ซาวด์การ์ดกับ DAC ต่างกันอย่างไร แบบไหนเล่นเกมดีกว่ากัน

ถ้าพูดถึงอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวกับเสียงในวงการเกมมิ่งเกียร์นั้น ซาวด์การ์ดกับ DAC นั้นก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Accessory สำคัญสำหรนับหูฟังและลำโพงของเราให้สามารถขับเสียงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม แต่จะว่าด้วยหน้าตา หรือการทำงานที่คล้ายคลึงกัน ทำให้หลายๆ คน งุนงน สับสน ไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี วันนี้ ทาง Mercular.com จะพาทุกคนมาดูให้ชัดๆ เลยว่าระหว่าง ซาวด์การ์ดกับ DAC นั้นเหมือนหรือต่างกันขนาดไหน และแบบไหนจะเล่นเกมได้ดีกว่ากัน

DAC คืออะไร

DAC หรือในชื่อเต็มๆ ว่า Digital to Analog Convertor ที่แปลงเป็นภาษาไทยได้ว่าเครื่องแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อคถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญสุดๆ ในเครื่องเสียงเลย เพราะนี่สิ่งที่ทำให้เราได้ยินเสียงต่างๆ จากในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นอื่นๆ ที่เป็นสัญญาณดิจิทัล 0101 บลาๆๆ แล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าอนาล็อคเพื่อให้หูฟัง ลำโพงของเรานั้นทำงาน ขับเสียงออกไปตามต้นเสียงนั่นเอง ซึ่งความจริงแล้ว DAC เองก็ไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวกับเราเลยแม้แต่น้อย เพราะในคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่นๆ ส่วนใหญ่ก็มี DAC ในตัวกันอยู่แล้ว แต่ที่หลายๆ คนเห็นการใช้งาน DAC แยกก็เพราะประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า เพื่อให้เสียงที่ออกมานั้น ถูกแปลงมาให้ใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับนั่นเอง

ข้อดี-ข้อเสียของ DAC

แน่น่อนว่าหนึ่งในข้อดีของ DAC เลยก็คือเรื่องของความคมชัด และเที่ยงตรงของเสียงที่เราได้ยินตามแบบของต้นฉบับ ที่ทำให้เราสามารถฟังเสียง รายละเอียดต่างๆ ได้อย่างชัดเจนและเป็นมิติมากขึ้น และสำหรับ DAC บางตัวนั้นก็จะมีแอมป์ในตัวที่ช่วยเพิ่มกำลังขับของหูฟังของเรา หรือที่เรียกกันในชื่อ DAC/AMP นั่นเอง

แต่ข้อเสียหลักของ DAC เลยก็คือ ราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับ DAC ดีๆ ซักตัว ที่เมื่อแทบๆ ดูแล้วอาจสามารถซื้อหูฟังดีๆ มาแทนได้เลย และยังกินพื่นที่บนโต๊ะของเราเพิ่มด้วย ใครที่โต๊ะรกโต๊ะเล็กอาจจะต้องเผื่อใจไว้ด้วย

ซาวด์การ์ดคืออะไร

ส่วนซาวด์การ์ด (Sound Card) นี้ก็เป็นชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่สำคัญไม่แพ้ DAC เลย โดยซาวด์การ์ดจะทำหน้าที่ตรงข้ามกันก็คือ การรับสัญญาณอนาล็อกต่างๆ ที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์มาประมวลผลให้เป็นสัญญาณดิจิทัลที่สามารถส่งไปยังสำโพง หูฟังต่างๆ ของเราได้นั่นเอง และไม่เพียงแค่การประมวลผลเท่านั้น แต่บนตัวซาวด์การ์ดบางรุ่นยังมี DAC และ Amp ในตัวมาด้วย ทำให้สามารถทำงานรับจบเรื่องเสียงแบบทันที ไม่ต้องพึ่งของเสริมใดๆ

ข้อดี-ข้อเสียของซาวด์การ์ด

สิ่งๆ หนึ่งที่ซาวด์การ์ดทำได้ดีกว่า DAC แยกก็คือเรื่องของการทำงาน ในขณะที่ DAC ทำได้เพียงแค่แปลงสัญญาณเสียง ซาวด์การ์ดก็สามารถทำการประมวลข้อมูลต่างๆ ให้ออกมาเป็นเสียงที่มีคุณภาพได้ รวมถึงซาวด์การ์ดยังสามารถปรับแต่ง EQ ต่างๆ ใหมีเสียงที่ถูกใจเราได้มากขึ้น แถมราคาก็ไม่แรงมาก และสามารถติดตั้งภายในคอมพิวเตอร์ผ่านพอร์ต PCie บนเมนบอร์ด ทำให้ไม่กินพื้นที่จัดเก็บแบบ DAC

แต่ด้วยความที่ซาวด์เป็นชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ทำให้ความหลากหลายในการเชื่อมต่อกับเครื่องต่างๆ นั้นเทียบกับ DAC ไม่ติด และด้วยความที่มันอยู่ในคอมพิวเตอร์ที่ตลบอบอวนไปด้วยคลื่นสัญญาณต่างๆ ทำให้เสียงจากซาวด์การ์ดนั้นมีโอกาศที่จะผิดเพี้ยนหรือมีเสียง Noise ต่างๆ จากปัญหาคลื่นแทรกได้นั่นเอง

ถ้าพูดถึงการเล่นเกมแล้ว ซาวด์การ์ดกับ DAC นั้นต่างก็มีหน้าที่ๆ คล้ายคลึงกัน แต่ผลลัพท์นั้นก็ถือว่าต่างกันอยู่ไม่น้อย โดยที่ DAC นั้นจะให้เสียงที่มีความคมชัดมากขึ้น ให้เสียงที่เคลียร์ไม่ผิดเพื้ยน แยกเนื้อเสียงและมิติต่างๆ ได้อย่างชัดเจนขึ้น ในขณะที่ซาวด์การ์ดนั้นจะช่วยในเรื่องของการประมวลผลเสียง และการปรับจูนเสียงได้ตามที่เราชอบ ทำให้เสียงในเกมของเรานั้นมีคุณภาพที่ดียิ่งกว่าเดิม ซึ่งถ้าคุณต้องการเสียงที่คมชัดแม่นยำเป็นที่ตั้ง เน้นฟังเสียงเท้า ตำแหน่งเสียงต่างๆ ละก็ DAC จะถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างพอดีเลย แต่ถ้าคุณอยากจะสัมผัสคุณภาพเสียงที่เต็มอิ่ม เสียงเอฟเฟคที่ปรับจูนมาเพื่อประสบการณ์เล่นเกมที่ยอดเยี่ยมกว่าละก็ ซาวด์การ์ดก็น่าจะเป็นคำตอบที่ตรงกับที่คุณต้องการที่สุด

และสุดท้ายนี้ ทุกคนก็น่าจะพอรู้แล้วว่าซาวด์การ์ดกับ DAC นั้นแตกต่างกันยังไง แบบไหนที่เข้ากับการเล่นเกมของเราแล้วนั้น ก็ได้เวลาที่จะมาตามหา DAC และซาวด์การ์ดดีๆ คุณภาพเยี่ยมยอดมาใช้งานกันบ้างแล้ว อย่าลืมแวะเข้ามาเลือกชมสินค้า DAC, DAC/AMP, ซาวด์การ์ดเล่นเกมและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ที่หมวด ดูหนัง ฟังเพลง และหมวด เล่นเกม กันได้เลย ส่วนบทความหน้าจะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง รออ่านกันได้เลย