ส่องจุดเด่นลำโพงล้อลากเคลื่อนที่ มีดีมากกว่าความสะดวก

เชื่อว่าหลายท่านน่าจะเคยเห็นลำโพงตู้สี่เหลี่ยมที่มีล้อลาก มีด้ามจับยืดหดได้คล้ายประเป๋าเดินทาง สามารถลากจูงไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นั่นแหละครับคือ ลำโพงล้อลากหรือลำโพงเคลื่อนที่ ปัจจุบันลำโพงชนิดนี้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นมากทั้งเรื่องคุณภาพเสียง การเชื่อมต่อ ไปจนถึงรูปร่างหน้าตา พร้อมกับสเปค กำลังขับ ขนาดดอกลำโพง และฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลายครอบคลุมการทำงานตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับอาชีพ นอกจากล้อและด้ามจับแล้ว ลำโพงล้อลากส่วนใหญ่จะมีไมโครโฟนมาให้ในชุด อาจจะ 1 ตัวหรือ 2 ตัวก็ขึ้นอยู่กับสเปคและราคา ไมค์ที่ให้มาก็มักจะเป็นไมค์แบบไร้สาย ผู้ใช้จึงใช้พูดหรือร้องเพลงได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องต่อพ่วงอุปกรณ์ภายนอก 

ลำโพงล้อลากเคลื่อนที่มีองค์ประกอบหลายอย่างคล้ายกับลำโพง P.A. รุ่นเริ่มต้นราคาไม่แพงมักจะมาพร้อมไดร์เวอร์ Full range หนึ่งตัว สามารถขับเสียงได้กว้างครอบคลุมย่านเบส กลาง แหลม แต่มิติเสียงก็จะไม่ดีมากนัก รุ่นที่มีสเปคสูงขึ้นมาหน่อยก็จะมาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงแบบ 2 ทาง ประกอบด้วยดอกลำโพงวูฟเฟอร์สำหรับขับเสียงเบสกับเสียงกลางและมีดอกลำโพงทวีตเตอร์สำหรับขับเสียงแหลมแยกเฉพาะ หรือถ้าสเปคโหดยิ่งกว่านั้นคือไดร์เวอร์แบบ 3 ทาง ประกอบด้วยดอกลำโพงวูฟเฟอร์ขับเสียงเบส ดอกลำโพงมิดเรนจ์ขับเสียงกลาง และดอกลำโพงทวีตเตอร์ขับเสียงแหลม ซึ่งจะแยกย่านความถี่กันชัดเจน เสียงที่ได้ก็จะมีรายละเอียดของแต่ละย่านที่คมชัดและมีคุณภาพสูง ซึ่งมาพร้อมกับราคาค่าตัวที่สูงตามไปด้วย 

ลำโพงเคลื่อนที่ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมมิกเซอร์ในตัวจึงสามารถปรับเสียงทุ้ม กลาง แหลม ได้ตามต้องการ และถ้ามีไมค์มาให้ก็จะมีภาครับสัญญาณและปรีไมค์สำหรับปรับค่าสัญญาณและใส่เอฟเฟกต์พวก Echo และ Reverb ต่างๆ เพื่อให้เสียงพูดมีความสดและอิ่ม นอกจากนี้ลำโพงล้อลากรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ทำให้สตรีมเพลงจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างสะดวก จะมีแบตเตอรี่ในตัว (รุ่นเก่าต้องใส่ถ่าน) จึงไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กเพื่อใช้งานแต่อย่างใด

• จุดเด่นแรกและเป็นจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของลำโพงล้อลากเคลื่อนที่ทุกรุ่นก็ตามชื่อเลยนั่นก็คือความสะดวกในการเคลื่อนที่ การมีล้อและด้ามจับยืดหดทำให้คุณสามารถลากพาลำโพงชนิดนี้ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกและรวดเร็วเสมือนเป็นกระเป๋าเดินทาง สามารถยกหิ้วได้อย่างสะดวก ยิ่งถ้าเป็นรุ่นที่น้ำหนักเบาก็ขนย้ายขึ้นรถได้สบายเลยครับ 

