แนะนำ 5 ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos เสียงสมจริงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์
4 ม.ค. 2566
เมื่อพูดถึงไลฟ์สไตล์การรับชมภาพยนตร์ในปัจจุบันก็ต้องยอมรับเลยว่ามีการพัฒนาทางเทคโนโลยีไปไกล ไลฟ์สไตล์หรือขั้นตอนการในการรับชมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงจากเดิมที่จะต้องไปรับชมที่ภาพยนตร์เมื่อมีภาพยนตร์เข้าฉายใหม่ หรือในกรณีที่ภาพยนตร์ออกจาโรงไปแล้วหากต้องการรับชมก็สามารถออกไปซื้อหรือเช่าแผ่น DVD, Blu-Ray กลับมารับชมที่บ้านได้ เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่วุ่นวายพอสมควร และเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการรับชมภาพยนตร์ในปัจจุบันที่ผู้ใช้งานสามารถรับชมภาพยนตร์และซีรีส์ได้หลากหลายเรื่องจากที่บ้านผ่านเทคโนโลยีการสตรีมมิ่งภาพยนตร์บน Application ต่างๆ เช่น Netflix, Amazon Prime, Disney+ hotstar และอื่นๆ ที่สามารถรับชมภาพยนตร์และซีรีส์ได้จากที่บ้านโดยไม่ต้องเสียเวลาออกไปข้างนอกเพื่อไปโรงภาพยนตร์หรือไปหา DVD หรือ Blu-Ray ซึ่งจุดเด่นของการรับชมภาพยนตร์ผ่านแอปสตรีมมิ่งไม่ได้มีแค่ความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ในเรื่องของคุณภาพในส่วนของภาพและเสียงนั้นก็เรียกได้ว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยในส่วนของเสียงก็รองรับระบบเสียงที่สมจริงไม่แพ้กับระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง Stereo, Dolby Digital Surround 5.1 ไปจนถึงเสียงรอบทิศทางสมจริงแบบ Dolby Atmos เลยทีเดียว ที่แน่นอนว่าการจะรับชมภาพยนตร์ในระบบเสียง Dolby Atmos หรือระบบเสียงรอบทิศทางที่มาจากทุกองศาไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้าง และด้านบนนั้นก็จำเป็นจะต้องมีลำโพงที่ออกแบบมาเพื่อการนี้หรือ ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos โดยเฉพาะที่จะสามารถขับเสียงได้อย่างสมบูรณ์
และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองยี่ห้อไหนดีหรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดจะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นเหมาะกับตนเองมากที่สุด จาก ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos หลากหลายรุ่นที่มีให้ได้เลือกซื้อและจับจองเป็นเจ้าของ ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา แนะนำ 5 ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos เสียงสมจริงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ
5 ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ในบทความนี้
ลำโพง Devialet Dione Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: Wi-Fi Dual band 2.4GHz / 5GHz, Ethernet, Bluetooth 5.0, HDMI ARC/eARC, Optical TOSLINK, UPnP
การตอบสนองความถี่: 24 - 21,000 Hz
กำลังขับสูงสุด: 950W
Subwoofer: ไม่มี
ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ชุดแรกกับ ลำโพง Devialet Dione Soundbar โดดเด่นด้วยระบบเสียง 5.1.2 แชนแนลแท้ รองรับ Dolby Atmos มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่เต็มอิ่มและสมจริง ตัวลำโพงมีกำลังขับ 950W RMS และมี SPL ที่ 101dB ซึ่งถือว่าดังมากๆ ภายในติดตั้งไดรเวอร์ขับเสียงมากถึง 17 ตัว แบ่งเป็น Aluminium long-throw subwoofer 8 ตัว และ Full-range aluminium driver 9 ตัว อีกจุดที่โดดเด่นมากๆ คือรูปลักษณ์อันล้ำสมัยโดยเฉพาะ ORB ที่เป็นลำโพง center channel ทรงกลมกึ่งกลางตัวซาวด์บาร์ ลำโพงทรงกลมนี้มีหน้าที่ปรับกลไกและทิศทางเสียงให้เข้ากับตำแหน่งของตัวซาวด์บาร์ ไม่ว่าจะติดผนังหรือวางราบใต้ทีวีลำโพงก็จะสร้างเสียงที่เหมาะสมและทิศทางเสียงที่แม่นยำตรงเข้าสู่ผู้ฟัง นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี SPACE ที่จะขยายสัญญาณโมโนหรือสเตอริโอให้เป็นสัญญาณ 5.1.2 เพื่อเพิ่มมิติเสียงให้ล้ำลึกและครอบคลุมมากขึ้น และยังมาพร้อมโหมดเสียงอีก 4 รูปแบบ ได้แก่ Movie Mode, Spatial Mode, Voice Mode และ Music Mode ด้านการเชื่อมต่อตอบโจทย์ครบครันไม่ว่าจะเป็น HDMI eARC/ARC 2.1 และ Optical TOSLINK ขณะที่การเชื่อมต่อไร้สายก็รองรับทั้ง Bluetooth 5.0, Wi-Fi Dual band 2.4GHz และ 5GHz รวมถึงเครื่องข่าย UPnP นอกจากนี้ลำโพงยังรองรับการสตรีมเนื้อหาผ่าน AirPlay 2 และ Spotify Connect ด้วย เชื่อมต่อลำโพง Devialet Dione เข้ากับ Devialet app เพื่อเข้าถึงการตั้งค่าทั้งหมด ฟีเจอร์การทำงานระบบ Multiroom ไปจนถึงควบคุมสั่งการลำโพงผ่านสมาร์ทโฟน เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android โดยภายในแอปฯ Devialet มีฟีเจอร์สำหรับสแกนห้อง โดยลำโพง Devialet Dione จะใช้ไมโครโฟน 4 ตัวเพื่อรับเสียงรอบตัวและประเมินสภาพห้องเพื่อสร้างรูปแบบเสียงที่แม่นยำและเหมาะกับห้องนั้นๆ ที่สุด
ลำโพง B&O Beosound Stage Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: WiFi, Ethernet, Bluetooth 4.2, HDMI, AUX/3.5 mm.
การตอบสนองความถี่: 32 - 22,000 Hz
กำลังขับสูงสุด: 550W
Subwoofer: ไม่มี
ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ชุดที่ 2 กับ ลำโพง B&O Beosound Stage Soundbar มาในรูปทรงแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าแท่งยาว ขนาดใหญ่พอประมาณที่ W 110 x H 17 x D 7.7 เซนติเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 8 กิโลกรัม วัสดุนั้นเลือกใช้เกรดพรีเมียม มีความแข็งแรงทนทาน ด้านการเชื่อมต่อที่ให้มาทุกรูปแบบ ทั้งส่วนไร้สายผ่าน Bluetooth 4.2 มีสายผ่าน AUX/3.5 mm., HDMI รองรับการเชื่อมต่อระบบ Network ผ่าน Wifi (2.4 GHz & 5 GHz) และ Ethernet สำหรับการใช้งานระบบ Multi-Room รองรับระบบ Streaming ทั้ง Chromecast built-in, Airplay 2 และ QPlay 2.0 การตั้งวางสามารถตั้งวางได้ 2 แบบ คือตั้งโต๊ะปกติให้ตัวลำโพงชี้ขึ้นข้างบน และอีกแบบเลยคือแบบแขวนผนัง โดยในกล่องจะมีชุดตัวยึดมาให้ใช้ยึดกับลำโพงและแขวนที่ผนังได้เลย สามารถตั้งค่าการวางใน App ด้านในของ Cover มีดอกลำโพงที่ผ่านการจัดเรียงมาเป็นอย่างดี สามารถขับเสียงแบบ Dolby Atmos ได้ในตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวลำโพงตัวนอกหรือซับวูฟเฟอร์แยกออกมา ดอกลำโพงภายในประกอบไปด้วย Woofer Drivers ขนาด 4 นิ้ว 4 ตัว, Mid-range Drivers ขนาด 1.5 นิ้ว 4 ตัว และ Tweeter Drivers ¾ นิ้ว อีก 3 ตัว Amplifiers ในตัวที่ให้มาแบบจัดเต็มถึง 11 ตัว ผ่านการปรับจูนด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ B&O ทำให้แม้จะมีรูปทรงแบบ Sound Bar แต่ให้เสียงไม่แพ้ลำโพง Home Theatre แบบแยกข้างแน่นอน รองรับระบบเสียงทั้ง Stereo แบบ 3 ทิศทาง, Dolby Atmos และ Dolby TrueHD อย่างครบถ้วน
ลำโพง Klipsch Cinema 1200 Sound Bar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: WiFi, Bluetooth, HDMI eARC, HDMI, Optical, AUX/3.5 mm.
