แนะนำ 5 หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ฟังเพลงเพราะ ไร้เสียงรบกวน ปี 2024
8 มี.ค. 2567
ในปัจจุบันหากพูดถึงหูฟังประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ก็คงต้องนึกถึง หูฟังไร้สาย กันอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นอย่างการเชื่อมต่อระหว่างตัวหูฟังกับ Smartphone ที่ไม่ต้องมีสายมาเชื่อมต่อให้วุ่นวายหรือมากวนใจ และอีกฟังก์ชันที่มากับหูฟังไร้สายและได้รับความนิยมสูงมากๆ ไม่แพ้กันนั่นก็คือฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling (ANC) ที่ตัดเสียงรบกวนจากรอบข้างได้อย่างเงียบสนิท เหมาะกับคนที่ต้องการสมาธิ หรือผู้ที่ต้องการปลีกตัวออกจากความวุ่นวายรอบตัวให้เหลือแต่เสียงเพลงหรือเสียงกิจกรรมที่กำลังทำอยู่เท่านั้น โดยแทบเรียกได้ว่าได้รับความนิยมสูงจนต้องมีเป็นฟังก์ชันเริ่มต้นของหูฟังไร้สายเลยทีเดียว และในครั้งนี้ Mercular.com ก็ได้รวบรวมเอา หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน มาให้ผู้อ่านได้นำไปเป็นตัวเลือกกันกับ 5 หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ฟังเพลงเพราะ ไร้เสียงรบกวน ปี 2024 โดยจะมีรุ่นใดบ้างและแต่ละรุ่นจะโดดเด่นน่าสนใจแค่ไหนนั้น มาดูกันเลยครับ
หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Over Ear Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2, AUX/3.5 mm.
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 30 ชั่วโมง
น้ำหนัก: 250 กรัม
รุ่นแรกในบทความนี้กับ หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Over Ear Headphone หูฟังไร้สายสวมใส่แบบ Over Ear รุ่นล่าสุดจากซีรีส์ Sony WH-1000X ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการสวมใส่ที่เบาสบายหูเป็นอันดับต้นๆ ของวงการมาพร้อมน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 250 กรัมเท่านั้น ในรุ่นนี้ทาง Sony ก็ได้พัฒนาการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ให้ยอดเยี่ยมไปอีกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ Chipset ประมวลผล V1 และ QN1 ที่ทำงานร่วมกันในการประมวลผลได้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม ร่วมกับไมโครโฟนสำหรับรับเสียงเพื่อตัดเสียงรบกวนที่อยู่โดยรอบของของหูฟังทั้ง 2 ข้างแบ่วงเป็นข้างละ 4 ตัวรวมแล้วทำให้ในรุ่นนี้มาพร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนมากถึง 8 ตัวเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันฟังก์ชันรับเสียงจากภายนอก Transparency ก็รับเสียงได้คมชัดเป็นธรรมชาติด้วยเช่นกัน
การเชื่อมต่อของ หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Headphone ก็ยังคงให้มาแบบครบครันพร้อมการอัพเกรดให้เชื่อมต่อได้เสถียรมากขึ้น โดยมาพร้อมการเชื่อมต่อทั้งแบบไร้สายและแบบมีสาย และยังเชื่อมต่อได้ง่ายดายทั้ง Android ผ่าน Google Fast Pair และ Windows ผ่าน Swift Pair รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงแบบ Hi-Res Lossless ผ่าน Codec LDAC และในส่วนของการเชื่อมต่อแบบมีสายยังคงมาพร้อม AUX/3.5 mm. อยู่เช่นเดิม ฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ ก็จัดเต็มไม่ว่าจะเป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์แบบ Beamforming มาให้ถึงข้างละ 2 ตัวรวมเป็น 4 ตัว และแบตเตอรี่ภายในตัวที่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพียง 3 นาทีใช้งานได้ 3 ชั่วโมง
ข้อดี
- ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนรอบตัวรวม 8 ตัว
- ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิทเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง
- ปรับ EQ เสียงได้อย่างหลากหลาย
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับ Codec aptX
- ไม่มีขั้วล็อคการปรับระดับแบบรุ่นก่อนๆ
หูฟัง Sony INZONE H9 Wireless Gaming Headset
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS, Windows, MacOS, PlayStation
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.1, AUX/3.5 mm.
