5 โปรเจคเตอร์ 4K รุ่นไหนดี ราคาเบา คุ้มค่า น่าซื้อ ปี 2023

หากจะพูดถึงเทคโนโลยีการรับชมภาพในปัจจุบันนั้น สินค้าประเภทเด่นๆ ที่ผู้ใช้งานน่าจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เลยก็คือ TV และ Smart TV นั่นเอง ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกลมากๆ ทำให้ภาพที่ได้นั้นมีความคมชัดสมจริง สีสันสดใส และมีความละเอียดภาพที่สูงมากๆ ในระดับ 4K เลยทีเดียว และนอกเหนือจากผู้ใช้งานจะสามารถรับชมภาพผ่าน TV และ Smart TV ความละเอียดสูงได้แล้ว อีกอุปกรณ์สำหรับรับชมภาพที่กำลังได้รับความนิยมสูง และถูกใช้งานแพร่หลายทั้ง การรับชมเพื่อความบันเทิงภายในบ้าน, การใช้งานในห้องประชุมบริษัท และการใช้งานเพื่อฉายภาพสำหรับผู้รับชมที่มีจำนวนมาก นั่นก็คือสินค้าประเภท โปรเจคเตอร์ 4K นั่นเอง ที่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าไปไกลทำให้ไม่เพียงแต่ โปรเจคเตอร์ 4K จะสามารถถ่ายทอดภาพความละเอียดสูงได้เท่านั้น แต่ในบางรุ่นยังมาพร้อมลำโพงและไมโครโฟนภายในตัวทำให้ไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งานในการรับชมภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์การใช้งานในการประชุมทางไกลที่ต้องมีการสนทนาโต้ตอบไปมาอีกด้วย

และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา โปรเจคเตอร์ 4K และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นไหนดี รวมถึงรุ่นใดจะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นเช่น ภาพที่คมชัดระดับ 4K, การเชื่อมต่อที่ครบครัน การใช้งานที่ง่ายดายและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด จาก โปรเจคเตอร์ 4K หลากหลายรุ่นที่มีให้ได้เลือกซื้อและจับจองเป็นเจ้าของ ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา 5 โปรเจคเตอร์ 4K รุ่นไหนดี ราคาเบา คุ้มค่า น่าซื้อ ปี 2023 มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ

5 โปรเจคเตอร์ 4K ในบทความนี้

• โปรเจคเตอร์ ViewSonic X1000-4K+ Soundbar Projector
• โปรเจคเตอร์ ViewSonic X100-4K+ Projector
• โปรเจคเตอร์ ViewSonic X11-4KP Smart Projector
• โปรเจคเตอร์ ViewSonic PX728-4K Projector
• โปรเจคเตอร์ ViewSonic PX748-4K Projector

โปรเจคเตอร์ 4K รุ่นที่ 1 ในบทความนี้กับ โปรเจคเตอร์ ViewSonic X1000-4K+ Soundbar Projector โปรเจคเตอร์ 4K ที่ไม่เพียงแต่มาพร้อมความสามารถในการฉายภาพที่มีความคมชัดสูงในระดับ 4K เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมความสามารถในการใช้งานอื่นๆ ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านภาพที่มาพร้อมความละเอียดแบบ True 4K HDR, ระยะการฉายภาพที่สั้นแบบ Ultra Short Throw ที่ให้ภาพที่ใหญ่ถึง 100 นิ้วในระยะฉายเพียง 38 เซนติเมตรเท่านั้น ตอบโจทย์การสร้างห้องฉายภาพขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องใช้เนื้อที่มากนัก มาพร้อมเทคโนโลยีสี Cinema SuperColor+ (125% Rec.709) ด้วยหลอดฉายภาพ LED เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ไม่เพียงฉายภาพได้คมชัดสมจริงมากๆ เท่านั้น แต่ยังมีระยะการใช้งานที่มากถึง 30,000 ชั่วโมงอีกด้วย นอกจากความสามารถในด้านภาพในด้านเสียงก็ยอดเยี่ยมเช่นกันด้วยการใส่ลำโพง Soundbar จาก Harman Kardon ที่มีแรงขับสูงถึง 40W ให้เสียงที่ดังกระหึ่มสมจริงพร้อมมอบประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้การรับชมในโรงภาพยนตร์ ในส่วนของการเชื่อมต่อรองรับการเชื่อมต่อไร้สายที่ครบครันทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth

