รวม 14 หูฟังเสียงดี ปี 2023 ฟังเพลงสนุกตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย
26 ม.ค. 2566
ในบรรดาหูฟังที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายรุ่นในปัจจุบันนี้ ต่างแข่งขันกันด้วยจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่เรื่องรูปร่างหน้าตาการออกแบบที่หรูหราพรีเมียม วัสดุคุณภาพสูงที่ทำให้ตัวหูฟังมีความแข็งแรงทนทานสูง เทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความทันสมัย เชื่อมต่อง่าย ให้สัญญาณที่เสถียร ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ที่โดดเด่น เช่น ฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling และฟังก์ชันการควบคุมต่างๆ เป็นต้น รวมถึงการกันน้ำกันฝุ่นที่ในบางรุ่นก็จัดเต็มแบบที่ใส่ว่ายน้ำได้สบายๆ นอกจากการแข่งขันกันด้านฟังก์ชันการใช้งานและสเปคต่างๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว อีกจุดที่หลายๆ แบรนด์ต่างแข่งขันกันแบบไม่มีใครยอมใครรวมถึงยังเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อหูฟังนั่นก็คือเรื่องของแนวเสียง ที่ผู้ใช้งานหลายๆ คนนั้นเพียงแค่ได้ลองฟังถ้าเสียงที่ได้นั้นใช่โดนใจก็สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายๆ แล้วครับ และในครั้งนี้ mercular.com ก็ได้รวบรวมเอา 14 หูฟังเสียงดี ปี 2023 ฟังเพลงสนุกตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย มาแนะนำกันให้เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหา หูฟังเสียงดี ไปจับจองเป็นเจ้าของกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วในบทความนี้ โดยจะมีรุ่นใดจากแบรนด์ไหนบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ
14 หูฟังเสียงดี ในบทความนี้
- หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Headphone
- หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 True Wireless
- หูฟัง Apple AirPods (3rd generation)
- หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone
- หูฟัง Bose QuietComfort 45 Wireless Over Ear Headphone
- หูฟังไร้สาย Bose QuietComfort Earbuds True Wireless
- หูฟัง B&O Beoplay EX True Wireless
- หูฟัง Devialet Gemini True Wireless
- หูฟัง B&W PI7 True Wireless By Bowers & Wilkins
- หูฟังไร้สาย Master & Dynamic MW08 True Wireless
- หูฟังไร้สาย Jabra Elite 85t True Wireless
- หูฟัง Audio-Technica ATH-M50x Headphone
- หูฟังไร้สาย Klipsch T5 II True Wireless
- หูฟัง Audio-Technica ATH-R70x Headphone
หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: Over Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2, AUX/3.5 mm.
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 30 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ: -
หูฟังเสียงดี รุ่นแรกของบทความนี้จะเป็นรุ่นใดไปไม่ได้เลยนอกจาก หูฟัง Sony กับรุ่น หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Headphone ที่โดดเด่นในเรื่องของการสวมใส่ที่นุ่มและเบาสบายหูแบบสุดๆ และแน่นอนว่าเรื่องของแนวเสียงที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมตามสไตล์ของ Sony ตอบโจทย์ผู้ฟังทุกเพศทุกวัย และฟังสนุกทุกย่านอย่างแน่นอน โดย หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Headphone เป็นหูฟังไร้สายสวมใส่แบบ Over Ear รุ่นล่าสุดจากซีรีส์ Sony WH-1000X พร้อมน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 250 กรัมเท่านั้น ในรุ่นนี้ทาง Sony ก็ได้พัฒนาการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ให้ยอดเยี่ยมไปอีกระดับทำให้ในรุ่นนี้มาพร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนมากถึง 8 ตัวเลยทีเดียว การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อได้ง่ายดายทั้ง Android ผ่าน Google Fast Pair และ Windows ผ่าน Swift Pair รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงแบบ Hi-Res Lossless ผ่าน Codec LDAC ส่วนแบตเตอรี่ภายในตัวที่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพียง 3 นาทีใช้งานได้ 3 ชั่วโมง
ข้อดี
- ชิป V1 และ QN1 ประมวลผลการตัดเสียงรบกวนได้ไร้ที่ติ
- ไมโครโฟนโทรศัพท์ 4 ตัวรับเสียงได้คมชัด ตัดเสียงแทรกได้ดี
- ไดรเวอร์เสียงภายในขนาดใหญ่ข้างละ 30 มม.
