8 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 กรองฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างหมดจด
6 ก.พ. 2566
แม้มองไม่เห็นแต่ชั้นรู้สึกถึงเธอ…ต้องบอกเลยว่าแม้ฝุ่น PM 2.5 จะจางลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีลอยปะปนมากับอากาศอยู่ทุกวัน ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศจึงยังเป็นหนึ่งในไอเทม Smart Home ที่ทุกบ้านควรมีเลยก็ว่า เพราะเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้จะช่วยกรองฝุ่นให้บ้านของคุณมีแต่อากาศบริสุทธิ์ที่มากขึ้น แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจกำลังมีความสงสัยอยู่ในใจว่าแล้วจะเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี? ที่จะช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างหมดจด วันนี้ Mercular เลยลิสต์ตัวท็อปเครื่องฟอกอากาศมาให้คุณได้พิจารณาถึง 8 รุ่น แต่ก่อนจะไปเลือกซื้อเรามาดูเทคนิควิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานกันก่อนดีกว่า
เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี? อย่างไรให้ตอบโจทย์และคุ้มค่าต่อการใช้งาน
แต่ก่อนจะไปเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามีเทคนิควิธีการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ให้ตอบโจทย์การใช้งานภายในบ้านของคุณกันก่อน เพื่อให้การซื้อครั้งนี้นั้นคุ้มค่าและได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพจริง ๆ ไปดูกันเลยว่าเทคนิควิธีการเลือกซื้อนั้นมีอะไรบ้าง
- ขนาดพื้นที่/ขนาดห้อง ถือเป็นอันดับต้น ๆ ของข้อควรพิจารณาเลยก็ว่าได้ เพราะขนาดของห้องมีผลต่อการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศเป็นอย่างมาก หากเราซื้อเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กไป อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานในการช่วยปรับเปลี่ยนอากาศภายในห้องให้เป็นอากาศบริสุทธิ์นั้นอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร ดังนั้นจึงควรเลือกขนาดที่เหมาะกับห้อง เช่น หากต้องการนำไปวางไว้ในห้องนอนขนาด 30 ตารางเมตร ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่รองรับขนาดห้อง 30-50 ตารางเมตรขึ้นไป เป็นต้น
- ค่า CADR และค่า Air Flow หากค่า CADR หรือที่เรียกว่าอัตราการเปลี่ยนถ่ายอากาศต่อชั่วโมง หากตัวเลขนี้สูงเท่าไหร่ ยิ่งหมายความว่าสามารถฟอกอากาศได้เป็นอย่างดี และสำหรับค่าความเร็วลมหรือ Air Flow นั้นหากมีตัวเลขสูงก็หมายความว่าสามารถฟอกอากาศได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดีอยู่ล่ะก็ ลองมองหาตัวเลข 2 ตัวนี้ในคุณสมบัติดูก่อน หากเลขเยอะยิ่งแปลว่าประสิทธิภาพการฟอกอากาศจะยิ่งดีมากขึ้น
- ฟิลเตอร์กรองอากาศ วิธีการเลือกซื้อข้อนี้มองข้ามไม่ได้เลยล่ะ เพราะถือเป็นหัวใจหลักของเครื่องฟอกอากาศเลยก็ว่าได้ โดยส่วนใหญ่แล้วฟิลเตอร์กรองอากาศที่ควรมีในอุปกรณ์ชิ้นนี้คือ ฟิลเตอร์กรองอากาศ HEPA เป็นตัวช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ได้นั่นเอง ต่อไปจะเป็นฟิลเตอร์คาร์บอน เป็นตัวกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์, ฟิลเตอร์กรองอากาศชนิดพิเศษ เช่น กรองสารก่อภูมิแพ้, กรองสารเคมี เป็นต้น
- ฟังก์ชันอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น ประหยัดไฟเบอร์ 5, สั่งการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้, สั่งการทำงานผ่านรีโมต, มีรังสี UV ช่วยฆ่าเชื้อ, ดักยุงได้, ปรับโหมดการทำงานอัตโนมัติ เป็นต้น
8 ตัวท็อป เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี? กรองฝุ่นเลิศ เป็นมิตรกับปอด
- เครื่องฟอกอากาศ Innohome InnoAir
- เครื่องฟอกอากาศ IQAir HealthPro 100 Air Purifier
- เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Pro EU Air Purifier
- เครื่องฟอกอากาศ SAMSUNG AX5500
- เครื่องฟอกอากาศ Pando Air D Plus Air Purifier
- เครื่องฟอกอากาศ Dyson DP04 PH
- เครื่องฟอกอากาศ Bwell CF-8400
- เครื่องฟอกอากาศ Autobot CADR 650 Smart Air Purifier 2
เครื่องฟอกอากาศ Innohome InnoAir
สเปคเด่น
จอแสดงผล : หน้าจอ Touch Screen
เหมาะสำหรับห้องขนาด : 592 ฟุต
ระดับแรงลม : 3 ระดับ