โปรเจคเตอร์ 4K รุ่นที่ 2 กับ โปรเจคเตอร์ ViewSonic X100-4K+ Projector โปรเจคเตอร์ 4K ที่มาพร้อมความสามารถในด้านภาพที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นความละเอียดภาพที่มีความคมชัดสมจริงสูงในระดับ 4K UHD เลยทีเดียว มาพร้อมสีสันที่สดใสจนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นโปรเจคเตอร์ 4K หรือ TV ด้วยเทคโนโลยี Cinema SuperColor+ (125% Rec.709) และเทคโนโลยีฉายภาพอย่างคมชัด LED รุ่นที่ 2 ที่ไม่เพียงแต่ฉายภาพได้คมชัดเท่านั้นแต่ยังมีระยะการใช้งานที่ยาวนานถึง 30,000 ชั่วโมงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสามารถในการเปลี่ยนเลนส์กว้าง H/V ที่มี่ข้อดีคือทำให้การติดตั้งนั้นง่ายดายและมีความยืดหยุ่นสุง ใช้งานได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนด้วยเสียงรบกวนจากพัดลมที่ต่ำมากๆ เพียง 20dB เท่านั้น การใช้านก็ง่ายดายมากๆ เพราะสามารถเปิดเครื่องใช้งานได้ในทันทีไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่ามากมายให้วุ่นวาย

โปรเจคเตอร์ ViewSonic X100-4K+ Projector รุ่นที่ 3 กับ โปรเจคเตอร์ ViewSonic X11-4KP Smart Projector โปรเจคเตอร์ 4K ที่มาพร้อมคุณภาพของการฉายภาพที่คมชัดในระดับ 4K และเทคโนโลยีการใช้งานที่ครบครันตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาสุดเท่ ล้ำสมัย การันตีด้วยรางวัล iF Design Award 2019 ทำให้เหมาะกับการตั้งวางใช้งานไว้ในทุกห้องทั้งในบ้าน และห้องประชุมที่บริษัทก็ตาม ภาพรวมคือเป็นสมาร์ทโปรเจคเตอร์ LED 4K HDR ระยะฉายสั้นไม่จำเป็นต้องใช้งานในห้องขนาดใหญ่ที่ให้ประสบการณ์ภาพที่มีความสมจริงสูงมากในระดับ 4K HDR เลยทีเดียว ในส่วนของสีสันนั้นมีความสมจริงจนแทบแยกของจริงไม่ออกด้วยเทคโนโลยี Cinema SuperColor+ ที่มีขอบเขตสีที่กว้างมากๆ ถึง 125% Rec.709 นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีขับภาพผ่าน LED รุ่นที่ 3 ที่ไม่เพียงแต่ขับภาพได้คมชัดและสมจริงเท่านั้นแต่ยังมีอายุการใช้งานที่มากถึง 30,000 ชั่วโมงอีกด้วย ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายครบถ้วนทุกแพลตฟอร์มด้วยการเชื่อมต่อที่ครบครัน ไร้สายและมีสาย ประกอบไปด้วย Wi-Fi, Bluetooth และ USB-C หมดปัญหาการหาลำโพงมาเชื่อมต่อเพิ่มด้วยการใส่ลำโพงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดย Harman Kardon มาในตัว และยังมาพร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติในทันทีพร้อมอัตราการฉายภาพสั้น 0.8 เพื่อการตั้งค่าที่ง่ายดาย

