แนะนำ 6 กล้อง Mirrorless สำหรับถ่ายวิดีโอ ปี 2023

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กล้อง Mirrorless ถือเป็นประเภทกล้องถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นและกระแสความความนิยมเพิ่มไม่หยุด และถึงแม้ว่าเดิมที กล้อง Mirrorless จะเป็นกล้องสำหรับถ่ายภาพนิ่ง แต่ปัจจุบัน เรามักจะหันช่างภาพหลายๆ คน เลือกใช้กล้อง Mirrorless ในการถ่ายวิดีโอ ไม่ว่าเป็นระดับมือสมัครเล่นหัดถ่าย วล๊อกเกอร์ ยูทูปเบอร์ จนไปถึงโปรดักชั่นขนาดใหญ่ก็เลือกใช้กล้อง Mirrorless กันทุกที่ แม้แต่แบรนด์หลายๆ เจ้ายังเปิดตัวกล้อง Mirrorless ที่เน้นงานวิดีโอเป็นหลักเลยก็มี และในปี 2023 นี้ เราจะมาแนะนำกล้อง Mirrorless สุดเจ๋ง สำหรับงานถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ จะมีกล้องตัวไหน ใช่ตัวที่คุณอยากได้รึเปล่า เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย

Canon EOS M 50 Mark II

เริ่มกันที่กล้องตัวแรกที่น่าจะเป็นขวัญใจวัยรุ่นและสาย Vlogger มาช้านานอย่างกล้อง Canon EOS M 50 Mark II ที่แม้ว่าจะเป็นกล้องตัวเล็ก แต่ว่าเด็ดที่สเปคหนักๆ ทั้งความละเอียดวิดีโอในระดับสูงถึง 4K แถมยังมรฟีเจอร์ Eye AF กับระบบโฟกัสติดตามดวงตาที่แม่นยำ ทำให้เวลาถ่ายเซลฟี่หรือถือถ่ายวิดีโอ ก็ไม่ต้องกลัวโฟกัสหลุดตัว นอกจากนี้ Canon EOS M 50 Mark II ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้ในโหมด Timelapse หรือจะหมุนกล้องถ่ายเป็นแนวตั้ง ก็สามารถทำได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเอาวิดีโอไปตัดต่อในคอมพิวเตอร์ แถมยังรองรับการ Livestream และใช้เป็นกล้อง Webcam ได้ด้วย เรียกได้ว่า เป็นกล้องสารพัดประโยชน์ตัวหนึ่งเลยทีเดียว

Sony ZV-E10

และเมื่อพูดถึงกล้อง Sony แล้ว เรื่องวิดีโอของกล้องค่ายนี้ก็ไม่เป็นสองรองใคร และกล้อง Sony ZV-E10 ก็ถือเป็นกล้องอีกตัวหนึ่งที่จัดจ้านในด้านงานวิดีโอโดยเฉพาะ ด้วยฟีเจอร์พิเศษอย่าง Bokeh Switch ที่สามารถกดเพื่อให้ฉากหลังเบลอหรือชัดได้ทันที โหมดการถ่าย Slow Motion ที่ดึงได้ถึง 4 เท่า และอีกฟีเจอร์อย่าง Product Showcase ที่กล้องจะสลับโฟกัสเมื่อเห็นสิ่งของที่เราโชว์หน้ากล้องได้ทันที ถูกใจทั้งสายแม่ค้าและรีวิวสินค้าไม่ใช่น้อย ระบบกันสั่นที่ช่วยลดการสั่นไหวของภาพ และสุดท้ายคือระบบ Auto Focus ที่มีความแม่นยำ และ Eye AF ที่โฟกัสติดตามดวงตาได้ไม่มีหลุด ถูกใจเหล่าครีเอเตอรั้งหลายแน่นอน

Fujifilm X-T4

นอกจากการถ่ายภาพนิ่งแล้ว กล้อง Fujifilm X-T4 ยังถือเป็นกล้อง Mirrorless อีกตัวที่สามารถถ่ายวิดีโอได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยระบบกันสั่นภายในตัวแบบ In-Body Image Stabilization ช่วยรักษาสมดุลภาพให้คมชัด ออโต้โฟกัสที่รวดเร็วและแม่นยำเพียง 0.02 วินาที และระบบโฟกัสติดตามที่ยากจะหลุด จับได้ทั้งวัตถุ ใบหน้า และดวงตาตลอดการถ่าย และยังทำงานได้แม้ในสภาพแสงน้อย และฟีเจอร์พิเศษที่ไม่เหมือนใครอย่าง ETERNA Bleach Bypass ที่ช่วยจำลองโทนสีแบบกล้องฟิล์มได้ถึง 18 แบบ และการวิดีโอแบบ Slow Motion ที่ยืดได้ถึง 10 เท่า และยังสามารถบันทึกโทนสีแบบ F Log สำหรับการตัดต่อและเกรดสีต่อไป ถูกใจสายภาพยนต์แน่นอน