- รองรับเสียงรอบทิศทาง 360 Reality Audio
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับ Codec เสียงไร้สายประเภท aptX
หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 True Wireless
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 8 ชั่วโมง (รวมเคส 24 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IPX4
หูฟังเสียงดี รุ่นที่ 2 ในบทความนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้กับ หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 True Wireless ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องการตัดเสียงรบกวน และแนวเสียงที่ยอดเยี่ยมแบบใครได้ฟังก็ต้องเอ่ยปากชมและติดใจในทันที โดย หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 True Wireless เป็นหูฟัง True Wireless รุ่นเรือธงจากทาง Sony สวมใส่แบบ In-Ear การเชื่อมต่อในรุ่นนี้เลือกใช้ Bluetooth 5.2 รองรับ Codec ไร้สายสำหรับฟังเพลง Lossless อย่าง LDAC ด้านการตัดเสียงรบกวนต้องบอกเลยว่าตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก สามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ด้านเคสชาร์จเพิ่มให้หูฟังใช้งานได้รวมเป็น 24 ชั่วโมง และยังพิเศษด้วยการรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วย นอกจากนี้ยังตั้งค่าแนวเสียง EQ ต่างๆ ผ่าน ผ่าน App Sony | Headphones Connect รวมถึงตรวจสอบระดับความพอดีของหูฟังกับช่องหูเพื่อการทำงานของฟังก์ชันต่างๆ ที่เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด เปิด/ปิดฟังก์ชัน DSEE EXTREME ที่จะปรับปรุงเสียงจากไฟล์ที่ถูกบีบอัดและลดทอนคุณภาพลงไปให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับและมีความ Hi-Res มากที่สุด ตรงนี้ต้องบอกเลยว่าสะดวกสุดๆ
ข้อดี
- ตัดเสียงรบกวนได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ
- แนวเสียงสไตล์มหาชน ใครฟังก็ชมว่าเสียงดี
- ระยะการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง
- จุกเสียงแบบพิเศษบล็อคเสียงจากภายนอกแม้ยังไม่เปิด ANC
ข้อควรระวัง
- ไม่มีจุกซิลิโคนแบบดั้งเดิมมาให้ด้วย
- ตัด Codec ไร้สาย aptX HD ออกไป
หูฟัง Apple AirPods (3rd generation)
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: Earbud
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0
การตัดเสียงรบกวน (ANC): -
แบตเตอรี่: 6 ชั่วโมง (รวมเคส 30 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IPX4
รุ่นที่ 3 ของ หูฟังเสียงดี ในบทความนี้กับ หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) หูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ Earbud รุ่นล่าสุดจาก Apple ที่ต้องบอกเลยว่าเสียงดีจนเป็นที่ติดหูของใครหลายๆ คน และแม้เมื่อนำไปเทียบกับหูฟังเรือธงจากแบรนด์อื่นๆ จะมีทั้งข้อได้เปรียบและเสียเปรียบได้ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าคำว่า เสียงดี นั้นไม่ได้หมายความว่าให้เสียงครบทุกย่านเสียง แต่เป็นเสียงที่ฟังแล้วสบายหู ฟังเพลงแนวไหนก็สนุกซึ่ง Apple AirPods (3rd generation) ตอบโจทย์นั้นได้อย่างดีครับ โดยมาพร้อมการเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งหมดทั้งภายนอกและภายใน เชื่อมต่อไร้สายกับอุปกรณ์ Apple เพียงสัมผัสเดียวผ่าน Pop-Up รวมถึงเมื่อเชื่อมต่อแล้วสามารถสลับไปใช้งานและควบคุมได้จากทุกอุปกรณ์ Apple ที่ใช้ ID เดียวกันได้ สามารถใช้งานรับชมภาพยนตร์และเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างลื่นไหลไม่ดีเลย์รวมถึงใช้งานแยกข้างได้อย่างอิสระอีกด้วย สำหรับการสนทนาโทรศัพท์แน่นอนว่า Apple AirPods (3rd generation) มาพร้อมไมโครโฟนที่รับเสียงได้คมชัดในระดับผู้นำของวงการ มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 ด้านแบตเตอรี่ในรุ่นนี้ก็ใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง จากนั้นชาร์จเพิ่มจากเคสได้รวมเป็น 30 ชั่วโมง รวมถึงตัวเคสเองก็มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ด้วยเช่นกัน และยังรองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe
ข้อดี
- เชื่อมต่อไร้สายเสถียรและง่ายดายผ่าน Pop-Up (iOS)
- รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos
- ระบบเสียง Spatial Audio ขับเสียงแบบติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ
- เคสรองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe
ข้อควรระวัง
- ใช้งานกับ Android ได้แต่อาจจะไม่ได้ฟังก์ชันครบครัน
- มาตรฐานกันน้ำ IPX4 เท่านั้นล้างน้ำไม่ได้
หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: Over Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0, AUX/3.5 mm.
