5 เครื่องดูดฝุ่นในบ้าน สเปคคุ้ม ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
10 มี.ค. 2565
ฝุ่นภายในบ้านเป็นปัญหาชวนปวดหัวไม่น้อยสำหรับใครหลายคน จะกวาดแต่ละทีก็ฟุ้งกระจายไม่รู้ทิศทางทางแถมใช้เวลานานกว่าจะสะอาดทั่วบ้าน จะปล่อยไว้ก็ไม่ดีต่อสุขภาพ เอาเป็นว่าถ้าคุณกำลังมองหาตัวช่วยทำความบ้านสุดรักของตัวเองอยู่ละก็ เครื่องดูดฝุ่นในบ้านนี่แหละที่แก้ปัญหาเหล่านี้ได้ แต่ว่าในท้องตลาดก็มีเครื่องดูดฝุ่นมากมายจนเลือกไม่ถูก แล้วเราจะซื้อรุ่นไหนดีล่ะ?
บทความนี้ Mercular.com ได้รวบรวม 5 เครื่องดูดฝุ่นในบ้านรุ่นที่น่าสนใจ สเปคคุ้มค่า ดูดฝุ่นสะอาดหมดจด มาให้เรียบร้อยแล้ว โดยคัดมาเฉพาะเครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบด้ามจับเพราะเรามองว่ากำลังได้รับความนิยมและราคาไม่ได้แพงเหมือนแต่ก่อนแล้ว ทั้งยังใช้งานสะดวกกว่าอีกด้วย มาดูกันครับว่ามีรุ่นอะไรบ้าง และแต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไร?
5 เครื่องดูดฝุ่นในบ้าน ในบทความนี้
- Autobot x Dibea G22
- Xiaomi Mi Vacuum Cleaner G10
- Tefal Air Force 360 Light
- Electrolux Ultimate Home 900
- Philips SpeedPro Max
1. Autobot x Dibea G22
สเปคเด่น
- กำลังไฟ: 380 W
- แรงดูด: 29,000 Pa
- ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.7 ลิตร
- ทำงานได้ต่อเนื่อง: 48 นาที
- น้ำหนัก: 2.4 กิโลกรัม
เริ่มต้นรุ่นแรกกันด้วย Autobot x Dibea G22 Vacuum Cleaner เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 380 วัตต์ ตัวท็อปของแบรนด์ Autobot จุดเด่นคือพลังการดูดที่มากถึง 29,000 Pa สามารถจัดการฝุ่นได้สะอาดเอี่ยมไม่เว้นแม้กระทั่งขนสัตว์หรือไรฝุ่นบนที่นอน สามารถปรับแรงดูดได้ถึง 3 ระดับคือโหมด Highest, Strong, Standard และยังมีไส้กรอง HEPA H13 สำหรับช่วยกรองฝุ่นอนุภาคเล็กๆ ได้อย่างหมดจด ไม่ฟุ้งกระจาย สามารถเปลี่ยนหัวดูดได้หลายแบบตามความเหมาะสมของการใช้งาน ทำให้สามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ กล่องเก็บฝุ่นมีความจุ 0.7 ลิตร ในส่วนของแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงสุดถึง 48 นาทีในโหมด Standard มีไฟ LED แจ้งสถานะการใช้งานและสถานะแบตเตอรีให้เห็นได้อย่างชัดเจน และยังมีเสียงรบกวนน้อยเพียง 70dB เท่านั้น เรียกว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นในบ้านที่ให้สเปคมาคุ้มค่าดีมาก พร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม
ข้อดี
- แรงดูดทรงพลัง 29,000 Pa ปรับแรงดูดดับได้ 3 ระดับ
- สามารถดูดและถูพื้นได้แบบ 2 in 1
- ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 48 นาทีในโหมด Standard
- ไส้กรอง HEPA H13 มีส่วนช่วยกรองฝุ่นอนุภาคเล็ก
- เสียงรบกวนน้อยเพียง 70dB
ข้อควรระวัง
- เมื่อใช้งานเสร็จควรเทฝุ่นในกล่องเก็บฝุ่นทิ้งทันที
2. Xiaomi Mi Vacuum Cleaner G10
สเปคเด่น
- กำลังไฟ: 600W
- แรงดูด: 150AW
- มอเตอร์: 125,000 รอบ/นาที
- ทำงานได้ต่อเนื่อง: 65 นาที
- น้ำหนัก: 4 กิโลกรัม