Nikon Z7 II

หลายๆ คนอาจจะจดจำ Nikon ว่าโดดเด่นในเรื่องภาพนิ่ง แต่ในงานวิดีโอนั้น Nikon Z7 II ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ด้วยขุมพลังจากหน่วยประมวลผล EXPEED 6 ที่ไม่ได้มีแค่ 1 แต่ใช้ถึง 2 ตัวประมวลผลร่วมกัน ทำให้กล้องทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ระบบโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำ ทั้ง Eye AF และ Wide-Area สำหรับเลือกพื้นที่โฟกัสเฉพาะ ส่วนทีเด็ดที่ทำให้กล้อง Nikon Z7 II ติดโผนี้นั่นก็คือ ความสามารถในการบันทึกไฟล์แบบ 12 bit RAW ทั้งแบบ ProRes RAW และ Blackmagic RAW และรองรับการใช้งานแบบ Live Stream และเมื่อรวมกับจุดแข็งเรื่องภาพนิ่งแล้ว ทำให้ Nikon Z7 II กลายเป็นกล้อง Mirrorless สำหรับงานวิดีโอที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลย

Panasonic Lumix GH5S

Panasonic เองก็ถือเป็นแบรนด์ที่เน้นงานวิดีโอไม่แพ้กัน และหนึ่งในกล้องที่ทำงานด้านนี้ได้ดีมากๆ ตัวหนึ่งก็คือกล้อง Panasonic Lumix GH5S ที่แม้จะใช้เซนเซอร์ Micro 4/3 แต่ก็สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสุงถึง 4K และยังสามารถทำงานร่วมกับเลนส์ภาพยนตร์อย่าง Anamorphic Lens ทำให้วิดีโอที่ถ่ายมาถูกยืดออกได้ทันที หรือจะเลือกอัตราส่วนภาพแบบต่างๆ สำหรับภาพนิ่งและวิดีโอทั้ง 4:3, 17:9, 16:9, 3:2 ได้อีกด้วย และยังรองรับการบันทึกไฟล์แบบ RAW 12 bit และยังมี V-Log L ที่ช่วยเก็บไดนามิกเรนจ์ได้ถึง 12 stop ถูกใจนักเกรดสีสุดๆ พร้อมกับการถ่าย Slow Motion แบบ 240p สโลว์ได้หน่วงสะใจ

Sony A7 IV

มาถึงตัวสุดท้ายในลิสต์นี้แล้ว สำหรับกล้องน้องใหม่หน้าเดิมอย่าง Sony A7 IV ที่ถือว่าเป็นกล้องที่จัดหนัก จัดเต็ม อัพเกรดจากกล้องรุ่นก่อนหน้ามาพอสมควร ทั้งจุดแข็งอย่างระบบ Auto Focus ที่จับภาพได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงการโฟกัสติดตามแบบ Real-time ทั้งวัตถุ ใบหน้า และดวงตาได้ทั้งคนและสัตว์ และบันทึกไฟล์วิดีโอรูปแบบ 10 bit และโทนสี S-Cinetone ที่ช่วยให้ภาพมีโทนสีผิวที่สวยงานโดยไม่ต้องตัดต่อเพิ่มเติม หรือจะใช้งาน S-log ที่จะช่วยเก็บไดนามิกเรนจ์ในภาพได้ถึง 15 Stop เหมาะสำหรับการตัดต่อและเกรดสี พร้อมระบบกันสั่น 5 แกนภายในตัวที่จะช่วยให้วิดีโอของนั้นไร้ซึงความกระตุกสั่นไหว สำหรับงานวิดีโอระดับโปรเฟสชันนอลแล้ว กล้อง Sony A7 IV ก็เอาอยู่

ถ้าคุณเปิดรายการใน Youtube หรือรายการทีวีต่างๆ ในปัจจุบัน เชื่อเลยว่า 80% ของรายการที่คุณดูอยู่นั้นใช้กล้อง Mirrorless ในการถ่ายทำอยู่แน่นอน เพราะด้วยขนาดที่เล็กว่ากล้องวิดีโอ ทำให้พกพาได้สะดวกกว่า ราคาและการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับคุณภาพวิดีโอที่เพียงพอต่อการการใช้งาน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม หลายๆ กองถ่ายในประเทศเราถึงเลือกใช้กล้องมิลเลอร์เลสกัน ส่วนใครที่สนใจ หรือกำลังมองหากล้องไว้ใช้งานอยู่หล่ะก็ เข้ามาเลือกซื้อกล้อง โดรนและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ที่ Mercular.com ตามลิงค์นี้เลย ส่วนบทความหน้าจะมีกล้องตัวไหนมาแนะนำให้ลองบ้าง รออ่านกันได้เลย