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 20 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ: -
หูฟังเสียงดี รุ่นต่อมาจากแบรนด์ Apple อีกรุ่นกับ หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone ที่ต้องบอกเลยว่าเป็น หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวนสุดพรีเมียม ที่มาพร้อมแนวเสียงที่ยอดเยี่ยมฟังสนุกทุกแนวเพลง และทุกกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการดูหนังหรือเล่นเกม ด้วยจุดเด่นอย่างเสียงกลางสูงที่ออกโปร่ง รายละเอียดครบถ้วน ในขณะที่ย่านเบสก็มีความนิ่มนวล ออกไปในทางนุ่มสบายหูรายละเอียดครบไม่กระโชกโฮกฮากหรือตูมตามจนให้ความรู้สึกปลอมแบบหูฟังบางรุ่นด้วย EQ แบบปรับอัตโนมัติให้เข้ากับแนวเสียงที่กำลังฟังอยู่มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling (ANC) ได้ยอดเยี่ยม รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ร่วมกับเทคโนโลยี Spatial Audio ที่เสียงจะหมุนไปตามการหันของศีรษะ พ่วงด้วยฟังก์ชันอื่นๆ ทั้งการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Apple อย่างลื่นไหลไม่สะดุด
ข้อดี
- Earcup แบบแม่เหล็กถอดเปลี่ยนง่าย
- รองรับเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos
- ใช้งานกับอุปกรณ์ Apple ได้ง่ายดาย
- ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิท
ข้อควรระวัง
- มีน้ำหนักมากกว่ารุ่นอื่น ใส่นานๆ อาจเมื่อยได้
- แบตเตอรี่ 20 ชั่วโมงถือว่าน้อยมาก
- เคสสำหรับพกพาที่ไม่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนใดๆ
หูฟัง Bose QuietComfort 45 Wireless Over Ear Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: Over Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1, AUX/3.5 mm.
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 24 ชั่วโมง
มาตรฐานกันน้ำ: -
มาถึง หูฟังเสียงดี จากแบรนด์ Bose กันบ้างกับ หูฟัง Bose QuietComfort 45 Wireless Over Ear Headphone ที่โดดเด่นด้วยแนวเสียงที่นุ่มสบายหูตามสไตล์ของ Bose ที่อยู่ในใจผู้ใช้งานมากมายมาอย่างยาวนาน ตอบโจทย์การฟังเพลงได้ยอดเยี่ยมครบถ้วนทุกย่านเสียง พร้อมทั้งยังสวมใส่ได้เบาสบายหูเป็นอันดับต้นๆ ของวงการอีกด้วย อัดแน่นไปด้วยจุดเด่นมากมายโดย Bose QuietComfort 45 เป็น หูฟังไร้สายสวมใส่แบบครอบหู Over Ear กับวัสดุที่เลือกสรรค์มาเป็นอย่างดีทั้งส่วนของ Headband และ Body ที่ทั้งหรูหราและมีความแข็งแรงทนทานสูง จุดเด่นของ Bose QuietComfort 45 นอกจากเรื่องของการสวมใส่และแนวเสียงก็คือส่วนของฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนที่ทาง Bose เรียกว่า Acoustic Noise Cancelling™ ส่วนของไมโครโฟนรับเสียงได้อย่างคมชัด การเชื่อมต่อใช้เป็น Bluetooth Version 5.1 และรองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่าน AUX/3.5 mm. อีกด้วย ด้านแบตเตอรี่ของ Bose QuietComfort 45 ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงมาพร้อมฟังก์ชันชาร์จเร็วที่ชาร์จเพียง 15 นาทีสามารถใช้งานได้นานถึง 3 ชั่วโมง
ข้อดี
- น้ำหนักเบา ใส่สบายหูมากๆ ไม่ร้อนและอึดอัด
- ตัดเสียงรบกวนได้เงียบเป็นผู้นำของวงการ
- เสียงดี นิ่มนวล กลมกล่อม สไตล์ Bose
ข้อควรระวัง
- ใหญ่และหนักกว่ารุ่นที่แล้วเล็กน้อย
- แบตเตอรี่รวมเพียง 25 ชั่วโมงเท่านั้น
หูฟังไร้สาย Bose QuietComfort Earbuds True Wireless
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 6 ชั่วโมง (รวมเคส 18 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IPX4
