รู้จัก Roon แพล็ตฟอร์มฟังเพลงตัวท็อป ใช้งานอย่างไร ราคาเท่าไร

ปัจจุบันเป็นยุคของการฟังเพลงผ่านแพลตฟอร์ม music streaming ด้วยจุดเด่นด้านความสะดวกสบาย มีเพลงมากมายมหาศาลครอบคลุมทุกแนว คุณภาพเสียงดีไม่แพ้ฟังจากแผ่นซีดี ฟังได้จากทุกที่ จากหลายอุปกรณ์ ทั้งยังมีค่าบริการรายเดือนที่ไม่แพง ทำให้มีแอปฯ และโปรแกรม music streaming ให้เลือกใช้บริการมากมาย ที่นิยมก็ได้แก่ Joox, Spotify, YouTube Music, Apple Music, Tidal, Deezer เป็นต้น วันนี้ Mercular.com จะมาแนะนำอีกหนึ่งแพลตฟอร์มฟังเพลงอย่าง Roon ที่แม้ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในบ้านเรามากนักแต่แพลตฟอร์มก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างโดยเฉพาะในกลุ่มคนเล่นเครื่องเสียงระดับโปร มาดูกันครับว่าแพลตฟอร์มนี้น่าสนใจอย่างไร มีฟีเจอร์เด่นอะไรบ้าง ทำงานอย่างไร ค่าบริการเท่าไร และน่าใช้แค่ไหน

Roon คือระบบซอฟท์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้จัดการกับไฟล์เพลงโดยอาศัยเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างไฟล์เพลงกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่จำเป็น เช่นฮาร์ดดิสที่เก็บไฟล์เพลง, คอมพิวเตอร์, DAC, ลำโพง และเชื่อมโยงกับระบบซอฟท์แวร์อื่นๆ เช่น music server หรือแพลตฟอร์ม music streaming ออนไลน์ โดยหน้าที่หลักของ Roon เริ่มตั้งแต่การเล่นไฟล์เพลง (playback) ในเครื่องของเรา จัดการกับไฟล์เพลง (manage) ไปจนถึงสตรีมเพลงจาก Tidal และ Qobuz (ปัจจุบันยังรองรับแค่ 2 เจ้านี้) และเล่นวิทยุ internet radio พูดง่ายๆ คือ Roon เป็นแพลตฟอร์มฟังเพลงที่ควบรวมการฟังจากทั้งไฟล์เพลงภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราและการสตรีมเพลงจากผู้ให้บริการออนไลน์ สามารถจัดการไฟล์เพลงได้ ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด

Roon พัฒนาโดยบริษัท Roon Labs จุดประสงค์คือช่วยให้ผู้ใช้งานได้พบกับประสบการณ์การฟังเพลงแบบใหม่ที่ สะดวก ง่าย รวดเร็ว สะดวกสบาย ยืดหยุ่น พร้อมด้วยคุณภาพเสียงที่ดี และสามารถควบคุมสั่งการได้จากแอปฯ บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยในระบบจะประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญได้แก่ control คือส่วนการควบคุมสั่งการ, core ส่วนที่เป็นศูนย์กลางของระบบจัดการ และ output ส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่ในการแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อก เช่น DAC และลำโพง เป็นต้น

แพลตฟอร์มฟังเพลง Roon มาพร้อมกับคุณสมบัติสุดเจ๋งหลายอย่างที่แพลตฟอร์ม music streaming อื่นๆ ทำไม่ได้ จะมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

การใช้งานแพลตฟอร์มฟังเพลง Roon จำเป็นต้องมี 3 ส่วน เริ่มด้วย Roon core หรือส่วนที่เป็นศูนย์กลางของระบบ ส่วนนี้เปรียบเสมือนสมองของระบบสำหรับจัดการไฟล์เพลง การสตรีมมิ่ง และส่งสัญญาณออกไปยังอุปกรณ์เสียง สามารถใช้คอมพิวเตอร์ของเราเป็นหน้าที่เป็น core ได้ เพียงโหลดโปรแกรม Roon มาติดตั้งในเครื่อง โหลดได้ทั้ง Windows และ Mac OS เมื่อโหลดมาแล้วให้ทำการลงทะเบียนใช้งานและผูกบัญชี Tidal ตัวโปรแกรมจะเริ่มสแกนไฟล์เพลงในฮาร์ดดิสก์และใน Tidal มาแสดงรวมกันในหน้าแรกของโปรแกรม จากนั้นทำการตั้งค่าการส่งสัญญาณ output ไปยังอุปกรณ์เสียงอย่าง DAC หรือลำโพงต่อไป

เพื่อความสมบูรณ์แบบ Roon ได้ทำอุปกรณ์ core ของตัวเองขึ้นมาขายในชื่อ Nucleus นี่คืออุปกรณ์ music server ประสิทธิภาพสูงสำหรับการประมวลผลเสียงออกสู่ DAC และลำโพง ภายในบรรจุเพลงมหาศาลพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลจำนวนมาก มาพร้อมสเปคและการเชื่อมต่อสำหรับการฟังเพลงคุณภาพสูง สามารถสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องต่อคอมพิวเตอร์แต่จำเป็นต้องต่อสาย LAN เพื่อเข้าถึงอินเตอร์เน็ต รองรับการเชื่อมต่อครบทั้ง HDMI, USB และ Thunderbolt รวมถึงการสตรีมแบบไร้สายผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi ทั้งยังรองรับการสตรีมแบบ Multi-room โดยอุปกรณ์นี้ควบคุมผ่านแอปฯ Roon Remote

