั้นถ้ามองข้ามเรื่องคุณภาพของภาพไปดูที่การใช้งานก็ถือว่าตอบโจทย์ครับ ส่วนวันวางจำหน่ายนั้นคาดว่าจะเริ่มวางตลาดตั้งแต่ช่วงเดือนเมษาหลังสงกรานต์เป็นต้นไป ใครที่สนใจก็อย่าลืมกำเงินรอเอาไว้นะครับ