5 หูฟัง In-Ear มีสาย ที่ดีที่สุด งบ 500.-
14 พ.ค. 2567
แม้ในปัจจุบันสินค้าประเภท หูฟัง จะมีการแข่งขันกันที่สูงและมีหลากหลายประเภทย่อยให้ได้เลือก ทั้งประเภทที่แยกตามการสวมใส่เช่น In Ear, Earbud, On Ear และ Over Ear หรือแบ่งตามการเชื่อมต่อที่มีทั้งการเชื่อมต่อแบบมีสายและไร้สาย แต่สินค้าที่ยังคงได้รับความนิยมเป็นเบอร์ต้น ๆ อยู่เสมอไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามามากมายเพียงใดนั้นก็คือ หูฟัง In-Ear มีสาย ที่มีจุดเด่นอย่างการสวมใส่ที่ง่ายดายแน่นกระชับหู การเชื่อมต่อที่ใช้ง่ายผ่านสาย รวมถึงขนาดที่เล็กพกพาสะดวกตามสไตล์ของหูฟัง In Ear ไม่เพียงเท่านี้แต่ในส่วนของราคาก็ยังมีให้เลือกหลากหลายระดับราคาอีกด้วยตั้งแต่ราคาระดับ Budget ไม่ถึง 1,000 บาทไปจนถึงระดับ Hi-Ead ราคาหลักหมื่นกันเลยทีเดียว และในครั้งนี้เพื่อเป็นการเอาใจสาย Budget ทาง mercular ก็ได้คัดเอา 5 หูฟัง In-Ear มีสาย ที่ดีที่สุด งบ 500.- รุ่นเด่น ๆ มาแนะนำกันในบทความนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้างนั้นเราไปดูกันเลยครับ
5 หูฟัง In-Ear มีสาย ที่ดีที่สุด งบ 500.- ในบทความนี้
หูฟัง JBL T290 In-Ear
สเปกเด่น
ไมโครโฟน: มีไมค์
การเชื่อมต่อหูฟัง (Input): AUX/3.5 mm.
น้ำหนัก: 71 กรัม
5 หูฟัง In-Ear มีสาย ที่ดีที่สุด งบ 500.- รุ่นแรกในบทความนี้กับ JBL T290 หูฟัง In-Ear แบบมีสาย ที่มาพร้อมรูปร่างหน้าตาสุดเท่ทันสมัยกับขนาดที่เล็กกะทัดรัดพกพาใส่กระเป๋าได้สบาย ๆ ทั้งกระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกง สวมใส่ได้ง่าย กระชับ เบาสบายหู ด้วยน้ำหนักที่เบามาก ๆ เพียง 71 กรัม ใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มควบคุมแบบ Multi-Function มาพร้อมไมโครโฟนแบบ In-Line สำหรับสนทนาโทรศัพท์ พร้อมด้วยสายแบบแบนไม่มีปัญหาเรื่องสายพันกัน ทำให้ทุกครั้งที่หยิบมาใช้นั้นจะง่ายดายและสะดวกพร้อมใช้ ด้านเสียงภายในมีไดรเวอร์เสียงแบบ Dynamic Driver ขนาด 8.7 มิลลิเมตร ให้เสียงที่ฟังสนุกตอบโจทย์ทุกแนวเพลง
ข้อดี
- น้ำหนักเบา ใส่สบาย
- มีรีโมทแบบ In Line
- ไมโครโฟนภายในตัว
ข้อควรระวัง
- ถอดเปลี่ยนสายไม่ได้
หูฟัง Aiwa ESTM-128 In-Ear Headphone
สเปกเด่น
ไมโครโฟน: มีไมค์
การเชื่อมต่อหูฟัง (Input): AUX/3.5 mm.
น้ำหนัก: 13.4 กรัม
มาต่อกันที่รุ่นที่ 2 กับ Aiwa ESTM-128 หูฟังมีสายสวมใส่แบบ In Ear ที่มาพร้อมขนาดที่เล็กกะทัดรัดเพียง 85 x 20 x 165 มิลลิเมตรเท่านั้น สวมใส่เบาสบายหูด้วยน้ำหนักเพียง 13.4 กรัม ตัวหูฟังใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายผ่าน AUX/3.5 mm. พร้อมสายที่มีความยาวอยู่ที่ 1.2 เมตร สนทนาโทรศัพท์ได้อย่างคมชัดด้วยไมโครโฟนภายในตัวและควบคุมได้อย่างง่ายดายด้วยรีโมทสำหรับควบคุมแบบ In Line ย่านแนวเสียงฟังสนุกทุกแนวเพลงโดยเฉพาะย่านเสียงเบสตามสไตล์ของแบรนด์ Aiwa ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้ง ฟังเพลง คุยโทรศัพท์ ดูหนังและเล่นเกม
ข้อดี
- น้ำหนักเบาเพียง 13.4 กรัม
- ควบคุมง่ายด้วยรีโมทแบบ In Line
- ไมโครโฟนภายในตัว
ข้อควรระวัง
- ถอดเปลี่ยนสายไม่ได้
หูฟัง KZ ZSN PRO X In-Ear
สเปกเด่น
ไมโครโฟน: เลือกรุ่น มีไมค์/ไม่มีไมค์
การเชื่อมต่อหูฟัง (Input): AUX/3.5 mm.
