เทียบสเปค Steam Deck VS Nintendo Switch OLED

ถ้าพูดถึงเกมพกพาในปัจจุบันนั้น เชื่อเลยว่าหลายๆ คนที่ต้องนึกถึง Nintendo Switch เครื่องเล่นเกมรุ่นล่าสุดจากปู่นิน ที่นอกจากจะพกพาง่าย เล่นได้ทุกที่ และมีเกมปาร์ตี้ต่างๆ มากมายให้เราได้เล่นสนุกกัน แถมยังครองตำแหน่งเครื่องเล่นเกมพกพาหนึ่งเดียวในท้องตลาด ที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาแข่ง แต่ไม่นานมานี้เอง ก็ได้มีผู้ท้าชิงหน้าใหม่ ซึ่งไม่ใช่เกมคอนโซลเจ้าเก่าๆ อย่าง Playstation หรือ Xbox แต่อย่างใด นั่นก็คือ Steam Deck ผลงานเกมคอลโซลพกพาจาก Valve ผู้พัฒนาวิดีโอเกมชื่อดังและเจ้าของแพลตฟอร์ม Steam ที่ทุกคนรู้จักกัน และเมื่อมีเกมใหม่มาท้าชนแบบนี้ เราจึงขอพาทุกคน มาเทียบสเปคกันแบบจะๆ ว่าระหว่าง Nintendo Switch รุ่น OLED กับ Steam Deck แต่ละเครื่องแตกต่างกันขนาดไหน แต่ละฝั่งมีดีที่อะไรบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย

Nintendo Switch OLED คืออะไร

สำหรับเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch OLED ตัวนี้จัดว่าเป็นโมเดลรุ่นล่าสุดของ Nintendo Switch ซึ่งในรุ่นนี้เองก็จะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 7 นิ้ว ที่ให้ภาพที่สวยงามและคมชัดยิ่งขึ้น และมีขนาดไหน้าจอที่ใหญ่กว่า 2 รุ่นก่อนหน้า รวมถึงมีการเพิ่มขนาดความจุภายในเครื่องให้เป็น 64 GB และเพิ่มพอร์ต LAN ลงบนตัว Dock เพื่อการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบมีสาย ที่รุ่นก่อนหน้านั้นไม่มีมาให้ ซึ่งในรุ่น Nintendo Switch OLED ยังคงสามารถใช้งานได้ทั้งแบบมือถือ ตั้งโต๊ะ หรือจะเสียงกับตัว Dock ต่อเข้ากับจอแยกก็ได้เช่นกัน ซึ่งใครที่กำลังมองหาเครื่อง Nintendo Switch ตัวใหม่หรือตัวแรกอยู่หล่ะก็ แนะนำให้จัดรุ่นนี้เลย

เข้าชมหน้าสินค้าได้ ที่นี่

สเปคและประสิทธิภาพ

สำหรับสเปคภายในของแต่ละตัวน้้น Steam Deck จะใช้หน่วยประมวลผล AMD Zen 2 3.5 GHz ชิพ GPU AMD RDNA 2 แรมภายใน 16 GB และหน่วยความจำภายในที่มีให้เลือกตั้งแต่ 64 GB eMMC / 256 GB SSD / 512 GB SSD ส่วนทาง Nintendo Switch OLED นั้นจะใช้ชิพจาก Nvidia Tegra X1 และ GPU Nvidia Maxwell มีแรมภายใน 4 GB และหน่วยความจำภายใน 64 GB eMMC ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ดูเหมือนว่า Steam Deck จะได้เปรียบกว่าในข้อนี้ ด้วยจำนวนแรมและหน่วยความจำที่เปลี่ยนเป็น SSD ได้ รวมถึงความแรงของหน่วยประมวลผลที่เหนือชั้นกว่าด้วย

หน้าจอ

สำหรับหน้าจอนั้น จะบอกว่าแค่เห็นชื่อก็น่าจะเดาได้แล้วว่าใครจะชนะ เพราะ Nintendo Switch OLED นั้นก็ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 7 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดระดับ HD ให้ภาพและสีที่สดใส คมชัด ส่วนในฝั่งของ Steam Deck นั้นจะเป็นหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด HD เหมือนกัน ทำให้ในข้อนี้ Nintendo Switch OLED ชนะ Steam Deck ไปอย่างสบายๆ

แบตเตอรี่

ส่วนของแบตเตอรี่ของแต่ละรุ่นนั่น ถือว่าสูสีพอสมควร เพราะในส่วนของ Steam Deck นั้นมีระยะการใช้งานอยู่ที่ 2 - 8 ชั่วโมง ส่วน Nintendo Switch OLED นั้นจะสามารถเล่นได้ถึง 4.5 - 9 ชั่วโมง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเกมที่เราเล่นด้วยว่าจะกินสเปคขนาดไหน แต่เมื่อเทียบๆ ดูแล้ว เราก็ขอยกให้ Nintendo Switch OLED ชนะไปในส่วนนี้