การตอบสนองความถี่: 22 - 20,000 Hz
กำลังขับสูงสุด: 1,200W
Subwoofer: มี
ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ชุดที่ 3 กับ ลำโพง Klipsch Cinema 1200 Sound Bar ภายในแท่ง Sound Bar ประกอบด้วยไดร์เวอร์ขับเสียงทั้งหมด 9 ตัว แบ่งเป็น Midrange fiber composite 6 ตัว และ Tweeter แบบ Horn-loaded ที่เป็น Tweeter เอกลักษณ์ของแบรนด์ Klipsch มีการกระจายเสียงที่โดดเด่นเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดมากถึง 3 ตัว นอกจากมียังมีลำโพงสำหรับยิงเสียงขึ้นเพดานเพื่อสร้างระบบเสียงแบบ Dolby Atmos โดยเฉพาะอีก 2 ตัว ในส่วนของลำโพง surround คู่หลังนั้นเชื่อมสัญญาณแบบไร้สาย ติดตั้งไดร์เวอร์ขนาด 3 นิ้วและไดร์เวอรร์ระบบ Dolby Atmos เช่นเดียวกัน ในส่วนของ Subwoofer ได้ใช้ดอกลำโพงขนาดใหญ่ถึง 12 นิ้ว พร้อมกับแอมป์พลังสูงถึง 1,200 วัตต์ ให้เบสลูกใหญ่ กระชับ สะอาด ไม่มีอาการเบลอหรือเก็บตัวไม่ทันให้เห็น ด้านดีไซน์มีความคลาสสิคตามสไตล์ของแบรนด์ Klipsch ลำโพงทุกตัวในชุดทำจากไม้จริง ซึ่งช่วยในเรื่อง resonance ของเสียงให้มีความเป็นธรรมชาติ ลดการสั่นสะเทือนและ noise ได้เป็นอย่างดี ด้านการเชื่อมต่อรองรับ Input แบบ Digital ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นแบบ HDMI eARC, HDMI พร้อมระบบ pass-through ที่รองรับความละเอียดแบบ 8K และ optical ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายนั้นสามารถทำได้ทั้งผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi รองรับการเล่นแบบ Multi-Room นอกจากนี้ยังรองรับการฟังเพลงจาก Spotify โดยผ่านระบบ Spotify Connect ที่ทำได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่อยู่ในเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันด้วยคลิกเดียว
ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: WiFi, Ethernet, Bluetooth, HDMI eARC, S-Center Out
การตอบสนองความถี่: -
กำลังขับสูงสุด: 504W
Subwoofer: ไม่มี
ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ชุดที่ 4 กับ ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater ชุดลำโพง Sony HT-A9 Home Theater ที่พกพาเอาสเปกและฟังก์ชันการใช้งานมาในแบบที่เรียกได้ว่าอัดแน่นจนเกินตัว รวมไปถึงด้านรูปร่างหน้าตาการออกแบบที่มีความเรียบหรู โดดเด่นในสไตล์ของ Sony และที่สำคัญคือเรื่องเสียงที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม สมจริง แม้จะมีตัวลำโพงเพียงแค่ 4 ตัว แต่ด้วยเทคโนโลยี 360 Spatial Sound Mapping ของ Sony ทำให้สามารถขับเสียงได้ในระบบเสียงแบบ 12 Channel รองรับระบบเสียงรอบทิศทางสมจริงทั้ง Dolby Atmos® และ DTS:X® ให้ประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์และเล่นเกมในแบบสมจริงและด้วยตัวลำโพงที่มีเพียง 4 ตัวพร้อมระบบวัดตำแหน่งผ่านไมโครโฟนคู่ภายในทำให้ตัวลำโพงสามารถจูนระดับเสียงให้ถูกต้องและพอดีได้เองโดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องจัดวางให้ทำมุมพอดีหรือหาโต๊ะมาตั้งให้ลำโพงสูงพอดีกันจนวุ่นวาย สำหรับการเชื่อมต่อครบครันทั้งไร้สายและมีสาย โดยส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายนั้นรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ WiFi รวมถึงยังรองรับการใช้งานแบบ Multi-Room อีกด้วย ส่วนการเชื่อมต่อแบบมีสายนั้นรองรับการเชื่อมต่อ HDMI eARC รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ Ethernet ด้วยเช่นกัน โดยรองรับบริการ Streaming ต่างๆ อย่างครบครัน เช่น Spotify Connect™, Google Chromecast ในตัว และ Apple AirPlay 2 ในส่วนของสเปกและการขับเสียงมาพร้อมกับเทคโนโลยี