น้ำหนัก: 29 กรัม
หูฟัง In-Ear มีสาย ที่ดีที่สุด งบ 500.- รุ่นต่อไปกับ KZ ZSN PRO หูฟัง In-Ear แบบมีสายรูปทรงแบบ CIEM หรือ Custom In-Ear Monitor ที่ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม ด้วยไดรเวอร์ภายในแบบ Hybrid ผสมระหว่าง Balanced Armature และ Dynamic Driver รวมถึงเป็นการต่อยอดมาจากรุ่นยอดฮิตอย่าง KZ ZSN PRO ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่ดูเท่ พรีเมียม แนวเสียงที่ฟังได้สนุกแบบที่ฟังแล้วไม่ผิดหวัง และในรุ่น ZSN PRO X ก็อัพเกรดไปอีกขั้นรวมทั้งยังได้รับการปรับจูนเสียงออกมาให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นไปอีกมาก บอกได้เลยว่าแค่ได้ลองฟังรับรองว่าจะต้องติดใจอย่างแน่นอน
ข้อดี
- น้ำหนักเบาเพียง 29 กรัม
- เลือกได้ว่าจะเอารุ่นมีไมค์หรือไม่มี
- ไดรเวอร์เสียงแบบ Hybrid
- ถอดเปลี่ยนสายได้ตามต้องการ
ข้อควรระวัง
- รุ่นไม่มีไมค์ไม่มีรีโมทแบบ In Line
หูฟัง Philips TAE4105 In-Ear Headphone
สเปกเด่น
ไมโครโฟน: มีไมค์
การเชื่อมต่อหูฟัง (Input): AUX/3.5 mm.
น้ำหนัก: 12 กรัม
มาต่อกันที่รุ่นต่อไปกับ Philips TAE4105 หูฟัง In Ear เชื่อมต่อแบบมีสายที่สวมใส่ได้สบาย กระชับ ไม่หนักหูด้วยน้ำหนักเพียง 12 กรัมเท่านั้น สวมใส่ได้พอดีกกับทุกขนาดช่องหูด้วยจุกซิลิโคนให้เลือกเปลี่ยนถึง 3 ไซส์ ใช้งานสนทนาได้อย่างคมชัด และควบคุมการรับวางสายได้ด้วยไมโครโฟนและรีโมทแบบ In Line ที่ไม่เพียงรับเสียงเพื่อสนทนาได้เท่านั้นแต่ยังรองรับการสั่งการผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะอีกด้วย สเปกเสียงมาพร้อมไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่ข้างละ 10 มิลลิเมตรให้เสียงที่ฟังสนุกทุกย่านเสียงและเบสหนักแน่น รวมถึงขั้วสายยังมีการเคลือบ Nickel ทำให้ส่งสัญญาณได้อย่างคมชัดอีกด้วย
ข้อดี
- น้ำหนักเบาเพียง 12 กรัม
- มีไมค์และรีโมทแบบ In Line
- ขั้วสายเคลือบ Nickel ส่งสัญญาณคมชัด
ข้อควรระวัง
- ถอดเปลี่ยนอัปเกรดสายไม่ได้
หูฟัง KZ EDX PRO In-ear
สเปกเด่น
ไมโครโฟน: เลือกรุ่น มีไมค์/ไม่มีไมค์
การเชื่อมต่อหูฟัง (Input): AUX/3.5 mm.
น้ำหนัก: 32 กรัม
รุ่นสุดท้ายในบทความนี้กับ KZ EDX PRO หูฟัง In Ear เชื่อมต่อแบบมีสาย รูปทรงแบบ IEM ที่สวมใส่ได้สบายและกระชับหู โดดเด่นตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอกไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรูปร่างที่ออกแบบมาในรูปแบบของ Shell ใสที่ทำจากเรซินนำเข้าและ Faceplate ที่มีความพรีเมียมจนแค่นี้ก็ทำให้หูฟังโดดเด่นเกินราคาไปไกล ในส่วนของขั้วหูฟังเป็นแบบ 2 Pin 0.75 ที่สามารถหาสายมาเปลี่ยนเพื่ออัปเกรดได้อย่างง่ายดาย ในส่วนของไดรเวอร์เสียง KZ EDX PRO เลือกใช้เป็นไดรเวอร์แบบ Dynamic ขนาดข้างละ 10 มิลลิเมตรมาพร้อมวงจรภายในแบบ Dual Magnetic รูปแบบพิเศษรวมถึงควบคุมด้วยวงจร Electronic Crossover Board ที่ทำให้เสียงย่านต่ำนั้นลงได้ลึกและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในขณะเดียวกันเสียงย่านสูงก็มีความโปร่งใสและขับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสายที่ในรุ่นนี้ให้มาเป็นสายทองแดงแบบ OFC ที่มีความบริสุทธิ์ถึงระดับ 5N ออกแบบมาให้มีความแบนทำให้สายพันกันยากขึ้นที่สำคัญภายในสายยังเลือกใช้ตัวนำสัญญาณที่ดีขึ้น สามารถขับเสียงได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเล่นจากเครื่องเล่นประเภทใดก็ตามทั้ง Smartphone, Laptop หรือ Mini DAP เป็นต้น
ข้อดี
- วัสดุคุณภาพพรีเมียม เกินราคา
- เลือกได้ว่าจะเอารุ่นมีไมค์หรือไม่มี
- ถอดเปลี่ยนสายได้ตามต้องการ
ข้อควรระวัง
- รุ่นไม่มีไมค์ไม่มีรีโมทแบบ In Line
เป็นยังไงกันบ้างครับกับบรรดา 5 หูฟัง In-Ear มีสาย ที่ดีที่สุด งบ 500.- ที่ทาง mercular ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่า คุ้มค่า คุ้มราคา ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน ซึ่งก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดาหูฟังทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น
และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจองหูฟังรุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงก์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ สุดท้ายนี้ mercular ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