ส่องระบบเสียงหูฟัง 7.1 Surround จาก 6 ค่ายดัง

ฟีเจอร์เสียง 7.1 Surround กลายเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ต้องเห็นจนชินตาบนหูฟังเกมมิ่งในปัจจุบันไม่ว่าจะถูกหรือแพง เพราะเทคโนโลยีเสียง 7.1 Surround นั้นจะช่วยให้ผู้เล่นเกมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของเกมที่สมจริงกว่า รวมไปถึงช่วยในการระบุทิศทางให้แม่นยำขึ้น ทำให้การแข่งขันในตลาดหูฟังเกมมิ่ง เทคโนโลยีเสียงรอบทิศทางเหล่านี้กลายเป็นจุดเด่นที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้ทีมงาน Mercular จะอาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับระบบเสียง Sound 7.1 นี้ให้มากขึ้น !

คำว่า 7.1 Surround เริ่มต้นจากระบบเสียงที่ถูกใช้งานในวงการภาพยนตร์ ด้วยการจัดลำโพง 7 ตัวไว้รอบทิศทาง (3 ตัวทางด้านหน้า 2 ตัวด้านข้าง และ 2 ตัวข้างหลัง) รวมกับลำโพง Subwoofer อีก 1 ตัว ทำให้เกิดเป็นระบบเสียงรอบทิศทาง 7.1 Surround ที่สร้างความสมจริงให้กับเสียง เสมือนผู้ชมอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันกับตัวละคร ซึ่งความเป็น Cinematic นี้เองทำให้แบรนด์เกมมิ่งเกียร์คิดจะดึงเอาฟีเจอร์เสียงรอบทิศทางเหล่านี้เข้ามาใช้ในหูฟังเกมมิ่ง ซึ่งการทำงานของหูฟัง 7.1 นั้นแทนที่จะใช้ลำโพง 7 ตัวหรือไดรเวอร์ 7 ตัว ก็จะเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์จำลองเสียงเหล่านั้นขึ้นมา โดยการให้โปรแกรมจัดวางตำแหน่งเสียงที่เกิดขึ้นใหม่ และกำหนดทิศทางให้ไดรเวอร์ขับเสียงออกมาจากตำแหน่งและทิศทางที่กำหนดเกิดเป็นเสียงบรรยากาศเสียงที่สมจริงและความแม่นยำในการระบุทิศทาง แต่เทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ในหูฟัง Sound 7.1 เหล่านี้ก็มีมากมาย และแต่ละตัวเองก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปซึ่งในวันนี้ Mercular จะพาทุกคนไปดูระบบเสียงรอบทิศทาง 6 รูปแบบที่ถูกใช้งานในหูฟังเกมมิ่งตัวท็อปในตลาดขณะนี้ว่ามีจุดเด่นแตกต่างกันอย่างไร

DTS คงเป็นชื่อของระบบเสียง Surround ที่หลาย ๆ คนคุ้นหู เพราะก่อนที่จะถูกนำมาใช้งานกับหูฟังเกมมิ่งระบบเสียงรอบทิศทางนี้ยังถูกใช้งานและได้รับการยอมรับในวงการเครื่องเสียงบ้าน และภาพยนตร์มาก่อน ข้อดีที่ชัดเจนมาก ๆ ของระบบเสียง DTS:X คือตัวมันเป็นโปรแกรมมาตรฐานในการสร้างเสียง Surround ในเกมระดับ AAA ทั่วไป ทำให้การันตีได้เลยว่าหูฟังที่ใช้ ระบบเสียงรอบทิศทางนี้ จะได้ยินเสียง Surround ที่ตรงกับต้นฉบับและชัดเจนถึงรสตามต้นฉบับของผู้ผลิตอย่างแน่นอน นั่นทำให้หูฟังอย่าง Steelseries Arctis 7 และ Pro เป็นแชมป์หูฟัง 7.1 ที่ล้มได้ยากมาก ๆ นั่นเอง 

THX Spatial Audio ถือว่าเป็นฟีเจอร์เสียงรอบทิศทางตัวแรก ๆ ที่ถูกดึงเข้ามาใช้งานกับหูฟังเกมมิ่งหลังจากที่ฟีเจอร์ Sound 7.1 บูม ซึ่งหูฟังเกมมิ่ง Razer ก็ถือว่าเป็นเจ้าแรกที่เข้าไปจับมือกับ THX ที่ทำงานด้านเสียง Surround สำหรับภาพยนตร์โดยเฉพาะ โดยเสียงรอบทิศทางของ THX นั้นถูกออกแบบมาให้มีมิติเสียงเป็นเหมือนโดนทรงกลมล้อมรอบผู้ฟังอยู่ เสียงจะมีความละเอียดอ่อนและอยู่ใกล้หู เวลาเล่นเกมแล้วจะให้ความรู้สึกเหมือนกับดูหนังอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีมิติเสียงสูงต่ำสมจริงทำให้มีเสียงด้านบรรยากาศและเอฟเฟคที่โดดเด่น ซึ่งในด้านนี้ถือว่าเป็นหูฟังที่เอาไปเล่นเกมที่ต้องพึ่งเสียงบรรยากาศประกอบได้ดีมาก ๆ อย่างเกมแนวสยองขวัญไปจนถึงแอคชั่นนั่นเอง