หูฟังเสียงดี อีกรุ่นจากแบรนด์ Bose เช่นเดียวกันกับรุ่น หูฟังไร้สาย Bose QuietComfort Earbuds True Wireless โดดเด่นในเรื่องของการสวมใส่และแนวเสียงที่ยอดเยี่ยมฟังสนุกทุกย่านและทุกแนวเพลงตามสไตล์หูฟังจากแบรนด์ Bose โดยเป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In Ear ที่ใส่สบายด้วย Eartip ที่ถูกออกแบบโดยวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง StayHear® Max รุ่นใหม่ล่าสุด การควบคุมตัวอุปกรณ์ผ่านระบบสัมผัสที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่แบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยี Active EQ ที่ช่วยปรับระดับเสียง โดยนวัตกรรมนี้จะช่วยเพิ่มเสียงต่ำและเสียงสูงโดยอัตโนมัติ ส่วนไมโครโฟนสำหรับรับเสียงสนทนาที่รับเสียงพูดได้อย่างคมชัด ตัดเสียงแทรกออกไปได้อย่างหมดจด แบตเตอรี่ของ Bose QuietComfort นั้นสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 6 ชั่วโมง และสามารถใช้งานได้เพิ่มเติมอีก 12 ชั่วโมงเมื่อชาร์จผ่านตัวเคส รวมแล้วใช้งานได้ 18 ชั่วโมง ตัวเคสยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายด้วยอุปกรณ์ที่ได้รับการรองรับมาตรฐาน Qi อีกด้วย
ข้อดี
- ใส่สบายหูเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ
- ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิทเป็นอันดับต้นๆ
- ใส่ออกกำลังกายได้ด้วยมาตรฐานกันเหงื่อ IPX4
- เสียงนุ่มฟังสนุกทุกย่านสไตล์ Bose
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับ Codec ไร้สายคุณภาพสูงเช่น aptX
- แบตเตอรี่รวมเพียง 18 ชั่วโมงเท่านั้น
หูฟัง B&O Beoplay EX True Wireless
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 6 ชั่วโมง (รวมเคส 28 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IP57
หูฟังเสียงดี รุ่นถัดมากับ หูฟัง B&O Beoplay EX True Wireless ที่ไม่เพียงแต่เป็นหูฟังระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Hi End อย่าง B&O เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมแนวเสียงที่ยอดเยี่ยมและปรับปรุงขึ้นจากแนวเสียงแบบ B&O ดั้งเดิมที่จะเน้นในย่านกลางและย่านสูงเป็นหลัก มาในรุ่นนี้กับการปรับปรุงแนวเสียงให้ไม่เพียงโดดเด่นในย่านกลางและย่านแหลมสูงเท่านั้น แต่ย่านเบสในรุ่นนี้ก็ทำได้ดี มีความนิ่มนวลฟังสบายหูมากๆ อีกด้วย ด้านการใช้งานอื่นๆ B&O Beoplay EX เป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In Ear ตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยไมโครโฟนภายในที่มีมากถึง 6 ตัวแบบ Omni-Directional เชื่อมต่อไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง codec aptX™ Adaptive ดูหนังออนไลน์และเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหลไม่ดีเลย์ เชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการณ์ต่างๆ ได้ง่ายดายและรวดเร็ว ปรับ EQ เสียงได้ผ่าน App Bang & Olufsen ควบคุมสะดวกด้วยระบบสัมผัส มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP57 แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง (เปิด ANC) และชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีกรวมเป็น 28 ชั่วโมง โดยที่ตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
ข้อดี
- แนวเสียงที่ยอดเยี่ยมผ่านการปรับจูนมาเป็นอย่างดี
- ตัดเสียงรบกวนได้อย่างเงียบสนิทในทุกสถานการณ์
- เคสรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
ข้อควรระวัง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ครั้งละ 6 ชั่วโมงเท่านั้น
หูฟัง Devialet Gemini True Wireless
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 6 ชั่วโมง (รวมเคส 24 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IPX4
