รวม 5 หูฟังนักดนตรี ที่นักดนตรีมือสมัครเล่นและมืออาชีพควรมี
14 ธ.ค. 2565
ในบรรดา หูฟัง ที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายประเภทในปัจจุบันนั้น หูฟังประเภทหนึ่งที่เรียกได้ว่าได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานโดยไม่มีความเสื่อมคลาย รวมถึงได้รับความนิยมควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมเพลงเลยก็คือ หูฟังนักดนตรี นั่นเอง โดยเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่นักดนตรี นักร้อง รวมถึงนักทำเพลงนั้นจำเป็นต้องมีเพื่อการทำเพลงหรือทำดนตรีให้ยอดเยี่ยมและสมบูรณ์ เพราะในหูฟังทั่วๆ ไปที่ใช้ฟังเพลงนั้นมักจะถูกปรับจูนเสียงย่านใดย่านหนึ่งมาเป็นพิเศษตามเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้พอนำไปใช้ในการฟังเพลงที่ต้องการเสียงที่เที่ยงตรงสูงนั้น การใช้หูฟังทั่วๆ ไปจึงอาจจะทำให้การทำเพลงหรือมิกซ์เสียงนั้นผลที่ได้อาจเกิดอาการผิดเพี้ยนได้ จากการที่ตัวหูฟังเองนั้นให้เสียงย่านใดย่านหนึ่งเป็นพิเศษนั่นเอง ซึ่ง หูฟังนักดนตรี ก็จะมาพร้อมแนวเสียงที่เที่ยงตรงหรือที่เรียกว่า หูฟังมอนิเตอร์ ทำให้การทำเพลงหรือมิกซ์เพลงนั้นได้เสียงที่เป็นกลาง เมื่อถูกนำไปใช้งานกับหูฟังที่ปรับจูนมาเป็นพิเศษเสียงที่ได้ก็จะไม่ผิดเพี้ยนมากเกินไปนั่นเอง โดย หูฟังนักดนตรี ในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายประเภทด้วยกันไม่ว่าจะเป็น หูฟัง In Ear หูฟัง Over Ear หูฟัง On Ear หูฟังไร้สาย และ หูฟังมีสาย เป็นต้น
และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา หูฟังนักดนตรี และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี หรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดที่จะเพียงพอต่อการใช้งานในการทำเพลง หรือการใช้งานฟังเพลงที่ต้องการเสียงที่เที่ยงตรงไม่ผ่านการปรับจูนใดๆ ไปจนถึงด้านรูปร่างหน้าตา การสวมใส่ และอื่นๆ ที่จะเหมาะกับการใช้งานขณะเล่นดนตรีมากที่สุด ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา 5 หูฟังนักดนตรี ที่นักดนตรีมือสมัครเล่นและมืออาชีพควรมี มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ
5 หูฟังนักดนตรี ในบทความนี้
หูฟัง Fiio FH9 In-Ear Headphone
สเปคเด่น
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm., Balanced 2.5 mm., Balanced 4.4 mm.
อิมพีแดนซ์: 18 โอห์ม
การตอบสนองความถี่: 10 - 40,000 Hz
หูฟังนักดนตรี รุ่นแรกในบทความนี้กับ หูฟัง Fiio FH9 In-Ear Headphone Fiio FH9 หูฟังมีสาย สวมใส่แบบ In-Ear monitor รุ่นเรือธงจากแบรนด์ FiiO ออกแบบมาในรูปแบบหูฟังกึ่งเปิด Semi-Open ที่ทำให้อากาศถ่ายเทได้ สวมใส่ได้สบายไม่อึดอัดหูแม้จะเป็นหูฟัง In-Ear ด้านวัสดุของ Fiio FH9 ยังเลือกใช้เป็นโลหะผสมกับ Titanium Alloy ทำให้มีความคงทนแข็งแรงมากๆ ด้านสเปคด้านเสียงภายในประกอบไปด้วยไดรเวอร์ Balanced Armature จากแบรนด์ดังยอดนิยมอย่าง Knowles ทำงานร่วมกับไดรเวอร์ Dynamic Driver เสริมจุดเด่นลบจุดด้อยของแต่ละไดรเวอร์ได้อย่างลงตัว และยังมาพร้อมความสามารถในการอัพเกรดอย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดท่อนำเสียงแต่ละท่อแต่ละสีก็จะให้เสียงที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงยังสามารถถอดเปลี่ยนสายได้อย่างอิสระโดยใช้ขั้วสายแบบ Stainless Steel ท่อโค้งแบบ MMCX ที่ช่วยให้เปลี่ยนได้ง่ายและไม่รบกวนการสวมใส่ ตัวสายที่ให้มาก็ไม่ธรรมดาเพราะเป็น สายเงินบริสุทธิ์สูงแบบผลึกเดี่ยว ถัก 8 เส้นที่สามารถนำเสียงได้ยอดเยี่ยมจนแทบไม่ต้องมองหาสายอัพเกรดมาเปลี่ยนให้วุ่นวาย
หูฟัง BGVP NE5 In-Ear
สเปคเด่น
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Balanced 2.5 mm.