Xiaomi Mi Vacuum Cleaner G10 เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายตัวท็อปของแบรนด์ จุดเด่นอยู่ที่มอเตอร์พลังสูง 125,000 รอบ/นาที สร้างแรงดูดสูงสุด 150AW เรียกว่าดูดฝุ่นได้สะอาดหมดจดถึงทุกซอกทุกมุมทุกของพื้นผิวอย่างแท้จริง สามารถปรับโหมดการดูดได้ 3 ระดับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไส้กรองฝุ่น HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% แต่หากเป็นฝุ่นผง เส้นผม ไรฝุ่น(บนผิวผ้า) สามารถกรองได้ถึง 99.99% เลยทีเดียว และมีจอสี TFT แสดงผลการทำงานชัดเจน ในส่วนของแบตเตอรี่มีความจุ 3000 mAh ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 65 นาที พร้อมกับระบบชาร์จเร็ว สามารถถอดกล่องเก็บฝุ่นมาทำความสะอาดได้ทุกเมื่อ และเปลี่ยนหัวดูดได้หลากหลายตามการใช้งาน จัดว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นในบ้านที่ครบเครื่องมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ใส่สเปคมาเต็ม ประสิทธิภาพการดูดไม่เป็นรองแบรนด์อื่น
ข้อดี
- พลังการดูดสูงถึง 150AW
- มีไส้กรอง HEPA กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 99.97%
- มีหน้าจอสีความละเอียดสูง
- ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 65 นาที
- ถอดกล่องเก็บฝุ่นมาทำความสะอาดได้
ข้อควรระวัง
- น้ำหนักค่อนข้างเยอะ
3. Tefal Air Force 360 Light
สเปคเด่น
- แรงดันไฟฟ้า: 21.6V
- แรงดูด: 60AW
- ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.4 ลิตร
- ทำงานได้ต่อเนื่อง: 30 นาที
- น้ำหนัก: 1.4 กิโลกรัม
ถ้าใครต้องเครื่องดูดฝุ่นในบ้านที่โดดเด่นเรื่องความกะทัดรัด ใช้งานสะดวก และมีน้ำหนักเบามากๆ ต้องรุ่นนี้ Tefal Air Force 360 Light ที่ถูกออกแบบให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ภายใต้รูปร่างกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 1.4 กก. เบาที่สุดในตลาดเครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบด้ามจับ จึงนำไปใช้งานในบริเวณต่างๆ ได้ง่ายและคล่องตัว มาพร้อมมอเตอร์ให้กำลังดูด 60 AW มีโหมด boost ช่วยเพิ่มพลังดูดได้ในทันทีสำหรับบริเวณที่สกปรกมาก นอกจากนี้ยังมาพร้อมไส้กรองฝุ่น EPA แบบ 3 ชั้น สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ 99.99% กล่องเก็บฝุ่นมีขนาด 0.4 ลิตร หัวดูดสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายแบบตามการใช้งาน ในส่วนของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 30 นาที จัดเป็นตัวช่วยทำความสะอาดบ้านได้ทั่วทุกบริเวณ และยังหยิบจับดูดฝุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว เบาสบายที่สุด
ข้อดี
- น้ำหนักเบาเพียง 1.4 กก. เบาที่สุดในตลาด
- ไส้กรองฝุ่น EPA แบบ 3 ชั้น กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ 99.99%
- มอเตอร์ให้กำลังดูด 60 AW
- มีโหมด boost ช่วยเพิ่มพลังการดูด
- หัวดูดปรับเปลี่ยนได้หลายแบบตามการใช้งาน
ข้อควรระวัง
- แบตฯ น้อย ใช้งานได้เพียง 30 นาที
- กล่องเก็บฝุ่นขนาดเล็ก
4. Electrolux Ultimate Home 900
สเปคเด่น
- กำลังไฟ: 150W
- ระบบกรองฝุ่น: ไส้กรอง E12 + ดับเบิ้ลโฟม
- ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.4 ลิตร
- เสียงการทำงาน: 80 เดซิเบล
- น้ำหนัก: 2.88 กิโลกรัม
Electrolux Ultimate Home 900 เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับรุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Electrolux รูปลักษณ์ทันสมัย มอเตอร์ทรงพลัง กำลังไฟ 150W ให้พลังดูดรุนแรง ช่วยให้ทำความสะอาดได้ทั่วถึงทุกพื้นผิวทั้งการดูดแบบเร่งด่วนและทำความสะอาดแบบล้ำลึก ภายในเครื่องมีตัวกรองฝุ่น 5 ขั้นตอน สามารกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ 99.99% มาพร้อมหัวดูดประสิทธิภาพสูง PowerPro ดูดฝุ่นได้หลากหลายพื้นผิว เก็บฝุ่นได้ 100% กล่องเก็บฝุ่นมีความจุ 0.4 ลิตร มีฟังก์ชั่น Grab & Go ช่วยให้หยิบตัวเครื่องเพื่อใช้งานจากแท่นชาร์จได้สะดวกและรวดเร็ว โดยรวมแล้วเป็นเครื่องดูดฝุ่นในบ้านที่มาพร้อมสเปคและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้การดูดฝุ่นเป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว และสะอาดเกลี้ยงอย่างแท้จริง
