แนะนำ 5 หูฟัง Lightning เอาใจคนใช้ iPhone

สำหรับผู้ใช้งาน iPhone น่าจะประสบปัญหาหนึ่งที่เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัย iPhone 7 กันเลยทีเดียว นั่นก็คือการที่ Apple ตัดช่องการเชื่อมต่อ AUX/3.5 mm. ออกไปเหลือเพียงช่องเชื่อมต่อ Lightning เพียงอย่างเดียว โดยให้เหตุผลว่าเพื่อทำให้ตัวเครื่องนั้นบางลงและอ้างว่าช่องเชื่อมต่อ AUX/3.5 mm. เป็นเทคโนโลยีที่เก่าแล้ว เป็นต้น ซึ่งนั่นสร้างปัญหาให้กับผู้ที่ใช้งาน หูฟัง ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ AUX/3.5 mm. กันเป็นอย่างมาก ปัจจุบันแม้จะมีการเปิดตัว หูฟังไร้สาย ออกมามากมายโดยเฉพาะ หูฟังไร้สาย True Wireless ที่กลายมาเป็น หูฟัง ที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้นๆ ในขณะนี้ แต่ก็ยังมีผู้ใช้งานอีกมากมายที่ยังคงชื่นชอบหูฟังแบบมีสายอยู่ รวมถึงหลายๆ แบรนด์ก็ออกหูฟังที่มาพร้อมการเชื่อมต่อ Lightning ออกมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่อยากใช้หูฟังแบบมีสายร่วมกับ iPhone นั่นเอง และในครั้งนี้ mercular.com ก็ได้รวบรวมเอา 5 หูฟัง Lightning เอาใจคนใช้ iPhone มาเป็นตัวเลือกในการเลือกซื้อให้กับทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นไหนบ้างนั้น เราไปดูกันเลยครับ

5 หูฟัง Lightning ในบทความนี้

• หูฟัง Audeze SINE (Lightning) On-Ear
• หูฟัง RHA MA650i With Lightning Connector In-Ear
• หูฟัง WHY EP-1011 Earbud Headphone
• หูฟัง EarPods พร้อมหัวต่อ Lightning
• หูฟัง Beats urBeats3 Lightning

หูฟัง Lightning กับ หูฟัง Audeze SINE (Lightning) On-Ear หูฟังมีสายสวมใส่แบบแนบหู (On Ear) จากแบรนด์ Audeze รุ่นนี้โดดเด่นตั้งแต่เรื่องของการสวมใส่ที่สบายหู สวมใส่ฟังเพลงจากไอโฟนผ่านสาย Lightning ได้ยาวนานตลอดวัน และยังมีความโดดเด่นด้วยการใช้ไดรเวอร์เสียงแบบ Planar Magnetic ที่มอบประสบการณ์และคุณภาพเสียงระดับ Hi-End เสียงมีความเที่ยงตรง ย่านเสียงฃกว้าง เวทีเสียงใหญ่โต โดยปกติแล้วหูฟัง Planar Magnetic จะมีขนาดใหญ่และใช้ฟังอยู่กับที่ แต่ Sine เป็นหูฟังที่สามารถพกพาได้ถึงแม้จะมีน้ำหนักมากกว่าหูฟังทั่วไปแต่ก็ยังเบามากเมื่อเทียบกับหูฟัง Planar Magnetic กันเอง ตัว Sine นั้นถูกออกแบบโดยทีมดีไซน์จาก BMW รูปร่างหน้าตามีพร้อมกับสีดำคมเข้ม มีรูปร่างเรียบง่ายแต่แฝงความสวยงามแบบเรียบหรูและโฉบเฉี่ยว ตัวหูฟังทำมาจากโลหะและอลูมิเนียมเกือบทั้งตัวเคลือบด้วยสีดำ ให้ความรู้สึกถึงพลังและความแข็งแรงทนทาน ที่ตัวหูฟังทั้งก้านหูฟังและด้านนอกใช้หนังแท้สีดำหุ้มรอบ โดยตัวหูฟังสามารถหมุนเป็นระนาบแนวตรงเพื่อง่ายต่อการเก็บและพกพา อีกจุดสำคัญที่เป็นไฮไลท์ก็คือสายหูฟังถอดเก็บได้ทีเรียกว่า “Cipher” ซึ่งเป็นสายหูฟังแบบ Lightning ที่มี DAC แบบ DSP ในตัวช่วยทำให้รองรับสัญญาณ Hi-res ที่ 24bit/96Khz และมี Amp ในตัวอีกจึงทำให้เสียงที่ได้เสมือนมี DAC ชั้นดีอีกตัว นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปเซ็ตค่า EQ ในมือถือและเก็บ Profile เสียงที่ชอบได้อีกด้วย ที่ตัวสายนั้นเป็นสายแบบแบน ช่วยลดการพันกันได้อีกชั้น ตัวสายจะมี DAC อยู่ภายในพร้อมทั้งไมโครโฟนและปุ่มควบคุม