การเชื่อมต่อ อุปกรณ์เสริม

สำหรับการเชื่อมต่อนั้น ของบอกว่าทั้ง Steam Deck และ Nintendo Switch OLED นั้นสามารถรองรับการ Docking ได้ทั้งคู่ ทำให้เราสามารถต่อจอเล่นเกมได้อย่างสบายๆ แต่สิ่งที่ทำให้ Steam Deck ได้เปรียบกว่าเพราะเราสามารถนำเมาส์ คีย์บอร์ดมาต่อเล่นเกมได้อีกด้วย ทำให้เราสามารถเล่นเกมบน Steam Deck ได้ชิลๆ เหมือกับเล่นคอม PC ทั่วไป แต่แม้ว่า Nintendo Switch OLED จะต่อเมาส์คีย์บอร์ดไม่ได้ แต่ก็มี Nintendo LABO ที่เป็นอุปกรณ์สำหรับเล่นเกมเฉพาะของ Nintendo Switch แต่เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าแล้ว ก็ต้องขอเลือก Steam Deck ก่อนละกัน

ดีไซน์ การออกแบบ

ถ้าพูดถึงการออกแบบนั้น ก็ต้องยอมรับว่าทั้งสองเครื่องนั้นมีดีไซน์ที่ถือว่าใกล้เคียงกัน (หน้าจออยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยคอนโทรลเลอร์) แต่คอนโทรลเลอร์ของ Nintendo Switch OLED อย่าง Joycon กลับมีลูกเล่นมากกว่า ตั้งแต่การถอดจอยออกจากตัวเครื่องเพื่อนำมาถือเล่น จอยแต่ละฝั่งสามารถแยกเป็นจอย 1/2 สำหรับเล่นสองคนหรือมากกว่านั้น รวมถืงเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหว ที่ทำให้เราสามารถเขย่าหรือขยับจอยในการเกมได้ ในขณะที่ฝั่งของ Steam Deck จะมี Trackpad ซ้าย - ขวาสำหรับใช้แทนเมาส์ ซึ่งนอกจากคอนโทรลเลอร์แล้ว Nintendo Switch OLED ยังได้เปรียบกว่าในเรื่องของขนาดและน้ำหนัก โดยที่ Nintendo Switch OLED จะมีขนาดและน้ำหนักอยู่ที่ 9.5 x 4.0 x 0.6 นิ้ว กับ 420 กรัม ส่วน Steam Deck มีขนาดและน้ำหนัก 11.7 x 4.6 x 1.9 นิ้ว กับ 669 กรัม ทำให้ฝั่ง Nintendo Switch ได้เปรียยบกว่าในจุดๆ นี้

เกมที่มีให้เล่น

ถ้าอ้างอิงจาก Wikipedia ในปัจจุบันนี้มีเกมที่ลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch อยู่ที่ประมาณ 4,349 เกม ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีเกม Nintendo Switch Exclusive ยอดฮิตหลายๆ เกมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Super Smash Bros., Splatoon 2 และเกมจากซีรีส์ประจำค่ายอย่าง Super Mario Odyssey, The Legend of Zelda: Breath of the Wild, Animal Crossing: New Horizons หรือเกมแนวออกกำลังกายอย่าง Ring Fit Adventure ทำให้เกมของ Nintendo Switch OLED มีหลายหลากและเข้ากับผู้เล่นทุกแนว

แต่ขณะเดียวกัน Steam Deck ก็รองรับเกมจากแพลตฟอร์มตัวเองอย่าง Steam ซึ่งมีมากกว่า 50,000 เกมในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงเกมระดับ AAA ทั้งหลายแห่งบน PC อย่าง Elden Ring, Dying Light 2, God Of War แต่ด้วยความที่เกมเหล่านี้ใช้เมาส์ คีย์บอร์ดในการเล่น ทำให้บางเกมไม่สามารถเล่นผ่านจอยบนเครื่องได้ อย่างเช่น Total War: Warhammer 3 และเกม RTS ต่างๆ แต่ด้วยจำนวนเกมที่มีให้เล่นมากกว่า ทำให้ในข้อนี้ Steam Deck เป็นฝ่ายชนะไป

• สเปคและประสิทธิภาพ - Steam Deck
• หน้าจอ - Nintendo Switch OLED
• แบตเตอรี่ - Nintendo Switch OLED
• การเชื่อมต่อ อุปกรณ์เสริม - Steam Deck
• ดีไซน์ การออกแบบ - Nintendo Switch OLED
• เกมที่มีให้เล่น -Steam Deck

ถือว่าอยู่ในระดับที่สูสีไม้น้อยเลยสำหรับ Steam Deck ที่สามารถขึ้นมาเทียบชั้นกับขาใหญ่อย่าง Nintendo Switch OLED ได้ แม้ว่าจะมีข้อด้อยบางอย่างอยู่ แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่เราจะได้เห็นการเล่นเกม PC แบบพกพาจริงๆ ซึ่งในตอนนี้ ถ้าใครสนใจอยากจะเป็นเจ้าของ Steam Deck ก็ต้องลำบากซะหน่อย เพราะทาง Valve นั้นไม่ได้เปิดให้จองในประเทศไทย อาจจะต้องพึ่งเครื่องหิ้วแทน แต่ถ้าใครเปลี่ยนใจ อยากได้ Nintendo Switch ทั้งรุ่นธรรมดา และ OLED สามารถเข้ามาดูหน้าร้าน Nintendo จากทาง Mercular.com ได้เลย นอกจากจะมีเครื่องเล่นเกมแล้ว แผ่นเกม Nintendo Switch เราก็มีขายเหมือนกัน สำหรับบทความนี้ก็ขอจบที่ตรงนี้ คราวหน้าจะมีอะไรดีๆ มานำเสนออีก รออ่านกันได้เลย