อิมพีแดนซ์: 32 โอห์ม
การตอบสนองความถี่: 10 - 45,000 Hz
หูฟังนักดนตรี รุ่นที่ 2 กับ หูฟัง BGVP NE5 In-Ear หูฟัง In Ear เชื่อมต่อแบบมีสาย ออกแบบมาให้มีลักษณะของหูฟังกึ่ง Custom สวมใส่แบบคล้องหูมีขนาดค่อนไปทางใหญ่เนื่องจากได้บรรจุตัว Dynamic Driver ขนาดใหญ่ถึง 10 มิลลิเมตร สำหรับตอบสนองย่านความถี่ต่ำโดยเฉพาะ ทำให้มีเบสลูกใหญ่และมีความอิ่มในขณะเดียวกันก็ไม่ได้กลบเสี่ยงย่านอื่น ๆแต่อย่างใด ในส่วนย่านเสียงกลางและกลางไปสูงนั้นได้ใช้ Driver แบบ BA 2 ตัวโดยเสียงกลางใช้ Driver ฺBA Sonion 2300 ให้เสียงที่กระจ่างคมชัดและอิ่มกำลังดี ในส่วนเสียงกลาง-สูง นั้นใช้ BA ของ Knowles RAD อีกตัวเพื่อใช้อุดช่องรอยต่อระหว่างไดรเวอร์ต่างๆ ในส่วนของ Passive Crossover นั้นทำออกมาได้ดีมากแทบไม่สังเกตุเห็นความถี่ที่เป็นช่องโหว่เลยแม้แต่น้อย โดยรวมเป็น หูฟังนักดนตรี ที่ฟังสนุกแต่ในขณะเดียวกันก็ได้การเสริมด้านรายละเอียดเสียงสูงมาเพื่อ Balanced กับความถี่ต่ำทำให้ไม่มีความรู้สึกว่าหูฟังทื่อเกินไป นอกจากนี้ยังมีระบบ Filter มาสำหรับ Tune เสียงเพิ่มเติมอีกด้วย
หูฟัง TFZ SERIES 7 In-Ear
สเปคเด่น
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.
อิมพีแดนซ์: 17 โอห์ม
การตอบสนองความถี่: 5 - 40,000 Hz
หูฟังนักดนตรี รุ่นที่ 3 กับ หูฟัง TFZ SERIES 7 In-Ear หูฟัง In Ear เชื่อมต่อแบบมีสายรุ่นโปรที่จะช่วยทำให้ประสบการณ์ทางดนตรีเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยใช้เวลาพัฒนามากถึง 3 ปี และทำการปรับจูนเสียงไปมากกว่า 200 ครั้ง เพื่อทำให้กลายเป็นหูฟังที่สามารถแสดงศักยภาพของวัสดุที่ประกอบขึ้นมาได้อย่างสูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็น BA Driver นำเข้าที่ทำให้เสียงดนตรีสามารถให้รายละเอียดได้ดีขึ้น รวมไปถึงการแบ่งแยกช่วงเสียง และไดนามิกที่โดดเด่นขึ้นกว่าหูฟังรุ่นก่อนๆ ที่เคยมีมา นอกเหนือจากสเปคดังกล่าวแล้วยังมาพร้อมกับคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res และ ใช้พลังงานต่ำลงกว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 30% มาพร้อมกับสายที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความแตกต่างให้กับการใช้งาน โดยสายที่ให้มาจะเป็นสายชุบเงินถักที่มีความทนทานสูงและสามารถส่งสัญญาณได้อย่างสะอาดไร้คลื่นรบกวน
หูฟัง Beyerdynamic DT 700 PRO X Studio Headphone
สเปคเด่น
การสวมใส่: Over Ear
การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.