หูฟัง Lightning รุ่นถัดไปจากแบรนด์ดังอย่าง RHA กับรุ่น หูฟัง RHA MA650i With Lightning Connector In-Ear โดยรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบมีสายสวมใส่แบบสอดหู (In Ear) มาพร้อมจุดเด่นของรุ่นเลยก็คือการออกแบบที่ดูเท่ ล้ำสมัย ไม่ซ้ำใคร รวมถึงเลือกใช้วัสดุที่มีความพรีเมียม หรูหรา และมีความแข็งแรงทนทานสูงอย่างอลูมิเนียมขัดเงา และยังสวมใส่ได้สบายหูด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 17 กรัมเท่านั้น และยังมาพร้อมจุกซิลิโคนให้เลือกอีกหลายไซส์ และหลายรูปแบบให้ได้เลือกใช้ที่พอดีกับหูและให้เสียงที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ตัวสายเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียมคุณภาพสูงเช่นกัน มีความแข็งแรงทนทานสูงในขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก ที่สายยังมาพร้อมรีโมท 3 ปุ่มแบบ In Line พร้อมไมโครโฟนที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดและไม่พลาดในทุกการสนทนาครับ

หูฟัง Lightning รุ่นที่ 3 รุ่นเล็กๆ ราคาเบาๆ จากแบรนด์ WHY กับหูฟัง WHY EP-1011 Earbud Headphone หูฟังมีสายสวมใส่แบบ EarBud ที่มีรูปลักษณ์สุดคุ้นตาและมีความใกล้เคียงกับหูฟัง EarBud จากแบรนด์ Apple แต่จุดที่แตกต่างกันคือมาพร้อมราคาที่เบากว่าครึ่ง ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาหูฟังมีสายมาใช้กับ iPhone พร้อมการเชื่อมต่อแบบ Lightning ที่จะใช้เป็นหูฟังหลักหรือจะเก็บไว้เป็นหูฟังสำรองก็ยังได้เช่นกัน ตัวหูฟังยังมาพร้อมรีโมทควบคุมที่มี 3 ปุ่มแบบ In Line และยังมาพร้อมไมโครโฟนภายในตัวที่รับเสียงได้คมชัดทุกการติดต่อไม่พลาดทุกการสนทนา

หูฟัง Lightning รุ่นถัดไป รุ่นนี้มาจากแบรนด์ Apple กับ หูฟัง EarPods พร้อมหัวต่อ Lightning ที่เรียกได้ว่าเป็นหูฟังเริ่มต้น หรือหูฟังพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การที่ iPhone ตัดช่องเชื่อมต่อ AUX/3.5 mm. ออกไปนั่นเอง โดย EarPods ได้ถูกคิดค้นและพัฒนามารูปร่างหน้าตาโดย Apple เอง ทำให้ได้หูฟัง EarBud ที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ซ้ำใคร ในขณะเดียวกันก็สามารถสวมใส่ได้สบายหูแบบไม่เคยมีมาก่อน หรือพูดได้ว่าเหนือกว่าหูฟัง EarBud แบบเดิมๆ ไปโดยสิ้นเชิง และ Apple EarPods ยังมาพร้อมคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ เพราะไดรเวอร์เสียงหรือลำโพงภายในถูกออกแบบมาเพื่อให้ประสบการณ์ด้านเสียงที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดและลดการสูญเสียของเสียงที่ปกติจะเกิดขึ้นกับหูฟังประเภท EarBud ให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้ EarPods พร้อมหัวต่อ Lightning ยังมาพร้อมรีโมทและไมโครโฟนในตัวที่ให้คุณสามารถปรับระดับเสียง ควบคุมการเล่นเพลงและวิดีโอ รวมถึงรับสายหรือวางสายด้วยการกดที่สายหูฟังได้อีกด้วย

และ หูฟัง Lightning รุ่นสุดท้ายในบทความนี่จากแบรนด์ Beats ภายใต้การบริหารของ Apple กับรุ่น หูฟัง Beats urBeats3 Lightning ซึ่งเป็น หูฟัง Lightning อีกรุ่นทาง Beats ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการหูฟังแบบมีสาย เชื่อมต่อแบบ Lightning แต่ไม่ถูกใจการสวมใส่แบบ EarBud ที่บางครั้งก็ให้ความรู้สึกที่หลวมและหลุดง่ายกว่าปกติ โดยที่ยังอัดแน่นมาด้วยฟังก์ชันที่ครบถ้วนแบบเดียวกับ Apple EarPods เพิ่มเติมคือสีสันสดใสที่มีให้เลือกหลากหลายกว่า ด้านคุณภาพเสียงทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันและอาจจะให้แนวเสียงย่านเบสที่กระหึ่มกว่าหูฟัง EarBud ที่มีจุดอ่อนในเรื่องของเสียงเบสอีกด้วย นอกจากเสียงที่กระหึ่มฟังสนุกแล้ว หูฟัง Beats urBeats3 Lightning ยังมาพร้อมสายแบนที่ทำให้ไม่พันกันง่ายๆ รวมถึงมาพร้อมรีโมทแบบ 3 ปุ่มและไมโครโฟนแบบ In Line

เป็นยังไงกันบ้างครับกับรวม 5 หูฟัง Lightning เอาใจคนใช้ iPhone ที่ทาง Mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าใส่สบาย ใช้งานง่ายเพียงเชื่อมต่อเข้ากับช่อง Lightning ที่ iPhone และแน่นอนว่าเสียงดี ตอบโจทย์คนที่มองหา หูฟัง Lightning และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ

ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา หูฟัง Lightning ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง หูฟัง Lightning รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ Mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