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) : มี
แบตเตอรี่ : 32 ชั่วโมง
น้ำหนัก : 330 กรัม
รุ่นที่ 2 กับหูฟังไร้สายอีกรุ่นจาก Sony ในรุ่น หูฟัง Sony INZONE H9 Wireless Gaming Headset หูฟังเกมมิ่งไร้สาย สวมใส่แบบครอบหู ซีรีส์แรกจาก Sony โดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาสุดพรีเมียม ล้ำสมัย กับโทนสีขาวดำสไตล์เดียวกับเครื่อง PlayStation 5 สวมใส่สบายหูด้วยวัสดุระดับพรีเมียมปรับระดับได้มากถึง 10 ระดับ น้ำหนักที่เบาเพียง 330 กรัม รองรับการใช้งานทั้งบน PC, Laptop และ PlayStation 5 มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายที่ครบถ้วนทั้งเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Wireless 2.4 GHz ที่ใช้งานร่วมกับ Wireless USB และเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 โดยในรุ่นนี้จะไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายใดๆ
จุดเด่นคือการตัดเสียงรบกวนผ่านเทคโนโลยี Dual Noise Sensor แบบเดียวกับที่ Sony ใช้บนหูฟังรุ่นเรือธงในซีรีส์ 1000X สามารถตัดเสียงได้เงียบสนิท ประกอบไปด้วยโหมดตัดเสียงรบกวน, โหมดรับเสียงจากภายนอก และปิด นอกจากนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนบูมที่รับเสียงได้คมชัด รองรับ Discord Certified และพับเก็บได้ ควบคุมได้ง่ายดายผ่านปุ่มกดที่อยู่บนตัว รองรับการปรับตั้งค่าเพิ่มเติมผ่าน Software Inzone Hub ใช้งานเฉพาะบน Windows เท่านั้น พร้อมไฟแสดงสถานะรูปวงกลมสุดเท่ที่ตัวหูฟังซึ่งมีเฉพาะในรุ่นนี้ รวมถึงยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 32 ชั่วโมง
ข้อดี
- ใส่สบายยาวนานหลายชั่วโมง
- ระบบตัดเสียงรบกวนและรับเสียงภายนอก
- ไฟแสดงผลรูปวงกลมสุดเท่
- ระบบเสียง 360 Spatial Audio
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย
- ต้องปรับที่ Dongle ว่าเชื่อมต่อกับ PC หรือ PS
หูฟัง Bose QuietComfort Wireless Over Ear Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.1, AUX/3.5 mm.
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) : มี
แบตเตอรี่ : 24 ชั่วโมง
น้ำหนัก : 235 กรัม
รุ่นถัดมากับ หูฟัง Bose QuietComfort Wireless Over Ear Headphone หูฟังตัดเสียงรบกวนเชื่อมต่อไร้สายสวมใส่แบบ Over Ear ครอบหูจากแบรนด์ Bose ที่สวมใส่ได้อย่างยอดเยี่ยมสบายหู รวมถึงยังให้ความรู้สึกที่เรียบหรูในเวลาเดียวกัน รองรับการใช้งานทั้งไร้สายและมีสาย โดยส่วนของไร้สายเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เวอร์ชัน 5.1 และการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านทางสาย AUX/3.5 mm. To Balanced 2.5 เป็นที่ยอมรับกันในบรรดาผู้ใช้งานว่าหูฟัง Bose นั้นมีจุดเด่นคือการตัดเสียงรบกวนที่เงียบสนิท ในรุ่นนี้ก็ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้ตัดเสียงได้สนิทมากยิ่งขึ้น ดื่มด่ำไปกับเสียงที่มีความเที่ยงตรงสูงโดยปราศจากเสียงรบกวนมากวนใจ และใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยที่เปิดการใช้งานการตัดเสียงรบกวนไปด้วย ใช้งานฟังเพลงได้ยาว ๆ ตลอด 1 วันเต็มโดยไม่ต้องพกสายชาร์จไปมาให้วุ่นวาย
ข้อดี
- ใส่สบายได้ยาว ๆ ตลอดวัน
- มีไมโครโฟนที่สาย AUX/3.5 mm.
- ตัดเสียงรบกวนเงียบ ไม่ทำให้หูอื้อ
ข้อควรระวัง
- Bluetooth 5.1 เท่านั้น
- รูปทรงเหมือนกันกับรุ่น QC45
หูฟังไร้สาย B&O Beoplay HX ANC Wireless Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.1, AUX/3.5 mm.