หูฟังเสียงดี รุ่นต่อมาจากแบรนด์ลำโพง Hi End ยอดนิยมจากประเทศฝรั่งเศสกับรุ่น หูฟัง Devialet Gemini True Wireless ที่นอกจากจะมาพร้อมฟังก์ชันที่ครบถ้วนจัดเต็มแบบเดี่ยวกับในลำโพงแล้ว ด้านแนวเสียงก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เพราะเหมือนกับนำเอาเสียงที่ยอดเยี่ยมที่ออกจากลำโพงมาย่อส่วนใส่เอาไว้ในหูฟังรุ่นนี้อย่างไงอย่างงั้น รับรองได้ว่าหากมองหาหูฟังเสียงดี รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน โดย หูฟัง Devialet Gemini True Wireless เป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In Ear มีน้ำหนักที่เบามากๆ เพียงข้างละ 8 กรัมเท่านั้น มาพร้อมฟังก์ชันเด่นอย่าง การตัดเสียงรบกวน Devialet Gemini's Active Noise Cancellation (ANC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทาง Devialet ได้คิดค้นและพัฒนามาเป็นอย่างดี สามารถตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิทในทุกสถานการณ์ ด้านการเชื่อมต่อของ หูฟัง Devialet Gemini True Wireless มาพร้อม Bluetooth 5.0 รองรับการส่งสัญฐาณเสียงไร้สายคุณภาพสูงผ่าน Codec ไร้สาย AptX มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 และแบตเตอรี่ภายในตัวที่ใช้งานได้นาน 6 ชั่วโมงชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 18 ชั่วโมง รวมแล้วใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมง ตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
ข้อดี
- รองรับ Codec ไร้สายคุณภาพสูง aptX
- ใช้งานแยกข้าง ซ้าย-ขวา ได้อย่างอิสระ
- ตัดเสียงรบกวนได้อย่างเงียบสนิทในทุกสถานการณ์
- ไมโครโฟนรับเสียงได้คมชัดในทุกกิจกรรมและสถานที่
ข้อควรระวัง
- การเชื่อมต่อยังเป็น Bluetooth 5.0 เท่านั้น
หูฟัง B&W PI7 True Wireless By Bowers & Wilkins
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 4 ชั่วโมง (รวมเคส 16 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IP54
หูฟังเสียงดี รุ่นที่ 9 กับ หูฟัง B&W PI7 True Wireless By Bowers & Wilkins หูฟัง True Wireless สุดพรีเมียมจาก Bowers & Wilkins รุ่นนี้เป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In Ear ที่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันและแน่นอนว่าแนวเสียงที่ยอดเยี่ยม โดดเด่น ฟังสนุกทุกแนวเสียงตามสไตล์ของ Bowers & Wilkins แบบที่บอกได้เลยว่าหากมองหา หูฟังเสียงดี รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังครับ ด้านรายละเอียดต่างๆ หูฟัง B&W PI7 True Wireless By Bowers & Wilkins มาพร้อมรูปร่างหน้าตาสุดหรูและพรีเมียมตามสไตล์ของแบรนด์ B&W จุดเด่นของ B&W PI7 คือฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน Adaptive Noise Cancelling (ANC) ที่สามารถตัดเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมโหมดรับเสียงจากภายนอกที่ให้เสียงที่คมชัด ด้านการสนทนาโทรศัพท์ก็สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดและตัดเสียงแทรกได้เป็นอย่างดี ด้วยไมโครโฟนภายในตัวที่ B&W PI7 ให้มามากถึง 6 ตัว ด้านการเชื่อมต่อ B&W PI7 ใช้การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงผ่าน Codec aptX Adaptive สามารถใช้งานแยกข้างซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระ และฟังก์ชันพิเศษสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย B&W PI7 สามารถใช้สาย USB C to AUX/3.5 mm. เสียบเข้าที่เคสและนำด้าน AUX/3.5 mm. กับเข้ากับอุปกรณ์เล่นเพลง ตัวเคสจะทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณแบบไร้สายไปยังหูฟังให้โดยอัตโนมัติ ใช้งานขณะออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ IP54 ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 4 ชั่วโมง ชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 3 ครั้งรวมแล้วใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 16 ชั่วโมง รวมถึงตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ข้อดี
- ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนยอดเยี่ยม เงียบสนิท
- รองรับ Codec เสียงคุณภาพสูง aptX Adaptive
- ไมโครโฟนภายในถึง 6 ตัว คุยโทรศัพท์ชัดมาก
- เปลี่ยนอุปกรณ์มีสายให้เชื่อมต่อไร้สายผ่านเคสชาร์จ
ข้อควรระวัง
- แบตเตอรี่รวม 16 ชั่วโมงถือว่าน้อยไปหน่อย
หูฟังไร้สาย Master & Dynamic MW08 True Wireless
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการณ์ที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 10 ชั่วโมง (รวมเคส 42 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IPX5
หูฟังเสียงดี รุ่นสุดท้ายในบทความนี้กับ หูฟังไร้สาย Master & Dynamic MW08 True Wireless ที่แค่ชื่อแบรนด์ Master & Dynamic ก็การันตีได้แล้วถึงแนวเสียงที่ยอดเยี่ยม ตอบโจทย์นักฟังเพลงทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวไหนหรือเสียงย่านใดก็ทำออกมาได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดและฟังได้สนุก โดย หูฟังไร้สาย Master & Dynamic MW08 True Wireless เป็นหูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In Ear รุ่นนี้มีดีตรงที่การตัดเสียงรบกวนที่มีให้เลือก 2 โหมดคือ All Day ANC สำหรับใช้งานตัดเสียงรบกวนในชีวิตประจำวันและ ANC Max หรือตัดเสียงรบกวนอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่ในความเงียบตลอดวัน และตัวหูฟังยังสามารถตัดเสียงลมได้อีกด้วย ส่วนโหมดรับเสียงภายนอกก็มีทั้ง Awareness Mode สำหรับรับเสียงภายนอกเพื่อความปลอดภัย และ Voice Mode สำหรับสนทนากับบุคคลรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟัง ด้านการเชื่อมต่อในรุ่นนี้เลือกใช้เป็น Bluetooth 5.2 ใหม่ล่าสุด รองรับการส่งสัญญาณเสียงไร้สายคุณภาพสูงอย่าง aptX ด้านการสนทนาก็สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดด้วยไมโครโฟนภายในตัวที่ให้มาถึง 6 ตัว สำหรับแบตเตอรี่ให้พลังงานที่ยาวนานมากๆ โดยใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมงและชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 30 ชั่วโมงรวมแล้วใช้งานได้นาน 42 ชั่วโมง และสำหรับสายออกกำลังกายก็สบายใจได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX5 ในรุ่นนี้
ข้อดี
- ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนเลือกโหมดได้ 2 รูปแบบตามการใช้งาน
- รองรับ Codec เสียงคุณภาพสูง aptX
- ไมโครโฟนภายในถึง 6 ตัว คุยโทรศัพท์ชัดมาก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ
ข้อควรระวัง
- กันน้ำในระดับ IPX5 เท่านั้น ถ้าเป็น IPX7 จะยอดเยี่ยมมากๆ
หูฟังไร้สาย Jabra Elite 85t True Wireless
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
การตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 5.5 ชั่วโมง (รวมเคส 19.5 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IPX4
Jabra Elite 85t มาพร้อมรูปร่างหน้าตาแบบที่ทาง Jabra เรียว่า Super Compact Design ทำให้ไม่รู้สึกว่าอึดอัดหรือรู้สึกว่าถูกอุดหูแต่อย่างใด และมีน้ำหนักที่เบาสบายหูเพียงข้างละ 7.1 กรัมเท่านั้น การเชื่อมต่อใช้เป็น Bluetooth 5.1 ส่วนการควบคุมจะเป็นปุ่มกดควบคุมได้ทั้งข้างซ้ายและขวาเพิ่ม-ลดเสียงได้ที่ตัว พร้อมด้วยเซนเซอร์ตรวจจับการใส่ที่จะหยุดเพลงเมื่อถอดออก และเมื่อใส่อีกครั้งเพลงก็จะกลับมาเล่นให้โดยอัตโนมัติ สำหรับไมโครโฟนมีทั้งหมด 6 ตัว ส่วนการตัดเสียงรบกวนแบ่งการทำงานออกเป็น 3 โหมด สามารถปรับระดับการตัดเสียงได้อย่างอิสระถึง 5 ระดับ ด้านการใช้งานรับสายสนทนาสามารถรับเสียงได้ดีแล้วยังตัดเสียงแทรกได้ดีอีกด้วย สามารถสวมใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐาน IPX4 ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 5.5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และชาร์จเพิ่มจากเคสได้ 19.5 ชั่วโมงรวมเป็น 25 ชั่วโมง ตัวเคสมาพร้อมพอร์ท USB-C และรองรับฟังก์ชั่นการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วย