ส่วนต่อมาที่ต้องมีคือ control หรือส่วนควบคุมการทำงาน สามารถโหลดแอปฯ Roon Remote มาไว้บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ติดตั้งได้ไม่จำกัดจำนวนเครื่อง แอปฯ นี้เปรียบเสมือนรีโมทควบคุมการทำงาน Roon core ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการพื้นฐานเช่น เล่นเพลง ค้นหาเพลง สร้างเพลย์ลิสต์ จัดหมวดหมู่เพลง ไปจนถึงการตั้งค่าระบบ และการปรับเสียง

ส่วนสุดท้ายที่ต้องมีคือ output หรือฮาร์ดแวร์ที่หน้าที่ในการแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอะนาล็อก ได้แก่ DAC, Amp และลำโพงต่างๆ โดย Roon Core จะสตรีมไปยังอุปกรณ์เสียงไม่ว่าจะอยู่ในเครือข่ายไร้สายหรือเชื่อมต่อผ่าน USB หรือ HDMI สามารถเล่นเพลงที่แตกต่างกันในทุกห้อง หรือเล่นเพลงเดียวกันทั่วทั้งบ้านก็ได้ สามารถควบคุมการเล่นเพลงไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่ายๆ ด้วยมือถือ นอกจากนี้ ทุกอุปกรณ์ที่รองรับ Roon จะให้เสียงคุณภาพสูงที่ไม่ถูกบีบอัดหรือลดคุณภาพจากไฟล์ต้นฉบับ 

ปัจจุบันมีอุปกรณ์มากมายทั้ง DAC, Amp, ลำโพง, เครื่องเล่นเพลง ที่รองรับการใช้งานแพลตฟอร์ม Roon สังเกตได้ง่ายๆ คือจะมีสัญลักษณ์หรือข้อความ Roon Ready ระบุในกล่องหรือสเปกสำหรับอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองโดย Roon Labs ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายอุปกรณ์ที่ผ่านมาตรฐาน Roon Tested ซึ่งได้รับการจัดทำโปรไฟล์โดยทีมงานของ Roon Labs เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์นั้นสามารถใช้งานร่วมกับ Roon ได้ไม่มีปัญหา เพื่อคุณภาพและประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ตัวอย่างแบรนด์ดังที่มีอุปกรณ์รองรับ Roon Ready และ Roon Tested ได้แก่ Astell&Kern, AudioQuest, Bowers & Wilkins Cambridge Audio, Chord, Denon, Devialet, ifi, Kef, JBL, Marantz, Matrix Audio, McIntosh, Meridian, Naim, Onkyo, Oppo, Pioneer, Q Acoutics, Sonus Faber, T+A, Technics เป็นต้น 

ค่าบริการการใช้งานแพลตฟอร์ม Roon ในตอนนี้มี 2 แพ็คเกจให้เลือกคือราคา 9.99 ดอลลาร์/เดือน (ราว 330 บาท) เรียกเก็บเงินเป็นรายปี และราคา 12.99 ดอลลาร์/เดือน (ราว 430 บาท) เรียกเก็บเงินเป็นรายเดือน นอกจาก 2 แพ็คเกจนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบคือการซื้อครั้งเดียวในราคา 699.99 ดอลลาร์ (ราว 23,500 บาท) ใช้ได้ตลอดชีพ สำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการแพลตฟอร์ม Roon สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมมาทดลองใช้งานได้ก่อน 15 วันครับ

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของแพลตฟอร์มฟังเพลง Roon ที่ต้องยอมรับเลยว่าน่าสนใจมากๆ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักฟังเพลงสาย Audiophile ที่ต้องการความสะดวกในการจัดเก็บไฟล์เพลงและรวบรวมไฟล์ทั้งในเครื่องของเราและบนบัญชี TIDALl รวมไว้ในที่เดียว ถ้าคุณใช้งาน TIDAL อยู่แล้วและชื่นชอบการฟังเพลงคุณภาพสูง การใช้งานร่วมกับ Roon ถือว่าเหมาะมาก นอกจากนี้ยังมีเรื่องของฮาร์ดแวร์ทั้ง DAC, Amp และลำโพงอีกหลายรุ่นที่รองรับการทำงานกับ Roon ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันจะให้ประสบการณ์การฟังเพลงที่สุดยอดทั้งคุณภาพเสียงและสุดยอดทั้งการใช้งาน

Mercular.com หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังศึกษาหาข้อมูลและสนใจจะใช้งาน Roon กันอยู่นะครับ สุดท้ายนี้ทางเราต้องขอตัวลาไปก่อน พบกับบทความแนะนำสิ่งที่น่าสนใจดีๆ แบบนี้ได้ที่ Mercular.com สำหรับวันนี้สวัสดีครับ