อิมพีแดนซ์: 48 โอห์ม
การตอบสนองความถี่: 5 - 40,000 Hz
หูฟังนักดนตรี รุ่นที่ 4 กับ หูฟัง Beyerdynamic DT 700 PRO X Studio Headphone หูฟัง Over Ear เชื่อมต่อแบบมีสาย มาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นในสไตล์ของแบรนด์ Beyerdynamic เลือกสรรค์วัสดุระดับพรีเมียมที่มีความแข็งแรงทนทานสูง สวมใส่ได้เบาสบายด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 350 กรัม ด้านการเชื่อมต่อเป็นแบบมีสายผ่าน AUX/3.5 mm. มาพร้อมกับอแดปเตอร์ 6.35 mm. มาพร้อมสายที่สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างอิสระโดยใช้ขั้วสายแบบ 3-pin mini XLR จุดเด่นคือการออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั้ง นักฟังเพลงทั่วๆ ไปที่ใช้ฟังเพลงในบ้าน ที่ทำงาน หรือพกพาติดตัวไปด้วยทุกที่ และผู้ใช้งานระดับมืออาชีพทั้ง นักดนตรีและการใช้งานใน Studio เช่น การมิกซ์เสียง, อัดเสียง และใช้งานในการแสดงสด และยังมาพร้อมจุดเด่นอย่างการเล่นเพลงผ่าน Smartphone หรือเครื่องเล่นเพลงใดๆ ก็สามารถขับเสียงได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดเสียง ด้วยไดรเวอร์พิเศษจาก Beyerdynamic อย่าง Stellar.45 และแรงขับเพียง 48 โอห์ม
หูฟัง KZ AS16 In-Ear
สเปคเด่น
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: AUX/3.5 mm.
อิมพีแดนซ์: 15 โอห์ม
การตอบสนองความถี่: 20 - 40,000 Hz
หูฟังนักดนตรี รุ่นสุดท้ายในบทความนี้กับ หูฟัง KZ AS16 In-Ear หูฟัง In Ear เชื่อมต่อแบบมีสาย จากแบรนด์คุณภาพแห่งแดนมังกร Knowledge Zenith หรือ KZ ที่มีจุดเด่นประจำตัวได้แก่ไดร์เวอร์แบบ BA หรือที่เรียกว่า Balanced Armature ถึง 16 ตัว ข้างละ 8 ตัว ด้วยกัน โดยในแต่ละข้างมีไดร์เวอร์สำหรับโทนเสียงสูง 4 ตัว (ไดร์เวอร์จาก KZ รุ่น 31736) ไดร์เวอร์สำหรับโทนเสียงกลาง 2 ตัว (ไดร์เวอร์จาก KZ รุ่น 29689) และ ไดร์เวอร์สำหรับโทนเสียงเบส 2 ตัว (ไดร์เวอร์จาก KZ รุ่น 22955) ทำให้พลังเสียงออกมาชัดเจนสมกับที่เป็น หูฟังนักดนตรี แต่ละย่านเสียงมีท่อเสียงที่ใช้งานแยกกันไป ไม่ใช้งานรวมกัน ในเรื่องของวัสดุนั้นตัวบอดี้ใช้การขึ้นพิมพ์แบบ 3D Printing ทำให้ตัวบอดี้เป็นชิ้นเดียวกัน ไม่มีอากาศแทรกอยู่ภายใน เสียงจึงไม่ถูกรบกวน ตัวสายเป็นแบบสายถักคุณภาพสูงแบบ OFC Oxygen-Free Copper ซึ่งเป็นสายทองแดงที่ไม่มีอ๊อกซิเจนในสาย ทำให้การส่งสัญญาณดีกว่าเดิมและยังหักงอได้ระหว่างการใช้งานมีความทนทานสูง อัพเกรดสายได้อย่างง่ายดายด้วยขั้วเชื่อมต่อแบบ 2 PIN นอกจากนี้ตัวบอดี้เองยังช่วยให้ผู้สวมใส่ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกแบบ Passive Noise Isolation ได้ถึง 26 เดซิเบลโดยไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ช่วยเหลือ สำหรับการสื่อสารมาพร้อมกับไมโครโฟนแบบคู่ รองรับการรับสายวางสาย เลื่อนเพลงถัดไปและเพลงก่อนหน้าได้
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ รวม 5 หูฟังนักดนตรี ที่นักดนตรีมือสมัครเล่นและมืออาชีพควรมี ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น หูฟังนักดนตรี ที่ไม่เพียงแต่ให้เสียงที่แม่นยำ เที่ยงตรง ตอบโจทย์การใช้งานของเหล่านักดนตรีเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่มีความพรีเมียม การสวมใส่ที่สบายหู สวมใส่ได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ทำให้รู้สึกระคายหู และยังมีความทานทานสูงอีกด้วย รับรองได้ว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา หูฟังนักดนตรี และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ
ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา หูฟังนักดนตรี ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง หูฟังนักดนตรี รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