Creative SXFI (Super X-Fi) ถือว่าเป็นเทคโนโลยีเสียงที่น่าจับตามองที่สุดของปี ที่เปิดตัวได้ร้อนแรงด้วยรางวัล Best of CES 2019 จากรีวิวเวอร์และสำนักข่าวสายเทคโนโลยีทั่วโลกถึง 23 เจ้า โดยการทำงานของมันจะทำงานรวมกับ AI เพื่อทำการแสกนใบหน้าและใบหูเพื่อให้ตัวโปรแกรมสร้างความเข้าใจในรูปหน้าของเรา จากนั้นเสียงจะถูกตัวโปรแกรมย้ายตำแหน่งเวทีเสียงให้สมจริงตามรูปหน้าของเรา โดย SXFI ยังช่วยยกระดับการฟังเพลง และการดูหนัง ให้มีเวทีเสียงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสียงที่ได้จะมีความกว้างและระดับความลึกมากกว่าเดิม โดยรวมการทำงานของมันโดดเด่นเรื่อง Cinematic และเวทีเสียงที่ลึกมาก ๆ

Quantum Surround เป็นเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทางที่เปิดตัวมาพร้อมกับ JBL Quantum Series โดยดัดแปลงมาจาก การทำงานของมันคือการเพิ่มทิศทางการขับเสียงในระนาบสูง-ต่ำให้กับผู้ฟัง ทำให้เสียงมีลักษณะเป็นโดม มีมิติสูง-ต่ำในเสียง โดยทาง JBL จะเน้นเรื่องความแม่นยำในการระบุทิศทางด้วยเบส ทำให้เล่นเกมได้สนุกแม่นยำ ถือว่าเป็นฟีเจอร์เสียงรอบทิศทางที่เหมาะกับเกม FPS มาก นอกจากนี้แล้วในหูฟังรุ่น Top อย่าง JBL Quantum ONE จะมีการเสริมการใช้งาน Head Tracking ที่ตัวหูฟังจะติดตามการเคลื่อนไหวของหัวผู้ใช้ เพื่อบรรยากาศที่สมจริงขึ้น และเหมาะกับเกมแนว VR ด้วยนั่นเอง

สำหรับ Waves NX เป็นฟีเจอร์เสียงรอบทิศทางที่ปรากฏอยู่ในหูฟัง Planar Magnetic Driver ทั้ง 2 ยี่ห้อได้แก่ HyperX Cloud Orbit / Orbit S และ Audeze Mobius ซึ่งการทำงานของมันจะคล้ายคลึงกับ DTS:X แต่สำหรับ Waves NX บนหูฟังทั้ง 2 ค่ายนี้จะเสริมการทำงานอย่าง Head Tracking ลงไปด้วย ทำให้ทิศทางของเสียงหมุนไปตามหูฟังของผู้ใช้งาน เสริมให้หูฟังที่ใช้ฟีเจอร์เสียงนี้มีเสียงบรรยากาศที่สมจริง ซึ่งฟีเจอร์นี้เหมาะสมมาก ๆ กับเกม VR ที่จะช่วยให้ผู้เล่นได้รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนนั้นจริง ๆ 

Immerse เป็นโปรแกรมเสียงสมจริงที่ทำงานคู่กับ AI สร้างเสียงที่เข้ากับหูและหัวของคุณ โดยการใช้ภาพถ่ายใบหู คล้ายคลึงกับ SXFI ของ Creative แต่แนวเสียงที่ได้นั้นแตกต่างกันเล็กน้อย โดยตัว Immerse จะมีการจัดเวทีเสียงที่กระชับและแคบกว่า ช่วยทำให้แรงปะทะของเบสนั้นชัดเจน ในด้านความสมจริงของตำแหน่งเสียง SXFI อาจจะทำได้ดี แต่ถ้าเอาความมันส์กับใช้เล่นเกมดี Immerse อาจจะโดดเด่นกว่าเล็กน้อย *เป็นความเห็นของทางทีมงานเท่านั้น* โดยเจ้าระบบเสียง Immerse ตัวนี้แม้จะใช้หูฟังที่รองรับการใช้งานกับมันแล้วก็ต้องจ่ายเงินเป็นแพคเกจรายเดือนด้วย โดยตกอยู่ที่เดือนละประมาณ 100 บาท 

*ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นจากทีมงาน Mercular เท่านั้น

Mercular เคยพูดถึงเสียง Sound 7.1 ไปครั้งหนึ่งแล้วในบทความ “หูฟังเล่นเกมจำเป็นต้องใช้ระบบเสียง 7.1 หรือไม่” แต่ถ้าใครยังไม่เคยอ่านทางเราก็จะขอหยิบมาพูดถึงให้ฟังอีกครั้งนึงครับ สำหรับเสียง 7.1 Surround นั้นแม้จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แต่ก็มีเสียงคอมเมนต์บางส่วนที่ไม่ชื่นชอบฟีเจอร์เสียงเหล่านี้นัก เพราะหูฟังบางตัวมีการจูนเสียง 7.1 มาได้ไม่แม่นยำพอทำให้เสียงหลอนหลอกหู ลดทอนความสนุกในตัวเกมไป หรือในเกมเมอร์ FPS ตัวท็อป ๆ หลาย ๆ คนก็มองว่าหูฟัง Stereo ตอบโจทย์พวกเขามากกว่าก็มี แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนเห็นตรงกันคือระบบเสียงรอบทิศทางเป็นระบบเสียงที่สนุก ช่วยเสริมการเล่นเกมให้ดีขึ้นได้เป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ชื่นชอบเล่นเกมเพลิน ๆ ไม่ต้องไป Competitive แข่งกับใคร รับประกันได้เลยว่าเสียงของหูฟัง 7.1 จะช่วยยกระดับการเล่นเกมของคุณได้เป็นอย่างดีแน่นอน

ฉะนั้นสุดท้ายนี้ สำหรับใครที่สนใจหูฟังเกมมิ่งเสียง Surround เหล่านี้ก็สามารถคลิกตามเข้าไปอ่านรีวิวได้ตามบทความของ Mercular ได้เลยครับ