ข้อดี
- มอเตอร์กำลังไฟ 150W ให้พลังดูดรุนแรง
- มีไส้กรองฝุ่น 5 ชั้น กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ 99.99%
- หัวดูด PowerPro ดูดฝุ่นได้หลากหลายพื้นผิว
- ฟังก์ชั่น Grab & Go ช่วยให้หยิบเครื่องมาใช้งานได้รวดเร็ว
- มีอุปกรณ์ครอบคลุมการดูดฝุ่นทุกพื้นผิว
ข้อควรระวัง
- กล่องเก็บฝุ่นขนาดเล็ก
5. Philips SpeedPro Max
สเปคเด่น
- แรงดูด: 1,000 ลิตร / นาที
- ความจุกล่องเก็บฝุ่น: 0.6 ลิตร
- เสียงการทำงาน: 84 เดซิเบล
- ทำงานได้ต่อเนื่อง: 65 นาที
- น้ำหนัก: 2.73 กิโลกรัม
ปิดท้ายกันด้วย Philips SpeedPro Max เครื่องดูดฝุ่นด้ามจับรุ่นท็อปของแบรนด์ Philips มาพร้อมนวัตกรรมหัวดูด 360 องศา สามารถดูดจับฝุ่นได้ทุกทิศทาง ดูดได้ไวและมากกว่าในเวลาที่รวดเร็ว พร้อมด้วยมอเตอร์ดิจิตอล PowerBlade ที่ให้แรงดูดสูงสุดถึง 1,000 ลิตร / นาที ปรับระดับแรงดูดได้ 3 ระดับ จับคู่กับเทคโนโลยี PowerCyclone 8 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไร้ถุงเก็บฝุ่นที่มีประสิทธิภาพเพื่อการดูดที่ยาวนานและทรงพลังยิงขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบการกรองฝุ่น 3 ชั้น สามารถดักจับฝุ่นผงขนาดเล็กและสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99% มีไฟ LED บนหัวดูดช่วยให้ทำความสะอาดได้สะดวกยิ่งขึ้น และมีจอแสดงผลดิจิตอลบอกปริมาณแบตเตอรี่และอายุการใช้งานของไส้กรอง โดยรวมแล้ว Philips SpeedPro Max เป็นเครื่องดูดฝุ่นในบ้านที่มีพลังการดูดสูงพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย เหมาะกับคนที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดมาช่วยทำความะอาดบ้าน
ข้อดี
- นวัตกรรมหัวดูด 360 องศา สามารถดูดจับฝุ่นได้ทุกทิศทาง
- มอเตอร์ทรงพลัง ให้แรงดูดสูงสุด 1,000 ลิตร / นาที
- ปรับระดับแรงดูดได้ 3 ระดับ
- มีระบบการกรองฝุ่น 3 ชั้น
- ไฟ LED บนหัวดูด
- จอแสดงผลดิจิตอลบอกปริมาณแบตเตอรี่
ข้อควรระวัง
- เสียงการทำงานค่อนข้างดัง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 5 เครื่องดูดฝุ่นในบ้าน สเปคคุ้ม ดูดสะอาด ที่ Mercular.com รวบรวมมาแนะนำกันในบทความนี้ ทุกรุ่นเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบด้ามจับที่น่าใช้งาน มาพร้อมพลังการดูดที่รุนแรง พร้อมระบบกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้หลากหลายบทบาททั้งดูดพื้น ดูดตามซอกมุม ไปจนถึงดูดฝุ่นบนเฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน รวมไปถึงสามารถใช้งานในการดูดฝุ่นสำหรับสัตว์เลี้ยง อย่างสามารถใช้งานเป็นเครื่องดูดฝุ่นขนแมวได้อีกด้วย เรียกว่าตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดีและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
Mercular.com หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นในบ้านมาใช้งานกันอยู่นะครับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจ ทางเราจะรีบนำมาแนะนำให้ทุกท่านได้รับทราบอย่างแน่นอน สำหรับครั้งนี้สวัสดีครับ