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) : มี
แบตเตอรี่ : 35 ชั่วโมง
น้ำหนัก : 285 กรัม
สำหรับรุ่นที่ 4 กับ หูฟังไร้สาย B&O Beoplay HX ANC Wireless Headphone ที่จัดได้ว่าเป็น หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวนระดับ Top Tier ตามมาตรฐานของแบรนด์ Bang & Olufsen ก็ว่าได้ โดย B&O Beoplay HX ANC เป็นผลงานการออกแบบโดย MNML เลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมทั้งอลูมิเนียม, หนังแท้, ผ้า, โพลีเมอร์และยาง และน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 285 กรัมเท่านั้น จัดว่าเบามากๆ ด้านการเชื่อมต่อรองรับ Bluetooth 5.1 ที่ให้สัญญาณที่มีความคมชัด เสถียร รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงไร้สายอย่าง aptX จุดเด่นของรุ่นอย่างการตัดเสียงรบกวนก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากทางแบรนด์ มาพร้อม Adaptive ANC และโหมด Transparency สำหรับรับเสียงจากภายนอกที่รับเสียงได้อย่างคมชัดแทบจะเทียบเท่ากับขณะไม่ได้ใส่หูฟังอยู่เลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ด้วยไมโครโฟนภายในถึง 8 ตัวทำหน้าที่ทั้งเรื่องตัดเสียงรบกวนและยังสามารถรับเสียงสนทนาได้คมชัดทุกการติดต่ออีกด้วย
ส่วนของแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 35 ชั่วโมงเลยทีเดียวสำหรับการใช้งานขณะเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน ANC และหากไม่ได้เปิดโหมด ANC ก็จะใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง ให้ความเงียบและเสียงเพลงที่ให้แนวเสียงที่ยอดเยี่ยมฟังสนุกโดยยังคงคาแรคเตอร์เด่นของแบรนด์เอาไว้อย่างชัดเจนทั้งย่านกลางและสูงที่เคลียร์ใส รวมถึงเบสที่ลงได้นิ่มนวลฟังสบายหู โดดเด่นในเรื่องการสวมใส่ที่สบายหูแบบสุดๆ ในขณะเดียวกันก็ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม
ข้อดี
- รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง aptX Adaptive
- อัดแน่นด้วยไมโครโฟนภายในถึง 8 ตัว
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน 35 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง
- แนวเสียงของ B&O จะเด่นด้านสูงโปร่ง ไม่ตอบโจทย์คนชอบเบส
หูฟัง B&W Px7 S2 Wireless Over Ear Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2, USB C
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) : มี
แบตเตอรี่ : 30 ชั่วโมง
น้ำหนัก : 307 กรัม
มาถึงรุ่นที่ 5 หรือรุ่นสุดท้ายกับ หูฟัง B&W Px7 S2 Wireless Over Ear Headphone หูฟังครอบหูไร้สายรุ่นอัปเกรดจาก B&W PX7 ในดีไซน์ใหม่ให้สวยหรูดูพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยการใช้ผ้าสุดหรูห่อหุ้มผิวบอดี้ภายนอก พร้อมกับ Earcup และสายคาดศีรษะวัสดุเมมโมรี่โฟมที่ ให้การสวมใส่มีความนุ่มและสบายยิ่งขึ้น ทั้งยังมีน้ำหนักเบาเพียง 307 กรัมเท่านั้น สเปกภายในมีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นด้วยการติดตั้งไดรเวอร์ขับเสียงแบบไดนามิกขนาด 40 มิลลิเมตร พัฒนาโดย B&W มอบประสบการณ์การฟังระดับพรีเมียม
จุดเด่นของหูฟัง PX7 S2 อยู่ที่ระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Noise Cancellation ที่ใช้ไมค์ 4 ตัวในการช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกไม่ให้เข้าสู่ภายในหูฟัง พร้อมด้วยไมค์รับเสียงสนทนาอีก 2 ตัวสำหรับการคุยโทรศัพท์ที่คมชัด มีโหมด Ambient Pass-Through รับเสียงแวดล้อมภายนอกหูฟัง และ Wear-Detection Sensor สำหรับเล่นและหยุดเพลงอัตโนมัติตามการสวมใส่ การเชื่อมต่อรองรับ Bluetooth 5.2 พร้อมรองรับ codec เสียง aptX Adaptive, aptX HD, aptX สำหรับการรับฟังเสียงความละเอียดสูงระดับ 24 bit แบบไร้สาย ส่วนแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุด 30 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็ว 15 นาที ฟังได้ 7 ชั่วโมง ชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C
ข้อดี
- Hybrid Noise Cancellation ตัดเสียงรบกวนดีเยี่ยม
- เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ Wear-Detection Sensor
- รองรับ codec เสียง aptX Adaptive
- ชาร์จเร็ว 15 นาที ฟังได้ 7 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง
- Bluetooth 5.2 และไม่มีช่อง AUX/3.5 mm. ในตัว
- ไม่มีมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับบรรดา 5 หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ฟังเพลงเพราะ ไร้เสียงรบกวน ปี 2024 ที่ทาง Mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่า เชื่อมต่อไร้สายได้อย่างเสถียร ใส่สบาย ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิท ฟังเพลงได้เพราะทุกแนว และไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
ซึ่งทาง Mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดาหูฟังทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจองหูฟังรุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ Mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