ข้อดี
- ดู YouTube Netflix ไม่ดีเลย์
- เพิ่ม-ลดเสียงได้ที่ตัวหูฟัง
- ตัดเสียงรบกวน ปรับระดับได้
- ไมค์ 6 ตัว รับเสียงได้คมชัด
ข้อควรระวัง
- หนักขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว 2 กรัม
- กันน้ำลดลงเหลือ IPX4
หูฟัง Audio-Technica ATH-M50x Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: Over Ear
การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.
การตัดเสียงรบกวน (ANC): -
แบตเตอรี่: -
มาตรฐานกันน้ำ: -
หูฟัง Audio-Technica ATH-M50x Headphone เป็นหูฟังมอนิเตอร์แบบปิด Closed-Back ที่ออกแบบมาเพื่อการสวมใส่ที่เบาสบายหูมากที่สุด เหมาะกับการสวมใส่เป็นเวลานานติดต่อกันด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 285 กรัมเท่านั้น ตอบโจทย์ศีรษะของผู้ใช้งานทุกขนาด ด้วยความสามารถในการปรับระดับของหูฟังได้อย่างอิสระถึง 10 ระดับ นอกจากนี้ตัวหูฟังยังทำจากวัสดุที่คัดเลือกมาเป็นอย่างดีทั้งส่วนของ Earcup ที่มีความนุ่มสบายหู รวมถึงโครงของตัวหูฟังที่มีความแข็งแรงทนทานและยืดหยุ่นสูง และสามารถพับเก็บได้ตอบโจทย์การพกพาคู่ใจไปในทุกที่ ด้านสายสัญญาณของสามารถเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ด้านการใช้งานรองรับทั้งการใช้งานในระดับมืออาชีพและการใช้งานในระดับไลฟ์สไตล์ทั่วๆ ไป ด้วยไดรเวอร์ภายในที่เลือกสรรค์มาเป็นอย่างดีแบบ Dynamic Driver ขนาดข้างละ 45 มิลลิเมตร รองรับความที่เสียงที่ 15 - 28,000 Hz และผ่านการปรับจูนเสียงโดย Audio-Technica เพื่อเสียงที่เที่ยงตรงเพื่อตอบโจทย์การใช้งานใน Studio ที่ต้องการแนวเสียงที่มีความแม่นยำ รวมถึงยังสามารถนำไปใช้งานฟังเพลงทั่วๆ ไปก็ได้เช่นกัน
ข้อดี
- สวมใส่สบายหูด้วยการออกแบบที่คิดมาเป็นอย่างดี
- ตอบโจทย์การใช้งานทั้งระดับมืออาชีพและ Life Style
- สายถอดเปลี่ยนได้อย่างอิสระ อัปเกรดสายได้
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
หูฟังไร้สาย Klipsch T5 II True Wireless
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0
การตัดเสียงรบกวน (ANC): -
แบตเตอรี่: 8 ชั่วโมง (รวมเคส 24 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IP67
สำหรับหูฟังไร้สาย Klipsch T5 II ยังคงกลิ่นอายการออกแบบเดิมๆ เอาไว้ไม่ว่าจะเป็นเคสหูฟังอลูมิเนี่ยมคลาสสิคสวยงาม และทรงหูฟังที่มีความใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า โดยมีการปรับปรุงการออกแบบให้ทันสมัยมากขึ้นเล็กน้อยไม่ว่าจะเป็นทรงหูฟังที่เล็กและบางลงทำให้สวมใส่ไม่รำคาญหูเหมือนแต่ก่อน เช่นเดียวกับตัวเคสที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมทำให้พกพาง่าย สามารถใส่ในกระเป๋ากางเกงได้ถนัดขึ้น โดยตัวหูฟังยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 มาพร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 8 ชั่วโมงจากนั้นชาร์จหูฟังได้อีก 3 ครั้งรวมระยะเวลาการใช้งานนานกว่า 30 ชั่วโมง สำหรับไมค์ในรุ่นนี้ใช้งานไมค์ cVc 8.0 ถึง 4 ตัวช่วยในการตัดเสียงแทรกรอบข้างได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับสายคุยได้อย่างลื่นไหลไม่พลาดทุกการติดต่อ
ข้อดี
- ตัดเสียงรบกวนด้วยไมค์ cVc 8.0 ถึง 4 ตัว
- เคสพกพารูปทรงไฟแช็ค หรูหราไม่ซ้ำใคร
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย
หูฟัง Audio-Technica ATH-R70x Headphone
สเปคเด่น
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Android, iOS
การสวมใส่: Over Ear
การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.