สำหรับเครื่องฟอกอากาศ Innohome InnoAir มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย และสะดวกสบายมากขึ้น สำหรับการใช้งานระบบสัมผัส หน้าจอ Touch Screen รูปทรงเรียวยาวไม่กินพื้นที่ภายในห้องมีขนาด 22 x 14 x 7.5 นิ้ว สามารถตั้งได้กับพื้นที่ห้องขนาด 592 ฟุต นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 99.99% และยังสามารถกรองแบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.98% ทำให้เหมาะกับการใช้งานภายในบ้านเป็นอย่างดี รวมไปถึงยังช่วยดักจับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย มาพร้อมฟังก์ชัน แสง UV ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคภายในอากาศได้ และสามารถใช้ได้กับพื้นที่ในห้องนอนได้ด้วยในการทำงานที่เสียงไม่ดังรบกวน สำหรับเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ยังมีโหมดการปรับใช้งานได้ถึง 3 รูปแบบ ทั้งแบบ Auto,Sleep,Custom ตอบโจทย์กับการใช้งานได้หลากหลายโหมดและยังมีราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่ายอีกด้วย
ข้อดี
- แสง UV ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคในกาศได้
- ระบบ Touch Screen ที่สะดวก
- กรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 99.99%
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับคำสั่งเสียง
เครื่องฟอกอากาศ IQAir HealthPro 100 Air Purifier
สเปคเด่น
- กรองอนุภาคที่มีขนาด ≥ 0.3 ไมครอน : ≥ 99.97%
- เหมาะสำหรับห้องขนาด : 180 ตารางเมตร
- ระดับแรงลม : 6 ระดับ
เปิดประเดิมตัวท็อปด้วยเครื่องฟอกอากาศแบรนด์อิมพอร์ตจากสวิตเซอร์แลนด์ มาพร้อมฟิลเตอร์กรองอากาศ HyperHEPA ที่ช่วยกรองมลพิษอนุภาคเล็กได้สูงสุดถึง 0.003 ไมครอน เรียกได้ว่าฝุ่น PM 2.5 หรือฝุ่นละอองจิ๋วก็ไม่มีเหลือ นอกจากนั้นยังมีระบบ 3D Ultra Seal ที่ช่วยเปลี่ยนระบบการกรองอากาศให้กลายเป็นระบบปิดมากขึ้น ป้องกันอากาศมลพิษรั่วไหลได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่มีคนเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ในบ้าน เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ตอบโจทย์เป็นที่สุด สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ได้ทั้งบ้านเลยก็ว่าได้
ข้อดี
- กรองฝุ่นได้ความละเอียดสูงถึง 0.003 ไมครอน หมดห่วงเรื่อง PM 2.5
- เหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้อาศัยเป็นภูมิแพ้ หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ
ข้อควรระวัง
- ขนาดใหญ่ ไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายไปมา
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Pro EU Air Purifier
สเปคเด่น
- จอแสดงผล : OLED แสดงค่าอุณหภูมิ ความชื้น ค่าฝุ่น ฯลฯ แบบ Real-time
- เสียง : 31 dB ไม่รบกวนขณะใช้งาน
- เหมาะสำหรับห้องขนาด : 35-60 ตร.ม.
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ OLED ที่สามารถแสดงค่า PM 2.5, อุณหภูมิ, ความชื้น ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้คุณทราบค่าต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที ถือเป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศตัวท็อปที่สามารถขจัดฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีฟิลเตอร์กรองอากาศ 3 ชั้น ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 99.99% และยังทำงานพร้อมกันกับมอเตอร์ทรงพลัง 2 ใบพัด DC Brushless เรียกได้ว่าตอบโจทย์บ้านที่ต้องการความสะอาดปราศจากฝุ่นเป็นอย่างยิ่ง
ข้อดี
- แสดงค่า PM 2.5, อุณหภูมิ, ความชื้นได้แบบเรียลไทม์
- เหมาะสำหรับบ้านขนาดกะทัดรัด หรือใช้งานภายในห้อง
ข้อควรระวัง
- อาจต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศบ่อย เพื่อความสะอาดในการกรองอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องฟอกอากาศ SAMSUNG AX5500
สเปคเด่น
- เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด : 60 ตารางเมตร
- จอแสดงผล : Touch Screen แสดงค่าต่าง ๆ ชัดเจน
- ฟิลเตอร์ : ช่วยกรองอากาศและ PM 2.5 อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดีที่ช่วยกำจัดฝุ่น PM 2.5 ภายในบ้านไปอย่างหมดจด ตัวนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์เช่นกัน เพราะมีฟิลเตอร์กรองอากาศ 3 ชั้น กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน และยังช่วยกรองก๊าซอันตรายรวมถึงป้องกันเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย ถอดฟิลเตอร์ออกมาทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง ควบคุมการทำงานได้ผ่านแอปพลิเคชัน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศล้ำ ๆ ที่คุณคู่ควร อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้รับมาตรฐานและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่าบริการหลังการขายดีเยี่ยม
ข้อดี
- สามารถกำจัดฝุ่นอนุภาคเล็กขนาด PM 0.3 ได้มากถึง 99.9%
- สั่งการทำงานด้วยเสียงได้อย่างสะดวกสบาย
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับคำสั่งการใช้งานด้วยเสียงเป็นภาษาไทย
เครื่องฟอกอากาศ Pando Air D Plus Air Purifier
สเปคเด่น
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ : 380 ลบ.ม./ชม.