• จุดเด่นต่อมาคือการใช้งานที่ง่าย ไมค์ลอยที่มากับลำโพงทำให้คุณสามารถใช้พูดได้ทันทีโดยไม่ต้องต่อสายหรืออุปกรณ์รับสัญญาณอื่นใด ไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กเพราะมีแบตเตอรี่ในตัว ถ้าลำโพงล้อลากเคลื่อนที่รุ่นไหนต่อ Bluetooth หรือเสียบ USB ได้เวลาเปิดเพลงประกอบบรรยากาศ เปิดสปอตโฆษณา หรือข้อความเสียงประชาสัมพันธ์ ก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้น 

• จุดเด่นต่อมาความอเนกประสงค์ในการใช้งาน เครื่องเสียงเคลื่อนที่ทุกรุ่นถูกออกแบบให้ทำงานได้หลายหน้าที่จากการจูนเสียงมาให้รองรับทั้งเปิดเพลงและการพูด ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งการเปิดเพลง ใช้ในงานโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การประชุมสัมมนา งาน outing บริษัท งานปาร์ตี้ ไปจนงานกิจกรรมอีเวนต์ขนาดเล็กทั้ง indoor และ outdoor ซึ่งคุณภาพเสียงก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนไดร์เวอร์ภายใน ยิ่งถ้ามีไดร์เวอร์แยกขับแต่ละย่านความถี่ เสียงที่ออกมาก็จะมีรายละเอียดและมิติที่ดี 

• จุดเด่นสุดท้ายที่น่าจะถูกใจใครหลายคนก็คือรูปลักษณ์ดีไซน์และลูกเล่นสนุกสนานตระการตา ลำโพงล้อลากรุ่นใหม่หลายรุ่นครอบคลุมนิยามความเป็นลำโพงปาร์ตี้เข้าไปด้วย เห็นได้จากดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ไฟ LED วิบวับ และเอฟเฟกต์เสียงตลก เป็นต้น ซึ่งลูกเล่นเหล่านี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานกิจกรรมหรืองานปาร์ตี้สนุกๆ สร้างบรรยากาศโดยรวมให้สนุกตามไปด้วย นอกจากนี้ลำโพงเคลื่อนที่บางรุ่นยังมีคุณสมบัติกันน้ำ จึงสามารถใช้งานได้ในหลายๆ สถานที่ เช่น ริมสระว่ายน้ำ ริมน้ำตก ริมทะเล ไปจนถึงใช้งานในขณะฝนตก หรือใช้ในวันสงกรานต์ โดยไม่ต้องกังวลว่าโดนน้ำแล้วจะเสียหาย

พูดถึงจุดเด่นกันไปแล้ว มาดูข้อจำกัดของลำโพงล้อลากเคลื่อนที่กันบ้าง ประการแรกเลยคือเรื่องระยะพื้นที่การใช้งาน ด้วยความที่ลำโพงล้อลากส่วนใหญ่จะออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่โตเกินไปเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนที่และขนย้าย เมื่อมีขนาดไม่ใหญ่ก็ไม่สามารถใส่ดอกลำโพงไซส์ใหญ่เสียงดังๆ กำลังขับสูงๆ เข้าไปได้มากนัก เมื่อเป็นแบบนี้เสียงที่ออกมาจึงมีความดังไม่เพียงพอกับพื้นที่โล่งแจ้งขนาดใหญ่ เช่น สนามฟุตบอล ลานกีฬา ลาดจอดรถ ทุ่งโล่ง ลาดวัด เป็นต้น จึงเหมาะใช้งานในกิจกรรมขนาดเล็กๆ ที่ใช้พื้นที่จำกัดมากกว่า เช่น ภายในห้างสรรพสินค้า ห้องประชุม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สวนสาธารณะ ยิม เป็นต้น 

ข้อจำกัดอีกอย่างคือ ลำโพงเคลื่อนที่ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ทั้งเปิดเพลงและการพูด ด้วยความอเนกประสงค์ทำได้หลายอย่างนี่เองทำให้เสียงที่ออกมามีคุณภาพเป็นกลาง พูดง่ายๆ คือทำได้ดีทั้งคู่ แต่เสียงยังไม่โดดเด่นสุดทางในด้านใดด้านหนึ่ง หากงานที่ใช้ค่อนข้างซีเรียสกับคุณภาพเสียง เช่น ต้องการเสียงดนตรีที่ไพเราะ คมชัด ใสเคลียร์ เปิดเพลง Hi-Res Audio หรือเน้นฟังเพลงเป็นหลัก ลำโพงชนิดนี้อาจไม่ตอบโจทย์