การตัดเสียงรบกวน (ANC): -
แบตเตอรี่: -
มาตรฐานกันน้ำ: -
Audio-Technica ATH-R70x เป็น หูฟังระดับโปร ตัวแรกของแบรนด์ Audio-Technica ที่เป็น Open-Back หรือเปิดหลัง โดดเด่นด้วยฝาครอบด้านนอกที่ทำจาก Aluminium ออกแบบมาให้เป็นรูปรังผึ้งที่มีข้อดีคือทำให้น้ำหนักเบาและยังให้เสียงรวมถึงอากาศผ่านได้ดี ในรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานใน Studio สำหรับการมิกซ์เสียงและ Master เสียง ด้วยแนวเสียงของตัวหูฟังที่เป็นกลางมากที่สุด ไม่ว่าจะเสียงสูงก็ทอดไปได้ไกลมากๆ และเสียงต่ำก็ลงได้ลึกมากๆ โดยมีย่านความถี่อยู่ที่ 5 - 40,000 Hz เลยทีเดียว ตัวหูฟังออกแบบมาให้ใส่ได้สบายเป็นเวลานาน สำหรับการทำงานที่ต้องฟังเพลงยาวๆ ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 210 กรัมเท่านั้น รวมถึงการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง 3D Wing Support ที่จะช่วยประคองตัวหูฟังไว้บนศีรษะโดยไม่รู้สึกหนักหรือทำให้ล้าแต่อย่างใด มาพร้อมสายที่สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ตัวสายเป็นสายแบบกลมเส้นใหญ่ มีความเหนียวแน่นและมีความหนาหยิบจับแล้วให้ความรู้สึกที่แข็งแรงมากๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องสายจะขาดง่าย
ข้อดี
- น้ำหนักเบา ด้านหลังแบบเปิด
- ใช้งานได้ทั้งระดับมืออาชีพและไลฟ์สไตล์
- สามารถถอดสายได้อย่างอิสระ
ข้อควรระวัง
- ถ้า Headband ปรับระดับได้จะใส่ได้สบายยิ่งกว่านี้
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ รวม 14 หูฟังเสียงดี ปี 2023 ฟังเพลงสนุกตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าให้เสียงที่ยอดเยี่ยม ตอบโจทย์นักฟังเพลงทุกแนว ทุกเพศทุกวัย และฟังเพลงหรือเสียงย่านไหนก็ให้รายละเอียดที่ครบถ้วนอย่างแน่นอน รวมถึงยังมาพร้อมจุดเด่นอีกมากมายทั้งการสวมใส่ที่สบายกระชับหู การเชื่อมต่อที่ง่ายดายและเสถียร การตัดเสียงรบกวนที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม มาตรฐานกันน้ำที่ตอบโจทย์การสวมใส่ในขณะออกกำลังกาย และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวๆ ไม่ต้องมาคอยชาร์จบ่อยๆ ตอบโจทย์คนที่มองหา หูฟังเสียงดี และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ
ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา หูฟังเสียงดี ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง หูฟังเสียงดี รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ Mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