- ระดับเสียง : 33 – 61 dB(A)
- เหมาะสำหรับห้องขนาด : 30 - 45 ตารางเมตร
Pando Air D Plus Air Purifier เป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงนี้ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.97% อีกทั้งยังสามารถควบคุมการใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่เป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมาในราคามิตรภาพ ทำให้หลายคนเลือกซื้อเพราะคุ้มค่าคุ้มราคา!
ข้อดี
- ดีไซน์มินิมอล สามารถตั้งเป็นของตกแต่งบ้านได้
- เสียงรบกวนน้อย
ข้อควรระวัง
- อาจกรองอากาศอย่างมีประสิทธิภาพได้สำหรับห้องขนาดเล็กเท่านั้น
เครื่องฟอกอากาศ Dyson DP04 PH
สเปคเด่น
เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาด : 27 ตารางเมตร
จอแสดงผล : แสดงค่า PM 2.5 และค่าคุณภาพอากาศอื่น ๆ แบบ Real-time
ฟิลเตอร์ : กรองฝุ่นและสารพิษขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอนได้ 99.95%
บอกเลยว่า Dyson ไม่ได้โดดเด่นแค่ไดร์เป่าผมหรือ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เท่านั้น เพราะเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์นี้ก็ถือว่าทรงพลังไม่น้อย พิเศษกว่าใครจริง ๆ เพราะมาพร้อมระบบฟอกอากาศถึง 6 ขั้นตอน ช่วยดักจับฝุ่นขนาดใหญ่และเล็ก ดักจับแบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้ จากนั้นก็จะช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ ก๊าซพิษ และกำจัดเชื้อไวรัสแบคทีเรียด้วยแสง UV เรียกได้ว่าเป็นเครื่อฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเยี่ยมตัวหนึ่งที่คุณห้ามพลาด
ข้อดี
- ดีไซน์เรียบหรู สามารถทำงานเป็นของตกแต่งบ้านได้
- ขนาดกะทัดรัด ไม่เปลืองพื้นที่
ข้อควรระวัง
- ราคาค่อนข้างสูง
- ไม่เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่
เครื่องฟอกอากาศ Autobot CADR 650 2
สเปคเด่น
- เหมาะสำหรับห้องขนาด : 65-85 ตารางเมตร
- แรงลมหมุนเวียน : 650 CARD
- ระดับเสียง : 35-61dB
ปิดท้ายด้วยเครื่องฟอกอากาศจาก Autobot ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็ก แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการแจ้งเตือนค่า PM 2.5 ได้แบบเรียลไทม์ ปรับความแรงของลมได้ถึง 4 ระดับ ควบคุมการทำงานได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และที่พิเศษไปกว่านั้นสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก เจ้าเครื่องฟอกอากาศตัวนี้มีระบบ Child Lock ที่ช่วยล็อกปุ่มกดต่าง ๆ ไม่ให้เจ้าหนูน้อยมาเล่นจนพังได้ด้วย ใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี? บอกเลยว่าตัวนี้ตอบโจทย์ เหมาะสำหรับทุกบ้าน!
ข้อดี
- ควคุมการทำงานได้ผ่านสมาร์ทโฟน
- มีระบบ Child Lock ป้องกันเด็กเล่น
ข้อควรระวัง
- อาจต้องเปลี่ยนไส้กรองตามเวลาอันสมควร เพื่อการกรองอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ถูกอกถูกใจเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนกันบ้าง? ขอบอกก่อนเลยว่าเครื่องฟอกอากาศรุ่นที่เรานำมาเสนอในวันนี้ เป็นตัวท็อปในเรื่องของการดูดกรองฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องไปตามหาเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดีให้เสียเวลา เพราะเรารวมไว้ให้แล้วที่นี่! เพียงพิจารณาขนาดห้องและฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เหมาะสมให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณก็เพียงพอ อย่าลืมกดติดตาม Mercular.com ทุกช่องทาง เพื่อรับข่าวสารและคอนเทนต์ดีมีประโยชน์กันด้วยนะครับ :-)