โปรเจคเตอร์ 4K รุ่นที่ 4 กับ โปรเจคเตอร์ ViewSonic PX728-4K Projector โปรเจคเตอร์ความละเอียด 4K ที่ออกแบบมาเพื่อความบันเทิงภายในบ้านและที่พักอาศัยพร้อมมอบประสบการณ์การรับชมภาพที่มีความละเอียดสูงถึงระดับ 4K HDR เลยทีเดียว เรียกได้ว่าแม้จะไม่ได้รับชมผ่าน TV ก็ตาม แต่ก็สามารถให้ประสบการณ์ด้านภาพที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันในระดับ 4K HDR ที่แท้จริงเลยทีเดียว และไม่เพียงแต่ให้ภาพที่คมชัดเท่านั้นแต่ในด้านสีสันก็มีความสดใสสมจริงไม่แพ้กันด้วยเทคโนโลยี Cinema SuperColor ที่ให้สีสันที่สดใสและมีขอบเขตสีถึง Rec.709 100% เลยทีเดียว ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้นตอบโจทย์การเชื่อมต่อเข้ากับจอภาพขนาดใหญ่ที่สามารถเชื่อมต่อได้โดยตรงผ่าน Port USB C ที่ให้การตอบสนองที่รวดเร็วมากๆ ถึง 4.2 ms. และมีอัตรารีเฟรชหน้าจอที่สูงมากๆ ถึง 240 Hz โดดเด่นด้วยการใช้งานที่ง่ายดายด้วยความสามารถในการติดตั้งที่ง่ายมากๆ ผ่าน Auto V Keystone และมีอัตราซูม 1.3 เท่ารวมถุงยังสามารถฉายภาพในพื้นผิวโค้งได้อีกด้วย พูดได้เลยว่าตอบโจทย์การใช้งานภายในบ้านและที่พักอาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังสามารถ เชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ผ่าน LAN และ 12V Trigger ได้อีกด้วย

โปรเจคเตอร์ 4K รุ่นที่ 4 รุ่นที่ 5 รุ่นสุดท้ายกับ โปรเจคเตอร์ ViewSonic PX748-4K Projector โปรเจคเตอร์ความละเอียดสูงถึง 4K ที่ออกแบบมาเพื่อความบันเทิงภายในบ้านและที่พักอาศัย ที่มาพร้อมสเปกภายในและฟังก์ชันการใช้งานที่จะมาเปลี่ยนประสบการณ์การรับชมภาพภายในบ้านให้ใกล้เคียงกับการรับชมภายในโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดภาพที่สูงถึงระดับ 4K HDR หรือก็คือพูดได้ว่าคมชัดไม่แพ้การรับชมบน TV อย่างแน่นอน และไม่เพียงแต่ความคมชัดเท่านั้นเพราะในด้านเทคโนโลยีสีก็ให้มาแบบจัดเต็มไม่แพ้กันด้วยเทคโนโลยี Cinema SuperColor ที่มีขอบเขตสีที่กว้างถึง Rec.709 100% สามารถเชื่อมต่อได้สะดวกและรองรับการเชื่อมต่อสู่จอภาพขนาดใหญ่ได้โดยตรงผ่าน USB C Port ที่ให้อัตราการตอบสนองที่รวดเร็วมากๆ ถึง 4.2 ms. และยังมาพร้อมอัตราการรีเฟรชหน้าจอที่ 240 Hz เลยทีเดียว ในส่วนของการใช้งานก็ง่ายดายมากๆ โดยสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายด้วยระบบ Auto V Keystone รองรับการฉายภาพทั้งพื้นผิวเรียบและพื้นผิวโค้ง เหมาะกับการใช้งานภายในที่พักอาศัยและยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ผ่าน LAN และ 12V Trigger

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 โปรเจคเตอร์ 4K รุ่นไหนดี ราคาเบา คุ้มค่า น่าซื้อ ปี 2023 ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น โปรเจคเตอร์ 4K ที่มาพร้อมความสามารถในการฉายภาพที่คมชัดระดับ 4K สีสันที่มีความสดใสสมจริงจนแทบไม่มีความแตกต่างระหว่าง TV และโปรเจคเตอร์ มาพร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครัน และยังโดดเด่นในเรื่องความสะดวกในการใช้งานอีกด้วย รับรองได้เลยว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา โปรเจคเตอร์ 4K และยังไม่รู้ว่ารุ่นไหนดีที่สุดและไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ

ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา โปรเจคเตอร์ 4K ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง โปรเจคเตอร์ 4K รุ่นไหนดี หรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