Sound Field Optimization สำหรับการตรวจวัดระยะห่างระหว่างลำโพงและเพดานเพื่อการขับเสียงที่ถูกต้อง สมจริง ภายในตัวลำโพงมาพร้อม Up-firing (X-Balanced Speaker Unit) สำหรับขับเสียงขึ้นเพดาน, Wide Directivity Woofer (X-Balanced Speaker Unit) หรือ วูฟเฟอร์ทิศทางเสียงกว้าง ที่ออกแบบมาให้ขับเสียงเบสได้มีมิติ กว้าง และสมจริงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี DSEE Extreme™ (Digital Sound Enhancement Engine) ที่จะปรับเสียงจากไฟล์ความละเอียดต่ำให้มีความใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับหรือเสียงระดับ Hi-Res อีกด้วย
ลำโพง B&W Panorama 3 Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: Ethernet, Bluetooth 5.0, HDMI eARC, Optical
การตอบสนองความถี่: 43 - 48,000 Hz
กำลังขับสูงสุด: 400W
Subwoofer: ไม่มี
ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ชุดสุดท้ายกับ ลำโพง B&W Panorama 3 Soundbar ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ที่มาพร้อมการอัปเกรดประสิทธิภาพให้ดีขึ้นทุกด้าน สู่การเป็นโฮมเธียเตอร์เดี่ยวที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และเข้ากันได้กับระบบคำสั่งเสียง Amazon Alexa โดยอาศัยความร่วมมือกับสตูดิโอบันทึกเสียงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเพื่อส่งมอบเสียงอันน่าทึ่งที่สุดมาสู่ผู้ฟัง โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดหรูหรา วัสดุชั้นเลิศ พร้อมแผงปุ่มควบคุมระบบสัมผัสสุดพรีเมียม สเปกด้านเสียงเรียกว่าจัดเต็ม แม้จะไม่มีตู้ซับวูฟเฟอร์มาในชุดแต่ซาวด์บาร์รุ่นนี้ก็ติดตั้งไดรเวอร์ขับเสียงภายในมามากถึง 13 ตัว ประกอบด้วย Titanium dome tweeter ขนาด 19 มม. 3 ดอก สำหรับขับเสียงแหลม, Woven glass fiber cone bass/midrange ขนาด 50 มม. 6 ดอก สำหรับขับเสียงกลาง/ต่ำ, Woven glass fiber cone atmosdrive unit ขนาด 50 มม. 2 ดอก สำหรับยิงเสียงขึ้นเพดาน และ Low profile bass unit ขนาด 100 มม. 2 ดอก สำหรับขับเสียงเบส กำลังขับรวมทั้งระบบอยู่ที่ 400W เป็นระบบเสียงแบบ 3.1.2 ch สามารถตอบสนองความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 43 - 48,000 Hz ให้เสียงครอบคลุมทุกย่านพร้อมกับรายละเอียดที่ครบถ้วนและความเที่ยงตรงสูง รองรับการถอดรหัสเสียงระบบ Dolby Atmos เต็มรูปแบบ จึงให้เสียงที่กระหึ่ม มีความโอบล้อมในทุกมิติเสียง ด้านการเชื่อมต่อรองรับ Bluetooth 5.0 พร้อมรองรับ codec เสียง AptX Adaptive นอกจากนี้ยังรองรับการสตรีมเนื้อหาคอนเทนต์ผ่าน AirPlay 2 และ Spotify Connect รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Amazon Alexa รวมถึงรองรับการใช้ง่านร่วมกับแอปฯ Bowers & Wilkins Music บนสมาร์ตโฟน ด้านการเชื่อมต่อแบบใช้สายรองรับ HDMI eARC, Optical in และ Ethernet ครบถ้วน
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ แนะนำ 5 ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos เสียงสมจริงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่มีความพรีเมียม ฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็มทั้งในเรื่องการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้งไร้สายและมีสาย ระบบเสียงที่มีความสมจริงแบบ Dolby Atmos พูดได้เลยว่าทั้ง 5 ยี่ห้อที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos และไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดีอย่างแน่นอนครับ
ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง ชุดโฮมเธียเตอร์ Dolby Atmos รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